Hand on: ทดสอบรถยนต์ Porsche Panamera 4S: แรงทะลุไมล์ในสไตล์ผู้บริหาร

  • โดย : พิสน ลีละหุต
  • 29 พ.ค. 60 00:00
  • 11,484 อ่าน

ถ้าพูดถึง Porsche ขึ้นมา ภาพของรถยนต์ซูเปอร์คาร์แบบสปอร์ตก็ผุดขึ้นมาในสมองของผมทันที ก็จะไม่เป็นอย่างนั้นได้อย่างไร ก็ในเมื่อที่ผ่านมาได้เห็นรถสัญชาติเยอรมนีแบรนด์นี้วิ่งตามท้องถนน ก็จะเป็นรถสปอร์ต 2 ประตูซะเป็นส่วนใหญ่ ไม่ว่าจะเป็น 911, Boxster อาจจะมีบ้างที่ได้เห็น Cayenne ที่เป็น SUV Crossover แต่เชื่อว่าเกือบทั้งหมดถ้าเอ่ยชื่อ Porsche ก็น่าจะคิดเหมือนผมเป็นอย่างแรกทั้งหมด

Porsche Panamera 4S

ตั้งแต่ปี 2009 เป็นต้นมา ทาง Porsche เองก็ได้เพิ่มรุ่นใหม่เข้ามาในไลน์การผลิต นั่นก็คือ Porsche Panamera รถยนต์สไตล์ Sport Saloon แบบ 4 ประตู ออกมายั่วเงินในกระเป๋าบรรดาผู้มีอันจะกินให้มากกว่าเดิม ด้วยรูปทรงที่ดูสปอร์ต แต่ร่างก็ใหญ่นั่งสบาย เหมือนเป็นกึ่งกลางระหว่างรถสปอร์ตกับรถ SUV แรกที่ผมเห็นบนถนน ต้องบอกว่าทรวดทรงมันช่างเย้ายวนใจให้ควักเงินในกระเป๋าแล้วเอามาเป็นเจ้าของเหลือเกิน (แต่เห็นเงินในกระเป๋าแล้วก็กลับมาสู่ความจริงเช่นเคย) เพราะความโค้งมนของมุมต่างๆช่างดูสะดุด แถมขนาดก็ดูโอ่โถงน่าจะนั่งสบาย แต่ได้มองแล้วก็ผ่านไป ไม่รู้ว่าจะมีวันไหนมีโอกาสได้ขับบ้างหรือเปล่า

Porsche Panamera 4S


จนมาวันหนึ่งที่โอกาสมาถึง เมื่อทาง ปอร์เช่ ประเทศไทย ได้มีจดหมายเชิญทีมงาน Autodeft ไปทดสอบรถยนต์ใหม่ Porsche Panamera 4S Sport Saloon ระดับ 440 แรงม้า ในสนามปทุมธานีสปีดเวย์ โอกาสมาแบบนี้จะพลาดได้อย่างไรล่ะ จึงได้ตอบรับการทดสอบนี้แบบไม่ต้องคิดเลยทีเดียว

เบื้องต้นเรามารู้จักกับข้อมูลของ Porsche Panamera 4S คันนี้กันก่อน โดยเจ้าชายกบทรงพลังได้ด้วยเครื่องยนต์ขนาด 2.9 ลิตร V6 440 แรงม้า แรงบิดสูงสุด 550 นิวตันเมตร ขับเคลื่อนด้วยเกียร์อัตโนมัติแบบไฟฟ้า Dual Clutch PDK II 8 สปีด ตามสเปคเคลมอัตราเร่ง 0-100 ได้ใน 4.4 วินาที และทำความเร็วสูงสุดได้ 289 กิโลเมตร/ชั่วโมง ซึ่งถ้าดูตามสเปคที่บอกแล้ว ก็ถือว่า Porsche Panamera 4S มีขุมกำลังที่แรงดีเลยทีเดียว แต่ของแบบนี้มันต้องลองด้วยตัวเอง ถึงจะรู้ได้ว่าของเขาดีจริงหรือเปล่านะครับ

Porsche Panamera 4S

เมื่อถึงสนามปทุมธานีสปีดเวย์ และได้คิวทดสอบเรียบร้อยแล้ว ผมกับนาย TopTaro ก็จับคู่กันทำการทดสอบ โดยมี Instructor ที่ทาง ปอร์เช่ ประเทศไทย จัดมานั่งข้างๆ คอยให้คำแนะนำวิธีการขับ, เส้นทางที่จะทดสอบ และการให้ข้อมูลของ Porsche Panamera 4S อย่างละเอียด เริ่มต้นที่ผมก้าวเข้าสู่ที่นั่งของคนขับก่อน ปล่อยให้น้องตี๋น้อยทำการทดสอบด้วยการเป็นผู้โดยสารด้านหลังก่อน สัมผัสแรกที่ได้นั่งคือ โอ้โห...ทำไมมันช่างอลังการงานสร้างขนาดนี้ เอาจริงๆแล้วเคยทดสอบ Porsche 718 Boxster ก็ว่าอลังการแล้ว มาเจอตัวนี้เข้า มันอลังการกว่าอีก แค่แผงหน้าปัดด้านคนขับที่วัดได้สารพัดก็สวยงามแล้ว แผงตรงกลางที่เป็นตัวควบคุมสารพัด ทั้งเครื่องเล่นความบันเทิง, ระบบนำทาง, การเชื่อมต่อกับสมาร์ทโฟน และอีกสารพัดที่บรรยายไม่หมด มันมีขนาดใหญ่มาก ใหญ่แทบจะเป็น 1 ใน 3 ของแผงคอนโซลทั้งหมดเลย และเมื่อมองต่ำลงมาที่แถวคันเกียร์ นอกจากดีไซน์ของตัวเกียร์ไฟฟ้าที่สวยงามแล้ว แผงทั้งแผงรอบๆที่มีสารพัดการควบคุมหลายสิ่งอย่าง ทั้งแอร์ หรือปุ่มต่างๆที่ควบคุมหน้าจอ การจัดวางช่างสวยงามสะดุดตามากจริงๆ

Porsche Panamera 4S

Porsche Panamera 4S

หลังจากสติเริ่มไหลลอยออกไปจากดีไซน์ที่สวยงาม พี่ Instructor ก็ดึงสติด้วยการเรียกให้เราเริ่มทำการทดสอบได้แล้ว โดยการทดสอบครั้งนี้จะมีการแบ่งเป็นทั้งหมด 3 สถานี เริ่มจากสถานีแรก (เอาจริงๆจุดนี้เรียกว่า 2 สถานีเลยก็ยังได้ เพราะทดสอบอัตราเร่งได้ด้วย) ทดสอบการควบคุมขณะเบรกเต็มที่ หรือ Panic Brake จากความเร็วสูงแล้วหักหลบทันที เพื่อดูว่าระบบการควบคุมและการทรงตัวของรถมันดีงามขนาดไหน เมื่อได้รับสัญญาณให้เริ่มได้ ผมก็กดคันเร่งเต็มที่แบบให้มิดไมล์ ความรู้สึกตอนนั้นเหมือนกับตัวเองเป็นกัปตันเคิร์กจากสตาร์เทรค ที่กำลังเข้าสภาวะวาร์ป พลังเครื่องยนต์ระดับ 440 แรงม้านี่มันแรงอย่างนี้นี่เอง จนความเร็วน่าจะอยู่ในระดับประมาณ 130 กม./ชม. จนเกือบจะชนกรวยไพลอนอยู่แล้ว พี่ Instructor ก็สั่งให้เบรกเต็มที่ แล้วหักหลบออกไปทางซ้ายเข้าช่อง ผมก็กระทืบเต็มเท้า รู้สึกได้เลยว่า ABS ทำงานทันที ก่อนที่จะชนกรวย ผมก็หักหลบเข้าช่องด้านข้างทันทีก่อนที่รถจะหยุดสนิท ว้าว มันไม่เสียการทรงตัวเลยครับ แม้จะเบรกอย่างกระชั้นชิดแล้วหักหลบทันที รถก็ไม่มีอาการเสียการทรงตัวแต่อย่างใด และรถยังอยู่ในการควบคุมของผู้ขับขี่ได้ทุกวินาที

Porsche Panamera 4S

ต่อมากับสถานีที่ 2 กับการควบคุมและการทรงตัว ด้วยการขับในเส้นทางที่มีกรวยไพลอนวางขวางอยู่เป็นแนวสลับซ้ายขวา คล้ายจะเป็นการ Slalom แต่กว้างกว่า โดยพี่ Instructor ก็บอกว่า เร่งให้เต็มที่ จนกว่าผมจะบอกให้พอ ผมก็กดเข้าไปแล้วหักซ้ายขวาไปตามทางเรื่อยๆ ความเร็วที่เข้าน่าจะอยู่ประมาณ 60 กม./ชม. ได้แล้ว พี่ Instructor ก็บอกว่า เร่งอีกครับ โห...ในใจนึกว่าจะเอาไหวมั้ยเนี่ย ก็เลยกดขึ้นไปเป็น 800 กม./ชม. พี่เขาก็ยังบอก "เอาอีกครับ" อยู่อีก ก็เลยกดไปอีกหน่อยก่อนที่จะถึงโค้งสุดท้ายที่ราว 90 กม./ชม. ทุกโค้งแคบที่ผ่านมา ไม่มีโค้งหนเลยที่มีความรู้สึกว่าเอาไม่อยู่ ทุกครั้งที่หันพวงมาลัย รถก็ไปตามที่เราสั่งได้อย่างดี ไม่มีอาการที่เรียกว่าหน้าดื้อหรือท้ายปัดเลยแม้แต่น้อย ตอนหลังพี่ Instructor ยังบอกเลยว่า จริงๆแล้วเร็วกว่านี้ได้อีกนะ (ผมเสียวจะพารถลงข้างทางแล้วพี่) ไม่แปลกใจเลยว่าเวลาเจอรถ Porsche ที่ขับซิ่งบนทางด่วนทีไร ทำไมมันดูมุดง่ายได้ทุกรูขนาดนั้น

Porsche Panamera 4S

สถานีสุดท้ายกับการ Slalom มีการเปลี่ยนโหมดการขับขี่ให้กลายเป็น Sport Plus ก่อนเข้าฐาน หลังจากกดปุ่มแล้ว ตัวรถจะมีการเซ็ตช่วงล่างใหม่ ด้วยการลดความสูงลง (เห็นได้ถึงความเปลี่ยนแปลงด้วยตา) แล้วตั้งค่าความหนืดของช่วงล่างให้แข็งขึ้น รองรับการเข้าโค้งด้วยความเร็วสูง จากนั้นก็กดคันเร่งเพื่อเข้า Slalom ทันที ความเปลี่ยนแปลงที่เห็นได้ชัดคือ ตัวรถโยนน้อยลงจากโหมดปกติทันที ควบคุมตอนหมุนพวงมาลัยได้ดีขึ้น ถึงจะ Slalom ด้วยความเร็ว ก็สามารถคุมได้ทุกครั้งที่หมุน ไม่มีการเบียดหรือชนไพลอนเลย จบสถานีสุดท้ายด้วยความประทับใจตลอดทุกสถานีเลยครับ

Porsche Panamera 4S

เมื่อครบรอบ ก็ได้สลับกันขับ ให้น้อง TopTaro มาเป็นคนขับแล้วผมไปเป็นผู้โดยสารด้านหลังแทน เมื่อก้าวเข้านั่งด้านหลังแล้ว ความรู้สึกโอ่โถงนั่งสบายก็เข้าครอบงำผมทันที เบาะด้านหลังกว้าง นั่งสบาย แถมอุปกรณ์อำนวยความสะดวกก็ครบครับ สามารควบคุมอุณหภูมิตรงส่วนที่นั่งด้านหลังได้เลย มีจอส่วนตัว นั่งแล้วเสมือนเป็นผู้บริหารจริงๆ หลังจากนั่งทดสอบไป 1 รอบ เห็นความดีงามของช่วงล่างที่ใช้ถุงลมเลยจริงๆ โดยพี่ Instructor บอกว่า คันนี้มีการเพิ่มขนาดของถุงลม three-chamber air suspension ให้ใหญ่ขึ้นกว่าเดิม เลยให้ความนุ่มนวลได้ดี แต่ยังช่วยให้การทรงตัวอยู่ในระดับดีสูงสุดได้เช่นเดิม ไม่มีอาการย้วยระหว่างการเข้าโค้งแต่อย่างใด ขนาดผมนั่งด้านหลังแค่ไม่ถึง 10 นาที ยังชวนให้ง่วงนอนได้เลย

Porsche Panamera 4S

ค่าตัวของ Porsche Panamera 4S คันนี้อยู่ที่ 13.5 ล้านบาท ถ้าเป็นคนระดับเราก็คงร้องแล้วบอกว่าแพงจัง แต่หลังจากที่ได้ลองขับแล้วเจอกับสมรรถนะรถที่มีครบครันมากขนาดนี้ ถ้าผมมีเงินซักร้อยล้าน ผมต้องมี Porsche Panamera 4S คันนี้จอดอยู่ในลานจอนรถบ้านผมแน่นอน (ตื่นๆๆ)

Porsche Panamera 4S

เรียบเรียงโดย Earthpark02

ติดตามข่าวสารยานยนต์ รวดเร็วก่อนใคร ได้ที่ Autodeft.com 

5 เรื่องน่าสนใจ