Test Drive: รีวิว ทดลองขับ Jaguar I-Pace HSE เริ่ด แรง แซงเรียบ เงียบสุดใจ ไร้มลพิษ

  • โดย : พิสน ลีละหุต
  • 6 มี.ค. 63 00:00
  • 86,697 อ่าน

สารภาพตามตรงว่าเป็นคนที่ชื่นชอบติดตามข่าวเรื่องรถยนต์ไฟฟ้ามากเป็นพิเศษ เพราะส่วนตัวอยากลดมลพิษให้กับโลกเรามาอย่างต่อเนื่อง อย่าถามเรื่องการลดใช้ถุงพลาสติกนะ เพราะผมเริ่มใช้มาก่อนเนิ่นนานแล้ว ไปร้านกาแฟก็เอาแก้วไปเอง เหลือแค่ซื้อรถยนต์ไฟฟ้ามาใช้ก็เท่านั้นเอง

Jaguar I-Pace HSE

โชคดีที่ได้เป็นสื่อมวลชนด้านรถยนต์ เลยมีโอกาสได้สัมผัสกับรถยนต์ไฟฟ้าบ่อยหน่อย เอาจริง ๆ คันแรกที่ได้ขับก็คือ Hamo รถยนต์ไฟฟ้ารูปแบบ Car Sharing ในจุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย ขนาดคันเล็ก มอเตอร์ตัวนิดเดียว ยังสัมผัสได้ถึงความแรง (เล็ก ๆ ) ของรถยนต์ไฟฟ้าเลย จากนั้นก็ได้ขับ Nissan Leaf อีก 2 รอบ กับ MG ZS EV อีกรอบ ตอนนี้บอกได้เลยว่าเป็นแฟนรถยนต์ไฟฟ้าแบบเต็มตัวเลยครับ

Jaguar I-Pace HSE

Jaguar I-Pace HSE

แต่เอาเข้าจริง ความฝันในการขับรถยนต์ไฟฟ้า คือการได้กดรถที่ Performance สูงสักคัน แต่ยังไม่มีโอกาสสักเท่าไหร่ จนในที่สุดฟ้าก็ประทานมาให้ในเวลาอันรวดเร็ว เพราะได้จังหวะที่บริษัท อินช์เคป (ประเทศไทย) จำกัด ผู้นำเข้าและตัวแทนจำหน่ายรถยนต์จากัวร์และแลนด์โรเวอร์ในประเทศไทยอย่างเป็นทางการ ได้ให้ความอุปการะคุณในการให้ยืมรถยนต์ไฟฟ้าตัวแรงอย่าง Jaguar I-Pace ตัวแรงมาให้ยืมทดสอบ งานนี้ไม่ยอมพลาดอยู่แล้ว ต้องเอามาให้รู้กันไปว่าที่เขาคุยไว้ว่าแรงนักแรงหนา มันจริงแค่ไหน

Jaguar I-Pace HSE

Jaguar I-Pace HSE

เบื้องต้นก่อนจับรถออกไปทดสอบกัน คงต้องมาดูเรื่องข้อมูลเบื้องต้นตามธรรมเนียมการรีวิว ทดสอบรถยนต์ Jaguar I-Pace สไตล์ AUTODEFT กันก่อนครับ โดยรุ่นรถยนต์รอบนี้ที่ได้มาทดสอบ เป็นตัวท็อปบนสุด คือ Jaguar I-Pace HSE รถยนต์ไฟฟ้าที่ใช้ขุมพลังในการขับเคลื่อนเป็นมอเตอร์ไฟฟ้า 2 ตัว แบ่งขับเคลื่อนล้อหน้ากับล้อหลังแบบ AWD สามารถสร้างพลังได้สูงสุด 400 แรงม้า (PS) แรงบิดสูงสุด 696 นิวตันเมตร ใช้ขุมพลังงานจากแบตเตอรี่ Lithium-ion ความจุ 90 กิโลวัตต์ชั่วโมง ที่วางเอาไว้ที่ใต้พื้นรถตลบอดทั้งแผง เคลมเอาไว้ว่าสามารถวิ่งได้ไกลสูงสุด 470 กิโลเมตร/การชาร์จเต็ม 1 ครั้ง ทำความเร็วสูงสุดได้ 200 กิโลเมตร/ชั่วโมง ทำอัตราเร่ง 0 - 100 ได้ในระยะเวลา 4.8 วินาที

Jaguar I-Pace HSE

Jaguar I-Pace HSE

รูปแบบของตัวรถ Jaguar I-Pace HSE นั้นเป็นแบบอเนกประสงค์ SUV แบบ 2 แถว 5 ที่นั่ง 5 ประตู ขนาดของตัวรถนั้นอยู่ที่ 2,139 x 4,682 x 1,565 มม. ฐานล้อกว้าง 2,990 มม. ถ้าให้เปรียบขนาด ก็จะประมาณรถ PPV ในเมืองไทยเลย กว้างกว่าด้วยซ้ำ เพียงแต่ว่าเตี้ยกว่าเท่านั้นเอง การออกแบบด้านหน้าเป็นรูปแบบเอกลักษณ์ของจากัวร์ คือกระจังหน้าตาข่ายขนาดใหญ่ แต่ไม่มีรูเพราะไม่ต้องใช้งานการระบายอากาศ (คือมันไม่มีเครื่องยนต์ไง) จะมีช่องระบายลมเฉพาะชายด้านล่างเท่านั้น ดังนั้นภายใต้ฝากระโปรงหน้าก็กลายเป็นช่องเอาไว้เก็บของไป ไฟหน้าใช้เป็นแบบ LED พร้อมไฟ DRL ซ้อนกัน 2 วง เป็นแบบเปิด-ปิดอัตโนมัติ แถมที่ฉีดน้ำทำความสะอาดไฟหน้า มีไฟตัดหมอกติดมาในตำแหน่งชายกนชนด้านล่าง ชุดไฟท้ายก็ใช้เป็นแบบ LED เช่นกัน ส่วนมือจับปประตูนั้น ล้ำโลกมาก เพราะเมื่อรถถูกล็อกอยู่ ตัวมือจับจะเรียบสนิทไปกับประตู แต่เมื่อไหร่ก็ตามที่เปิดล็อกประตู ตัวมือจับมันจะยื่นออกมาให้เราสามารถดึงเปิดประตูได้เลย ล้อใช้เป็นแม็กซ์อัลลอยขนาด 20 นิ้ว สีทูโทนเงิน-ดำ ยางรถยนต์ขนาด 245/50 R20 ช่วงล่างใช้บริการเป็นแบบถุงลมปรับระดับได้แบบ ACTIVE AIR SUSPENSION เรียกได้ว่าจะลดลงมาต่ำรองรับการใช้งานความเร็วสูง หรือจะยกสูงขึ้นเพื่อเข้าไปลุยถนนแบบ Off-Road ก็ได้ทั้งนั้น ผ่านการกดปุ่มจากภายในตัวรถได้เลย

Jaguar I-Pace HSE

Jaguar I-Pace HSE

ส่วนภายในของ  Jaguar I-Pace HSE นั้น ตัวเบาะเป็นสไตล์ Racing สีแดงสดทุกที่นั่ง เบาะคู่หน้าแบบ Bucket Seat ปรับแบบไฟฟ้าได้ 8 ทิศทาง หุ้มด้วยหนังแท้ทั้งหมด บันทึกตำแหน่งที่นั่งได้ 3 ตำแหน่งทั้งเบาะคนขับและเบาะคนนั่ง เบาะหลังสามารถพับได้แบบ 60:40 พวงมาลัยทรงกลม 3 ก้านหุ้มหนัง มีปุ่ม Multi-Function ไว้ให้ใช้งาน โดยด้านซ้ายเป็นปุ่มสำหรับควบคุมหน้าจอการขับขี่และการควบคุมโทรศัพท์ที่เชื่อมต่ออยู่ ส่วนด้านขวาเป็นการควบคุมระบบ Adaptive Cruise Control ตรงกลางเป็นปุ่มแตร ปะด้วยตราสัญลักษณ์เสือกระโจนสีเงินอยู่ (แต่ที่กระจังหน้าเป็นตราหน้าเสือนะ ทำไมไม่ใช้แบบบเดิมนะ) ส่วนหน้าจอแสดงข้อมูลการขับขี่เป็นแบบ Digital ขนาด 12.3 นิ้ว มันใหญ่และสวยมาก บอกได้สารพัดแล้วแต่ใจเราเลือกเลย และมีระบบ Head-Up Display แสดงข้อมูลการขับขี่ เช่น ความเร็ว, การเตือนด้านข้าง, การบอกเส้นทาง ให้เห็นบนกระจกหน้าได้อีกด้วย

Jaguar I-Pace HSE

Jaguar I-Pace HSE

ขยับมาตรงกลางของ Jaguar I-Pace HSE บ้าง ซึ่งผมมองว่านี่คือส่วนที่อลังการงานสร้างมาก ด้วยหน้าจอขนาดใหญ่ที่เรียกว่า Touch Duo Pro ที่เป็นหน้าจอ Infotainment ตรงกลางขนาด 10 นิ้ว แถมเพิ่มหน้าจอขนาด 5 นิ้วที่ด้านล่างมาเพิ่มให้อีกด้วย โดยแบ่งระบบการทำงานด้านบนให้เป็นการแจ้งสถานะข้อมูลต่าง ๆ ทั้งระบบนำทาง, Media ต่าง ๆ, การตั้งค่าตัวรถ และอื่น ๆ อีกมากมายที่ไม่สามารถอธิบายได้หมด มาพร้อมระบบเครื่องเสียงของ Meridian Surround Sound System  กับลำโพง 15 ตำแหน่ง รองรับการเชื่อมต่อทั้งแบบสาย USB และระบบไร้สาย Bluetooth มี Apple CarPlay ไว้ให้ใช้งาน ส่วนหน้าจอด้านล่างเน้นการใช้ควบคุมระบบปรับอากาศเป็นหลัก ซึ่งระบบการควบคุมอุณหภูมินั้นเป็นแบบ Dual Zone แยกซ้าย-ขวา ขยับลงมาด้านล่างอีกนิดเป็นปุ่มเพื่อใช้ควบคุม ปรับแต่งการใช้งานรถยนต์ ทั้งปุ่มเลือกโหมดการขับขี่, ปรับระดับความสูงตัวรถ และแน่นอนว่า ปุ่มเกียร์ (หรือไม่ใช่เกียร์ เพราะมันไม่มีเกียร์) ใช้เป็นปุ่มกดทั้งหมด ส่วนปุ่มเบรกมือไฟฟ้า จะอยู่ตรงข้างพวงมาลัยแทน ติดอยู่บนแผงคอนโซลเคียงคู่กับปุ่มเปิดฝาหน้า และประตูท้ายที่เป็นแบบไฟฟ้า

Jaguar I-Pace HSE

Jaguar I-Pace HSE

การตกแต่งภายในของ Jaguar I-Pace HSE มันสุดอลังการ เข้าไปจะเห็นความโดดเด่นของหลังคากระจกแบบ Panoramic แต่เปิดไม่ได้นะ แดดร้อนมากมีผลต่อความร้อนเล็กน้อย แต่มันแลกมากับความโปร่งโล่งสบายแบบที่ไม่เคยรู้สึกมาก่อน (เวอร์) ส่วนวัสดุที่ตกแต่งภายในนั้น การสัมผัสเกือบทั้งหมดจะเป็นส่วนของ Soft Touch ทั้งนั้น เป็นการใช้หนังสีแดงตกแต่งเป็นหลัก เสริมด้วยเคฟล่ากับโครเมี่ยมสลับกัน สร้างความหรูหราและโดดเด่นได้เป็นอย่างมาก ที่นั่งด้านหลังมีช่อง USB ให้เสียบได้ 2 ช่องความแรง 5V. และช่อง 12V อีก 1 ช่อง เสียบสายชาร์จโทรศัพท์กันได้อย่างจุใจ

Jaguar I-Pace HSE

Jaguar I-Pace HSE

ส่วนระบบความปลอดภัยใน Jaguar I-Pace HSE นั้นเยอะตามสไตล์รถยุโรปอยู่แล้ว ทั้งถุงลมนิรภัย 6 ตำแหน่ง, ระบบควบคุมความเร็วอัตโนมัติแบบแปรผันและช่วยควบคุมพวงมาลัย ADAPTIVE CRUISE CONTROL WITH STEERING ASSIST, ระบบเบรกฉุกเฉิน EMERGENCY BRAKING, ระบบจำกัดความเร็ว SPEED LIMITER, ระบบอ่านสัญญาณจราจร TRAFFIC SIGN RECOGNITION, ระบบควบคุมรถให้อยู่ในเลน LANE KEEP ASSIST, กล้องมองรอบคันแบบ 360 องศา, ระบบตัวช่วยจอดรถ PARK ASSIST, ระบบช่วยเตือนการออกจากรถ CLEAR EXIT MONITOR, ระบบตรวจสอบรถตัดด้านหลังเมื่อถอยหลัง REAR TRAFFIC MONITOR, ระบบเตือนมุมบอดด้านข้าง BLIND SPOT ASSIST, ระบบควบคุมการทรงตัว Dynamic Stability Control (DSC), ระบบป้องกันการลื่นไถลของรถ Electronic Traction Control (ETC), ระบบควบคุมแรงบิดของมอเตอร์ Motor Drag Torque Control, ระบบป้องกันรถถอยหลัง Roll Back Protection, ระบบลดความเสี่ยงในการพลิกคว่ำ Roll Stability Control, ระบบช่วยเบรกฉุกเฉิน Emergency Brake Assist (EBA), ระบบป้องกันล้อล๊อก Anti-lock Braking System (ABS), ระบบควบคุมการกระจายแรงเบรก Electronic Brake-force Distribution (EBD)

Jaguar I-Pace HSE

Jaguar I-Pace HSE

พอแล้วสำหรับข้อมูลเบื้องต้น เรามาเริ่มขับ Jaguar I-Pace HSE กันเลยดีกว่า ก้าวแรกที่เริ่มเข้าไปนั่งเลย สิ่งที่สัมผัสได้คือความอลังการงานสร้างในส่วนของการออกแบบภายใน โดดเด่รนมาเลยกับเบาะสีแดงแสนสดใส วัสดุภายในนี่สัมผัสได้เลยว่าเป็นของคุณภาพดีทุกชิ้น ตัวเบาะแบบคล้าย Bucket Seat ที่นั่งแล้วสบาย ไม่บีบข้างตัวมากเกินไป ตัวเบาะออกไปทางแข็ง ถูกใจผมนักแล ส่วนตัวชอบการออกแบบที่สุดเวอร์วังอลังการ หน้าจอจะให้อะไรมาเยอะแยะไปหมด ทั้งหมดล้วนแสดงผลด้วยระบบ Digital ทั้งหน้าปัดคนขับ หน้าจอกลางระบบ Infotainment แถมเพิ่มหน้าจอด้านล่างเอาไว้ควบคุมอุณหภูมิเป็นหลักได้อีกต่างหาก (นี่ทดสอบรถยนต์ไฟฟ้าหรือยานอวกาศ) พวงมาลัยทรงกลมหุ้มด้วยหนังกลับ ให้สัมผัสดีมากถึงมากที่สุด แต่ตรงนี้แอบเป็นกังวลนิดว่าเวลาใช้ไปนาน ๆ เข้าจะมีโอกาสสึกหรอได้มากขนาดไหน มีปุ่มควบคุม Multi-Function ที่เน้นการควบคุมที่หน้าปัดคนขับกับควบคุมเครื่องเสียงหน้าจอกลางเล็กน้อย กับระบบควบคุมความเร็วอัตโนมัติแบบแปรผัน

Jaguar I-Pace HSE

Jaguar I-Pace HSE

Jaguar I-Pace HSE ใช้การเปลี่ยนเกียร์เป็นแบบกดปุ่ม ใครไม่คุ้นช่วงแรกอาจจะดูแปลก แต่พอใช้ไปจนชินจะรู้เลยว่า พอไม่มีคันเกียร์ออกมาให้เกะกะ มันก็ดีอยู่เหมือนกัน ปุ่มควบคุมโหมดการขับขี่กับปุ่มเลือกความสูงต่ำของช่วงล่างอยู่ที่แผงกลางเลย ใช้งานง่ายสุด ไม่ต้องกดเข้าไปหลายชั้นเหมือนบางรุ่น แต่ความเวอร์วังสุดต้องยกให้เป็นแผงหลังคาที่ใช้งานเป็นกระจกทั้งแผ่น ไม่ใช่แบบ Paronamic Sunroof นะ เพราะมันเปิดไม่ได้ เป็นหลังคากระจกเฉย ๆ ไม่มีม่านบังแสง แต่เป็นกระจกกันร้อนอยู่แล้ว แผงนี้มันทำให้รถดูโปร่งโล่งสบายประดุจดั่งรถมีความกว้างขึ้นอีก 1.541 เท่า แต่แน่นอนว่า มันกันความร้อนไม่ได้ทั้งหมดหรอก เจอแดดร้อนประดุจนรกอยู่สูงขึ้นไปแค่ 50 เมตร เจ๋งแค่ไหนก็เอาไม่อยู่ แต่ระบบปรับอากาศสู้ไหวอยู่ เพียงแค่เรายังคงสัมผัสความร้อนบนหัวได้บ้างอยู่ดี

Jaguar I-Pace HSE

Jaguar I-Pace HSE

รอบนี้ต้องบอกก่อนว่า ผมมีโอกาสได้อยู่กับ Jaguar I-Pace HSE เพียงแค่ 2 วัน ต้องเข้าใจว่าทาง อินช์เคป (ประเทศไทย) ไม่ได้มีสั่งรถยนต์ไฟฟ้ารุ่นนี้เข้ามาหลายคัน ดังนั้นการให้เรามาใช้งานนั้น หมายถึงถ้าลูกค้าเขาเข้ามาอยากทดสอบบ้าง เขาจะไม่มีให้นะ ดังนั้นเวลาที่จะทดสอบให้ละเอียดนั้นจึงมีไม่มาก ทำได้เฉพาะการทดสอบทั่วไป บางฟังก์ชั่นยังไม่ได้ใช้ ทั้งที่ระบบการใช้งานนั้นโคตรจะเยอะ และการขับขี่ก็เน้นใช้งานในเมืองทั้งหมด แต่เป็นการทดสอบให้ใกล้เคียงกับการใช้งานจริง และสื่อสารบอกในส่วนที่จำเป็นต้องใช้ในยามที่ต้องใช้งานรถยนต์ไฟฟ้าสักคันครับ (ไม่ได้ลองเรื่องชาร์จไฟด้วยนะ)

Jaguar I-Pace HSE

Jaguar I-Pace HSE

นั่งแล้วก็กดปุ่ม D ออกเดินทางได้แล้ว แน่นอนว่าการใช้รถยนต์ไฟฟ้าอย่าง Jaguar I-Pace HSE  นั้น ไม่มีเสียงอยู่แล้ว กดปุ่ม On ปั๊บ หน้าจอมีข้อมูลขึ้น ก็กดปุ่มเดินหน้าออกเดินทางได้เลย ย้ำกันอีกครั้งว่ากำลังของมอเตอร์ไฟฟ้านั้น ขับเคลื่อนเป็นมอเตอร์ไฟฟ้า 2 ตัว แบ่งขับเคลื่อนล้อหน้ากับล้อหลังแบบ AWD สามารถสร้างพลังได้สูงสุด 400 แรงม้า (PS) แรงบิดสูงสุด 696 นิวตันเมตร ซึ่งข้อดีของรถยนต์ไฟฟ้าคือ กำลังสูงสุดมันมาตั้งแต่รอบแรกที่มอเตอร์หมุนเลย กดสิครับรออะไร พอกดคันเร่งมิดปั๊บ หูย อารมณ์ประมาณนั่งอยู่บนยาน Millennium Falcon แล้วกระโดดจั๊มเข้าสู่การวาร์ป หลังและหัวเราจะแนบสนิทไปกับเบาะโดยไม่รู้ตัว ภาพข้างทางละลายกลายเป็นเส้นลากยาว เลขความเร็วกระโดดขึ้นไปเกิน 100 กม./ชม. ในช่วงหายใจเข้าออกเดียว บ้าไปแล้ว การทำอัตราเร่งแบบนี้ได้ มันต้องรถระดับ Super Car เท่านั้น รถเครื่องยนต์ปกติทั่วไปทำไม่ได้แน่ ส่วนการทรงตัวช่วงออกตัวแบบโหดขนาดนี้ไร้กังวัลได้เลยครับ เพราะระบบช่วงล่างนั้นเอาอยู่อย่างสบาย แถมการขับเคลื่อนแบบ 4 ล้อยิ่งทำให้เราสามารถควบคุมรถได้อย่างไม่ยากเย็นอะไร เข้าโค้งอะไรเอาอยู่หมด เซ็ตมาได้ดีมาก เอาเป็นว่าจากการขับรถยนต์ไฟฟ้ามาทั้งหมด นี่คือที่สุดแล้ว โดยอัตราเร่งนี้จะต่อเนื่องยาวไปจนถึงราว 160 กม./ชม ก่อนที่จะเริ่มแผ่วลงมาเล็กน้อย แต่ยังดันไปถึง 200 กม./ชมได้ไม่ยาก ไม่น่าถึง 20 วินาทีก็แต่ได้แล้ว ก่อนที่จะหยุดที่ตรงนั้น ส่วนนี้ไม่แน่ใจว่าเป็นการล็อกความเร็วเอาไว้หรือสุดขีดจำกัดของมอเตอร์ไฟฟ้าแล้ว แต่ผมว่าแค่นี้ก็เหลือเฟือมากแล้ว เหลือเยอะเกินไปด้วยซ้ำสำหรับการใช้งานในเมืองไทย

Jaguar I-Pace HSE

Jaguar I-Pace HSE

แต่สิ่งที่พบในการขับขี่ Jaguar I-Pace HSE แล้วรู้สึกไม่ค่อยถูกใจเท่าไหร่ ก็คือเรื่องของพวงมาลัย ที่ให้ความรู้สึกว่ามันออกไปทางเบาไปนิด และความแม่นยำยังดูไม่ค่อยมากเมื่อเทียบกับรถในราคาระดับนี้ เอาล่ะ มันอาจจะใช้งานสบายตอนใช้ช่วงรถติด วิ่งช้า ๆ แต่เฮ้ย รถที่มี Performance ระดับนี้ ผมว่ามันควรต้อง Setting ไปทางใช้สไตล์ Sport หน่อยไหมครับ ถ้าเพิ่มน้ำหนักให้มากกว่านี้สักหน่อย และขยับเความคมให้ดีกว่านี้อีกนิด ผมว่าจะเจ๋งเลย และอีกส่วนที่ดูขัดใจก็คือ วงเลี้ยวกว้างมาก ประดุจขับรถกระบะเลย กว้างเกินงามกับการเป็นรถ SUV ไปสักหน่อย อ่ะ แต่มันเป็นรถ AWD ก็พอจะเข้าใจได้บ้าง แต่ถ้าลดลงได้อีกนิดน่าจะดีขึ้นไม่น้อย

Jaguar I-Pace HSE

Jaguar I-Pace HSE

การเปลี่ยนโหมดการใช้งานของ Jaguar I-Pace HSE มีอยู่ 3 Level ก็คือ ECO, Normal และ Sport คล้ายคันอื่น แต่รูปแบบจะแตกต่างกับเครื่องยนต์ทั่วไป เพราะกำลังมอเตอร์ไฟฟ้ายังเท่าเดิม แต่เพิ่มเติมเรื่องการตอบสนองของคันเร่งที่เท้าเราแทน ถ้า Eco ก็จะตอบสนองช้าเล็กน้อย Normal ก็ปานกลาง แต่พอสปอร์ตนี่พวกตอบสนองเร็วมาก แตะไปหน่อยเดียวพวกก็จะพุ่งทยานออกไปแล้ว แต่ถ้าถามว่าต่างกันมากไหม ก็ต้องบอกว่าไม่มากครับ ยิ่งถ้าคุณเป็นคนเท้าหนักนี่ แทบไม่รู้สึกของความต่าง เพราะระบบจะจับได้อยู่ดีว่าคุณต้องการกำลังในการเปลี่ยนย่านความเร็ว มันก็จะหมุนมอเอตร์ไฟฟ้าเต็มกำลังให้อยู่ดี แต่ถ้าเป็นคนใจเย็น แตะคันเร่งแบบไม่รีบไปไหน แบบนี้ถึงจะเริ่มเห็นความต่างที่ชัดเจนครับ

Jaguar I-Pace HSE

อีกฟังก์ชั่นที่ดีงามบน Jaguar I-Pace HSE ก็คือ ระบบการตั้งความสูงของตัวรถ ถ้าต้องการขับทั่วไป ก็ใช้ระดับกลาง แต่ถ้าอยากซิ่งกันหน่อย ก็ปรับให้เตี้ยลงได้ ซึ่งก็พอเห็นว่าเตี้ยลง แต่ก็ไม่ได้มากอะไร แต่ถ้าอยากขับออกไปลุยสไตล์ Off-Road ลูกรังดูบ้าง กดยกสูงสุดนี่มันสูงจริง ๆ นะ สูงแบบเห็นได้ชัดว่าตัวรถมันสูงขึ้นจริง ๆ เอาขึ้นพะเนินทุ่ง ไปดูทะเลหมอกได้อย่างแน่นอน

Jaguar I-Pace HSE

ระบบอื่น ๆ ที่ได้ลองบน Jaguar I-Pace HSE แล้วชอบคือ ระบบควบคุมความเร็วอัตโนมัติแบบแปรผันและช่วยควบคุมพวงมาลัย ADAPTIVE CRUISE CONTROL WITH STEERING ASSIST ที่ทำงานได้เนียนมาก เร่งความเร็วและลดความเร็วตามคันหน้าได้แบบเนียน ๆ ไม่กระโชกโฮกฮากดึงหน้ากดเบรกแรงเลย แถมพวงมาลัยก็ยังช่วยหันให้ตามเลนอีกด้วย ขับเวลาวิ่งไกลนี่สุดสบายจริง ๆ ส่วนเครื่องเสียงนั้นผมว่าให้ระดับกลางค่อนไปทางดีนะ ถึงแม้ว่าจะใช้ Meridian Surround Sound System  กับลำโพง 15 ตำแหน่ง แต่ก็ไม่ได้แบบว่าเสียงดีกระหึ่ม เสียงแหลมใสกิ๊งอะไรประมาณนั้น เอาเป็นว่าเสียงดี แต่ไม่ใช่ที่สุดเท่านั้นเอง

Jaguar I-Pace HSE

Jaguar I-Pace HSE

อีกระบบที่ Jaguar I-Pace HSE ใส่มาเพื่อชดเชยความเป็นรถยนต์ไฟฟ้าที่ไม่มีเสียงก็คือ ระบบที่ช่วยเพิ่มความมันในห้องโดยสาร เมื่อเปิดระบบนี้แล้ว ลำโพงจะทำเสียงคำรามของเครื่องยนต์แบบสังเคราะห์ให้ เร่งแรงได้ตามการกดคันเร่งที่เท้าของเรา มันไม่ได้ส่งเสียงดังอะไรมากจนเท่าเสียงเครื่องยนต์จริงนะ มันมาเล็กน้อย แต่พอช่วยเพิ่มความสนุกในการขับขี่ได้แหล่ะ

Jaguar I-Pace HSE

ผ่านการใช้งาน Jaguar I-Pace HSE มาได้ 2 วัน ก็ถึงเวลาลาจากกันแล้ว ผมเอามาทดสอบ ใช้งานส่วนใหญ่แบบในเมือง มีรถติดมาก ติดน้อย วิ่งยาวได้บาง่วง กดแรง ๆ ก็หลายรอบ (อดใจไม่ไหว) ตามสเปกสามารถวิ่งได้สูงสุด 470 กิโลเมตรจาาการชาร์จไฟให้เต็ม 1 ครั้ง แต่ผมใช้งานไป 154.3 กิโลเมตร แต่หน้าจอยังแจ้งวิ่งได้อีกราว 156 กิโลเมตร รวมกันก็ประมาณ 300 กว่ากิโลเมตร แต่ถ้าใช้ต่อไปผมว่าน่าจะได้ราว 280 กิโลเมตร แต่เอาเข้าจริงผมใช้แบบไม่ถนอมเท้าเลยนะ ว่างเมื่อไหร่ก็กด อัดเร็ว ๆ มุดช่องไปก็หลายรอบอยู่ ผมว่าถ้าใช้งานปกติ ขับแบบไม่ได้รีบร้อนอะไร ใช้แบบชีวิตประจำวัน 300 กิโลเมตรนี่ได้แน่ ๆ เผลอ ๆ จะขึ้นถึง 350 กิโลเมตรอย่างแน่นอน

Jaguar I-Pace HSE

Jaguar I-Pace HSE ตั้งราคาจำหน่ายเอาไว้ที่ 6,999,000 บาท จัดจำหน่ายโดยอินช์เคป (ประเทศไทย) จำกัด ผู้นำเข้าและตัวแทนจำหน่ายรถยนต์จากัวร์และแลนด์โรเวอร์ในประเทศไทยอย่างเป็นทางการ ถ้าถามว่าราคาสูงไหม มันก็สูงอยู่ครับ แต่มันสูงด้วยอัตราภาษีรถนำเข้าที่ถูกจัดเก็บตามปกติ ไม่มีตัวช่วยอะไรทั้งสิ้น แต่ถ้ามองเรื่องความหรูหรา สมรรถนะที่ได้ ความประหยัดในการเติมพลังงาน ความสนุกที่ได้จากการขับขี่ ผมว่าถ้าคุณมีเงินเหลือ เลือกใช้เถอะครับ เพราะถ้าลองได้ใช้งานรถยนต์ไฟฟ้าแล้ว คุณจะไม่อยากกลับไปใช้งานรถยนต์แบบใช้น้ำมันอีกเลย เชื่อผมเถอะ

ทดสอบและเรียบเรียงโดย EARTHPARK02

ติดตามข่าวสารรถยนต์รวดเร็วก่อนใครได้ที่ AUTODEFT.com

5 เรื่องน่าสนใจ