Test Drive: รีวิว ทดลองขับ Lexus RX 300 Premium อีกที่สุดสุนทรียภาพแห่งการเดินทาง ที่คุณจะต้องหลงรัก
- โดย : รัฐศิลป์ รัตนกู้เกียรติ
- 8 พ.ย. 62 00:00
- 15,607 อ่าน
หนึ่งในรถยนต์ที่ขายดีที่สุดของค่าย Lexus ในประเทศไทย นั้นก็คือ Lexus RX รถยนต์อเนกประสงค์สุดหรูหรา ที่มาพร้อมความสปอร์ตเร้าใจ ที่เมื่อช่วงเดือนกันยายน 2562 ที่ผ่านมา ได้รับการปรับโฉมชุดใหญ่ ไม่ว่าจะเป็นดีไซน์ภายนอก โครงสร้างตัวถัง อุปกรณ์อำนวยความสะดวก และระบบความปลอดภัยที่ติดตั้งเพิ่มมาให้ ที่พร้อมตอบโจทย์การใช้งานในหลากหลายรูปแบบได้อย่างลงตัว เรียกได้ว่าเป็นอีกรถยนต์หนึ่งรุ่นที่ครบครันในทุกความต
อีกหนึ่งโอกาสที่ทาง เลกซัสกรุ๊ป บริษัท โตโยต้า มอเตอร์ ประเทศไทย จำกัด เรียนเชิญทีมงาน AUTODEFT เข้าร่วมสัมผัสสมรรถนะการขับขี่ รถใหม่อเนกประสงค์นามว่า Lexus RX ที่ในครั้งนี้ทางได้นำเอารุ่น Lexus RX 300 มาให้ได้ทดสอบการขับขี่กัน โดยทางทีมงานได้สัมผัสและทดลองขับกับ Lexus RX 300 Premium ซึ่งถือเป็นรุ่นกลางของ RX 300 และอีกสองรุ่นย่อยกับ รุ่น Luxury และ รุ่น F SPORT ขับเคลื่อนสี่ล้อ บนเส้นทางการเดินทางจากกรุงเทพมหานคร มุ่งหน้าสู่พระนครศรีอยุธยา ทั้งการเป็นทั้งผู้โดยสารตอนหน้า และร่วมขับขี่ทดสอบบนถนนจริงวิ่งใช้งานเส้นทางต่างจังหวัด รวมถึงการขับขี่ในเมืองที่มีการจราจรหนาแน่น
สำหรับรถใหม่อเนกประสงค์หรู Lexus RX รุ่นปรับโฉมนี้ ได้รับการปรับใหม่มุ่ง 4 ข้อหลักดังนี้
1. ดีไซน์ภายนอกทั้งด้านหน้า-หลัง และการตกแต่งภายใน ได้รับการปรับดีไซน์ของกระจังหน้าที่เพิ่มรายละเอียดให้ดูหรูหราดุดันมากขึ้น มีช่องดักลมหน้าปรับให้เข้ารูปช่วยเรื่องหลักอากาศพลศาสตร์ ขอบกระจังหน้ารมดำในรุ่นย่อยอย่าง F SPORT และไฟหน้ารถก็ยังได้รับการดีไซน์ใหม่ โดยได้แรงบันดาลใจมาจากสปอร์ตรุ่นใหญ่อย่าง Lexus LC อีกด้วย ส่วนของด้านหลังตัวรถไฟหลังก็ได้รับการออกแบบใหม่เช่นกัน โดยรับแรงบันดาลใจมาจาก Lexus LS ที่เน้นความหรูหรากว่า มาพร้อมไฟเลี้ยวแบบ LED Sequential ที่จะแสดงสัญญาณกระพริบวิ่งจากด้านในเลื่อนสู่ด้านนอกของโคม และส่วนของกันชนหลังก็ยังได้รับการตกแต่งด้วยอลูมิเนียม และในรุ่นย่อย Premium มาพร้อมล้อลายใหม่สุดหรูจาก Lexus LS ขนาดใหญ่ถึง 20 นิ้ว โครเมียมหรูหรา รัดด้วยยาง 235/55 R20
และสำหรับ Lexus RX รุ่นปรับโฉมในปีนี้ ยังมาพร้อมกับสีตัวถังใหม่เพิ่มเติมขึ้นมา โดยมีสีภายนอกทั้งหมด 11 สี ได้แก่ Deep Blue Mica, Sonic Titanium, Black, Graphite Black Glass Flake, Red Mica Crystal Shine , Amber Crystal Shine (เฉพาะรุ่น Luxury และรุ่น Premium), Ice Ecru Mica Metallic (เฉพาะรุ่น Luxury และรุ่น Premium), Terrane Khaki Mica Metallic (เฉพาะรุ่น Luxury และรุ่น Premium), Sonic Quartz (เฉพาะรุ่น Luxury และรุ่น Premium), Heat Blue Contrast Layering (เฉพาะรุ่น F SPORT), White Nova Glass Flake (เฉพาะรุ่น F SPORT)
ซึ่งสีภายในเองสามารถเลือกได้ดังนี้ Black, Ocher (เฉพาะรุ่น Luxury และรุ่น Premium), Flare Red (เฉพาะรุ่น F SPORT) วัสดุแผงข้างประตู 3D Film (รุ่น Luxury), Shimamoku (รุ่น Premium), Flare Red (เฉพาะรุ่น F SPORT) Aluminum (รุ่น F SPORT)
2. โครงสร้างเพิ่มความแข็งแกร่ง ด้วยการเพิ่มจุดเชื่อมเลเซอร์และกาวยึด ทำให้โครงสร้างของ Lexus RX รุ่นปรับโฉมนี้ มีความแข็งแกร่งที่มากยิ่งขึ้นกว่ารุ่นก่อน และยังมีการเก็บรายละเอียดต่างๆ ที่จะช่วยในเรื่องของการเก็บเสียงให้ดียิ่งขึ้น ทั้งส่วนของแผงกั้นห้องเครื่องและช่วง
3. ปรับอุปกรณ์อำนวยความสะดวก ติดตั้งจอแสดงผลข้อมูล Electro Multi Vision (EMV) ขนาดใหญ่ 12.3 นิ้ว พร้อมระบบสัมผัส ที่รองรับการเชื่อมต่อ Apple Car Play และ Android Auto ทั้งยังมีการเพิ่มช่อง USB ทั้งด้านหน้าและหลังรวมถึง 6 จุด พร้อม Wireless Charger ที่สามารถชาร์จสมาร์ทโฟนได้แบบไร้สาย คอนโซลกลางให้ระบบควบคุมส่วนกลาง Remote Touch Interface ที่สามารถสั่งงานได้เพียงปลายนิ้วสัมผัส และยังได้ให้ Paddle Shift เพิ่มมาให้ในรุ่นย่อย Luxury และรุ่น Premium ที่ทีมงานได้ทดลองขับกันในวันนี้
4. ระบบความปลอดภัย Lexus Safety System Plus เจเนอเรชั่นล่าสุด ที่จะมอบความปลอดภัยสูงสุดในรถ Lexus RX ใหม่นี้ โดดเด่นมากับระบบปรับไฟสูง-ต่ำอัจฉริยะ BladeScan Adaptive High-beam System (AHS) ที่เป็นครั้งแรกของโลกที่ไม่ใช่แค่เพียงการปรับไฟสูง-ต่ำอัตโนมัติ แต่มาพร้อมกับเทคโนโลยี BladeScan ที่ช่วยกระจายลำแสงไฟหน้ากับวัตถุด้านหน้ารถอย่างแม่นยำมากยิ่งขึ้น โดยสามารถเปิดและปิดไฟสูงในแบบแยกจุด ช่วยเพิ่มทัศนวิสัยในการขับขี่ที่ดียิ่งขึ้นในเวลากลางคืน และที่สำคัญคือการไม่รบกวนสายตาเพื่อนร่วมทางนั้นเอง
นอกจากนี้ยังมีระบบช่วยรักษาช่องทางวิ่ง Lane Tracing Assist (LTA) โดยระบบจะทำการส่งสัญญาณสั่นเตือนที่พวงมาลัย พร้อมกับแจ้งเตือนบนจอแสดงผลข้อมูลการขับขี่ในทันที เมื่อตรวจพบว่ารถยนต์มีการขับข้ามเลนโดยไม่เปิดสัญญาณไฟเลี้ยว และยังช่วยประคองพวงมาลัยเพื่อไม่ให้รถออกนอกเลน
และระบบควบคุมความเร็วแบบแปรผัน Dynamic Radar Cruise Control ที่ครอบคลุมทุกช่วงความเร็วจนแม้รถหยุดนิ่ง ระบบจะมีการตรวจวัดระยะห่างจากรถคันหน้าด้วยเรดาร์และกล้องบริเวณหน้ารถพร้อมลดและเพิ่มความเร็วอัตโนมัติให้สอดคล้องกับรถคันหน้า เพื่อคงระยะห่างที่ปลอดภัยอยู่เสมอ พร้อมความสามารถในการที่ผู้ขับขี่เองสามารถปรับระยะห่างได้ 3 ระดับ ผ่านปุ่มควบคุมบนพวงมาลัยด้านขวา
หลังจากที่ได้ทราบรายละเอียดความเปลี่ยนแปลงในรุ่นปรับโฉมของ Lexus RX ใหม่นี้แล้ว ก็ได้เวลาที่จะมุ่งหน้าสู่จุดหมายยังพระนครศรีอยุธยา โดยทีมงานเริ่มต้นการเดินทางครั้งนี้ด้วยการเป็นผู้โดยสารในตอนหน้า แรกความประทับใจที่มีเลยก็คือ เบาะที่นั่งของ Lexus RX 300 Premium มาพร้อมกับระบบปรับทิศทางแบบไฟฟ้า พร้อมการปรับดันหลัง ที่สามารถบันทึกตำแหน่งการนั่งได้ถึง 3 ตำแหน่ง โดยสามารถกดตั่งค่าหรือเลือกตำแหน่งเบาะที่เมมไว้ที่บริเวณแผงประตูด้านข้าง ซึ่งส่วนของเบาะที่นั่งผู้ขับก้สามารถทำได้เช่นเดียวกัน
และสำหรับอากาศบ้านเราที่ค่อนข้างร้อนตัวเบาะเองก็ยังมาพร้อมกับพัดลมที่สามารถปรับระดับได้ หรือการตั้งค่าแบบอัตโนมัติ หรือในวันไหนที่มีโอกาสขึ้นทางเหนือสัมผัสอากาศหนาวๆ ก็สามารถปรับเป็นแบบอุ่นได้ ซึ่งสวิทซ์ควบคุมอยู่บริเวณคอนโซลกลางเหนือคันเกียร์ สามารถกดสั่งการได้อย่างเข้าใจง่าย
ซึ่งในขณะนั่งโดยสารเดินทางนี้ความรู้สึกจากการเป็นผู้นั่ง ความรู้สึกของช่วงล่างนั้นดีมากๆ นุ่มนวล และซับแรงสะเทือนจากพื้นถนนที่ไม่เรียบได้อย่างดี หรือแม้กระทั้งในจังหวะที่มีการขับผ่านลูกระนาดก็ไม่ได้รู้สึกถึงการกระแทกกระเทือนเท่าใดเลย และแม้รถจะขับขี่ด้วยความเร็ว ความรู้สึกของการโดยสารก็ไม่ได้รู้สึกว่ารถกำลังขับด้วยความเร็ว เรียกได้ว่าอาจทำให้เผลอหลับได้ง่ายๆ กันเลย
นอกจากนี้ในช่วงระหว่างการเดินทาง ก็ไม่เสียเวลาที่จะได้ลองเล่นระบบควบคุมส่วนกลาง Remote Touch Interface ที่ทำงานตอบสนองได้อย่างลื่นไหลมากเลยทีเดียว เราสามารถลากนิ้วเลื่อนไปมา พร้อมการมองที่จอแสดงผลข้อมูล Electro Multi Vision (EMV) ขนาดใหญ่ 12.3 นิ้ว ได้แบบสบายๆ สามารถหุบและกางนิ้วเพื่อขยายแผนที่ได้ และในขณะที่ลากนิ้วบน Remote Touch Interface ก็มีการสั่นเล็กน้อยพอให้เรารู้สึกถึงการเลื่อนผ่านในแต่ละเมนูบนหน้าจอ นอกจากนี้ตัวจอ EMV ก็ยังรองรับการสั่งการผ่านระบบสัมผัสได้อีกด้วย ซึ่งต้องขอบอกเลยว่าจอ EMV ขนาด 12.3 นิ้วนี้ มีขนาดที่ใหญ่เต็มตาเอามากๆ
หลังจากที่ได้ลองเป็นผู้โดยสารตอนหน้ากันไปแล้ว ก็ถึงเวลาที่จะเป็นผู้ขับ Lexus RX 300 Premium กันบ้าง โดยสำหรับรุ่นที่เราขับขี่ครั้งนี้มาพร้อมเครื่องยนต์เบนซินเทอร์โบ 2.0 ลิตร VVT-iW รุ่น 8AR-FTS รีดกำลังสูงสุด 238 แรงม้า ที่ 4,800 - 5,600 รอบ/นาที แรงบิด 350 นิวตันเมตร ที่ 1,650 - 4,000 รอบ/นาที ส่งกำลังด้วยระบบเกียร์ออโต้ 6 สปีด แรกหมุนพวงมาลัยเดินคันเร่ง ความรู้สึกที่รับรู้ได้ถึงความมั่นใจหนักแน่นในการควบคุม พวงมาลัยเบาควบคุมง่ายและแม่นยำ ไม่ว่าการจะลัดเลาะไปตามซอยที่แคบ หรือการใช้ความเร็วในการเดินทางก็สามารถควบคุมได้อย่างมั่นใจ พละกำลังของเครื่องยนต์สามารถตอบสนองได้อย่างสบาย อาจจะไม่ได้กดแล้วอัตราเร่งปรู๊ดปราดติดเท้าแบบพลังมหาศาล แต่ก็สามารถเร่งแซงได้ไม่ต้องลุ้น มีพละกำลังเหลือๆ ให้เรียกใช้งานกันได้ในยามเดินทางไกล สามารถพาน้ำหนักรถที่หนักถึงเกือบๆ 2 ตัน แล่นไปบนถนนได้แบบสบายๆ หากแต่คุณเป็นคนเท้าหนักและต้องการการตอบสนองที่ทันทีทันใด Lexus RX 350 และ RX 450h ที่มีขุมกำลังที่มีพละกำลังมากกว่าน่าจะเป็นที่ตอบโจทย์ความต้องการได้ดีกว่า มาพร้อมกับช่วงล่างที่ถูกปรับเซ๊ตมาใหม่ ให้ความนุ่มนวลอย่างดีในการขับขี่ พร้อมความมั่นใจในการขับผ่านโค้งด้วยความเร็ว ทั้งความเงียบภายในห้องโดยสาร ทั้งหมดก็อาจทำให้เผลอใช้ความเร็วสูงได้ง่ายๆ
และตัวรถที่มาพร้อมมิติขนาดตัวถัง ยาว 4,890 มม. กว้าง 1,895 มม. สูง 1,690 มม. และมีระยะฐานล้อ 2,790 มม. ที่ดูโดยรวมแล้วใหญ่โตไม่น้อย หลายคนอาจกังวลในเรื่องของการขับขี่ใช้งานในเมือง แต่ต้องขอบอกเลยว่าการขับขี่ Lexus RX 300 Premium ในเมืองสามารถควบคุมรถได้ดั่งใจ ไม่ได้รู้สึกว่ารถขนาดใหญ่จะขับยาก บวกกับในการเข้าจอดในลักษณะต่างๆ ก็สามารถมั่นใจยิ่งขึ้นด้วยระบบกล้องมองภาพรอบคันแบบ Panoramic View Monitor ที่จะทำงานอัตโนมัติร่วมกับเซ็นเซอร์รอบคัน แม้ว่าเราจะทำการเข้าที่จอดแบบเอาหน้ารถเข้า และด้านหน้ามีสิ่งกีดขวางอยู่ระบบนอกจากจะแจ้งเตือนแล้ว ยังแสดงภาพจากกล้องรอบคันบนหน้าจอกลาง 12.3 นิ้วอัตดนมัติอีกด้วย
ทั้งนี้รถใหม่ Lexus RX ยังได้เพิ่มความสะดวกสบายมากขึ้น ด้วยการติดตั้งระบบเปิดฝาท้ายไฟฟ้าพร้อม Kick Sensor ที่เพียงแค่เตะเท้าไปใต้กันชนหลังของรถ ฝาท้ายก็จะเปิดขึ้นแบบอัตโนมัติ และหากเตะกลับเข้าไปอีกครั้งฝาท้ายก้จะปิดกลับเรามาเองได้อีกด้วย หรือใครสะดวกจะกดปุ่มปิดฝาท้ายเองก็สามารถ
การขับทดสอบในครั้งนี้แม้เป็นเพียงช่วงเวลาไม่นานนักกับการได้สัมผัส Lexus RX 300 Premium บนถนนจริง แต่ได้สร้างความประทับใจมากมายหลายอย่าง ทั้งสมรรถนะการขับขี่ของเครื่องยนต์ 2.0 ลิตรเทอร์โบ ที่สามารถตอบสนองได้อย่างเหลือเฟือ ความนุ่มนวลและความเงียบในการใช้งานสุดประทับใจ รวมไปถึงอุปกรณ์อำนวยความสะดวกต่างๆ รวมถึงระบบความปลอดภัยก็ได้รับการติดตั้งมาให้เพิ่มเติมจากเดิม และงานประกอบกับรถยนต์ที่นำเข้ามาจากญี่ปุ่นก็ทำให้มั่นใจได้อย่างดี กับรถยนต์หรูจากค่าย Lexus ที่ได้มอบความสุนทรียภาพในการใช้งานได้อย่างน่าประทับใจอย่างมาก
สิ่งที่ชอบ
- ภาพรวมความสบายในการเดินทาง ช่วงล่างที่นุ่ม การเก็บเสียงที่ดีเยี่ยม
- งานประกอบ ผิวสัมผัสต่างๆ ภายในรถ ให้ความรู้สึกที่ดีเยี่ยม เรียบๆ แต่หรูหรา
- มอบประสบการณ์การขับขี่ได้อย่างดี ตอบสนองได้ในทุกความต้องการ ถูกใจในเรื่องของความสบายตลอดการเดินทาง
สิ่งที่ไม่ชอบ
- อยากให้การออกแบบสวิทซ์ระบบควบคุมความเร็วอัตโนมัติ อยู่ในตำแหน่งบนพวงมาลัยมากกว่าที่จะเป็นก้านยื่นออกมาด้านหลังพวงมาลัย แต่ข้อดีของการที่เป็นก้านแยกส่วนจากปุ่มควบคุมอื่นๆ นี้นั้น ทำให้การใช้งานระบบนี้สามารถใช้งานได้สะดวกเลยทีเดียว โดยที่ไม่ต้องละสายตามาดู เพียงแค่ลดมือมาที่บริเวณขอบด้านล่างขวาของพวงมาลัย ก็จะพบกับก้านควบคุมชุดนี้แล้ว
อเนกประสงค์ Lexus RX ใหม่ มีให้เลือกครอบครอง ดังนี้
- RX 300 รุ่น Luxury ขับเคลื่อนล้อหน้า ราคา 4,230,000 บาท
- RX 300 รุ่น Premium ขับเคลื่อนล้อหน้า ราคา 4,740,000 บาท (รุ่นที่ขับทดสอบในครั้งนี้)
- RX 300 รุ่น F SPORT ขับเคลื่อนสี่ล้อ ราคา 5,350,000 บาท
- RX 350h รุ่น F SPORT ขับเคลื่อนสี่ล้อ ราคา 6,850,000 บาท
- RX 450h รุ่น Premium ขับเคลื่อนสี่ล้อ ราคา 7,640,000 บาท
ติดตามข่าวสารรถยนต์รวดเร็วก่อนใครได้ที่ AUTODEFT.com