Hands On: สัมผัส Mitsubishi Attrage/Mirage ใหม่! ปี 2017 พร้อมปรับออพชั่น และระบบความปลอดภัยจัดเต็ม
- โดย : รัฐศิลป์ รัตนกู้เกียรติ
- 22 มิ.ย. 60 00:00
- 16,208 อ่าน
หนึ่งในรถยนต์อีโคคาร์จากมิตซูบิชิที่เราคุ้นเคยกันดีในชื่อ Mitsubishi Attrage และ Mirage กับรูปแบบซีดานและแฮทช์แบ็ก 5 ประตู ที่โดดเด่นในเรื่องของอัตราความประหยัดอันดับต้นๆ ในกลุ่ม พร้อมจัดเต็มออพชั่นมาให้อย่างครบครัน รวมไปถึงเทคโนโลยีความปลอดภัยที่สร้างมาตรฐานใหม่ให้กับรถยนต์อีโคคาร์ ล่าสุดกับการปรับปรุงโฉมปี 2017 เพิ่มเติมอุปกรณ์ใหม่ให้คุ้มค่ายิ่งขึ้น
อีกหนึ่งโอกาสอันดีจาก มิตซูบิชิ มอเตอร์ส ประเทศไทย ที่เรียนเชิญทีมงาน Autodeft.com ร่วมทดสอบรถยนต์โฉมใหม่ กับ มิตซูบิชิ แอททราจ ที่มาพร้อมแนวคิด “เหนือกว่าทุกความเป็นไปได้” และ มิตซูบิชิมิราจ ด้วยแนวคิด “ปลุกความเร้าใจไปให้สุด” บนเส้นทางกว่า 350 กิโลเมตร ไปกลับกรุงเทพฯ – ระยอง โดยรถที่ทางทีมงานได้สัมผัสกันตลอดเส้นทางก็คือ Mitsubishi Attrage GLS-LTD รุ่นท็อปสุด ร่วมกับสื่อมวลชนอีก 3 ท่าน รวมทั้งหมด 4 ท่าน
แรกเห็น Mitsubishi Attrage ใหม่ ความแตกต่างที่ถูกปรับเปลี่ยนไปกับกันชนท้ายใหม่ขนาดใหญ่ขึ้น เพื่อเหลี่ยมสันบริเวณชายล่าง ไฟหน้ามัลติรีเฟล็กเตอร์พร้อมไฟตัดหมอกหน้าตกแต่งด้วยกรอบโครเมียมยังคงความหรูหราเช่นเคย ไฟท้ายใหม่โทนสีขาวแดง ล้ออัลลอยด์ขนาด 15 นิ้วสีเงินรมดำ พร้อมยางขนาด 185/55R15 และกระจังหน้าโครเมียม ส่งผลให้ภาพรวมดูเปลี่ยนแปลงไปพอให้สังเกตได้ ส่วนของ Mitsubishi Mirage ใหม่ ภายนอกมากับไฟหน้ามัลติรีเฟล็กเตอร์ พร้อมบริเวณชุดไฟตัดหมอกตกแต่งเพิ่มเติมด้วย LED บริเวณกันชนหน้า ล้ออัลลอยด์ขนาด 15 นิ้วสีเงินรมดำ พร้อมยางขนาด 185/55R15 และกระจังหน้าโครเมียมรมดำ ไฟท้ายสีขาวแดง และกันชนหลังดีไซน์ดูมีมิติคงเดิม
ล้อหมุนพร้อมออกเดินทางจากย่านคลองเตยเพื่อมุ่งหน้าสู่สวนละไม จ.ระยอง ทีมงานได้ขับเป็นไม้แรก โดยสัมผัสแรกจากการขับขี่ช่วงตัวเมืองที่มีการจราจรค่อนข้างหนาแน่น Mitsubishi Attrage ให้ความรู้สึกในการควบคุมรถได้คล่องตัว ด้วยขนาดตัวรถที่กะทัดรัด น้ำหนักพวงมาลัยที่เบา และเครื่องยนต์ไมเวค (MIVEC) 1.2 ลิตร ที่ทำงานร่วมกับระบบเกียร์อัตโนมัติ CVT และระบบ INC ที่ช่วยควบคุมและตัดระบบส่งกำลังไปยังเพลาขับอัตโนมัติขณะรถหยุดนิ่ง พร้อมด้วยระบบ G-Sensor ที่ช่วยควบคุมการเปลี่ยนตำแหน่งเกียร์ให้มีความแม่นยำมากขึ้นในทางที่ลาดชัน ก็พาพวกเราฝ่าการจราจรติดขัดขึ้นไปยังทางด่วนได้แบบสบายๆ
ไม่นานนักพวกเราก็มาถึงยังทางด่วนบูรพาวิถีที่รถค่อนข้างโล่ง ซึ่งเป็นช่วงที่สามารถเพิ่มความเร็วได้ กับความเร็วเดินทางราวๆ 100-120 กม./ชม. สลับกันไป มีในบางจังหวะที่ต้องมีการเติมคันเร่งเพื่อเร่งแซง Mitsubishi Attrage ก็ให้การตอบสนองได้ค่อนข้างดี บวกกับภาระที่ต้องแบกน้ำหนักผู้โดยสารรวมผู้ขับถึง 4 คน ก็สามารถทำความเร็วเดินทางขึ้นไปได้แบบเรื่อยๆ ซึ่งหากมองในมุมของประเภทรถยนต์ที่ถูกออกแบบมาให้เน้นใช้งานในเมืองเป็นหลัก มีอัตราความประหยัดน้ำมันที่ดีเยี่ยม ไม่ได้เน้นสมรรถนะสูงในการขับขี่อะไรมากมายนัก รถยนต์ Mitsubishi Attrage ก็ถือได้ว่าสามารถตอบสนองต่อการใช้งานในการเดินทางออกต่างจังหวัดดีเลยทีเดียว หากจะมีช่วงที่ความเร็วค่อนข้างสูงผู้ขับจะต้องใช้สมาธิมากขึ้นเพื่อการควบคุมพวงมาลัยให้รถวิ่งไปในทางตรง
สัมผัสของช่วงล่าง Mitsubishi Attrage ให้ความรู้สึกในการเดินทางที่นุ่มนวลทั้งในช่วงความเร็วต่ำและความเร็วเดินทางออกนอกเมืองไม่เกินช่วงประมาณ 110 กม./ชม. ได้เพียงพอถึงความสบาย ตำแหน่งของเบาะนั่งด้านหน้าค่อนข้างนุ่มสบายไม่โอบรัดเท่าใด เน้นนั่งได้แบบสบายๆ พวงมาลัยสามารถปรับสูง-ต่ำได้ รัศมีของพวงมาลัยแรกสัมผัสแอบรู้สึกได้ถึงขนาดวงที่ใหญ่อยู่เล็กน้อย ซึ่งสามารถหมุนควบคุมรถได้คล่องแคล่ว อีกทั้ง Mitsubishi Attrage ยังได้ติดตั้งระบบล็อคความเร็วบนพวงมาลัย ช่วยเพิ่มความสะดวกสบายได้มากยิ่งขึ้นยามเดินทางไกล ใช้เวลาประมาณไม่ถึงชั่วโมงเราก็มาถึงยังจุดนัดพบแรก เพื่อเปลี่ยนผู้ขับ
หลังจากเป็นผู้ขับในไม้แรกที่นี้เราเปลี่ยนมานั่งโดยสารกันที่เบาะหลังกันบ้าง ต้องขอบอกเลยว่า อีกหนึ่งจุดเด่นของ Mitsubishi Attrage ก็คือพื้นที่ในห้องโดยสารที่ค่อนข้างกว้างขวาง ตำแหน่งของเบาะหลังเมื่อนั่งแล้วยังมีพื้นที่บริเวณขาเหลือค่อนข้างเยอะ รวมถึงพื้นที่เหนือศีรษะอีกด้วย การนั่งโดยสารไม่ได้รู้สึกว่าอึดอัดแต่อย่างใด มีที่เท้าแขนที่สามารถพับเก็บได้ หากแต่ในกรณีถ้ามีการโดยสารด้านหลัง 3 คน อาจจะมีไหล่เบียดๆ กันบ้าง ตัวเบาะตอนหลังค่อนข้างนุ่มและส่วนของเบาะรองก้นอาจจะสั้นไปสักเล็กน้อย แต่จากการนั่งโดยสารอยู่พักใหญ่ เบาะรองก้นที่สั้นนี้ แต่กลับรู้สึกดันช่วงหน่องได้พอดี ไม่ได้ส่งผลให้รู้สึกเมื่อยแต่อย่างใดตลอดเส้นทางการเดินทาง
และเมื่อพูดถึงความเปลี่ยนแปลงของภายในแล้ว ทั้ง Mitsubishi Attrage และ Mirage มาพร้อมกับเบาะหนังสีดำเดินด้ายแดง พวงมาลัยและหัวเกียร์หุ้มหนัง รองรับการเชื่อมต่ออุปกรณ์ต่างๆ ผ่านช่องต่ออุปกรณ์ USB ตำแหน่งใหม่บริเวณคอลโซลเกียร์ เพิ่มเติมพนักพิงศีรษะหลัง 3 ตำแหน่ง ติดตั้งมาให้เป็นอุปกรณ์มาตรฐานในทุกรุ่นย่อย พร้อมเครื่องเล่น DVD แบบจอสัมผัส รองรับ Apple CarPlay และคำสั่งเสียงผ่านระบบ Siri2 พร้อมจุดยึดเบาะเด็ก ISOFIX 2 ตำแหน่ง และพวงมาลัยมัลติฟังก์ชั่นที่เพิ่มปุ่มรับสายโทรศัพท์ พร้อม Cruise Control นั้นเอง
ซึ่งช่วงก่อนถึงจุดหมายปลายทาง จ.ระยอง ฟ้ามืดครึ้มมาได้สักระยะ ไม่นานฝนก็โปรยปรายลงมาอย่างหนัก เป็นอีกช่วงที่ Mitsubishi Attrage พาพวกเราผ่านฝนกระหน่ำมาได้อย่างปลอดภัย โดยระบบความปลอดภัยที่ถูกติดตั้งมาในรถ Attrage และ Mirage ก็ช่วยเพิ่มความมั่นใจได้ดี กับระบบควบคุมเสถียรภาพการทรงตัว และระบบป้องกันการลื่นไถล และในรุ่นใหม่นี้มีการติดตั้งเข็มขัดนิรภัยเบาะหลังแบบ ELR 3 จุด 3 ตำแหน่ง จุดยึดเบาะเด็ก ISOFIX 2 ตำแหน่ง และระบบเตือนคาดเข็มขัดนิรภัยด้านคนขับ ติดตั้งเป็นอุปกรณ์มาตรฐานในทุกคัน ทั้งยังได้ติดตั้งระบบความปลอดภัยเชิงป้องกันก่อนเกิดเหตุ กับระบบเตือนการชนด้านหน้าตรง พร้อมระบบช่วยชะลอความเร็ว (ที่ความเร็วต่ำ) และระบบตัดกำลังเครื่องยนต์ชั่วขณะ เมื่อเหยียบคันเร่งอย่างรุนแรงและรวดเร็วเฉพาะด้านหน้า เป็นครั้งแรกของรถยนต์ระดับเดียวกัน
สิ้นสุดภารกิจการเดินทางช่วงเช้าคณะทดสอบเดินทางมาถึงยังสวนผลไม้ สวนละไม จ.ระยอง พักรับประทานอาหารก่อนไปเพลิดเพลินกับการทานผลไม้แบบไม่อั้น และผลไม้เด็ดไฮไลท์ก็คือทุเรียนนั้นเอง ที่นี่ถือเป็นอีกสถานที่ที่มีนักท่องเที่ยวมาแวะอิ่มอร่อยกับผลไม้ไม่ขาดสายเรียกได้ว่าอร่อยกันแบบสดๆ จากต้นกันเลย หลังเติมพลังเรียบร้อยก็พร้อมเดินทางกลับ ทีมงานยังคงใช้รถยนต์ Mitsubishi Attrage เดินทางกลับ โดยอยู่ในตำแหน่งของผู้โดยสาร สรุปภาพรวมของการนั่งโดยสารเดินทางไกล หมดกังวลเรื่องความไม่สบายในยามเดินทางไปได้เลย ความกว้างขวางมีมากพอให้ใช้สอยสบายๆ ใครที่เห็นว่าตัวรถมีขนาดดูเล็กๆ แบบนี้ แต่ถ้าได้มาสัมผัสภายในด้วยตัวเองแล้วจะต้องแอบประหลาดใจไม่น้อย
สำหรับใครที่สนใจรถยนต์ทั้ง 2 รุ่น ทั้ง “มิตซูบิชิ แอททราจ รุ่นใหม่” และ “มิตซูบิชิ มิราจ รุ่นใหม่” ก็ลองแวะเวียนไปเยี่ยมชมกันได้ที่ตัวแทนจำหน่ายของมิตซูบิชิอย่างเป็นทางการกว่า 200 แห่งทั่วประเทศ เพื่อสัมผัสและทดลองขับ เพราะทุกข้อสงสัย และคำถามมากมายในใจ คุณจะสามารถตอบได้เมื่อไปสัมผัสด้วยตัวของคุณเอง...
เรื่องและขับทดสอบโดย รัฐศิลป์ รัตนกู้เกียรติ (toptaro)
ตารางราคารถทุกรุ่นของ Mitsubishi 2017
ติดตามข่าวสารยานยนต์ รวดเร็วก่อนใคร ได้ที่ Autodeft.com