Hands On : New Mazda 2 ดีเซลบล็อกเล็กสุดติ่งสมรรถนะ ชั่วโมงนี้
- โดย : Autodeft
- 31 ม.ค. 58 00:00
- 97,961 อ่าน
มาแล้วในที่สุด บททดสอบรถยนต์ Mazda 2 ใหม่เครื่องยนต์ดีเซล ครั้งแรกของรถยนต์นั่งขนาดเล็กที่มาพร้อมสมรรถนะเรา้ใจ และยังลงตัวในความประหยัดมากกว่าที่คิดเสียอีก
เรื่องและขับทดสอบ โดย ณัฐยศ ชูบรรจง (Bonn)
เป็นดีเซล...จริงดิ... นั่นเป็นครั้งแรกที่เรารู้สึกความประหลาดใจ ทันทีที่ทราบข้อมูลว่าที่มาสด้าสองใหม่ก่อนการเปิดตัวว่า ท้ายที่สุดแล้ว รถยนต์ซิตี้คาร์ไม้เด็ดของมาสด้า ที่จะกลับมาในปีนี้ หลังจากเปิดตัวในต่างประเทศไปเมื่อต้นปีกลาย ทำเอาเรารู้สึกทันทีว่านี่มันจะต้องเป็นอะไรที่เด็ดดวง
ยิ่งก่อนหน้านี้ที่เรามีโอกาสสัมผัสว่าที่รถยนต์เครื่องดีเซลของมาสด้ามา ไม่ว่าจะตอนก่อนที่จะเปิดตัว Mazda CX 5 ผ่าน Technology Forum หรือท้ายที่สุดแล้ว การที่เรามีโอกาสนำเจ้า Mazda CX5 XDL ที่พกเครื่องดีเซลมาสด้า Skyactiv Technology 2.2 ลิตร มาก็เร้าใจ จึงพอจะเดาทางได้ว่าเจ้าตัวเล็กคันนี้น่าจะมีบุคลิกเช่นใด และหลังจากการเปิดตัวออกมา ท่านผู้อ่านหลายคนก็รีบมาตบไหล่ว่าพวกเขาถูกใจในสมรรถนะ ซึ่งส่วนตัวก็ไม่ได้แปลกใจอะไรนักที่ผลจะต้องออกมาดี
การพบกันครั้งนี้ของเราและมาสด้า 2 ใหม่ นั้น เป็นครั้งที่สามหลัง จากการเปิดตัวครั้งแรกในงาน motor Expo 2014 ที่ทำเอากระแสว่าที่อีโค่คาร์ดีเซลกระหึ่ม ด้วยยอดจองอย่างล้นหลาม ไปจนกระทั่งการเปิดตัวเมื่อวันที่ 15 มกราคม ทีผ่านมา และวันนี้เราก็ลัดฟ้ามาไกลถึงเชียงรายเพียงเพื่อวัตถุประสงค์เดียว คือขับมันลองสมรรถนะเต็มๆเสียที
ตัวตนโคโดะถอดคราบย่อส่วนมาสด้า 3 แต่ซีดานดูลงตัวกว่า
แม้ว่าต้องยอมรับว่า ก่อนหน้านี้ มีหลายสื่อจะมีโอกาสได้ลองรถยนต์รุ่นนี้ก่อนที่มันจะเปิดตัว เมื่อมาสด้าพาพวกเขาไปลองให้เสร็จสรรพที่ญี่ปุ่น และมีคำชื่นชมต่างๆนานามากมาย รวมถึงกระแส user review รอบข้าง ที่กระหน่ำถาโถมว่า มันดีลงตัว แต่นาทีต่อจากนี้ มาสด้า 2 จะต้องพบบททดสอบสุดหินของเราว่า มันจะเด่นเด้งอย่างที่คิดหรือไม
นี่เป็นครั้งแรก อีกครั้งที่เราพบมาสด้าสอง ชนิดชิดติดตัวจนเอามือลูบไล้เรือนร่างของรถยนต์อีโค่คาร์เฟส 2 คันแรกที่พร้อมจำหน่ายอย่างเป็นทางการ
ตัวตนของมันดูคุ้นหน้าคุ้นตา เหมือนทีผ่านมา ด้วยการใช้การออกแบบตามปรัชญาการออกแบบใหม่ Kodo Design อันหมายถึงจิตวิญญาณแห่งการเคลื่อนไหว ซึ่งใช้ต้นแบบมาจากเสือชีตาร์สัตว์นักล่า เริ่มใช้มาตั้งแต่ mazda CX 5 ก่อนที่จะแพร่ขยายแนวคิดสู่รถรุ่นอื่นๆในตลาดของค่ายรถยนต์สายเลือดฮิโรชิม่า
มาสด้าสองใหม่ นี่ก็เช่นกัน มันเอาแนวคิดเดียวกันมาปั้นแต่ในรถยนต์นั่งขนาดเล็กเพื่อให้ความลงตัวในการออกแบบมากขึ้นเริ่มจาก แนวการออกแบบที่ได้รับการถ่ายทอดเหมือนเช่นมาสด้าทุกรุ่น ไม่ว่าจะกระจังหน้าแบบ Signature Wing ให้ความลงตัวในการออกแบบที่เป็นเอกลักษณ์เฉพาะ เรียกว่าใครเห็นก็รู้ว่าเป็นมาสด้าทันที
น่าเสียดายที่ในเวอร์ชั่นขายในบ้านเรา โดนตอนเรื่องของโคมไฟหน้าโปรเจคเตอร์กลายเป็นโคมไฟหน้าฮาโลเจน ทว่ายังดีที่ไม่ได้ลดดีกรีความดุดันของใบหน้าตัวรถไปมากมายนัก แต่ก็ต้องยอมรับว่าหลายคนแอบเสียดายในเรื่องนี้ไม่น้อย
ด้านข้างให้ความลงตัวในความปราดเปรียว ตัวรถออกมาในสองแบบสองสไตล์ไม่ว่าจะ ซีดาน หรือแฮทช์แบ็ค ซึ่งทั้งสองเป็นความเหมือนที่แตกต่างในการออกแบบ แม้ว่าจะมีใบหน้าในการออกแบบที่มีความคล้ายกันอย่างมาก
แต่ในท้ายที่สุด ความเป็นรถ 5 ประตู และ 4 ประตู ก็แบ่งแยกพวกมันเอง ซึ่งแต่อ้อนแต่ออด Mazda 2 Hatchback เป็นรถที่หลายคนชื่นชอบ การออกแบบในภาพรวมจึงออกมาไม่ต่างจากเดิมที่เราเคยเห็นในรุ่นที่ผ่านมา ดีที่การให้หน่วยก้านมันผ่านเส้นสายการออกแบบ Kodo Design ช่วยให้รถมีความลงตัวมากขึ้นกว่าเดิม
รุ่นแฮทช์แบ๊คนี้ มาพร้อมความยาว 4,060 มม. กว้าง 1,695 มม. และ สูง 1,495 มม. มันมาพร้อมฐานล้อยาว 2,570 มม. ซึ่งถ้าสังเกตจากแนวทางการออกแบบ มาสด้าไม่ได้เปลี่ยนแปลงวิธีคิดของแฮทช์แบ็คของพวกเขามากมายนัก พวกเขายังเน้นการเป็นหมูอ้วนร่างกลมตูดใหญ่ ที่ดูก็อดนึกขำขันเล็กๆไม่ได้ แต่ด้วย Kodo Design เข้ามาตอบโจทย์นั้นมันก็ลงตัวมากกว่าเดิม ในสไตล์ที่อมมาทางความสปอร์ตจากรุ่นก่อนหน้านี้
ท้ายสุด Mazda 2 ใหม่ ยังจัดการเพิ่มความลงตัวมากขึ้น ด้วยการให้รายละเอียดที่แตกต่างกันนิดหน่อย แต่มีผลอย่างมาก โดยเฉพาะล้อและยาง ซึ่ง ถ้าคุณซื้อตัวท๊อปนั้น มันจะเป็นล้ออัลลอยสีดำ พร้อมขอบปัดเงา ขนาด 16 นิ้ว กว้าง กว้าง 5.5 นิ้ว ยางจากโรงงานให้เสร็จสรรพขนาด 185/60/16 ที่ค่อนข้างจะหายากในเมืองไทย ถ้าต้องการจะใช้ยางขนาดดังกล่าว
เสียดายที่วันนี้เราเริ่มต้นตัวแฮทช์แบ็คที่เราขับนั้น เป็นในรุ่นรองท๊อป Mazda 2 Sport High ซึ่ง รายละเอียดบางอย่างแตกต่างจากตัวท๊อป เริ่มจากกระจังหน้า เป็นสีดำ
สำหรับคอซิ่งนักแต่งรถทั้งหลาย Mazda 2 Sport High นั้น ยังขาดไฟตัดหมอกที่หลายคนชอบเปิดเอาไว้ส่องกบไม่ได้ดูกาละเทศะในการใช้งาน และท้ายสุดรุ่นนี้ยังมาพร้อมล้ออัลลอยขนาด 15 นิ้ว กว้าง 5.5 นิ้ว ใช้ยางขนาด 185/65/R16 บรรจบประกบสมรรถนะการขับขี่
ภายในลงตัว สปอร์ตบ้านๆแอบ พรีเมี่ยม
เดินไปเดินมารอบๆ รถ Mazda 2 อยู่นาน ความงามของรถยนต์ซับคอมแพ็คคาร์คันใหม่ที่ใครๆ ก็ว่ามันดูลงตัวโอเค แต่ถ้าถามว่า ระหว่างรุ่น สี่ประตูกับ ห้าประประตู ใครดูสวยกว่ากันคงต้องตอบว่า สี่ประตู ด้วยความคล้ายคลึงกับพี่ชายของมัน รถยนต์ Mazda 3 นับว่าเป็นอะไรที่ทำให้หลายคนสนใจได้ไม่มากก็น้อย ในตัวตนน้องสองใหม่ที่ผิดแผกจากรุ่นเดิม
เปิดฝาท้ายรถเบอร์สิบ Mazda 2 Hatchback คันนี้จะเป็นรถทดสอบของเราในวันนี้ ก่อนที่ระหว่างทางเราจะมีโอกาส สลับรถยนต์อีกครั้งเป็นรุ่นซีดานในช่วงครึ่งหลัง ซึ่งห้องสัมภาระท้ายของตัวแฮทช์แบ๊คนั้น มีความจุอยู่ที่ 250 ลิตร มาสด้า บอกว่าดีพอที่คุณจะยัดกระเป๋าเดินทางขนาดใหญ่ หรือ ถ้าคุณเป็นคนมีครอบครัว มันก็ดีพอที่จะยัดรถเข็นเด็กมาตรฐานลงไปได้ แต่ถ้าต้องการพื้นที่เพิ่มเติมคุณสามารถพับเบาะเพิ่มเป็น 60/40
ภายในห้องโดยสาร Mazda 2 Sport High
และเมื่อเปิดประตูเข้ามา จ้องมองไปรอบๆ Mazda 2 ใหม่ ให้นิยามการออกแบบที่ไม่ว่าใครก็ต้อง สัมผัสได้ถึงความสปอร์ต ในตัวรถ ที่เรืองรองรอต้อนรับอยู่ เชื้อเชิญให้เข้าไปสัมผัส ความเร้าใจในแบบ ซูม- ซูม
เมื่อสักช่วงปลายปีที่ผ่านมา ระหว่างที่นั่งทำงาน อยู่เป็นประจำ ผมมีโอกาสได้ชมวีดีโอโฆษณาของ Mazda ชื่อชุดว่า Be A Driver ซึ่ง สื่อถึงความแตกต่างของคนขับรถที่พวกเขาต้องการจะเป็น และมาสด้า สามารถตอบโจทย์เรื่องดังกล่าวได้อย่างครบถ้วน
ที่ผ่านมามาสด้าสร้างความประทับใจมาแล้วถึงสองครั้งทั้งรถยนต์ Mazda CX5 และ Mazda 3 จนทำให้หลายคนเข้ามามองแบรนด์รถยนต์รายนี้ที่สร้างความเหนือชั้นบอกความแตกต่าง และเมื่อเราก้าวย่างเข้ามาในมาสด้า 2 ใหม่ หย่อนตัวลงนั่ง มันก็ยังตอกย้ำในเรื่องการออกแบบที่ดี ที่ยังคงความลงตัวกับฟังชั่นในการใช้งาน .....
ภายในห้องโดยสารของ Mazda 2 ใหม่ เน้นความสปอร์ตเต็มพิกัดด้วยการตบแต่งไปในโทนสีดำ ในรุ่นรองท๊อปที่เราขับจับเป็นคันแรกในวันนี้ แม้จะไม่เต็มขั้นเหมือนตัวท๊อป แต่เจ้าเบาะหนังผ้าสีดำผสานสีน้ำเงิน ช่วยให้การตบแต่งของรถไม่ได้ดูขี้ริ้วขี้เหร่อย่างที่คิด
ตัวผู้เขียนเองสูง 182 ซม. หย่อนตัวนั่งลงไปปรับท่านั่งซักนิด รู้สึกได้เลยว่าเบาะนั่งของมาสด้าสองค่อนข้างเล็กไปนิดหนึ่ง โดยเฉพาะที่รองนั่งที่ออกแบบมาค่อนข้างสั่นพอสมควร แต่ถ้าคุณเป็นคนไซส์เอเชียปกติชาวบ้านทั่วไป คงจะพอดี โดยในส่วนของพนักผิงมันออกแบบให้มีปีก นิดหน่อย เอาไว้ช่วยกระชับยามขับขี่ในการเข้าโค้ง ซึ่งก็เช่นกันคนตัวใหญ่นั่งแล้วจะรู้สึกว่ามันเบียดๆ ไปนิด
การปรับเบาะนั่งสามารถทำได้ตามความต้องการทั้งสูงต่ำ เลื่อนเข้าออก ที่จริงทรงเบาะของมาสด้าสองค่อนไปในทางความเป็นบัคเก็ทซีท มากกว่าที่จะเป็นเบาะนั่งสบายๆ ทั่วไปที่เราคุ้นเคยกันดี และการปรับสรีระในการขับขี่ยังลงตัวมากขึ้นด้วยชุดพวงมาลัยแบบ telescopic สามารถปรับได้สี่ทิศทาง
ความสำคัญที่ทางทีมออกแบบได้พยายามใส่รายละเอียดเข้ามาคือการปรับสรีระศาสตร์เข้ามาใช้ในมาสด้า 2 ทุกอย่างถูกพยายามทำให้เหมาะสมกับความเป็นจริงในการขับขี่มากขึ้น อย่างเช่นการออกแบบตัวรถมาสด้า 2 ใหม่ ให้มีความเหมาะสมต่อการใช้งานมากขึ้น ด้วยการเลื่อนตำแหน่งล้อหน้าออกไปราวๆ 80 มม. และยังปรับเสาเอของรถให้ไปด้านท้ายรถ หรือเข้ามาใกล้คนขับมากขึ้น 80 มม.
รวมถึงยังมีการปรับส่วนการออกแบบต่างๆ อย่างเช่น ตำแหน่งแป้นเบรกถูกขยับให้มีความลงตัวมากขึ้นกว่าเหมาะสมต่อการใช้งานจริง และการออกแบบสิ่งต่างๆ ในรถ นั้น ถูกทำให้ใช้งานง่าย เราสามารถสัมผัสได้ทันทีถึง การชิดใกล้ในการใช้งานทางด้านต่างๆ ไม่ว่าจะเป็นชุดพวงมาลัยมัลติฟังชั่น ระบบปรับอากาศอัตโนมัติ ไปจนถึงการจัดวางตำแหน่งเครื่องเล่นระบบความบันเทิง ที่จัดมาให้แบบ Built in ทุกอย่างในตอนหน้าดูลงตัวต่อการใช้งานสำหรับผู้ขับขี่ น่าจะเรียกว่าเหมาะเหม็งกับใครที่ชอบขับรถเดินทางคนเดียว
แต่เมื่อเหลียวมองไปข้างหลังเราเริ่มเล็งเห็นถึงปัญหาของการโดยสาร ในตำแหน่งนั่งใช้งานจริงของเบาะนั่งคนหน้า ไม่ว่าจะทั้งฝั่งคนขับและคนนั่งเราค้นพบว่าระยะวางขาของห้องโดยสารตอนหลังของรถหายไปมากพอสมควร จนกล่าวได้เต็มปากว่านั่งโดยสารลำบาก ยิ่งถ้าคุณเป็นตัวใหญ่ และวิธีเดียวที่จะทำได้ คือ จัดแจงผู้นั่งในการโดยสารเท่านั้น ให้เหมาะสมกับตำแหน่งที่ควรจะนั่ง
เครื่องยนต์ใหม่ถอดด้าม ดีเซลบล็อกเล็กรายแรกของไทย
เครื่องยนต์ถูกสตาร์ทไว้สักครู่หนึ่งแล้ว ก่อนที่เราจะมาแล้ว และเราทราบกันดีว่านั่นคือไฮไลท์เด็ดของ Mazda 2 ใหม่ ซึ่งค่ายรถยนต์สายเลือดฮิโรชิม่านั้น จัดแจงกรีฑาทัพเครื่องยนต์ดีเซลบล็อกเล็กมาลงตลาดไทยเป็นรายแรกของบ้านเรา
ขุมพลังดีเซล แบบ 4 สูบแถวเรียงขนาด 1.5 ลิตร พร้อมระบบเทอร์โบแปรผัน มีกำลังสูงสุด 105 แรงม้า ที่ 4,400 รอบต่อนาที และมันยังให้กำลังแรงบิดสูงสุด 250 นิวตันเมตร ตั้งแต่ 1,500-2,500 รอบต่อนาที แต่ทีเด็ดของเครื่องยนต์ดีเซลมาสด้า คือการให้กำลังอัดที่ต่ำกว่าดีเซลทั่วไป โดยเครื่องยนต์บล็อกนี้มีกำลังอัดเพียง 14.8 :1 ในขณะที่การออกแบบเครื่องยนต์ long stroke หรือ under Square ซึ่งระยะชักยาวกว่าความกว้างของกระบอกสูบ มาพร้อมความกว้างกระบอกสูบ 76.0 มม มีระยะชัก 82.6 มม.
ที่เราต้องเล่าอะไรกันละเอียดขนาดนี้ เพราะ เจ้า Mazda Sky Active Diesel 1.5 นั้น เป็นเครื่องยนต์ดีเซลบล็อกใหม่ล่าสุดของค่าย ซึ่งต้องการตอบโจทย์ในการขับขี่ ทั้งสมรรถนะและประหยัดน้ำมัน ความโดดเด่นของมัน คือการที่ Mazda สัมฤทธิ์ผลที่จะให้สมรรนถะการขับขี่เร้าใจด้วยแรงบิดมหาศาลตั้งแต่เริ่มออกตัว ด้วยกำลังแรงบิดสูงสุดที่เท่ากับเครื่องยนต์เบนซินขนาด 2.5 ลิตร
แต่ที่จริงแล้วเจ้าบล็อกเล็กต้นกำลังใหม่ที่อยู่ใต้ฝากระโปรง Mazda 2 นั้น คือความสำเร็จของเครื่องยนต์ Mazda Sky Activ D ที่เคยเผยตัวมาในรุ่นเครื่องยนต์ขนาด 2.2 ลิตร ในบ้านเรามันมีประจำการอยู่ใน Mazda CX-5 เช่นเดียวกับในตลาดโลก ซึ่งยังมีรถยนต์ Mazda 6 ที่ใช้เครื่องยนต์บล็อกดังกล่าว
ในรุ่น 1.5 ลิตร ทีมงานวิศวกรรม Mazda ได้ ปรับรูปทรงห้องเผาไหม้ใหม่ รวมถึง ยังจัดระบบฉีดน้ำมันใหม่ ด้วยชุดหัวฉีด เปียโซ่ ที่มีความของหัวฉีดน้ำมันที่สั้นลงกว่าเดิม ลดระยะเดินทางของน้ำมัน เข้าสู่ห้องเผาไหม้ และฉีดผสมในการจุดระเบิดได้เป็นฝอยละเอียดกว่า
นอกจากนี้ความแตกต่างของการพัฒนาเครื่องยนต์ให้มีความลงตัวมากขึ้นกับขนาด ได้มีการเปลี่ยน ระบบเทอร์โบชาร์จจากเทอร์โบชาร์จคู่สองสเต็ป มาเป็นเทอร์โบแปรผัน ซึ่งแม้จะมีขนาดเล็กกว่าแต่ยังสามารถทำกำลังได้ดี ด้วยการดูการตอบสนองจากเครื่องยนต์มาควบคุมชุดกังหันที่ปรับลมเข้าเพื่อทำกำลัง
และท้ายสุดในส่วนสำคัญของการพัฒนาเครื่องยนต์บล็อกใหม่รุ่นนี้ด้วยความเป็นเครื่องยนต์ในแบบเทอร์โบชาร์จ จำเป็นต้องการหล่อเย็นอากาศจากเทอร์โบ แต่มาสด้าใช้ความชาญฉลาดด้วยการใช้ระบบอินเตอร์คูลเลอร์แบบระบายความร้อนด้วยน้ำ ซึ่งฝังร่วมไว้กับชุดท่อไอดี รวมถึงยังปรับให้มีขนาดเล็กลงจากเดิม ความจุ 8 ลิตร ใน เครื่องยนต์ 2.2 ลิตร ก็ถูกทอนให้เหลือเพียง 4 ลิตร และยังลดน้ำหนัก ด้วยท่อร่วมไอดีแบบพลาสติก สามารถลดน้ำหนักลงไปได้ถึง 1.4 กก. เลยทีเดียว
ลองขับเค้นสมรรถนะ ที่สุดอีโค่คาร์จากนิยามที่แท้จริง ....
ความมหัศจรรย์และดูวิเศษของ Mazda Skyactiv D 1.5 ลิตร นั้น เรียกว่าทั่วโลกต่างให้ความสนใจ ตั้งแต่ที่มีการประกาศข่าวการพัฒนาเครื่องยนต์ตัวนี้ออกมา และยิ่งกับคนไทยเองที่ไม่เคยมีโอกาสในการสัมผัสเครื่องยนต์ดีเซลบล็อกเล็กมาก่อนนั้น มันทำให้ ยิ่งดูน่าสนใจ โดยเฉพาะคำโฆษณา ที่ว่า แรงบิดเท่าเครื่องยนต์เบนซินขนาด 2.5 ลิตร ..เชื่อเลยว่าไม่มีใครไม่คิดว่า ..เฮ้ย .... แรงว่ะ ...
มันจะจริงดังโฆษณา หรือจะเป็นอย่างไร ไม่กี่อึดใจเราจะได้รู้กัน นาทีนี้ เรากำลังเริ่มเคลื่อนตัวออกจากจุดสตาร์ท ในช่วงความเร็วต่ำที่ไม่แตะคันเร่งเลยแม้แต่น้อย ในทางเทคนิคเราเรียกมันว่า Walking Speed เหมาะอย่างยิ่ง หากคุณรถติดในเมือง หรือ เจอการจราจรเคลื่อนตัวช้า สลับหยุดนิ่ง เจ้า Mazda 2 นั้น ทำให้เราประทับใจด้วย Walking speed ที่ดีเกินคาดเร็วราวๆ 8 ก.ม./ช.ม. ถือว่าลงตัว
ส่วนหนึ่งด้วยลักษณะเฉพาะของเครื่องยนต์ดีเซล ที่มีแรงบิดสูงในรอบต่ำ ทำให้มันสามารถเคลื่อนตัวได้ดีตั้งแต่ออกตัวจากโรงแรม ข้อดีของโรงแรม Le meridian เชียงราย คือมันอยู่ใกล้สนามบิน แต่ ข้อเสียของมันนั้น คือมันอยู่ในซอย แต่นาทีนี้กลายเป็นส่วนหนึ่งของการทดสอบของเรา เมื่อเราเดินทางออกจากความเร็วต่ำ
ขบวน Mazda 2 กว่า 20 คัน ค่อยๆ เคลื่อนตัวตามกันในความเร็วต่ำเรื่อย เสียงเครื่องยนต์ดีเซลของ Mazda 2 ต้องชื่นชมในความเงียบ รวมถึงการบุเสียงที่ดี ของห้องโดยสาร โดยเฉพาะ ช่วงระหว่างห้องเครื่องยนต์ และ ห้องโดยสาร จนถ้าเทียบกับรถยนต์เก๋งเครื่องยนต์ดีเซลเจ้าอื่นที่เคยสัมผัสมา นั้น เจ้า Mazda 2 กลายเป็นรถที่ดีที่สุดในการเก็บเสียงจากเครื่องยนต์ ยิ่งในความเร็วต่ำ ที่ไร้เสียงอื่นๆ แบบนี้ สามารถบ่งบอกได้เลยทีเดียว
ข้างหน้าสัญญาณไฟแดง เราเบรกหยุดเพื่อรอสัญญาณไฟ และ Mazda 2 โชว์ความวิเศษของมันออกมา ถ้ามองผิวเผินแล้ว รถยนต์ Mazda 2 ก็คือรถยนต์ซับคอมแพ็คคาร์ธรรมดา ที่มาพร้อมเครื่องยนต์เบนซินเท่านั้น ถ้าคุณคิดว่า นั่นวิเศษมากพอแล้ว
คุณจะรู้สึกพิเศษมากขึ้น เมื่อรู้ว่าเจ้า Mazda 2 คันที่กำลังขับอยู่นี้ เป็นรถยนต์ใหม่ในยุคนี้ ที่ในต่างประเทศ เรียกมันว่า micro Hybrid ...
อย่าเพิ่งเป็นกระต่ายตื่นตูมครับทุกท่าน ก่อนอื่นขอเล่าถึง Micro Hybrid car สักหน่อยว่า รถยนต์แบบ Micro hybrid เกิดขึ้นในฝั่งตะวันตกมาสักพักหนึ่งแล้ว และมันกำลังเป็นที่นิยมในต่างประเทศ ด้วยรถยนต์ในรูปแบบที่เราใช้งานกันในปัจจุบัน แต่มันจะมาพร้อมกับระบบหยุดการทำงานของเครื่องยนต์อัตโนมัติ หาใช้ขับเคลื่อนด้วยมอเตอร์ไฟฟ้า อย่างที่เราเข้าใจ ซึ่งฟังดูก็ไม่น่าแปลกอะไรใช่ไหม
ทว่า รถยนต์ที่จะถูกจัดในรถแบบ Micro Hybrid จะมีความพิเศษมากกว่า ด้วยมันต้องมีระบบไฟฟ้าสำรอง เข้ามาช่วย เพื่อให้การหยุดการทำงานเครื่องยนต์นั้นนานขึ้นกว่ารถที่ไม่มีระบบทีมีลักษณะเดียวกัน โดยไฟฟ้าที่ใช้ในระบบสำรอง มาจากการชาร์จจากไดชาร์จในยามที่คุณปล่อยรถไหล บ้างอาจจะใช้การชาร์จจากเบรก
ระบบ i-ELoop เป็นระบบไฟฟ้าสำรองใน Mazda 2 ที่เราใช้งาน ขณะที่กำลังจอดติดไฟแดง ซึ่งเครื่องยนต์ได้ดับการทำงานไปแล้ว จากความอัจฉริยะของ i-stop สั่งหยุดการทำงานของเครื่องยนต์เมื่อรถไม่ได้ขับเคลื่อน โดยการหยุดการทำงานของเครื่องยนต์ สามารถทำได้ สองวิธี คือเหยียบเบรกในขณะเข้าเกียร์ D หรือ คุณอาจะปลดไปที่ ตำแหน่ง N โดยที่ไม่ต้องเหยียบเบรกก็ได้
ไฟฟ้าจากระบบ I –ELoop ให้บริการระบบปรับอากาศ รวมถึงระบบเครื่องเสียงภายในรถ เป็นความชาญฉลาดของทีมงานวิศวกรของ Mazda ในการตอบโจทย์การสร้างความประหยัดสูงสุดมากขึ้นในการขับขี่ของเราๆ ท่านๆ แน่นอนว่าคงไม่ต้องสงสัยเลยว่ามันจะมีประโยชน์อย่างมากในการขับขี่ในเมือง ซึ่งคุณไม่จำเป็นต้องใช้เครื่องยนต์ในการบริการความสบายของตัวเอง แต่คนไทยหลายคนเราคงจะเป็นคนขี้รำคาญ อาจจะไม่ถูกใจการที่เครื่องยนต์ดับๆติดๆ ก็ได้
สัญญาณไฟเขียว เราเดินคันเร่งออกเดินทางกับ มาสด้า 2 ใหม่ มุ่งหน้าสู่ดอยตุง ปลายทางของเรา ระยะทางไม่มากมาย จากตัวเมืองเชียงรายไปยังดอยตุงนั้น ก็แค่ราวๆ 53 ก.ม. แต่ มันก็คงมากพอที่จะบอกได้
ครั้งแรกที่ออกตัวจากไฟเขียว แรงบิดที่มากมายระดับเครื่องยนต์เบนซินขนาด 2500 ซีซี มีดีพอที่จะพาคุณกระโจนออกตัวอย่างรวดเร็ว ในช่วงก่อนพ้นปริมณฑลตัวเมืองเชียงราย เป็นโชคร้ายที่เราเจอสัญญาณไฟแดงบ่อยมาก ... แต่สัญญาณไฟแดงเหล่านี้กลายเป็นความสนุกสุดท้าทายเมื่อคุณขับรถ Mazda 2 หลายครั้ง เราใช้สัญญาณไฟแดง จินตนาการเป็นสนามแข่ง Drag Racing เราหยุดที่ตรงหน้า รอสัญญาณไฟเขียว และเมื่อไฟมา เรากดปล่อยเบรก เครื่องยนต์ติดขึ้นมาเราสวนคันเร่งมิดด้าม ทำตัวเป็น "สิงห์สามเกียร์" สรรพนาม ที่ผมและเพื่อน เรียกกันเอาฮากับพวกบ้าความเร็วทางตรงบนถนน เพราะพวกเขาไม่เคยสับเกียร์สุดๆ มากกว่า สามตำแหน่ง
Mazda 2 กระโจนพุ่งอย่างสัตว์ดุร้าย เผลอไม่กี่วินาที เทอร์โบแปรผันสร้างแรงบิดสูงสุด 1,500 รอบต่อนาที ไปจนถึง 2,500 รอบต่อนาที คุณรู้สึกฟินสุดๆ อยากตะโกนตามคอนเซปต์ของค่ายว่า zoom Zoom แต่เมื่อผ่านช่วงดังกล่าว พอรู้สึกได้ถึงแรงบิดที่น้อยลงกว่าเดิม ชุดเกียร์ Skyactive Drive ฉลาดพอที่จะรู้จังหวะว่าจะต้องสับเกียร์ขึ้นเพื่อให้ได้จังหวะแรงบิดสูงสุดมาตอบโจทย์การขับขี่ ซึ่งเป็นวิถีของเครื่องยนต์ดีเซล
เฮ้เพื่อน สนใจมาสด้า 2 ใหม่ ไหม
กว่าหลุดออกมาจากช่วงตัวเมืองก็ใช้เวลาพอสมควร เราเร่งแรงหลายรอบจนพอจะบอกได้ ว่า ความรู้สึกที่คุณว่าแรงจะหายไปอย่างรวดเร็วจากแรงบิดที่มาเร็วไปเร็ว ยามที่เกิน 2,500 รอบต่อนาที แต่ในยามเดินทางไกลก็เป็นโจทย์ที่แตกต่างออกไป
เราหลุดจากตัวเมืองเชียงรายกำลังมุ่งหน้าสู่ดอยตุงบนถนนสี่เลน ผมขับด้วยเร็วเดินทางทั่วไป ตั้งแต่ 90 ไปจนถึง 120 ก.ม./ช.ม. ที่ความเร็วเดินทางแบบนี้ ช่วงความเร็ว 90 ก.ม./ช.ม. เรายืนพื้นความเร็วรอบเครื่องยนต์ที่ 1500 รอบต่อนาที ไปนิ่งหากต้องการชิวๆ เรื่อยๆ และ ที่ความเร็ว 120 ก.ม./ช.ม เราสังเกตรอบเครื่องมันขับอยู่ที่ 2100 รอบต่อนาทีโดยประมาณ
หมายถึง ช่วงความเร็วเดินทางที่คุณขับกันประจำ Mazda 2 รอบแรงบิดสูงสุดในการตอบโจทย์การขับขี่ ทำให้คุณรู้สึกฟิน เร่งเร็ว แต่ความจริงมันเป็นแบบนั้นหรือ
เราเติมคันเร่งเพื่อจะเร่งแซง อีพวกช้าชิดขวา รถยนต์ของมนุษย์ป้าที่ขับรถไม่สนใจโลกว่า ชาวบ้านเขาจะเดือดร้อนกันหรืออย่างไร ซ้ายว่าง..พอไปได้ มีรถอยู่ข้างหน้าในระยะราวๆ 150 เมตร ดูแล้วพอไปได้อย่างไม่ยากเย็นกับรถยนต์ที่มีเครื่องยนต์ดีเซลแรงบิดเทียบเท่า 2500 ซีซี และมีกำลัง 105 แรงม้า
ผมเติมคันเร่งลงไปเพื่อเพิ่มกำลังเครื่องนิดหน่อย แต่ไม่ยอมที่จะให้มันคิกดาวน์ เพื่อใช้แรงบิดสูงสุดเข้าช่วย ในการพาตัวรถที่ประกอบด้วยผู้โดยสารสองคนและสัมภาระ ให้แร่งแซงเจ้าหมูตู้ Honda Jazz ใหม่ที่ขับช้าชิดขวา
เครื่องเร่งแล้ว ความเร็วเพิ่มขึ้น แต่มันไม่ใช่แบบตอนออกตัวที่เร่งสนุกสนาน ขับมันส์สะใจในแบบ Need For Speed แต่ในยามนี้จะว่าไป รถเร่งไปเช่นกัน แต่ไม่ได้เร็วอย่างที่คาด หากมองถึงความรู้สึก โดยไปเทียบแรงบิดจากเครื่องยนต์ 2500 ซีซี คงมีคนจำนวนไม่น้อยที่คงสรุปผลเอาว่า ยามเร่งแซงแบบนี้น่าจะเฉียบขาดแบบเครื่องยนต์บล็อกใหญ่ หากมันไม่ใช่อย่างที่
ไม่พ้นแน่ ..ดูแล้วไม่รอด เราจัดการชะลอแตะเบรก และเสียบหลังรถคันนั้นต่อไป..หลายคนคงสงสัยทำไมไม่คิกดาวน์ไปเลย เรื่องนี้เป็นส่วนหนึ่งของการวัดสมรรถนะ เนื่องจากการเดินคันเร่งน้อย ทำให้คุณสามารถขับประหยัดได้มากขึ้น และยิ่งคุณอยู่ในช่วงแรงบิดสูงสุด การเดินคันเร่งเพิ่มอีกนิดหน่อย รถน่าจะไปได้เร็วขึ้น โดยที่คุณไม่ต้องให้เครื่องยนต์ลากรอบสูงให้ปลืองนำมัน แต่ Mazda 2 กลับไม่เป็นอย่างที่คิด ก็เท่านั้นเอง
จอดตีนดอยตุง เราดูอัตราทดเกียร์ Mazda 2 ใหม่ Sky Active Drive ที่มาประจำการเป็นเกียร์อัตโนมัติแบบ 6 สปีด มีสองอัตราทดที่เป็น Overdrive (อัตราทดต่ำกว่า 1.00) แง่ดีของมันคือ ให้อัตราประหยัดดีเยี่ยมในการขับขี่ แต่หมายถึงต้องสับลงหากต้องการเร่งแซง
ตารางแสดงอัตราทดเกียร์ Mazda Sky Activ Drive ใน Mazda 2
เกียร์ |
อัตราทด |
เกียร์ 1 |
3.522 |
เกียร์ 2 |
2.022 |
เกียร์ 3 |
1.452 |
เกียร์ 4 |
1.000 |
เกียร์ 5 |
0.708 |
เกียร์ 6 |
0.599 |
เกียร์ถอยหลัง |
3.893 |
อัตราทดเฟืองท้าย |
3.389 |
แน่นอนว่า เราได้สอบถามเรื่องนี้กับทีมวิศวกร พวกเขากล่าวว่าการใช้เกียร์ช่วยจะให้ผลดีกว่า เนื่องจากลักษณะคุณสมบัติของดีเซล ที่ให้แรงบิดสูงในรอบต่ำ และอย่าลืมแรงม้าของมันที่มีเพียง 105 แรงม้า ที่กว่าจะออกมาก็ปาไป 4,000 รอบต่อนาที ซึ่งการคิกดาวน์ทำให้ แรงม้าสามารถควักแรงม้าออกมาได้อย่างรวดเร็ว
ทว่าหากในยามที่คุณเดินทางบนถนนทางหลวง ขับไปเรื่อย แล้วอยากให้ประหยัด การเดินคันเร่งเพิ่มนิดหน่อย มักเป็นสิ่งที่หลายคนทำ ยิ่งถ้าคุณมั่นใจในรถว่า อาจมีความสามารถเท่ากับเครื่องยนต์ 2500 ซีซี เว้นว่าจะไม่ทันจริงๆ จึงจะย่ำคันเร่ง จุดนี้เป็นไปได้มากพอสมควรในแง่ของการรับรู้จากสิ่งที่สื่อสารออกมาเกี่ยวกับ Mazda 2 ที่ต้องระวังให้ดี ...
ช่วงระหว่างทาง Mazda 2 อาจจะทำให้เรากังขาเรื่องการขับขี่ในแง่ของสมรรถนะเครื่องยนต์ แต่ตัวตนความสปอร์ตของมาสด้า มันไม่ทำให้ผิดหวังเลยแม้แต่น้อย การเซทอัพระบบกันสะเทือนในแบบแม็คเฟอร์สันสตรัท พร้อมเหล็กกันโคลงทางด้านหน้า และทอร์ชั่นบีมทางด้านหลัง อาจจะเป็นอะไรที่เราคุ้นเคยกันอยู่แล้ว แต่มันผ่านหลักสูตร Mazda sky Activ Chassis
ทำให้มีความลงตัวมากขึ้น เริ่มจากช่วงล่างทางด้านหน้ามีระยะเทรลของแคสเตอร์มากขึ้น 11 มม. และมีมุมแคสเตอร์เพิ่มขึ้น 5 องศา เมื่อเทียบกับรุ่นก่อนหน้า ซึ่งทำให้มีเสถียรภาพในการขับขี่ที่ดี รวมทั้งยังปรับการควบคุมของชุดพวงมาลัยให้มีอัตราทดที่เร็วขึ้นกว่ารุ่นเดิมอีก 1.3 %
ส่วนด้านหลังปรับตำแหน่งทอร์ชั่นบีมให้สูงขึ้นอีก 36 มม. เมื่อเทียบกับรุ่นที่แล้ว ซึ่งทีมวิศวกรกล่าวว่ามันช่วยให้มีความสะเทือนน้อยลงกว่าเดิมที่จะสะท้อนเข้าสู่ภายในห้องโดยสาร ให้การขับขี่ที่นุ่มสบาย และยังมั่นใจมากข้น ด้วยการลดน้ำหนักใต้สปริง ได้มากถึง 2 กิโลกรัม
ผลของการทำงานหนักของทีมวิศวกรนั้นทำให้เราเห็นศักยภาพของ Mazda 2 สามารถบรรจบลงตัว ระหว่างความสปอร์ตในการขับขี่ และ ความสบายในการเดินทางแม้ว่าจากทีสัมผัสอาจจะพอบอกได้ว่ามันไปในทางสปอร์ตมากกว่า จากบุคลิกของรถยนต์ Mazda ที่พวกย้ำมาตั้งแต่อดีตว่าเราใส่ความสปอร์ตไปในรถทุกคัน มันจะเป็นที่ชื่นชอบเมื่อคุณเป็นคนขับ จะรู้สึกถึงความมั่นใจในการขับขี่ แม้ว่าจะใช้ความเร็วสูงก็ตามที หรือในยามที่จะต้องขึ้นโค้งบนเส้นทางไปดอยตุง แบบนี้ ระบบกันสะเทือนของ Mazda 2 ยังออกแบบมาเพื่อให้ความมั่นใจในการขับขี่ บนทุกเส้นทาง
สำหรับคนที่ไม่ชอบความสบายอาจจะรู้สึกตึงตังไปบ้าง ช่วงล่างของมาสด้า 2 ใหม่ ถูกปรับให้ลงตัวกับ โช๊คอัพที่มีการควบคุมแรงเสียดทาน ทำให้มันใช้งานได้ดีในยามเดินทางบนถนนหลวง ที่พอจะให้ความรู้สึกถึงความสบายแอบสปอร์ต ที่พร้อมใช้งานเมื่อยามจำเป็นหน้าสิ่วหน้าขวาน และเมื่อถึงเวลาอย่างโค้งบนเขามันออกมาโลดแล่นและพร้อมทำงาน
ด้านการควบคุมพวงมาลัยมีน้ำหนักกำลังดีต่อการขับขี่ในความเร็วต่ำและพอเหมาะสำหรับการความเร็วเดินทาง ระยะฟรีในรุ่นแอทช์แบ็คนั้นมีบ้าง ซึ่งจะว่าไปก็ดูแปลกไปนิด เนื่องจากรถน่าจะออกมาในโจทย์ของความสปอร์ตในการขับขี่มากกว่านี้ แต่เมื่อถึงจังหวะหักเลี้ยวมันดีพอที่จะทำให้คุณไม่ต้องพยักพะเยิบกับพวงมาลัยในยามเข้าโค้ง จนเส้นทางคดเคี้ยวเป็นความท้าทายของคุณเอง
เราถึงปลายทาง ณ ยอดดอยตุง วันนี้ พร้อมความประทับใจในตัวรถหลายอย่างมาก แต่แน่นอนว่าท้ายที่สุด อาจจะเป็นระยะทางเพียงสั้นๆ แต่ในการทดสอบวันนี้เราจบในเรื่องของอัตราประหยัด ในเส้นทางรวมทั้งในเมือง สภาพรถติด นอกเมืองเดินทางบนถนนหลวง ด้วยความเร็วตามกฎหมายกำหนด และยังมีเส้นทางขึ้นเขาอีกต่างหาก เราได้ 7.2 ลิตร/100 ก.ม. หรือ 13.8 ก.ม./ลิตร เลยทีเดียว (วัดจากตัวเมืองเชียงรายถึง ยอดดอยตุง ระยะทาง 53 ก.ม.)
Mazda 2 ซีดาน ความลงตัวที่มากกว่า....ที่คิด
การเปิดตัวในไทย Mazda 2 ได้นำเสนอ Mazda 2 รุ่นสี่ประตูใหม่ อย่างเป็นทางการครั้งแรกในโลก และเป็นข่าวดีที่ในการทดสอบครั้งนี้เรามีโอกาสขับมันด้วย
หลังจากลง Mazda 2 Hatchback ในช่วงเช้า ช่วงบ่ายเรามีโอกาสได้ขับ Mazda 2 Sedan โดยมันเป็นรถรุ่นท๊อป Mazda 2 Sedan Sport High Plus อย่างที่คุณพอจะสังเกตในรุ่นท๊อปมีองค์ประกอบบางอย่างที่มากขึ้น ไม่ว่าจะกระจังหน้าสีเดียวกับตัวรถไปถึงล้ออัลลอยขนาด 16 นิ้ว หน้ากว้าง 5.5 นิ้ว มาพร้อมยาง 185/60/R16
ภายในห้องโดยสาร Mazda 2 Sport High Plus
โดยในรุ่นซีดานมีมิติตัวถังยาวกว่า 4,320 มม. กว้าง 1,695 มม. และสูง 1,470 มม. มันยังมีระยะฐานล้อเท่ากับ Hatchback ด้วยระยะฐานล้อ 2,570 มม. และ ท้ายสุดมันมีน้ำหนักเพิ่มขึ้นอีกราวๆ 20 กก. ด้วยน้ำหนักตัวเปล่า 1,142 มม.
จะว่าไปตอนเจอ Mazda 2 Sedan มันดูน่าสนใจมากกว่าด้วยเส้นสายการออกแบบที่ทำให้เรานึกถึงการเป็น Mini-me ของ Mazda 3 Sedan เรียกว่าองค์ประกอบทุกสัดส่วนเหมือนกับพี่ใหญ่ทุกประการ ต่างเพียงขนาดที่ปรับย่อส่วนลงมาให้มีความลงตัวในแบบรถซับคอมแพ็คคาร์เท่านั้น ทำให้ดูเป็นรถยนต์ที่มีความลงตัวมากกว่าเมื่อเทียบกับรุ่นอื่นที่วางตลาด ซึ่งอาจะได้ตัวตนที่แตกต่างจากคอมแพ็คคาร์ของค่าย
แม้ตัวตนตนของมันจะมีความยาวมากกว่าเดิมเล็กน้อยใน Mazda 2 Sedan แต่จะว่าไป Mazda 2 Sedan กลับไม่ได้มีพื้นที่ในการโดยสารมากขึ้น หลายส่วนที่คุ้นเคยจาก Mazda 2 Hatch back ตอบเราแบบนั้น เมื่อก้าวเข้าสู่ตำแหน่งคนขับในห้องโดยสาร
และด้วยความเป็นตัวท๊อป คุณเลยเห็นอะไรมากกว่า ในรุ่นลองท๊อป เช่นระบบ MZD connect ที่มาพร้อม Center Command ช่วยในการใช้งานให้ง่ายขึ้น อย่างเช่นการเชื่อมต่อกับโทรศัพท์ สามารถทำได้ทุกนาทีไม่ว่าจะรถจะเคลื่อนไหวหรือขับขี่ แต่ถ้าถามเรื่องคุณภาพเสียงในเรื่องความบันเทิง แม้จัดหนักด้วยลำโพงมากถึง 6 ตัวก็จริง แต่ก็อย่าหวังให้มากมายนัก เนื่องจากลำโพงของมาสด้า ออกไปทางเสียงแหลมเสียงมาก มันค่อนข้างขาดเสียงกลาง แต่จะคิดมากทำไม ในเมื่อร้านเครื่องเสียงช่วยคุณได้เพียงกำเงินไปหา Bass Box ดีๆ เท่านั้นเอง
ที่จริงก่อนที่ผมจะมาขับเจ้า Mazda 2 Sedan ก็รับบทเป็นผู้โดยสารตอนหลังมาเพียงช่วงเวลาสั้นๆ เพื่อตอบคำถามต่อการโดยสารว่าสุดท้ายมันจะเป็นอย่างไรบ้าง
การนั่ง Mazda 2 sedan ก่อนหน้านี้ เคยมีโอกาส ทดลองท่ามกลางคนจำนวนมากที่แห่แหนมาดูรถ ครั้นเมื่อ mazda ตัดสินใจเปิดประตูให้ชมกันอย่างอย่างเป็นทางการ ในงาน motor expo 2014 หากว่าการใช้งานจริงอาจจะไม่ได้เป็นอย่างที่คิด
เพื่อนผมในการขับขี่ครั้งนี้ นายโบ๊ท เขาเป็น Webmaster จากเว็บไซต์ Mthai.com เรารู้จักกันมานาน ตั้งแต่สมัยผมอยู่ Sanook.com เราทั้งสองถูกจับเป็นคู่หูทุกครั้งที่มาทดสอบมาสด้า
ผมขอโบ๊ทนั่งข้างหลังในตำแหน่งคนนั่งหลังคนขับ ซึ่งก่อนหน้านี้ตัวผมเอง ก็ทำหน้าที่เป็นตุ๊กตาหน้ารถในเบาะหน้า ดังนั้นลักษณะเบาะนั่งคู่หน้าตอนนี้อยู่ในลักษณะการใช้งานจริง อย่างที่บอกว่าผมว่าตัวอาจจะตัวใหญ่เกินมาตรฐานคนไทยไปบ้าง แต่เด็กสมัยนี้โตไวกันก็เยอะ ผมนั่งลงยัดตัวเองเข้าไปในห้องโดยสารหลัง บอกเลยว่าพื้นที่วางขา เข่าชนพอดี เรื่องท่านั่งพอได้ ทั้งตัวเบาะรองนั่งหรือพนักผิงหลัง แต่เรื่องพื้นที่วางขาที่ไม่ได้มีขนาดยาวขึ้นกว่าเดิม นั่นทำให้เบาะนั่งตอนหลังไม่เหมาะกับคนตัวใหญ่เลยสักนิด เพราะเข่าคุณจะชิดติดพอดี จนอาจจะรู้สึก อึกอัด นี่ขนาดเดินทางไม่เพียงกี่กิโลเมตรเท่านั้น แต่ถ้าคุณเป็นพวกเพื่อนหญิงเยอะ ก็น่าจะลงตัว
ถ่ายขณะนั่งในมาสด้า สอง
เอาล่ะได้เวลาขับมันเสียที Mazda 2 Sedan เรายังจำความรู้สึกลงตัวของตัว 5 ประตูเมื่อเช้าได้ ขบวนออกเดินทางจากริมโขงทางเชียงแสนกลับสู่ตัวเมืองเชียงราย พวกเราต่างเร่งรีบต้องบี้คันเร่ง เนื่องจากกำหนดการค่อนข้างแน่น และทีมงานบอกว่า ช่วงเย็นนั้นก่อนเข้าเมืองรถติดสะบัด
เราออกเดินทางกันตามความเร็วปกติ และเมื่อเข้าสู่ถนนจากเชียงแสนมุ่งหน้าสู่แม่จันทางโล่ง เราจัดการหวดความเร็ว Mazda 2 Sedan เต็มที่ นี่เป็นครั้งแรกที่เราขับเน้นเค้นสมรรถนะอย่างเต็มที่มาสด้า 2 ถ้าคุณเร่งรีบ บอกเลยว่ามาสด้าไม่ใช่รถที่ทำให้ผิดหวัง คุณจะสนุกสนานในการทำความเร็ว แถมไม่หวั่นเมื่อเจอถนนทางโค้งที่ท้าทาย
ด้านเครื่องยนต์ดีเซลขนาด 1.5 ลิตร ตอบโจทย์ได้ดีทุกครั้งที่คุณเร่งออกไปในแบบเร่งรีบ ยิ่งเมื่อกดมิดคันเร่งเกียร์คิดดาวน์รถกลายเป็นเสือร้ายที่พุ่งทะยานไปอย่างรวดเร็ว แม้น้ำหนักจะมากกว่า 20 กก. ก็ไม่ใช่ปัญหาสำหรับการขับขี่ที่เร้าใจ
ที่จริงแล้ว เมื่อขับเร็วสมรรถนะของมันดันดีกว่าการขับขี่เรื่อยๆ เหมือนที่เราขับในตอนเช้าเสียอีก รถจะให้ความรู้สึกเร่งดีตลอดเวลา จนน่าจะกล่าวว่าเป็นรถที่เหมาะสำหรับในการขับขี่ที่เร็วหวดสวดยับกันมากกว่าขับชิวๆ ธรรมดา และช่วงนี้เองที่เรามีโอกาส ลองความเร็วสูงสุดว่าที่ Mazda 2 คร่าวๆ เรา ได้ที่ 172 ก.ม./ช.ม. และยังไปได้อีกหากทางโล่งกว่านี้ น่าจะเรียกว่าดีเกินคาดในสมรรถนะการขับขี่
ท้ายสุดเรามีโอกาสลองอัตราเร่งคร่าวๆ ในช่วง 80-120 ก.ม./ช.ม. เราได้ 8.0 วินาที แต่ถ้าคุณคิดว่าเมื่อขับเร็วแล้วจะต้องจ่ายค่ายน้ำมันหูตูบจนต้องคิดใหม่ ตลอดทังวัน ซึ่ง Mazda 2 Sedan ผ่านฝีเท้าของนักข่าวหลายคน รวมทั้งผมเองและโบ๊ท กลับประหยัดกว่าที่คาด ด้วยอัตราประหยัดเฉลี่ย 5.9 ลิตร/ 100 ก.ม.เมตร หรือ 16.9 ก.ม./ลิตร แม้ว่าจะหวดสมรรถนะในการขับขี่
สรุป สองสิ่งที่น่าซื้อ การออกแบบที่ลงตัวกับถ้าความประหยัด
“รถยนต์นั่งขนาดเล็กไม่ได้หมายความว่ารถยนต์ต้องมีคุณค่าเล็กตามไป” ประโยคนี้ ผมได้ยิน พี่ซู คุณ สุรีทิพย์ ละอองทอง โฉมทองดี พูดย้ำถึงสองครั้งสองครา ครั้งแรกในงานเปิดตัว และครั้งที่สอง ตอนก่อนที่เราออกมาทดสอบรถยนต์ Mazda 2
รวมถึง พี่ "ธีร์ เพิ่มพงศ์พันธ์" ผู้อำนวยการฝ่ายนโยบายด้านรัฐกิจสัมพันธ์ และผู้อำนวยการฝ่ายผลิตภัณฑ์ บริษัท มาสด้า เซลส์ (ประเทศไทย) จำกัด ยังกล่าวย้ำเรื่องนี้ก่อนเราออกมาทดสอบว่า คนส่วนใหญ่คิดว่า รถขนาดใหญ่ให้คุณค่ามากกว่า และรถขนาดเล็กให้คุณค่าน้อยกว่า และในมาสด้า 2 ใหม่ ทางมาสด้า มั่นใจอย่างมาก ด้วยการใช้ Key Message ว่า สิ่งที่คาดไม่ถึงได้เกิดขึ้นในรถซับคอมแพ็คคาร์
ความคาดไม่ถึงที่ว่า นั่นคือเครื่องยนต์ดีเซลขนาดเล็ก ที่วันนี้มาถึงมือผู้บริโภคในรถยนต์ Mazda2 ใหม่ ซึ่งหากต้องการเปรียบเทียบกับรถยนต์รุ่นอื่นๆ ที่มีอยู่ในตลาดปัจจุบัน Mazda 2 ถือเป็นรถยนต์ที่สร้างเซกเม้นท์ใหม่เป็นผู้นำในตลาดที่ยังไม่มีใครเคยนำเข้ามาวางจำหน่ายมาก่อนหน้านี้ นั่นทำให้การเปรียบเปรยต่างๆจากใครหลายคนอาจจะต้องเรียกว่าผิดตรรกะของการคิดเสียหน่อย แต่ก็แน่นอนว่า คนจำนวนไม่น้อย คงจะต้องเอามันไปเปรียบเทียบกับรถซับคอมแพ็คคาร์ที่คุ้นเคย
จากภาพรวมของการขับขี่ Mazda 2 Diesel นี่คือรถคอมแพ็คคาร์ที่มีความลงตัวในสองด้านด้วยกัน ด้านแรกคือการออกแบบที่ลงตัวมากขึ้น ถ้าคุณเป็นคนไม่ใช่พวกกิจกรรมงานเยอะอะไร เราแนะนำให้ซื้อรุ่นซีดานที่มีความลงตัวในเรื่องารออกแบบในความเหมือนที่แตกต่างกับพี่ชายของ Mazda 3
ในขณะที่สิ่งที่ต้องติติงเลยสำหรับมาสด้า 2 ใหม่ ยังคงเป็นโจทย์ที่มาสด้าแก้ไม่ตกสำหรับเรื่องการโดยสารซึ่งยังทำได้ไม่ดีเท่าที่ควร มันโอเคอยู่ถ้าคุณเป็นคนนั่งโดยสารตอนหน้า ไม่ว่าจะเป็นผู้ขับขี่ หรือผู้โดยสาร แต่เมื่อเอ่ยถึงเบาะหลัง บอกเลยว่าค่อนข้างไม่เวิร์คเท่าไร ที่นั่งมีระยะวางขาน้อยเกินไป ทำให้รู้สึกคับแคบ นี่คือสิ่งที่เราขอเรียนตามตรงว่า เป็นข้อเสียเปรียบพอสมควร
เราลองเอาขนาดรถยนต์ในกลุ่มซับคอมแพ็คคาร์เดียวกันที่เรานึกออกว่าผู้คนน่าจะสนใจเมื่อนึกถึงเจ้า Mazda 2 อย่าง Chevrolet Sonic, Honda Jazz อะไรประมาณนี้ มาเปรียบเทียบเฉพาะเรื่องของการนั่งในส่วนของเบาะตอนหลังเท่านั้น
เราค้นพบว่าเรือนร่างของมันไม่ได้มีความยาวต่างกันมากมาย อย่าง Honda Jazz (ตัวรถยาว 3,955 มม.) มีความสั้นกว่า Mazda 2 ด้วยซ้ำ กลับยังให้พื้นที่ในการโดยสารตอนหลังดีกว่า ภายในโดยรวมก็ต้องยอมรับว่าดูกว้างกว่าในการใช้งานด้วยซ้ำ นั่นเป็นสิ่งที่น่าจะทำให้หลายคนต้องคิด ถ้าคุณมองเจ้าน้องสองอยู่
รวมถึงความคุ้มค่านั้น ยังต้องการความลงตัวในเรื่องของออพชั่นภายใน จริงอยู่ที่มาสด้า พยายามชูจุดเด่นในเรื่องของการออกแบบเข้ามาในรถมาสด้า การทำให้มันมีหลายอย่างคล้ายมาสด้าสามในรุ่นท๊อป เช่น หน้าจอ Active driving Display ไปจนถึงเบาะหนัง และระบบ MZD connect ช่วยในการสร้างความบันเทิงในการขับขี่ ซึ่งเป็นออพชั่นที่ดูลงตัวและดีทีเดียว
แต่ก็ยังขาดบางสิ่งที่มองข้ามไปโดยเฉพาะคนไทยชอบออพชั่นกระจุกกระจิก อย่าง กล้องมองหลัง หรือจะเป็นระบบนำทางที่ของมาสด้า ต้องซื้อเสริมเป็นออพชั่น หรือระบบ Cruise Control ทั้งที่คู่แข่งจัดหามาให้ บางสิ่งบางอย่างที่ขาดไป เมื่อรวมกับพื้นที่โดยสาร จะทำให้หลายคนฉุกคิดไม่น้อยเลยทีเดียว เมื่อกำลังคิดว่าจะต้องจ่ายเงินซื้อรถมาสด้า 2 ที่มีราคารุ่นกลางเท่ากับรุ่นท๊อปของคู่แข่ง ....ถ้าเขามองในเรื่องของออพชั่น
อย่างไรก็ดี เหมือนที่เรากล่าวว่า ตอนนี้จะเอา mazda 2 ไปเทียบกับรถคันอื่นในตลาดดูจะไม่ยุติธรรม แต่มันคือความจริงของตลาดรถยนต์บ้านเราที่ลูกค้าจะเปรียบเทียบแล้ว เทียบอีกจนกว่าจะได้ความคุ้มค่าที่สุด ซึ่งค่าย มาสด้าควรจะรับฟังข้อเท็จจริง
แม้ผมจะมองว่า ออพชั่นของ Mazda 2 ไม่ได้หวือหวามากมายนัก สิ่งที่มาสด้าให้มา สำหรับสาวก หรือหลายคนอาจจะคิดว่ามากมายอยู่ ทั้งที่กล่าวมาแล้วหรือจะให้กุญแจ Keyless ,ปุ่ม Push start ,ไปจนถึงระบบปรับอากาศอัตโนมัติ ที่ในรถคู่แข่งก็มี
ทว่าสิ่งเดียวที่รถยนต์จากค่ายคู่แข่งไม่สามารถมีได้ และเซลล์มาสด้า นำมาชูเป็นจุดขายที่สำคัญนั่นคือเครื่องยนต์ดีเซลขนาด 1.5 ลิตร เล็กที่สุดในกลุ่มดีเซลบ้านเรา ซึ่งเรายอมรับเรื่องสมรรถนะในการขับขี่ที่ดีของมัน ไม่ว่าจะทั้งสมรรถนะที่ให้อารมณ์เร้าใจได้ดีกว่าเครื่องยนต์เบนซิน ไปจนถึงความประหยัดที่ไม่ว่าจะทำอย่างไรขับสันดานเสียแค่ไหนมันก็ประหยัดกว่าเครื่องยนต์เบนซินที่เราคุ้นเคยกันมายาวนาน และเราได้พิสูจน์แล้วในระหว่างการทดสอบ ด้วยอัตราประหยัดเฉลี่ยจากข้อมูลของระบบหน้าปัดรถที่เผยความประหยัดที่ทำได้ดีกว่า เครื่องยนต์เบนซิน และน่าจะดีกว่านี้ถ้าเราขับแบบปกติปถุชนธรรมดา
และน่าจะดีกว่านี้ในเมือง ซึ่งรถ Mazda 2 มีระบบ i-Eloop ใหม่ ช่วยให้การหยุดการทำงานของเครื่องยนต์ชั่วคราวในยามที่คุณไม่ใช้ยาวนานขึ้น แต่ด้วยความที่คนไทย มักรำคาญระบบแบบนี้ ในความเป็นจริงของการใช้งานอาจจะไม่ถูกเปิดใช้งานด้วยซ้ำไป
ในขณะที่ภาพรวมการขับขี่ส่วนอื่นๆ ด้วยการพัฒนาภายใต้ Mazda Sky Activ Technology ทำให้รถมีศักยภาพมากขึ้นอย่างชัดเจน ตนแม้แต่โอ๊ต น้องจากที่ Sanook.com ที่มารับช่วงต่อจากผม หลังจากลาออกมา ยังกล่าวเลย ในฐานะเจ้าของรถ มาสด้า 2 รุ่นก่อนหน้าว่า พี่มันดีกว่ารถผมเยอะ แทบอยากจะขายแล้วซื้อเลย ...
สิ่งที่เกิดขึ้นในรถยนต์ Mazda 2 ใหม่ คือการเปิดเทคโนโลยีใหม่ Segment ใหม่ของรถที่ยังไม่เคยเปิดขึ้นในบ้านเรา ตามแนวคิดของการพัฒนา Mazda Sky Activ Technology ที่ว่า Defy Convention หรือ พัฒนาสิ่งที่มีอยู่ในปัจจุบันให้ดีที่สุดในการขับขี่ ซึ่งมาสด้า 2 ดีเซล พิสูจน์ให้เห็นแล้วว่าพวกเขาทำได้จริง โดยเฉพาะในเรื่องของความประหยัดในการขับขี่
อย่างไรก็ดี ระหว่างที่ผมนั่งฟังบรรยาย หมุนปากกามาสด้า ดูเหมือนมาสด้ามีความตั้งใจจริงที่จะทำโลกนี้ให้สวยงามมากขึ้น โดยเฉพาะการรักษาสิ่งแวดล้อมที่ขึ้น ซึ่ง Mazda เขียนเอาไว้ว่า At Mazda , Ecoloogy is responsibly , not a choice หรือ ที่มาสด้า สิ่งแวดล้อมเป็นเรื่องของความรับผิดชอบไม่ใช่ทางเลือก นั่นชัดเจนแล้วในคำตอบว่า Mazda2 Diesel เกิดขึ้นมาเพื่ออะไร มันเกิดขึ้นมาเป็นรถที่รักษาสิ่งแวดล้อม ซึ่งมันพ่วงมาสู่ในเรื่องของความประหยัด ตามปรัชญาที่แท้จริงของอีโค่คาร์
เพียงแต่ Mazda 2 Diesel อาจจะเป็นรถที่คนขับชอบและรักมันทันที ไม่ว่าจะในเรื่องสมรรถนะและความประหยัด ทว่ากับคนไทยที่มองหาความคุ้มค่าในรถยนต์ ด้วยการใช้คำว่าออพชั่นมามีบทบาทในการตัดสินใจ แค่สมรรถนะในการขับขี่ มันก็เป็นคำถามแห่งการยากจะตัดสินใจ จนอาจกลายเป็นปัญหาครอบครัว ระหว่างเลือก รถที่เยี่ยมในสมรรถนะและประหยัดเกินคาด หรือ รถที่มีความลงตัวในการใช้งานอุดมด้วยออพชั่นที่จำเป็นต้องใช้ อันนี้ ต้องเลือกเอาเองแล้วล่ะครับ
ขอบคุณ บริษัท มาสด้า เซลล์ (ประเทศไทย) จำกัด ที่เชิญทีมงาน Autodeft.com ร่วมพิสูจน์สมรรถนะรถยนต์ Mazda 2 Diesel
เรื่องและขับทดสอบ โดย ณัฐยศ ชูบรรจง (Bonn)
ติดตามผู้สื่อข่าวและนักทดสอบรถยนต์ นาย ณัฐยศ ชูบรรจง ได้ที่ Facebook ,Twiter (@nattayodc)
รถทดสอบ Mazda 2 Diesel
Mazda 2 Sport High Hatch back ราคาจำหน่าย 735,000 บาท
Mazda 2 Sport High Plus Sedan ราคาจำหน่าย 790,000 บาท
สรุป การทดสอบ
สิ่งที่ชอบ >>> สมรรถนะจากเครื่องยนต์ดีเซล Mazda Sky Activ D 1.5 ลิตร ยากที่จะหาใครเทียบเทียมในชั่วโมงนี้ มันให้ความรู้สึกที่เร้าใจในการขับขี่ และยังแฝงด้วยความประหยัด ในอัตราที่ไม่มีเบนซินคันไหนน่าจะทำได้
สิ่งที่ไม่ชอบ >> ที่นั่งหลังที่แคบเกินไป เมื่อต้องโดยสารตอนหลัง อาจจะไม่เหมาะกับชายตัวสูงใหญ่ ...ถ้าคุณมีเพื่อนเป็นนักกีฬาต้องไปด้วยกันหลายคนบ่อยครั้ง อาจจะต้องมองข้ามมันไป แถมออพชั่นในรถ ถ้าเทียบกับยี่ห้ออื่น อาจจะยังให้มาน้อยไปนิด
สิ่งที่อยากให้มี >>> กล้องมองหลังยังขาดอยู่ สำหรับออพชั่นจำเป็นในชีวิตคนเมือง และระบบนำทางก็ควรให้มาเป็นมาตรฐาน แต่ที่บาดใจมากที่สุดคือการทอน โปรเจคเตอร์ออกไป เอาเถอะ เราเดาว่ามาสด้าเก็บไว้ตอนรุ่น ไมเนอร์เชนจ์แหงๆ
ข้อแนะนำสำหรับผู้ที่สนใจ >>> สิ่งที่เราว่าน่าสนใจที่สุดในมาสด้า 2 นั่นคือเครื่องยนต์ดีเซลขนาดเล็กที่ให้สมรรถนะในการขับขี่ที่ลงตัว และยังประหยัดจริงๆ อย่างน่าเหลือเชื่อ ซึ่งจะยังไม่มีรถในเซกเม้นท์เดียวกันคันไหนทำได้ อย่างแน่นอน
ติดตามข่าวสารยานยนต์ รวดเร็วก่อนใคร ได้ที่ Autodeft.com
[GALLERY1075]