Life Test : Honda Accord 2.0 EL มุมมองใหม่ซีดานหรู….คู่ใจผู้นำ

  • โดย : Autodeft
  • 29 พ.ย. 59 00:00
  • 26,496 อ่าน

อีกหนึ่งยนตกรรมที่ครองใจสาวกมายาวนาน กวาดยอดขายทั่วโลกและกวาดรางวัลรถยอดเยี่ยมจากหลายสถาบัน จึงเป็นเครื่องพิสูจน์ถึงคุณภาพถึงซีดานพรีเมี่ยมสุดหรูตอบโจทย์ผู้นำมายาวนาน นั่นคือ Honda Accord และ 40 ปีของการทำตลาด ได้สร้างนวัตกรรมและเทคโนโลยีต่างๆเข้ามาให้เป็นที่รู้จักในวงกว้างมากขึ้น ในฐานะรถ D-Segment พรีเมี่ยม

Honda Accord

ร่างเจเนอเรชั่นที่ 9 กับการมาของหน้าใหม่ Facelift พบกันครั้งนี้ล้ำสมัยขึ้น ตั้งแต่ กระจังหน้าโครเมี่ยม ออกแบบแถบกระจังหน้าใหม่ให้ใหญ่ขึ้นพร้อมโลโก้ Honda ชุดไฟ LED ติดตั้งรอบคัน ทั้งไฟหน้า ไฟส่องสว่างเวลากลางวัน (Daytime Running Lights) ไฟตัดหมอกหน้า และไฟท้าย สีขาวแดงสุดโดดเด่น  กันชนหน้าออกแบบใหม่เสริมตัวตนความสปอร์ตขึ้นมาอีกระดับ เท่อย่าบอกใครด้วยล้ออัลลอยด์สีทูโทนปัดเงา 18 นิ้ว ลายเดียวกับรุ่น 2.4 พร้อมยางขนาด 235/45R18 พร้อมชุดโครเมี่ยม แพ็คเกจ แต่งหรู ทั้งใต้กันชนหน้า-หลัง กรอบประตู ที่เปิดประตู และคิ้วฝากระโปรงท้าย แต่เสียดาย ด้วยบุคลิกออกแนวสปอร์ต น่าจะเพิ่มสปลอยเลอร์แบบ Built-In เสริมโหงวเฮ้งให้หล่อชวนมองขึ้น

Honda Accord

ก่อนจะเปิดประตูเข้าไปสู่ห้องโดยสารภายใน ต้องฝ่าด่านการสั่งงานปลดล็อกจากกุญแจแบบ Keyless Entry ตามสมัยนิยม พร้อมปุ่ม Push Start สีแดงวงกลมอันร้อนแรง แต่ครั้งนี้เพิ่มฟังก์ชั่นพิเศษ ระบบ Engine Remote Start เบื้องต้นใช้งานง่ายแค่กดปุ่มล็อคหนึ่งที พร้อมกดปุ่ม hold ลงไป รถก็สตาร์ทติดเครื่องพร้อมเครื่องปรับอากาศทำงานเพื่อปรับอุณหภูมิภายในห้องโดยสารล่วงหน้าทันที  ให้ความสะดวกในกรณีจอดรถกลางแจ้ง แดดจัดๆ

ก้าวเข้ามาสู่ภายในห้องโดยสารด้วยโทนสีดำเข้ม บ่งบอกความเข้มขรึม สุขุม อย่างมีระดับและสามารถเลือกโทนสีเบจได้ ขึ้นอยู่กับสีของตัวรถ ชุดตกแต่งภายในลายไม้แบบสีดำเปียโนแบล็ค เทียบเท่ารถหรูโซนยุโรป  พรั่งพร้อมด้วยพวงมาลัยมัลติฟังก์ชั่นหุ้มหนังกึ่งลายไม้ ที่มีปุ่มการทำงานเครื่องเสียงและระบบ Cruise Control ระบบเครื่องเสียงหน้าจอสัมผัส ขนาด 7.7 นิ้ว รองรับการเชื่อมต่อ Apple CarPlayTM หรือเชื่อมต่อสมาร์ทโฟน ผ่านระบบ MirrorLink  จุดนี้ เรียกคะแนนความสนใจให้กับสาวก โซเชี่ยล ได้เป็นอย่างดี  ลำโพง 7 จุด มอบเสียงเพลงที่ไพเราะแบบไม่ต้องเสียเงินไปอัพลำโพงไฮเอนด์มาติดในรถ สวิตช์ควบคุมการทำงาน เครื่องปรับอากาศแบบ Dual Zone ปรับความเย็นได้อย่างอิสระ และช่องแอร์ด้านหลัง ไม่ต้องไปแย่งความเย็นกันอีกต่อไป

การถอยจอดทันสมัยขึ้นด้วยรกล้องส่องภาพด้านหลัง ปรับมุมมอง 3 ระดับ ช่วยเพิ่มทัศนวิสัยในการถอย เปลี่ยนเลนมั่นใจขึ้นและช่วยลดจุดบอดในการมองเห็นของกระจกมองข้างด้านซ้ายด้วยระบบแสดงภาพ  มุมอับสายตาขณะเปลี่ยนเลน (Honda LaneWatch) แต่ขาดระบบเตือนมุมอับสายตา Blind Spot  ซึ่งจุดนี้ รถระดับเดียวกันติดเป็นออฟชั่นมาตรฐานแล้ว

Honda Accord

เบาะนั่งเจ้าซีดานพรีเมี่ยม หุ้มด้วยวัสดุกึ่งหนังแท้สีดำ (สีเบจเลือกได้ขึ้นอยู่กับสีของตัวรถ) ปรับสูงต่ำและเอนได้ด้วยระบบไฟฟ้า 8 ทิศทางด้านคนขับพร้อมปุ่มปรับดันหลัง Lumbar Support  และปรับไฟฟ้า 4 ทิศทาง ด้านคนนั่ง ซึ่งตลอดการขับ ยอมรับเลยว่า ด้วยตัวเบาะที่ใหญ่โอบกระชับคนขับได้สบายมาก ส่วนเบาะหลัง นอกจากสบายไม่เมื่อยล้าตอนเดินทางไกลแล้ว ไม่ต้องบ่นว่าร้อนอีกด้วยม่านบังแดดหลังปรับไฟฟ้า และม่านประตูหลังสองข้างดึงขึ้นด้วยมือ และถ้าต้องการขนสัมภาระ เช่นถุงกอล์ฟขนาดใหญ่ สามารถพับเบาะหลังในอัตรา 100 ได้ทันที

Honda Accord

การเดินทางทั้งในเมืองกรุงและ นอกเมือง ฝากไว้กับขุมพลังที่ขึ้นชื่อลือชาว่าให้ทั้งความแรงและประหยัดอยู่ในเครื่องยนต์เบนซิน I-VTEC ขนาด 2.0 ลิตร (รหัส R20Z3) SOHC 4 สูบ 16 วาล์ว ให้กำลังสูงสุด 155 แรงม้าที่ 6,500 รอบต่อนาที แรงบิดสูงสุด190 นิวตัน-เมตร ที่ 4,300 รอบต่อนาที มาพร้อมระบบเกียร์อัตโนมัติ 5 สปีด เสียดายที่ระบบ Paddle Shift หลังพวงมาลัยกลับไม่มี ถ้าอยากได้ต้องไปเล่นรุ่น 2.4 EL แทน

Honda Accord

จากกรุงเทพ ถึง ลพบุรี บนระยะทางไป-กลับรวม 473  กิโลเมตร เจ้าซีดานพรีเมี่ยม เครื่องเล็ก 2.0 ให้ความสนุกสนานและมั่นใจในการขับขี่ ถ้าขับยาวๆระยะไกลๆคันนี้ ตอบโจทย์ดียิ่ง การตอบสนองในยามเร่งแซงอยู่ในเกณฑ์พอใช้ได้ ไม่หวือหวาถึงแม้ออกอาการอืดบ้างในบางจังหวะ เมื่อเทียบเครื่องใหญ่ 2.4 การควบคุมน้ำหนักพวงมาลัยที่ทำงานด้วยระบบไฟฟ้า EPS ทั้งในย่านความเร็วต่ำกลับให้น้ำหนักเบา แต่ความเร็วสูงกลับเพิ่มน้ำหนักมากขึ้น ถึงความแม่นยำของพวงมาลัยอาจไม่ดีเท่าคู่แข่งรายสำคัญ แต่ภาพรวมอยู่ในเกณฑ์น่าพอใจ

ระบบช่วงล่างยังเหมือนเดิมทั้งด้านหน้าแม็กเฟอร์สันสตรัท กับด้านหลังอิสระแบบมัลติลิงค์และคอยล์สปริงแต่เพิ่มเติมด้วย เหล็กค้ำโช้คในห้องเครื่องยนต์ ถึงแม้ปรับใหม่เพื่อเพิ่มสมรรถนะในการขับขี่หวังเอาใจคนรักความสปอร์ต แต่ผลออกมากลับให้ความนุ่มนวล ไม่กระเด้งกระดอน เทียบชั้นรถหรูๆโซนยุโรปได้อย่างสบายๆ

Honda Accord

กลับจากชมความงามของเขื่อนป่าศักดิ์ชลสิทธ์และไหว้ศาลพระกาฬ ที่ลพบุรีไม่ทันไร วันรุ่งขึ้นมีอันต้องเดินทางไปต่างจังหวัดอีกครั้ง คราวนี้ จุดหมายปลายทาง อยู่ที่ Chang International Circuit  บุรีรัมย์ เพื่อชมการแข่งขันรถแข่ง ด้านอัตราสิ้นเปลืองน้ำมันนอกเมือง โดยใช้ความเร็ว สูงในย่าน 110-150 กม./ชม.ใช้ระยะทางรวม 645.9 กิโลเมตร เติมน้ำมันเต็มถัง สามารถยัดเต็มถังไปได้ 55.011 ลิตร ผลอัตราสิ้นเปลืองออกมาด้วยตัวเลข 11.74 กม./ลิตร  ผลออกมาแบบนี้ น่ายกย่องจริงในเรื่องความประหยัดอย่างแท้จริง

ถึงจะขาดของเพิ่มอรรถรสการขับขี่ทั้ง Paddle Shift หลังพวงมาลัย และชุดสปลอยเลอร์หลัง แบบ Built-In แต่เสน่ห์ของเจ้าซีดานพรีเมี่ยมทั้งภายนอกและภายใน สร้างความประทับใจ อยู่เช่นเดิม กำลังเครื่องเครื่องเล็ก 2.0 พร้อมช่วงล่างที่หนึบ นุ่มนวล ทำให้รถรุ่นนี้ชูความเด่นในการขับขี่แสนสบายในทางไกลๆ ทั้งหมดทั้งมวลนี้คืออีกบทสัมผัสซีดานหรู ที่ใครต่อใครสามารถสัมผัสถึงความสนุกสนานได้อย่างครบท้วนกระบวนความสำหรับ Honda Accord 2.0 EL ในราคาเพียง 1,445,000 บาท

 

เรื่องและขับทดสอบโดย สุกิจ เลิศธนะแสงธรรม (นายเต้ย)

 

ขอบคุณ บริษัท ฮอนด้า ออโตโมบิล (ประเทศไทย) จำกัด ที่เอื้อเฟื้อรถ Honda Accord 2.0 EL  มาทดสอบ

Honda Accord

 

ติดตามข่าวสารยานยนต์ รวดเร็วก่อนใคร ได้ที่ Autodeft.com 

 

5 เรื่องน่าสนใจ