Hands On : New Hyundai H-1 & Grand Starex ใหม่ ตู้อเนกประสงค์ คุ้มค่า ครบครัน พร้อมตัวเลือกสุดหรู

รถยนต์อเนกประสงค์ อีกหนึ่งประเภทรถยนต์ที่กำลังได้รับความนิยมอย่างแพร่หลาย ทั้งกลุ่มลูกค้าครอบครัว และระดับผู้บริหาร ที่มองหาความกว้างขวาง และความสะดวกสบายในยามเดินทาง ล่าสุด Hyundai ตอกย้ำความสำเร็จรับความนิยม ส่ง Hyundai H-1 และ Grand Starex ใหม่ ปี 2016 ปรับลุค เพิ่มอุปกรณ์ พร้อมฟั่งก์ชั่นการใช้งานให้ครบครันมากยิ่งขึ้น

อีกครั้งกับโอกาสอันดีจาก บริษัท ฮุนได มอเตอร์ (ไทยแลนด์) จำกัด ได้เรียนเชิญทีมงาน Autodeft.com เข้าร่วมทดสอบรถยนต์อเนกประสงค์รุ่นใหม่ ฮุนได เอช-วัน และ แกรนด์ สตาร์เร็กซ์ สัมผัสความหรูหรา และความสะดวกสบาย ที่การันตีคุณภาพด้วยยอดจำหน่ายอันดับ 1 ในกลุ่มรถยนต์อเนกประสงค์ขนาดใหญ่ มาดูกันว่ารุ่นปี 2016 ใหม่ มีเพิ่มเติมหรือปรับเปลี่ยนอะไรกันบ้าง การใช้งานฟั่งก์ชั่นต่างๆ ที่มีเพิ่มเข้ามาจะสะดวกสบายมากขึ้นขนาดไหน ไปดูกัน

สำหรับ Hyundai H-1 จะมีด้วยกัน 3 รุ่นย่อย ได้แก่ Touring, Elite และ Deluxe โดย Touring เป็นรุ่นล่างสุด ที่ได้รับการปรับเปลี่ยนกระจังหน้าแบบใหม่ ไฟตัดหมอกดีไซน์ใหม่ จากเดิมที่เป็นระบบเกียร์ธรรมดา ก็ถูกเปลี่ยนมาใช้ระบบเกียร์อัตโนมัติแทน จับคู่เครื่องยนต์ดีเซลเทอร์โบ CRDI ขนาด 2.5 ลิตร พร้อมเทอร์โบแปรผัน VGT อินเตอร์คูลเลอร์ ให้กำลัง 175 แรงม้า เหมือนกับรุ่นบน (ข้อมูลรายละเอียด Hyundai H-1 Touring 2016)

ต่อมากับรุ่น Elite เป็นอีกหนึ่งรุ่นย่อยในตระกูล H-1 ที่เพิ่งถูกเพิ่มเข้ามาในช่วงหลัง นำเสนอความคุ้มค่าคุ้มราคา พร้อมการตกแต่งที่หรูหรา เน้นฟั่งก์ชั่นการใช้งานพื้นฐานครบครัน โดยสำหรับรุ่นปี 2016 ทั้ง Elite และ Deluxe ได้ถูกปรับลุคด้วยกระจังหน้าแบบใหม่จากเดิมที่เป็นแนวนอน กลายเป็นแบบแนวตั้ง บริเวณไฟตัดหมอกถูกแทนที่ด้วยไฟส่องสว่างเวลากลางวัน (Daytime Running Light) พร้อมสวิตซ์สำหรับ ปิด-เปิด และล้ออัลลอยลายใหม่ขนาด 16 นิ้ว สี Hyper Silver พร้อมยางขนาด 215/70 R16 ซึ่งมีจุดสังเกตอีกหนึ่งจุดสำหรับรุ่นปี 2016 ตำแหน่งของเสาอากาศถูกย้ายไปอยู่ตรงกลางด้านท้ายบนหลังคา

ภายใน Hyundai H-1 ใหม่ มาพร้อมหน้าปัดเรืองแสงใหม่ ให้แสงสีขาวดูหรูหรายิ่งขึ้น ต่างจากเดิมที่เป็นแสงสีเขียว บริเวณแดชบอร์ดตำแหน่งของระบบเครื่องเสียง ระบบปรับอากาศ และช่องปรับอากาศตรงกลาง ถูกเปลี่ยนใหม่ทั้งหมด ดูทันสมัยยิ่งขึ้น โดยเฉพาะ รุ่น Deluxe ระบบเครื่องเสียงมาพร้อมหน้าจอความละเอียดสูงขนาด 8 นิ้ว ใหม่ เชื่อมต่ออุปกรณ์เพื่อความบันเทิงได้ เช่น USB / iPod, ระบบ Bluetooth และยังสามารถใช้งานระบบอินเทอร์เน็ตผ่านระบบ Wifi ได้ พร้อมหน้าจอติดเพดานขนาด 13.3 นิ้ว สามารถเชื่อมต่อระบบ HDMI ได้ รองรับระบบ Smart View System ที่จะแสดงภาพขณะถอยหลังแบบ 360 องศา ให้ความมั่นใจยิ่งขึ้นในการขับขี่ไม่ว่าจะถอยจอดต่างๆ หรือการเลี้ยวตามซอยที่มีจุดอับสายตา และระบบควบคุมเครื่องปรับอากาศอัตโนมัติ

สะดวกยิ่งขึ้นด้วยประตูเลื่อนไฟฟ้าอัตโนมัติทั้ง 2 บาน สำหรับผู้โดยสารตอนหลัง เพื่อความสะดวกสบายขณะเข้าและออกจากห้องโดยสาร พร้อมสวิตซ์สำหรับเปิดและปิดบนแผงควบคุมด้านข้างคนขับ และสามารถเปิดและปิดได้จากกุญแจ และระบบควบคุมความเร็วอัตโนมัติ Cruise Control ในรุ่น Deluxe (รายละเอียดเพิ่มเติม Hyundai H-1)

มาถึงตระกูลหรูตัวท็อป Grand Starex MPV 7 ที่นั่ง ภายนอกเปลี่ยนกระจังหน้าใหม่แบบโครเมียมแนวตั้ง ที่มีส่วนของโครเมียมที่มากกว่ารุ่น Elite และ Deluxe ไฟส่องสว่างเวลากลางวัน (Daytime Running Light) พร้อมสวิตซ์สำหรับปิด-เปิด และล้ออัลลอยดีไซน์ใหม่ 17 นิ้ว สี Hyper Silver  คู่ยางขนาด 235/60 R17 ประตูสไลด์ เปิดได้ 2 ด้าน แบบไฟฟ้า พร้อมสวิตซ์ควบคุมการเปิดปิดประตูบริเวณที่นั่งคนขับ และรีโมทคอนโทรลสำหรับเปิดปิดประตู

ภายในระบบเครื่องเสียงด้านหน้า ทั้งรุ่น Premium และ VIP เหมือนกันกับในรุ่น Deluxe แต่มีการตกแต่งที่แตกต่างกันด้วยลายไม้แบบใหม่ภายในห้องโดยสาร บริเวณคอนโซลด้านหน้า แผงประตูด้านหน้า แผงสวิตซ์กระจก และพวงมาลัย ส่วนของผู้โดยสารด้านหลังหรูหราสะดวกสบายยิ่งขึ้นด้วยเบาะโดยสารแบบ VIP เบาะที่นั่งได้รับการออกแบบใหม่ พนักพิงศีรษะ และที่วางเท้ารูปแบบใหม่ เพื่อความสะดวกสบายยิ่งขึ้น และสำหรับ Grand Starex รุ่น VIP จะถูกติดตั้ง VIP Counter พร้อม Ambient Light สามารถปรับเปลี่ยนได้ 3 สี และยังมี USB Port สำหรับชาร์จไฟได้อีกด้วย (รายละเอียดเพิ่มเติม Hyundai Grand Starex)

สำหรับเส้นทางทดสอบครั้งนี้ ทางฮุนได พาทีมงานออกเดินจากกรุงเทพมหานคร มุ่งหน้าสู่เกาะเสม็ด จังหวัดระยอง บนเส้นทางที่มีทั้งรถหนาแน่น ทางตรงยาว และช่วงโค้ง ให้ได้สัมผัสกับสมรรถนะการขับขี่ และการเป็นผู้โดยสาร โดย Hyundai MPV Series มาพร้อมกับเครื่องยนต์ดีเซลเทอร์โบ CRDI ขนาด 2.5 ลิตร 175 แรงม้าที่ 3,600 รอบ/นาที แรงบิด 441 นิวตันเมตร ที่ 2,000-2,250 รอบ/นาที จับคู่ระบบส่งกำลัง เกียร์อัตโนมัติ 5 สปีด พร้อม Sequential shift ให้ได้เลือกเปลี่ยนเกียร์ได้ตามต้องการ

การขับขี่ สำหรับใครที่ไม่เคยได้ขับมาก่อน อาจจะรู้สึกว่ารถตู้ที่มีขนาดใหญ่ อย่าง Hyundai H-1 ที่เห็นรูปร่างขนาดใหญ่โตวิ่งตามท้องถนนต้องขับยาก วงเลี้ยวกว้าง ขับขี่ได้ไม่คล่องตัวแน่นอน แต่นั้นคือความคิดที่เกิดขึ้นเมื่อเห็นแค่รูปร่างของมัน เมื่อได้ลองขับและสัมผัสคันจริงแล้วละก็ พบว่า Hyundai H-1 เป็นรถตู้อเนกประสงค์ที่ขับง่าย คล้ายกับว่าคุณกำลังขับรถเก๋งที่มีทัศนวิสัยการขับขี่ที่ดีกว่า การควบคุมรถพวงมาลัยให้ความคล่องตัวสูง น้ำหนักเบา มีรัศมีวงเลี้ยวแคบสุดที่ 5.6 เมตร  ในย่านความเร็วในการเดินทางไกล 110-120 กม./ชม. ให้การขับขี่อย่างมั่นใจ ในบางครั้งที่ต้องการแซงหรือการทำความเร็วเครื่องยนต์ เกียร์ ก็สามารถตอบสนองได้อย่างดี เรียกได้ว่ากดมาๆ เลยทีเดียว

ระบบเบรกนุ่มนวลมั่นใจได้เอาอยู่ โดยรวมด้านสมรรถนะการขับขี่นั้น ทำได้ดีมาตั้งแต่รุ่นก่อนหน้า ระบบช่วงล่างให้ความนุ่มนวล แต่อาจจะมีอาการกระเด้งที่ด้านท้ายให้รู้สึกหากมีผู้โดยสารไม่มากนัก แต่กลับกันหากมีผู้โดยสารเกินกว่าครึ่ง พร้อมสัมภาระ ความรู้สึกจากช่วงล่างนั้นดีขึ้น นุ่มนวลกว่าการไม่บรรทุก ซึ่งก็อาจจะเป็นเหตุผลของการปรับเซ็ทมาเพื่อโดยสาร และบรรทุกสัมภาระได้อย่างเต็มพิกัดนั่นเอง

ด้านระบบความปลอดภัย Hyundai MPV Series มาพร้อมกับระบบเบรก ABS พร้อมดิกส์เบรก 4 ล้อ ถุงลมนิรภัยคู่หน้า SRS โครงสร้างตัวถัง High Tensile Strength Steel ออกแบบในลักษณะ Four Ring แข็งแรงสูง กุญแจรีโมทแบบพับเก็บพร้อมสัญญาณกันขโมย และยังเพิ่มความปลอดภัยให้ทันสมัย ด้วยไฟส่องสว่างบริเวณใต้กระจกมองข้าง เพื่อความปลอดภัยในยามค่ำคืน เหนือกว่าอีกขั้นด้วยระบบควบคุมการทรงตัว (ESP : Electronic Stability Control) ช่วยควบคุมการทรงตัวขณะมีการหักหลบกะทันหัน สำหรับ Grand Starex

และนี้ก็คืออเนกประสงค์สุดคุ้มค่า และยังมีตัวเลือกที่หรูหรายิ่งกว่า ตอบรับความต้องการที่หลากหลาย แต่สามารถตอบโจทย์ความต้องการได้อย่างลงตัว ไม่ว่าจะเป็นการใช้งานเพื่อไลฟ์สไตล์ส่วนตัว หรือจะเป็นการใช้งานเพื่อธุรกิจ กับ Hyundai MPV Series ใหม่ สัมผัสและลองขับด้วยตัวคุณเอง เพราะสิ่งที่คิดอาจไม่เป็นอย่างที่คิด...

ราคาจำหน่าย Hyundai MPV Series ใหม่

Hyundai H-1 รุ่น Touring  ราคา 1,289,000 บาท
Hyundai H-1 รุ่น Elite      ราคา 1,499,000 บาท
Hyundai H-1 รุ่น Deluxe   ราคา 1,679,000 บาท
Hyundai Grand Starex รุ่น Premium   ราคา 2,349,000 บาท
Hyundai Grand Starex รุ่น VIP           ราคา 2,399,000 บาท 

เรื่องและขับทดสอบโดย รัฐศิลป์ รัตนกู้เกียรติ (toptaro)

ติดตามข่าวสารยานยนต์ รวดเร็วก่อนใคร ได้ที่ Autodeft.com