Test Drive: รีวิว ทดลองขับ Honda CR-V ใหม่ รุ่น 5 ที่นั่ง ขับขี่สบาย ตอบสนองทันใจ กับพื้นที่สัมภาระที่กว้างกว่า

นับตั้งแต่การเปิดตัวอเนกประสงค์ใหม่ Honda CR-V เจนเนอเรชั่นใหม่ล่าสุด ที่มาพร้อมรูปลักษณ์ใหม่ เพิ่มเติมเครื่องยนต์ใหม่ 2 ทางเลือก ทั้งเครื่องยนต์เบนซินและดีเซลพร้อมระบบเกียร์ 9 สปีดใหม่ล่าสุด ที่รองรับการโดยสารกับเบาะแบบ 7 ที่นั่ง ซึ่งหลังจากการเปิดตัวผ่านไป 1 ปี ก็ได้มีการเพิ่มเติมทางเลือกให้กับลูกค้าที่ต้องการรถยนต์อเนกประสงค์เพียงในรูปแบบรถ 5 ที่นั่ง ทางฮอนด้าจึงได้ส่ง Honda CR-V ใหม่ รุ่น 5 ท

โดยในครั้งนี้ทางทีมงานได้ทดลองขับกันในรุ่น 2.4 ES 4WD กับเบาะ 5 ที่นั่ง เมื่อถามถึงความแตกต่างนั้นแน่นอนว่าเป็นส่วนของจำนวนเบาะที่นั่งตอนสามภายในห้องโดยสารที่จะไม่มี กลายเป็นพื้นที่โล่งๆ แตกต่างจากรุ่นแบบ 7 ที่นั่ง ที่จะมีเบาะ 2 ที่นั่งที่สามารถพับได้อยู่และมีพื้นที่เก็บสัมภาระเล็กน้อยเมื่อเบาะแถวสามกางปกติ ส่วนของดีไซน์ภายนอกเหมือนกันกับรุ่น 7 ที่นั่ง ยังคงมาพร้อมเอกลักษณ์ความโดดเด่นตั้งแต่กระจังหน้าทรงสี่เหลี่ยมคางหมูแบบ Honda’s Solid Wing Grille design รับกันกับไฟหน้า LED ดีไซน์ล้ำกับไฟส่องสว่างสำหรับการขับขี่ในเวลากลางวัน Daytime Running Light – DRL กันชนใหม่ดีไซน์ให้ความรู้สึกแข็งแกร่ง ด้านท้ายมาพร้อมไฟท้ายดีไซน์รูปตัว L-shaped LED พร้อมล้ออัลลอยสีทูโทนดำเงิน ขนาด 18 นิ้ว พร้อมยาง 235/60/R18

ส่วนของภายในนั้นเด่นด้วยเบาะนั่ง 5 ที่นั่ง ที่ถูกหุ้มด้วยหนังสีดำ สำหรับเบาะแถวที่สองนั้นสามารถพับได้แบบ 60:40 ช่วยเพิ่มพื้นที่ในการขนสัมภาระได้มากยิ่งขึ้น ทั้งนี้ยังสามารถปรับเอนในส่วนของพนักพิงได้อีกด้วย เพื่อความสบายของผู้โดยสารตอนหลัง พร้อมกับที่ท้าวแขนตรงกลางและที่วางแก้วน้ำที่สามารถกางออกหรือพับเก็บได้

บรรยากาศภายในห้องโดยสารมาในโทนสีเข้มสีดำตัดกาตกแต่งด้วยลายไม้แบบด้านๆ ให้ความรู้สึกเรียบหรูดูดี พวงมาลัยเป็นแบบมัลติฟังก์ชั่นสามก้านที่คุ้นเคยกันดี มาตรวัดพร้อมหน้าจอแสดงข้อมูลการขับขี่แบบ TFT ตัวเลขความเร็วแบบดิจิตอลขนาดใหญ่เห็นได้ชัดเจน ด้านระบบเพื่อความบันเทิง Advanced Touch infotainment แบบจอสัมผัสขนาดใหญ่ 7 นิ้ว รองรับ Apple CarPlay และ Android Auto ที่สามารถใช้งานได้ง่ายและไม่ได้รู้สึกถึงความหน่วงในการต้องเลื่อนหรือเปลี่ยนโหมดต่างๆ พร้อมขับเสียงผ่านลำโพง 8 ตำแหน่ง 

ถัดลงมากับระบบเครื่องปรับอากาศแยกอุณหภูมิ ซ้าย-ขวาได้ i-Dual Zone เพิ่มความสะดวกด้วยระบบเบรกมือไฟฟ้า Electric Parking Brake (EPB) ทั้งนี้ยังมีฝากระโปรงท้ายเปิด-ปิดอัตโนมัติแบบไฟฟ้าด้วยระบบแฮนด์ฟรี Hands-free Power Tailgate พร้อมควบคุมการเปิด-ปิดด้วยรีโมท และสามารถปรับระดับความสูงของการเปิดฝากระโปรงท้ายได้ตามต้องการอีกด้วย

ก่อนพูดถึงสมรรถนะการขับขี่ Honda CR-V ใหม่ รุ่น 5 ที่นั่ง มาพร้อมขุมกำลังเครื่องยนต์เบนซิน i-VTEC ขนาด 2.4 ลิตร รีดกำลังสูงสุด 173 แรงม้า ที่ 6,200 รอบต่อนาที แรงบิดสูงสุด 224 นิวตัน-เมตร ที่ 4,000 รอบต่อนาที จับคู่ส่งกำลีงด้วยระบบเกียร์อัตโนมัติ CVT พร้อมกับระบบขับเคลื่อน 4 ล้อ Real-Time AWD ที่ทำงานโดยเปลี่ยนการควบคุมการส่งกำลังไปยังล้อหลังด้วยระบบไฟฟ้า และรองรับเชื้อเพลิง E85 อีกด้วย

การขับขี่ทั้งในช่วงของเมืองและการขับขี่เดินทางไกลออกต่างจังหวัดโดยที่มีการโดยสารกันทั้ง 5 ที่นั่ง บวกกับสัมภาระด้านท้ายเต็มคัน เครื่องยนต์และระบบเกียร์ให้การตอบสนองที่ค่อนข้างทันใจไม่น้อย ไม่ได้รู้สึกว่าตัวรถต้องเค้นกำลังจากเครื่องยนต์มากเพื่อขับเคลื่อน ให้ความรู้สึกในการขับขี่ที่สบาย การเติมคันเร่งเพิ่มความเร็วสามารถตอบสนองได้อย่างน่าพอใจ เมื่อเทียบกับขนาดตัวรถที่ใหญ่รวมไปถึงการบรรทุกเต็มที่นั่งพร้อมกับสัมภาระ พวงมาลัยไฟฟ้าแบบ Dual Pinion Variable Ratio Electric Power-Assisted Rack-and-Pinion Steering (EPS) หรือ ระบบพวงมาลัยแบบ Dual พิเนียนพร้อมเพาเวอร์ผ่อนแรงแบบไฟฟ้า (EPS) นี้ ที่ประกอบด้วยชุดเฟืองพิเนียนแบบ Dual และได้มีการปรับอัตราทดเฟืองให้แปรผันได้ตามช่วงความเร็วที่เหมาะสม มีส่วนช่วยเพิ่มความคล่องตัวทั้งในช่วงความเร็วต่ำ และให้การทรงตัวที่ดีในช่วงความเร็วสูงได้อย่างมาก

ช่วงล่างให้ความรู้สึกแบบนุ่มหนึบในแบบที่ผู้ใหญ่ต้องปลื้ม ทั้งในจังหวะช่วงกระโดดคอสะพานไม่มีอาการเด้งหรือโยนแต่อย่างใด ไม่ต้องกลัวว่าศีรษะจะไปกระแทกเพดานกันให้เจ็บตัว ต้องขอขอบคุณระบบกันสะเทือนหน้าแบบแม็คเฟอร์สันสตรัท และระบบกันสะเทือนหลังแบบมัลติลิงก์ที่ได้รับการออกแบบมาเพื่อความคล่องตัวและการทรงตัวที่ดี เทรลลิงอาร์มถูกติดตั้งอยู่บนโครงสร้างตัวถังแบบ Unibody และใช้บุชยางที่มีการบรรจุของเหลวเป็นตัวยึด เพื่อประสิทธิภาพในการควบคุมเสียง แรงสั่นสะเทือน และแรงกระชาก (NVH) ที่เกิดขึ้น ทำให้การขับขี่ทั้งในเมืองและนอกเมืองเป็นไปอย่างสะดวกสบาย และเมื่อต้องมีการใช้ความเร็วสูงก็พร้อมตอบสนองการขับขี่ได้มั่นใจเลยทีเดียวสำหรับรถยนต์ทรงสูงแบบนี้

ในด้านของอัตราการบริโภคน้ำมัน ตลอดทริปในการทดลองขับครั้งนี้ ที่มีทั้งการขับขี่ในเมืองที่พบกับการจราจรที่หนาแน่น และการขับขี่นอกเมืองที่มีการใช้ความเร็วในหลายๆ ช่วง อัตราการบริโภคน้ำมันเฉลี่ยรวมแล้วอยู่ที่ราว 10.5 กิโลเมตร/ลิตร ซึ่งในช่วงของการขับขี่ออกต่างจังหวัดน้ำหนักโหลดเต็มกับผู้โดยสาร 4 คน ผู้ขับขี่ 1 คน รวมไปถึงสัมภาระด้านหลังเต็มคันด้วยนั้นเอง

ด้านความปลอดภัยจัดเต็มมาให้ทั้งระบบตรวจจับความเหนื่อยล้าของผู้ขับขี่ (Driver Attention Monitor) ผ่านการควบคุมพวงมาลัยและแจ้งเตือนผ่านหน้าจอ TFT พร้อมการสั่นเตือนที่พวงมาลัย ระบบเพิ่มความคล่องตัวในการขับขี่ (Agile Handling Assist) ระบบแสดงภาพมุมอับสายตาขณะเปลี่ยนเลน (Honda LaneWatch) ระบบเบรกมือไฟฟ้า (Electric Parking Brake) และระบบ Auto Brake Hold (Automatic Brake Hold) ถุงลมคู่หน้าอัจฉริยะ Dual i-SRS ถุงลมด้านข้างคู่หน้าอัจฉริยะ i-Side Airbag และม่านถุงลมด้านข้าง Side Curtain Airbags

ทั้งหมดนี้กับอีกหนึ่งประสบการณ์การขับขี่ไปกับ Honda CR-V ใหม่ รุ่น 5 ที่นั่ง เครื่องยนต์เบนซินที่สามารถตอบโจทย์ให้คุณและครอบครัวกับการเดินทางที่สะดวกสบาย พร้อมฟังก์ชั่นการใช้งานที่ครบถ้วนจัดมาให้พร้อมจากโรงงาน พร้อมความมั่นใจในแบบฮอนด้า กับรถยนต์อเนกประสงค์ที่สร้างชื่อเสียงมาอย่างยาวนานในตลาดบ้านเรา พร้อมการตอบรับอันดีตลอดมา ท้ายที่สุดนี้สำหรับใครที่กำลังมองหารถยนต์อเนกประสงค์เพื่อครอบครัวและการบรรทุกสัมภาระในการเดินทางแล้วละก็ อีกหนึ่งตัวเลือกที่อยากให้ได้ไปทดลองขับกันก่อนตัดสินใจจับจองเป็นเจ้าของรุ่นใดรุ่นหนึ่งกับ Honda CR-V ใหม่

เครื่องยนต์เบนซิน
รุ่น 2.4 S ราคา 1,359,000 บาท (5 ที่นั่ง)
รุ่น 2.4 ES 4WD ราคา 1,499,000 บาท (5 ที่นั่ง)
รุ่น 2.4 E ราคา 1,409,000 บาท (7 ที่นั่ง) เพิ่มจากเดิม 10,000 บาท
รุ่น 2.4 EL 4WD ราคา 1,549,000 บาท (7 ที่นั่ง)

เครื่องยนต์ดีเซล
รุ่น DT-E ราคา 1,559,000 บาท (7 ที่นั่ง) เพิ่มจากเดิม 10,000 บาท
รุ่น DT-EL 4WD ราคา 1,699,000 บาท (7 ที่นั่ง)

หมายเหตุ: สีขาวออร์คิด (มุก) เพิ่ม 12,000 บาท และสีดำคริสตัล (มุก) เพิ่ม 8,000 บาท

 

ติดตามข่าวสารยานยนต์ รวดเร็วก่อนใคร ได้ที่ Autodeft.com