Test Drive : รีวิว ทดลองขับ ISUZU D-MAX Hi-Lander 1.9 ZP AUTO ใหม่หมด…ปิกอัพยกระดับสำหรับชีวิตเมือง
- โดย : Autodeft
- 20 ต.ค. 62 00:00
- 81,261 อ่าน
เกือบ 20 ปี ที่ ISUZU D-MAX รถปิกอัพที่ได้สร้างนวัตกรรมเทคโนโลยีใหม่ๆตอบโจทย์การใช้ชีวิตได้หลากหลายรูปแบบจนกลายเป็นรถปิกอัพยอดนิยมที่ผู้ใช้รถชาวไทยให้ความไว้วางใจมาตลอด สานต่อความสำเร็จจากปิกอัพมังกรทอง และ Dragon Eys ที่เคยตราตรึงใจมายาวนาน
วันนี้ ISUZU D-MAX กลับมาพร้อมความยิ่งใหญ่ภายใต้สโลแกน พลานุภาพพลิกโลกด้วยภาพลักษณ์ใหม่หมด ออกแบบมาเพื่อตอบสนองทุกการใช้งาน พัฒนาด้วยแนวคิด BOLD, EMOTIONAL and SMART นำไปสู่ดีไซน์ทุกส่วน แต่ยังมีความหล่อตามสไตล์ อีซูซุ ตั้งแต่ภายนอก ภายใน เครื่องยนต์ แพลตฟอร์มใหม่ ความปลอดภัยใหม่ พร้อมนวัตกรรมเทคโนโลยีใหม่ สมบูรณ์แบบในทุกฟังก์ชั่นโดยรุ่นที่นำมารีวิวทดลองขับนี้เป็นรุ่น Hi-Lander 4 ประตู 1.9 ZP เกียร์อัตโนมัติ ความหล่อเหลาของปิกอัพรุ่นนี้ หล่อทันสมัย ตั้งแต่ไฟหน้า Projector Bi-LED พร้อม Multifunctional Daylight รูปตัว V ในโคมเดียวกัน สว่างชัดเจนยิ่งขึ้น ทั้งในเวลากลางวัน และทำหน้าที่เป็นไฟหรี่เวลากลางคืน กระจังหน้าทรงเขี้ยวชุบโครเมี่ยมปะโลโก้ ตัวหนังสือ ISUZU ขนาดใหญ่ ใต้ล่างกันชนหน้ามีช่องระบายอากาศขนาดใหญ่แนวตั้งสีดำเพิ่มประสิทธิภาพระบายอากาศได้ดียิ่งขึ้น กันชนหน้าขนาดใหญ่ทรงขึ้นรูปสปอร์ตพร้อมไฟเลี้ยวและไฟตัดหมอก LED ติดตั้งเป็นมาตรฐาน
ด้านข้างเน้นความทรงพลังบึกบึนด้วยโป่งล้อขึ้นรูป พร้อมล้ออัลลอยขนาด 18 นิ้ว สีทูโทนเงินดำพร้อมยางขนาดใหญ่ 18 นิ้วที่ปรับหน้ากว้างเพิ่มเป็น 265/60 R18 (เดิม 255/60R18) จาก Bridgestone Dueler กระจกมองข้างดีไซน์ใหม่บานใหญ่กว่ารุ่นเดิมพร้อมไฟเลี้ยว สามารถปรับ-พับได้ด้วยไฟฟ้า สีเดียวกับตัวรถ ส่วนเสาอากาศยังเป็นแบบเสาสั้นติดตั้งบนหลังคารถ น่าจะให้แบบครีบฉลามก็ยังดี ด้านท้าย ติดตั้งไฟท้ายแบบเลนส์ใสเน้นความสปอร์ต แบบ Dual Sonic LED พร้อมกันชนท้ายสีเดียวกับตัวรถทรงตัวยูคว่ำ และชุดมือเปิดประตูเป็นโครเมี่ยมและมือเปิดกระบะท้ายเป็นโครเมี่ยมทั้งชิ้นพร้อมกล้องมองหลัง ตัวรถใหญ่ขึ้นกว่าเดิมด้วยความยาว 5,265 มม. ความกว้าง 1,870 มม. ความสูง 1,790 มม. ฐานล้อ 3,125 มม. น้ำหนักรถ 1,840 กก. ระยะต่ำสุดจากพื้น 240 มม. ความจุถังน้ำมัน 76 ลิตร และมิติกระบะภายในความยาว 1,495 มม. ความกว้าง 1,530 มม. ความสูง 490 มม.
ภายในยกระดับความหรูเทียบชั้นรถยนต์โซนยุโรป และพลิกความเป็นปิกอัพเหนือปิกอัพด้วย คอนโซลหน้าดีไซน์เล่นระดับด้วยโทนสีดำผสมวัสดุสีเงินสปอร์ตทั้งแผง เสริมการใช้งานด้วยฟังก์ชั่นที่ดูจะคับคั่งกว่า D-MAX เจนที่แล้ว ด้วยมาตรวัดเรืองแสงแบบพร้อมจอแสดงข้อมูลสี Smart MID ขนาดใหญ่ 4.2 นิ้ว ที่บอกทั้ง ระยะทางทริป A กับ B อัตราสิ้นเปลืองน้ำมัน จอแสดงการทำงานวิทยุ และมีนาฬิกาดิจิตอลในตัว ฯลฯ พวงมาลัยมัลติฟังก์ชั่น 3 ก้าน ดีไซน์จับกระชับมือกว่ารุ่นที่แล้ว หุ้มหนังตกแต่งสีเงินด้าน ซ้ายมือเป็นปุ่มควบคุมวิทยพร้อมปุ่มรับโทรศัพท์ ขวาเป็นปุ่มล็อกความเร็วอัตโนมัติหรือ Cruise Control ปรับได้ 4 ทิศทาง Tilt & Telescopic สูง-ต่ำและ เข้า-ออก ตามสรีระผู้ขับขี่ ศูนย์รวมความบันเทิงและความสบายอยู่ที่เดียวกันกับคอนโซลกลางทรงหกเหลี่ยมด้วยเครื่องเสียงจอสัมผัสขนาด 9 นิ้วแบบ HD ชัดใส ISUZU Ultimate Entertainment ที่ครั้งนี้ตัดช่องใส่ CD ออก เล่นได้ทั้งระบบนำทาง รองรับระบบ Apple CarPlay และ Android Auto พร้อมลำโพงรอบคัน 8 ลำโพงรวมลำโพงบนหลังคารถ ที่ให้เนื้อเสียงไพเราะระดับหนึ่งถัดลงมาเป็นเครื่องปรับอากาศอัตโนมัติที่ครั้งนี้เพิ่มระบบปรับอุณหภูมิแยกอิสระซ้าย-ขวา งานนี้คนขับและคนนั่งไม่ต้องมาแย่งกันปรับอุณหภูมิกันอีกแถมใจดีให้ช่องแอร์ด้านหลังมาด้วยเย็นทั้งคันอย่างแน่นอน และช่องเสียบชาร์จสมารท์โฟน USB 2 จุด ทั้งหน้าใต้คอนโซลกลาง (มีช่องชาร์จไฟ 12 โวลต์) ข้างช่องแอร์หลัง และเป็นเจ้าแรกของไทยที่ติดตั้งระบบกรองอากาศสามารถดักฝุ่น PM 2.5 ได้
ชุดคันเกียร์มีความแปลกตรงที่ย้ายตำแหน่งบอกเกียร์ไว้ที่หัวเกียร์สีดำเปียโนแบล็คผสมหนังจับกระชับมือล้อมกรอบด้วยสีเงิน พร้อม Shift Lock แบบใช้กุญแจเสียบ และช่องเก็บของและที่วางแก้ว 10 จุด เป็นเจ้าแรกในวงการรถปิกอัพ ที่แผงบังแดดคู่หน้าติดตั้งกระจกแต่งหน้าพร้อมไฟส่องสว่างมาถึง 2 จุด Vanity Mirror & Light เอาใจคุณผู้หญิงที่หันมาเอาดีขับรถปิกอัพเป็นครั้งแรก แต่คุณผู้ชายก็ส่องแต่งหล่อให้สมกับเป็นคนหล่อได้เช่นกัน ระบบกุญแจรีโมท ISUZU Genius Entry เพียงแค่เก็บใส่ในกระเป๋ากางเกง ก็สามารถสั่งปลดล็อกได้อย่างง่ายดายด้วยการกดปุ่มเล็กๆในก้านประตูแต่ไม่สามารถดึงก้านเปิดประตูเหมือนรุ่นเจนที่แล้วได้และปุ่ม Push Start ตามสมัยนิยม สำหรับเจนใหม่นี้มาพร้อมระบบล็อกรถอัตโนมัติในกรณีที่เดินออกห่างจากตัวรถเกินระยะ 3 เมตร หรือ Walk Away Auto Lock เหมาะมากสำหรับคนขี้ลืมและรีบๆไปทำธุระจนลืมล็อกรถ
เบาะนั่งต้องยอมรับเลยว่าออกแบบใหญ่โตโอบกระชับดี สบายไม่เมื่อยเหมือนรุ่นเจนที่แล้วเพราะทาง ISUZU บอกว่าเบาะนั่งเป็นโครงสร้างเบาะใหม่หมดแบบ AVEC (Anti Vibration Elastic Comfort) ปรับไฟฟ้า 8 ทิศทางสำหรับคนขับแต่คนนั่งปรับด้วยก้านธรรมดาแต่เบาะหลังเมื่อเข้าไปนั่งให้ความสบายพอสมควรตัวเบาะวางตำแหน่งอาจชันนิดนึงแต่มีความดีตรงที่มีปีกซัพพอร์ต โอบกระชับดี แถมที่วางแขนมีที่ใส่แก้วให้และพื้นที่วางขายังมีพื้นที่เหลือๆสบายทุกการเดินทาง
รุ่น Hi-Lander ยกสูง 4 ประตูที่นำมารีวิวทดลองขับครั้งนี้เป็นเครื่องยนต์ดีเซล ISUZU Ddi Blue Power แบบเทอร์โบแปรผัน VGS ขนาด 1.9 ลิตร รุ่น RZ4E-TC อัตราส่วนกำลังอัดเครื่องยนต์เป็น 16.5:1 ระยะชัก/ขนาดกระบอกสูบ 80.0/94.4 มม. ให้กำลังสูงสุด 150 แรงม้า ที่ 3,600 รอบ/นาที แรงบิดสูงสุด 350 นิวตันเมตร ที่ 1,800-2,600 รอบ/นาที มาพร้อมเกียร์อัตโนมัติ 6 สปีดแบบ Rev-Tronic รุ่นเดิม AWR6B45 ด้วยอัตราทดดังนี้
เกียร์ 1 = 3.600 เกียร์ 2 = 2.090 เกียร์ 3 = 1.488 เกียร์ 4 = 1.000 เกียร์ 5 = 0.687 เกียร์ 6 = 0.580 เกียร์ถอยหลัง = 3.732 อัตราทดเฟืองท้าย = 4.100
ถึงแม้เครื่องยนต์จิ๋วแต่งเจ๋ง 1.9 ลิตร ยังให้แรงม้าแรงบิดเท่าเดิมแต่เมื่อมาอยู่ในร่างเจนใหม่ ISUZU เลยจับเครื่องยนต์บล็อกนี้มาพัฒนาใหม่เป็นเจน 2 ความกระฉับกระเฉงในการออกตัวและขับความเร็วสูงๆที่เคยทำผลงานค่อนข้างน่าพอใจจากเจนที่แล้ว คราวนี้ปรับให้มีเรี่ยวแรงดีขึ้นออกตัวเร่งแซงฉับไวขึ้น ถึงแม้คลิ๊กดาวน์เพื่อเรียกกำลังอาจมีอาการหน่วงเล็กน้อย ส่วนรอบการทำงานของเครื่องในช่วงความเร็ว 90-120 กม./ชม.ทำผลงานไม่ถึง 2,000 รอบ/นาที และแต่ละช่วงของความเร็วมาแบบรวดเร็วติดปีก ด้วยรอบตั้งแต่ 1,700, 1,750, 1,850 และ 1,950 รอบ/นาที ตามลำดับ และเมื่อกดปุ่ม สตาร์ทรถ เสียงเครื่องยนต์เงียบกว่าเดิมในช่วงรอบต่ำจนถึงขับปกติ 60-120 กม./ชม.เพราะการออกแบบฉนวนกันเสียงรบกวนที่หนาขึ้นกว่าเดิม
ระบบเกียร์อัตโนมัติ 6 สปีด ถึงจะเป็นลูกเดิมอัตราทดเดิมจากเจนที่แล้วแต่ปรับเซ็ตให้การทำงานของแต่ละเกียร์สัมพันธ์กับความเร็วได้น่าอย่างน่าทึ่งด้วยการปรับกล่องสมองกลให้เป็นเวอร์ชั่นดีที่สุด สามารถตัดต่อกำลังราบรื่น ไม่กระตุกไม่เสียอารมณ์ตอนขับเร่งแซง แถมมี Rev-Tronic บวก/ลบด้วยสร้างความสนุกในการขับขี่มากขึ้น ส่วนอาการ Engine Brake ที่จะคอยดึงกำลังของเครื่องยนต์ช่วงความเร็วลดลงมาถึง 60 กม./ชม. กลับไม่มี แต่ได้ระบบลดกำลังเครื่องยนต์เพื่อช่วยเบรก BOS มาแทน รวมถึงระบบระบบออกตัวบนทางลาดชัน HSA และระบบควบคุมความเร็วขณะลงทางลาดชัน HDC ที่ ตรวจจับการทำงานอย่างแม่นยำมีหน่วงบ้างเล็กน้อยและที่สำคัญไม่กระตุกในตอนช่วงลงจากทางลาดชัน
ระบบ ISS (Idling Stop/Start System) หรือระบบตัดการทำงานของเครื่องยนต์อัตโนมัติ โดยระบบนี้จะตัดการทำงานเครื่องยนต์ชั่วขณะและกลับมาทำงานโดยอัตโนมัติเมื่อแตะคันเร่ง ในเจนใหม่นี้พัฒนาได้ดีกว่าเดิมโดยยอมผ่อนปรนเงื่อนไขนั่นคือระบบแอร์สามารถเปิดทำงานได้ แต่ยังคงเหยียบเบรกและตำแหน่งเกียร์ต้องอยู่ในเกียร์ D แต่การทำงานจากเดิมหยุดนาน 3 นาที คราวนี้เหลือแค่นาทีเดียว แต่ถ้าไม่ชอบระบบนี้สามารถปิดการทำงานได้
โครงสร้างตัวถัง และแพลตฟอร์มนั้นทาง อีซูซุบอกว่าเป็นแพลตฟอร์มใหม่ล่าสุด “ISUZU DYNAMIC DRIVE PLATFORM” ทำงานร่วมกันทั้ง โครงสร้างตัวถัง แชสซีส์ เครื่องยนต์ ช่วงล่างให้ทำงานร่วมกันเป็นหนึ่ง เพื่อสมดุลยภาพการขับที่ที่สมบูรณ์แบบ โดยระบบช่วงล่างยังเป็นปีกนกอิสระสองชั้น คอยย์สปริง และโช้กอัพแก๊ส พร้อมเหล็กกันโคลงสำหรับด้านหน้า และด้านหลังเป็นแหนบรูปครึ่งวงรีพร้อมโช้กอัพแก๊ส (แหนบเหนือเพลา) เป็นแหนบยาว LONG SPAN 3 แผ่น จากเจนที่แล้วช่วงล่างปรับเซ็ตเน้นไปทางนุ่มนวล เด้งๆ มาครั้งนี้ลบความทรงจำของ D-MAX เจนที่แล้วและเจนก่อนหน้า ออกจากความคิดได้ทันที เพราะช่วงล่างที่พัฒนาใหม่เน้นไปในทางหนึบนำ นุ่มตาม ไม่ว่าสภาพถนนจะราบเรียบหรือขุรขระ แม้กระทั่งช่วงจั้มลงสะพานกลับให้ความนุ่มนวลไม่สะเทือน การเข้าโค้งอยู่ในเกณฑ์ดีกว่าเจนที่แล้วงานนี้ถูกใจเซียนปิกอัพชาวไทยอย่างแน่นอนและยังมีระบบ ระบบควบคุมการทรงตัว ESC และระบบป้องกันการลื่นไถล TCS
พวงมาลัยพาวเวอร์แบบแร็คแอนด์พิเนียน ให้น้ำหนักที่เบากว่าเจนที่แล้วใช้งานในเมืองและนอกเมืองได้อย่างสะดวกขึ้น มั่นใจในการใช้งานมากขึ้น ระยะวงเลี้ยวแคบสุดเท่ากับเจนที่แล้ว เพียง 6.3 เมตร ระยะฟรีพวงมาลัยน้อยลงกว่า ส่วนระบบเบรกทำงานฉับไวขึ้นตามใจสั่งและทันใจ เมื่อเหยียบแป้นเบรกไป 30 % ด้วยหม้อลมเบรกขนาดใหญ่รวมถึงดิสก์เบรกขนาดใหญ่ 320 มม. แล้วมีระบบป้องกันล้อล็อก ABS กระจายแรงเบรก EBD ช่วยเพิ่มแรงเบรกอัตโนมัติเมื่อเบรกกระทันหัน BA และยังมีไฟฉุกเฉินกระพริบอัตโนมัติเมื่อเบรกกระทันหัน ESS มาให้นับว่ามาครบครัน
ด้วยราคา 990,000 บาทกับการเป็นรุ่นรองท็อปแต่ข้าวของที่จัดมาให้นั้น ครบครันคุ้มค่าทั้ง ไฟหน้า Bi-LED เบาะกึ่งหนังแท้สีดำ จอสัมผัส 9 นิ้ว ระบบ Cruise Control ช่องแอร์ด้านหลัง ระบบแอร์ Dual Zone ดักฝุ่น PM 2.5 ฯลฯ เบาะนั่งสบายกว่าเจนที่แล้ว รวมถึงเบาะนั่งหลังที่โอบกระชับสบายกว่าเดิมถึงตำแหน่งเบาะจะชันก็ตาม
เครื่องยนต์ดีเซล 1.9 ลิตรมาครั้งนี้ เรี่ยวแรง คล่องแคล่วขึ้นกว่าเดิม เสมือนหนุ่มหล่อวัยรุ่นที่มีกำลังวังชาดุจม้าศึก ระบบเกียร์ที่ฉับไวตอบสนองราบเรียบ ช่วงล่างเป็นจุดเด่น ออกแบบให้ถูกจริตชาวไทยมากที่สุดเน้นความหนึบจนเทียบชั้นเจ้าอื่นๆได้อย่างสบาย และด้วยจุดแข็งด้วยการบริการที่เป็นมิตรมากว่า 60 ปี จนมีเครือข่ายดีลเลอร์ มากกว่า 300 แห่งทั่วไทย เป็นเหตุผลอันดับต้นๆ ที่เซียนรถปิกอัพ เทใจให้กับ ISUZU D-MAX Hi-Lander 1.9 ZP 4 ประตู Auto แบบไม่ต้องสงสัย
เรื่องและขับทดสอบโดย นายเต้ย
สิ่งที่ชอบ >>> รูปลักษณ์ใหม่หมดใหญ่ขึ้นตามสไตล์ ISUZU ออพชั่นครบครันตามเกรดรุ่นทั้งระบบปรับอากาศ Dual Zone ระบบล็อกรถอัตโนมัติ Walk Away Auto Lock วางใจได้เมื่อลืมล็อกรถ กระจกแต่งหน้าคู่พร้อมไฟส่องในที่บังแดด หายากมากในรถระดับเดียวกัน ช่วงล่างหนึบขึ้น กำลังเครื่องว่องไวขึ้น
สิ่งที่ไม่ชอบ >>> น่าจะมีระบบไฟหน้าเปิด-ปิดอัตโนมัติ ระบบที่ปัดน้ำฝนอัตโนมัติ สำหรับรุ่น ZP รวมถึงอยากให้ระบบปลดล็อกประตูเพิ่มฟังก์ชั่นปลดล็อกด้วยการดึงก้านเปิดประตูเหมือนรุ่นเจนที่แล้ว
ชม Gallery Test Drive All New ISUZU D-MAX Hi-Lander 1.9 ZP Auto 4Door ได้ที่นี่ !!
ติดตามข่าวสารยานยนต์ รวดเร็วก่อนใคร ได้ที่ Autodeft.com