Life Test : Ford EcoSport …แม้ผู้เล่นใหม่จะมาก..แต่อย่าลืมฉัน
- โดย : Autodeft
- 24 พ.ย. 57 00:00
- 15,219 อ่าน
เมื่อเราเอา Ford Eco Sport ทดสอบลุยไปยังดอยอ่างขาง ดูสิว่ามันจะไหวไหม ..
เรื่องและขับทดสอบ โดย ณัฐยศ ชูบรรจง (Bonn)
ถึงปลายปีทีไร ป่วนกันทุกทีสินะ กับบรรดารถใหม่ที่ออกมาเขย่าตลาดมากมาย โดยเฉพาะอย่างยิ่งเมื่อถึงรถยนต์ในกลุ่มอเนกประสงค์ด้วยแล้ว บอกเลยว่า ปีนี้มากันเยอะ ห้ำหั่นกันสนุกสนาน จนหลายคนอดอยากได้อยากมีไปตามๆกัน
รถยนต์อเนกประสงค์ กลุ่มใหม่ที่ผมคิดเอาไว้แล้วว่า จะต้องมาอย่างแน่นอน ตั้งแต่เมื่อช่วงต้นปีก็คือรถยนต์อเนกประสงค์คอมแพ็ค ที่มันดูท่าว่าจะสร้างความสนใจตลาดไม่น้อย ด้วยเส้นสายที่เยาว์วัยกว่า และเรือนร่างที่เล็กกำลังดี จนความกะทัดรัดนี้ทำให้ดูหล่อ แต่เช่นเดิม มันคืออเนกประสงค์ที่ออกมาตอบโจทย์การขับขี่เพื่อคนเมือง ซึ่งถ้าถามถึงเรื่องการลุยอาจจะตอบไม่ได้ ...
บอกเลยตอนดูหมายที่แรก ของค่ายวงรีสีน้ำเงินนั้น เพลียมาก!! ให้ตายเหอะ เราต้องไปตะลุยเชียงใหม่ตั้งสองคืนสามวัน กับรถยนต์ที่เราเคยกล่าวเอาไว้ว่า มันเป็นรถที่เราไม่แนะนำให้คบหา ยกเว้นแต่ว่าคุณรับได้กับความอืดของมัน แน่นอนรถคันนั้นที่เราพูดถุง ก็คือเจ้าอเนกประสงค์เล็ก Ford Eco Sport ที่เปิดตัวออกมาช่วงปีกลาย ดันสู่สุดใจแข่งกับ Nissan Juke คู่แข่งที่ตบเท้าเอารถกลุ้มนี้เข้ามาขายเช่นกัน แต่แล้วหลังจากการทดสอบของเรา ทั้งสองครั้งก็ยืนยันว่ามันไม่ใช่รถที่สมรรถนะมากมายนัก แต่ฟังชั่นการใช้งานกลับจัดมาเต็ม จนต้องยอมรับว่า มันดีกว่าคู่แข่งในตลาดด้วยซ้ำไป
การพบกันครั้งนี้จึงเป็นอีกครั้งที่เรามาเจอกับ Ford EcoSport เจ้าอเนกประสงค์เล็กที่สะกดทุกสายตาที่ชอบความทันสมัย ตัวรถนั้นได้รับการตอบโจทย์ที่ดีในเรื่องการออกแบบ มันดูทันสมัย มีแอบความสปอร์ตเอาไว้ ตั้งแต่ด้านหน้าที่ดีไปจนถึงบั้นท้ายที่เรายังจำได้ดีว่าทีมนักออกแบบกล่าวว่า พวกเข้าต้องการรถดูดีมีความลงตัวเรื่องการลุย
แต่เอาเข้าจริง มันกลายเป็นจุดบอดที่สำคัญ ที่ทำให้ลูกค้าหลายคน หรือไม้แต่กระผมเองยังย้อนถามกลับถึงเหตุผลที่ทะเล่อเอายางอะไหล่มาไว้นอกรถ ซึ่งจากเหตุผลที่ได้รับคำตอบกลับมาก็คือว่า เพื่อให้มันดูแมนมีความเป็นรถยนต์อเนกประสงค์ที่แท้จริง มีลักษณะลุคดูแล้วลุยได้อย่างสมบุกสมบัน ทั้งที่จริงมันไม่ได้มีความสามารถมากมายอะไรนัก และจำได้ว่า ล่าสุดมีภาพแอบถ่ายออกมาว่า ในอีกไม่ช้า เจ้า ford EcoSport จะไม่มียางอะไหล่ท้าย ซึ่งน่าจะทำให้มันดูดีมีชาติตระกูลมากขึ้นอย่างแน่นอน
เปิดประตูอ้าสู่ห้องโดยสาร ตัวตนที่ออกแบบมาอย่างลงตัวในแบบรถซับคอมแพ็คคาร์ที่พัฒนาให้มีความใกล้เคียงรถกลุ่มคอมแพ็คคาร์นั้น รียกว่าเป็นจุดเด่นที่สำคัญที่ทำให้รถยนต์ ford Ecosport มีความกลมกลืนและลงตัวมากกว่า ภายนอกที่หลายคนอาจจะว่าเชยระเบิด
ด้วยความยาวที่มีกว่า 4,241 มม. โดเด่นด้วยความกว้างกว่า 2,057 มม. และ สูง 1,696 มม. ได้ฐานล้อยาว 2,521 มม. เรียกว่าเป็นจุดเด่นที่สุดในการในการออกแบบ แม้ข้างนอกดูแคบ ที่จริงภายนอกของ Ford Eco Sport ให้ความรู้สึกเหมือนปลาปักเป้าที่ดูกลมๆ พองตัวไปตามถนนหนทาง
ทว่าถ้าคุณคิดว่าภายในมันจะแคบเหมือนภายนอกแล้วล่ะก็เห็นทีต้องคิดใหม่กันสักนิด เพราะเมื่อก้าวเข้ามาอยู่หลังพวงมาลัย ความรู้สึกต่างที่คุณอาจจะคิดว่าไม่ลงตัวภายนอกจะหายไปเป็นปลิดทิ้ง ด้วยภายในที่มาพร้อมวัสดุที่ดูแล้วไม่โลว์เกรด แต่จัดเต็มด้วยคุณภาพอยู่ในเกณฑ์ที่ดีกว่าที่คาด
หลายอย่างถูกจัดวางไว้ให้ใช้งาน เบาะนั่งสบายกำลังดี รุ่นท๊อปมีที่เท้าแขน เช่นเดียวกับหลังคาซันรูฟ รวมถึงระบบความบันเทิงสุดฮิพเจ้า ford sync ที่ยังคงบกพร่องในเรื่องเดิม กับการเปล่งเสียงที่ต้องถูกอักขระ ถ้าคุณอยากจะใช้ระบบสั่งการณ์ด้วยเสียง รวมถึงปุ่มต่างๆที่อาจจะดูเยอะแยะวุ่นวาย แต่เมื่อเรียนรู้มันก็ใช้ง่ายกว่าที่คิด
การเดินทางในงวดนี้เรามาพร้อมผู้โดยสารอีกสองท่าน ขอแนะนำคนแรกเลย คือ คุณกล้วยพีอาร์สาวสวยจาก hill & Knowton ที่งวดนี้กลายมาเป็นเหยื่อของเรา ส่วนอีกท่านเป็นพี่ชายสุดหล่อ จากนิตยสาร 247 >.>>> ว่าแล้วก็ไม่ต้องไปบวกเลขอะไรนะครับ เพราะเขาหมายถึง Twenty-four-seven หรือ ตลอดเวลานั้นแหละ...ซึ่งเราสามคนรวมกันก็มีสัมภาระกองโต
ผมเองมีกระเป๋าเป้สองใบ เช่นเดียวกับคุณกล้วย แต่พี่แอมสิครับ ใบเดียว ....แต่ใบเดียวแบบว่า ใบเดียวใหญ่ยักษ์มากทว่าทั้งหมด กลับถูกยัดไปในท้ายรถ ford Eco sport ได้อย่างพอดิบดี ....
เฉกเช่นเหมือนที่เราเคยคิดไว้แล้วเรื่องประตูท้ายที่ดันเปิดจากขวาไปซ้าย ไม่ใช่ซ้ายไปขวา ตามที่ควรจะเป็นทำให้มันยุ่งยากนิดหน่อยเวลาจะหยิบขิง รวมถึงการไม่มีช่วงง้าง ล็อค ทีละนิดหน่อยในบางจังหวะ ทำให้ ทำครั้งที่จะหยิบของด้านท้ายต้องใช้วิธีเอาประตูอิงแอบรถชาวบ้าน ... เขา ซึ่งคงจะด่าพ่อล่อแม่เป็นแน่ ถ้ามาเห็นว่าเราฝากรอยแผลเอาไว้ให้ดูต่างหน้า
บทพิสูจน์สำคัญ วัดกัน ณ ดอยอ่างขาง
ตั้งแต่ครั้งแรกที่พบกับ Ford Eco sport จวบจนเรานำมันมาทดสอบเอง ของสารภาพว่า เส้นทางภูเขาแดนเหนือไม่เคยคิดในสารระบบของเรา โดยเฉพาะอย่างยิ่งเมื่อหนทางนั้นไกล เครื่อง 1.5 ลิตร ขับยาวๆ คงไม่สนุกนัก แต่เราคิดผิดเมื่อเห็นลูกค้าที่ตั้งใจมาแรลลี่ขับรถใช้เวลาหอบขึ้นมาจากกทม. ก็หลายราย ทำให้เราเริ่มตระหนักว่า บางที Ford Eco Sport อาจจะต้องผ่านบททดสอบที่มากกว่าทางแค่พื้นราบ
ปลายทางในการเดินทางครั้งนี้ไม่ได้ไกลจากตัวเมืองเชียงใหม่มากนักแต่บอกว่าโหดหินพอสมควรกับดอยอ่างขาง หนึ่งในหลายดอยที่สูงสุดในเมืองไทย ด้วยความสูงจากระดับน้ำทะเล 1,400 เมตร ซ่อนตัวในเทือกเขาแดนลาว กับเส้นทางที่ได้ชื่อว่าโหดหินสุดๆเช่นกัน
ช่วงแรกการขับขี่หลังออกสตาร์ทที่ประตูท่าแพร ที่เมืองเชียงใหม่ ford EcoSport ก็โชว์ให้เห็นศักยภาพของมันในการขับขี่ในเมือง สิ่งที่ชื่นชอบที่สุดเมื่อคุณควง ford Eco Sport ไปในเมืองโดยเฉพาะ ถ้าต้องเจอการจราจรสุดแสนวุ่นวาย ก็คงไม่พ้น พวงมาลัยที่มีน้ำหนักเบาหวิวเหมาะมือมากๆ ยิ่งคุณผู้หญิงทั้งหลายผมเชื่อว่าจะชอบ
แถมตัวตนที่ไมได้ใหญ่กว่าซิตี้คาร์อะไรมากมายนักทำให้ ford ecosport สามารถมุดแหวกว่ายไปตามช่องทางที่ว่างบนถนนเขตเมืองได้อย่างง่ายดาย ทว่าน่าเสียดายที่ชุดเกียร์คลัทช์คู่นั้นตอบสนองค่อนข้างช้าพอสมควรในหลายจังหวะ แต่เมื่อขับอย่างคุ้นชิน อย่างผมที่ขับมาแล้วหลายรอบ มันก็ง่ายดายมากขึ้น และท้ายสุดเราเริ่มเห็นข้อดีของการเอายางอะไหล่มาไว้ที่ท้าย เพราะเมื่อคุณแทรกเข้ามาแล้ว ไม่ค่อยมีใครกล้าแหยม แกล้งเร่งเข้ามาหาท้ายอันงดงามของคุณ เพราะมันมียางอะไหล่ รับรองได้เลยว่าใครจิ้มเข้าไปต้องมีจุกแน่นอน
เมื่อพ้นเมือง เส้นทางมุ่งหน้าสู่อำเภอฝางถนน 4 เลน Ford Eco sport ตอบโจทย์ในการเดินทาง ด้วยความสามารถในเรื่องของความประหยัดในการขับขี่ แน่นอนเรื่องอัตราเร่งอาจจะไม่ได้ให้ความรู้สึกปรู๊ดปร๊าดอะไรมากมายนัก แต่ลงความรู้สึกที่ลงตัวเมื่อเดินทางยาวแบบไม่เหนื่อยมากนัก แม้ว่าเวลาเร่งแซงอาจจะมีบ้างที่คุณได้ยินเสียงเครื่องหึ่งขึ้นมา เนื่องจาก Ford Eco sport ต้องรีดเน้นเค้นแรงบิดออกมาใช้ทุกใช้ เพราะจะว่าไป อย่างที่เราเคยติติงว่าเครื่อง 1.5 ลิต รออกแนวแรงบิดน้อยไปหน่อย เมื่อเทียบกับขนาดตัวรถ ที่มีพิกัดน้ำหนักมากขึ้นเมื่อเทียบกับเจ้า Ford Fiesta
ทว่าเมื่อถึงเส้นทางคดเคี้ยวปฐมบทของการเข้าเข้าโค้ง ถ้าคุณเข้าโค้งเป็นจะบอกเลยส่า Ford Eco Sport ขับง่ายมากในทางที่คดเคี้ยวแบบนี้ไม่ว่าจะโค้งยาวโค้งสั้น ฐานล้อที่กว้างสามารถตอบโจทย์ในการขับขี่ได้มากกว่าที่คิด มันตอบโจทย์ได้ดี ในขณะเดียวกัน เรือนร่างที่ไม่ยาวมากและ ช่วงระยะยื่นตัวรถที่ไม่มากมายนัก ทำให้ รถเข้าโค้งได้อย่างคล่องตัว ที่สำคัญ คุณไม่เจออาการโยนในโค้ง จนทำให้โค้งบนถนนกลายเป็นสวนสนุกของผู้ขับขี่ไปโดยปริยาย แต่ต้องระวัง !! ถ้าคุณใช้พวงมาลัยเร็วไป ผล คือ ผู้โดยสารทางด้านหลังอาจจะกลิ้งเป็นลูกขนุนได้ ..555
ไม่เคยคิดฝันว่าเราจะต้องมาท้าพิสูจน์เจ้า ford Eco Sport นี้บนดอยอ่างขาง แน่นอนไม่ว่าใครคงอยากจะรู้ว่ามันไหวไหม ...ยิ่งเครื่องยนต์ 1.5 ลิตร Ti-VCT ให้กำลังสูงสุด 110 แรงม้า ที่ 6,300 รอบต่อนาที และยังให้แรงบิดสูงสุด 142 นิวตันเมตร ที่ 4,400 รอบต่อนาที ทั้งหมดส่งลงชุดเกียร์อัตโนมัติคลัทช์คู่ Powershift 6 สปีด ยังเป็นที่กังขาของเราในเรื่องการตอบโจทย์ในการเดินทางแม้นี่จะไม่ใช่การลุยแบบถึงพริกถึงขิง แต่เชื่อว่าเส้นทางป่าเขาแบบนี้ก็คงมีคนจำนวนไม่น้อยอยากจะมาเที่ยว
มันไหว..ไหม หลายคนอาจจะคิด
บอกเลยว่า ...สบายมาก แม้รถเราจะมีผู้โดยสารสามคนพร้อมสัมภาระ แต่มันง่ายมากในการขึ้นเขาในทางชันแบบนี้ การใช้โหมด S แล้ว สนองด้วย toggle Switch เป็นคำตอบที่ดีสำหรับคนที่กำลังพยายามมองหาสมรรถนะตอบโจทย์ด้วยตัวเอง
เช่นเคย การกระดิกนิ้วที่หัวเกียร์ไม่ถนัดนัก ถ้าคุณขับไปจับมันกดไป แต่เราได้เรียนรู้ว่าถ้าคุณเตรียมการก่อนขึ้นเนินหรือเข้าโค้งกดเลือกตำแหน่งที่ต้องการก่อน เจ้า toggle Switch นี้ก็จะทำให้ชีวิตคุณง่ายมากขึ้น และเมื่อเนินชันเริ่มเป็นเรื่องท้าทาย
เฉกเช่นรถที่มีกำลังน้อย คุณจะพบว่ามันอืดเมื่อใช้วิธีค่อยๆ ไต่ขึ้นไป แต่ทางที่ดีกว่านั่นก็คือเร่งพรวดขึ้นไปบนหนทางข้างหน้า เหยียบคันเร่งส่งขึ้นไปเรื่อย แล้วใช้จุดที่มีแรงบิดสูงสุดให้เป็นประโยชน์ในการขับขี่ การขึ้นดอยก็ไม่ใช่เรื่องที่ยากจนเกินไปนักใน ford EcoSport
ยิ่งขับยิ่งรัก แต่ยังยืนยันควรมี ecoboost
ถึงจุดหมายปลายทางบนดอยอ่างขาง ตลอดทั้งวันที่เดินทางใน Ford Ecosport ไม่เชื่อก็ต้องเชื่อว่าเจ้าหนุ่มบราซิลเลี่ยนคันนี้เริ่มแสดงความดีความชอบมาให้เราได้เห็นมากมาย ทั้งการขับขี่ที่สบายไม่มีเมื่อแผ่นหลังแม้จะใช้เวลาตั้งแต่เช้ามาจรดเย็นในการขับรถ หรือจะเป็นฟังชั่นต่างๆในรถที่ยิ่งขับยิ่งคุ้น ยิ่งลงตัว ... มากกว่าเดิม
ที่สำคัญ คนนั่งหลังแอบกระซิบมาว่าท่านั่งตอนหลังของ Ford Ecosport นั้นดีไม่เมื่อยล้าอย่างที่คิดเมื่อมองว่าที่นั่งออกแบบมาค่อนข้างจะชัน แต่ตลอดการเดินทางสามารถทำได้ดีและลงตัว รวมถึงออพชั่นอย่างซันรูฟแม้จะบานเล็กไปบ้า งแต่รถราคาขนาดนี้มีซันรูฟมาให้ ก็เรียกว่าไม่ธรรมดาแล้วล่ะ ...
อย่างไรก็ดีแม้ว่าออพชั่นต่างๆจะลงตัวถูกใจคนมองหาความคุ้มค่า ไม่ได้ต้องการรถที่มีขนาดใหญ่แต่กลับต้องการรถที่มีฟังชั่นครบครัน ทว่าเรายังคงยืนยันคำแนะนำที่ให้มีรุ่น Ecoboost เข้ามาตอบตลาดเนื่องจากแรงบิดของเครื่อง 1.5 ลิตรค่อนข้างน้อยไปนิด เชื่อว่า พี่มาร์ค การตลาดจากค่ายวงรีสีน้ำเงินเอง ที่เดินทางมากลับทริปด้วย คงสัมผัสไปแล้วถึงความอืดของเครื่อง 1.5 ลิตรเมื่อต้องเอามันลุย ซึ่งเราเชื่อว่า 1.6 ลิตร จะไม่ต่างไปจากนี้มากมายนัก
แต่ถ้าเป็น Ecoboost 1.0 ลิตร 3 สูบเทอร์โบชาร์จ ให้กำลัง 123 แรงม้า และแรงบิด 170 นิวตันเมตร ก็ดูท่าว่าจะลงตัวใช่เลย ทั้งสมรรถนะและความประหยัด สมความเป็น Ecosport แต่ถ้าจะเอาตอบโจทย์จริงๆ เราแอบเห็นต่างประเทศมีเครื่องยนต์ 1.5 TDci ด้วย มันก็คงจะเจ๋งกว่านี้อีกแยะ ถ้าได้บล็อกดีเซล ที่อาจจะให้กำลังเพียง 90 แรงม้า แต่แรงบิดทะลุไปถึง 204 นิวตันเมตร ซึ่งเรามองว่าน่าจะเอาเจ้ามาทำตลาดทั้งคู่ชูจุดเด่นที่เป็นพรีเมี่ยม ...เฉกเช่นที่คู่แข่งทำ และมันน่าจะระสบความสำเร็จไม่เหมือนในซิตี้คาร์ ซึ่งมีกลุ่มลูกค้าเป้าหมายที่ต่างกัน
แม้ว่า ford Ecosport อาจจะเป็นรถที่หลายคนลืมไปแล้ว ว่ามันอยู่ในกลุ่มรถยนต์อเนกประสงค์เล็กที่เข้ามาทำตลาดในไทย อาจจะด้วยหน้าตาของมันที่ไม่ค่อยพบบนถนนมากมายนักเมื่อเทียบกับคู่แข่งจากญี่ปุ่น แต่บอกเลยว่าถ้าจะดูรถอเนกประสงค์กลุ่มนี้ อย่ามองข้ามเจ้าเปี๊ยกคันนี้ไปเชียวเพราะราคาที่ต่ำกว่าแต่ให้ออพชั่นครบกว่า เพียงแค่ ..ต้องยอมรับในศักยภาพของเครื่อง 1.5 ลิตรให้ได้..
ขอบคุณฟอร์ด ประเทศไทย ที่เชิญทีมงาน autodeft.com เข้าร่วมคาราวาน Ford Eco sport Rally เส้นทางเชียงใหม่-เชียงราย
เรื่องและขับทดสอบ โดย ณัฐยศ ชูบรรจง (Bonn)
ติดตามผู้สื่อข่าวและนักทดสอบรถยนต์ นาย ณัฐยศ ชูบรรจง ได้ที่ Facebook ,Twiter (@nattayodc)
ติดตามข่าวสารยานยนต์ รวดเร็วก่อนใคร ได้ที่ Autodeft.com
ภาพบรรยากาศประทับใจ Life Test Ford Ecosport