Hand On: ทดสอบรถยนต์ Porsche Macan Turbo Performance Package in Singapore

ถ้าให้เอ่ยถึงรถยนต์ SUV หรูๆจาก Porsche ส่วนใหญ่น่าจะนึกถึง Porsche Cayenne รถคันใหญ่ตัวโตมาเป็นลำดับต้นๆ เพราะเป็นรุ่นที่เราคุ้นตามากที่สุด ได้เห็นวิ่งอยู่บนท้องถนนอยู่บ่อยๆไม่แพ้รถยนต์สปอร์ตอย่าง Carrera หรือ Boxster เลย แต่เชื่อไหมครับว่า รถยนต์จากค่ายเมืองเบียร์แบรนด์นี้ รุ่นที่ขายดีที่สุดทั้งโลกกลับกลายเป็นรถยนต์ SUV อย่าง Porsche Macan ที่ทำยอดขายรวมทั้งโลกไปเกือบ 1 แสนคัน (ข้อมูลจาก https:/

ส่วนตัวผมเองก็ยอมรับว่า คุ้นตากับ Cayenne มากกว่า Macan จริงๆ  และก็เคยคิดเอาไว้ว่าอยากจะลองเทส Cayenne ดูซักครั้ง ส่วนของ Macan ยังไม่ได้นึกถึง ได้แต่มองดูแต่ข้อมูลบนหน้าจอคอมพิวเตอร์ไปก่อน  แต่แล้ววันหนึ่งก็เหมือนฟ้าประทาน ทางเราทีมงาน Autodeft ได้รับเกียรติจากทาง ปอร์เช่ ประเทศไทย โดยบริษัท เอเอเอส ออโต้ เซอร์วิส จำกัด (AAS Auto Service) เชิญไปทำการทดสอบ Porsche Macan Turbo Performance Package รถ SUV ตัวแต่งรุ่นใหม่ ถึงประเทศสิงคโปร์ งานนี้จะพลาดได้อย่างไร ก็รีบตอบตกลงเพื่อเดินทางไปทดสอบรถทันที

หลังจากบินไปไกลกว่า 1,600 กิโลเมตร ผมก็เดินทางมาถึงประเทศสิงคโปร์ พร้อมการต้อนรับอย่างดีจากทีมงานปอร์เช่ สิงคโปร์ หลังจากเข้าที่พักและพักผ่อนเรียบร้อย เช้าวันรุ่งขึ้นก็เป็นคิวที่เราจะได้เริ่มทดสอบ Porsche Macan Turbo Performance Package กันแล้ว โดยวันนี้เรามีนัดกับทาง Karl ตัวแทนของทาง Porsche ที่จะมาทำหน้าที่แนะนำตัวรถ พร้อมกับบรีฟการขับรถในสิงคโปร์ให้กับผมและ Buddy อย่างพี่โรตม์จากนิตยสาร  Maxim ซะก่อน ซึ่งผมคิดเอาเองว่า Karl คงจะได้ยินกิตติศัพท์ของนักขับจากประเทศไทยเป็นอย่างดี ก็เลยเริ่มต้นด้วยแจ้งกฎจราจรในประเทศสิงคโปร์ซะก่อนเลย (ฮ่า) ซึ่งถูกกำชับมาหลายรอบมากว่า อย่าขับเร็วเกินกำหนดจากป้ายเป็นอันขาด (ในเมือง 50-60 กิโลเมตร/ชั่วโมง, ทางหลวงพิเศษ 90 กิโลเมตร/ชั่วโมง) แถมทิ้งท้ายไว้ว่า หลายคนที่ขับเร็วเกินในประเทศสิงคโปร์ มักจะจบที่คุกเสมอ คาดว่าคำนี้คงเป็นไม้ตายของ Karl เลย เล่นเอาผม 2 คนยืนยันแน่นอนว่าจะไม่ให้เกินเด็ดขาด (ใครจะอยากติดคุกต่างประเทศบ้างเล่า)

เมื่อคุยเรื่องกฎหมายจราจรเรียบร้อย ก็มาต่อด้วยรายละเอียดของรถว่าเป็นอย่างไรบ้าง Karl เล่าว่า Porsche Macan เป็นรถยนต์ SUV ที่ขายดีที่สุดในประเทศสิงคโปร์ (ต่างจากเมืองไทยที่เป็น Cayenne) ผมเอามานั่งเดากันต่อกับพี่โรตม์ว่า คนสิงคโปร์น่าจะชอบรถเล็กๆมากกว่า เพราะเป็นประเทศเล็กๆ ที่จอดรถก็คงมีไม่มาก ดังนั้นใช้รถ SUV ที่เล็กกว่าอย่าง Macan น่าจะสะดวกกว่า (แต่น่าจะผิด เพราะรุ่นนี้ขายดีทั้งโลก) ซึ่ง Porsche Macan Turbo Performance Package คันที่เรา 2 คนจะได้ทดสอบในวันนี้ เป็นตัวแต่งเพื่อเพิ่มความแรงและสมรรถนะของรถให้มากกว่าตัว Standard ข้อมูลเบื้องต้นของ  Macan Turbo PP เป็นรถยนต์ Compact  SUV 5 ประตู ที่มีขุมพลังขนาด 3.6 ลิตร V6 พร้อมเบอร์โบ 2 ลูก ผลิตพลังได้ 440 แรงม้า (มากกว่า Macan Turbo รุ่นปกติ 40 แรงม้า) แรงบิดสูงสุด 600 นิวตันเมตร ทำอัตราเร่ง 0-100 ได้ใน 4.4 วินาที ทำความเร็วสูงสุดได้ 272 กิโลเมตร/ชั่วโมง มีโหมดให้เลือกขับขี่ได้ 3 โหมดคือโหมดปกติ, Sport และ Sport Plus ที่นอกจากจะปรับอัตราความแรงของเครื่องยนต์แล้ว ยังมีการปรับช่วงล่างให้อัตโนมัติ เพื่อให้เหมาะสมกับความแรงของเครื่องยนต์ได้อีกด้วย ซึ่ง Karl บอกว่า แนะนำให้ใช้เป็นโหมด Sport หรือ Sport Plus ไปเลย จะได้สัมผัสกับความแรงของเครื่องยนต์ได้ตลอดทาง

หลังจากได้ข้อมูลเบื้องต้นไปแล้ว Karl ก็ชวนเราทั้ง 2 คนไปยลโฉมคันจริงที่จอดอยู่ข้างที่พักทันที สำหรับ Macan Turbo PP ที่จะได้ทดสอบในวันนี้ เป็นสีขาว,ดำ ตัดด้วยแดง แบบวิ่งไปไหนมีแต่คนมองแน่นอน (และมันก็เป็นอย่างนั้นจริงๆ)  เมื่อดูตัวจริงแล้ว ขนาดของ Macan Turbo PP จะเล็กกว่าขนาดของ Porsche Cayenne พอสมควร ด้วยมิติขนาด 1,923 x 4,699 x 1,609 มม. (กว้างxยาวxสูง) ฐานล้อกว้าง 2,807 มม. แต่ก็ถือว่าไม่เล็กซะจนนั่งอึดอัด นั่งสบายเลยทีเดียว มาพร้อมล้อแม็กซ์ลาย 10 ก้าน ขนาด 21 นิ้วพร้อม Brake calipers สีแดงสดใสพะยี่ห้อ Porsche อย่างชัดเจน และอีกจุดเด่นของรถคันนี้ก็คือ หลังคา Sunroof แบบ 2 ชั้น โดยหลังคาด้านนอกเป็นกระจกใสกันแสง และด้านในมีเป็นหลังคาผ้าเพื่อทำการบังแสงให้อีกที สามารถเปิดได้ยาวจนถึงที่นั่งเบาะหลังเลย (แต่วันนี้ฝนตก อดเปิด)  เมื่อเดินรอบคันแล้วก็สตาร์ทรถในทันที อยากบอกว่าเมื่อบิดกุญแจจนเครื่องหมุนปั๊บ เสียงที่ออกมาจากท่อไอเสียทั้ง 4 มันมีความกระหึ่ม ดุดัน แต่ไม่ก้าวร้าว จนสะดุดหูในทันที ซึ่ง Karl บอกว่า เสียงของท่อนี้เป็นเอกลักษณ์เฉพาะของ Macan Turbo PP เลย ติดตั้งเป็น Standard ทุกคัน แต่ถ้า Macan รุ่นอื่นอยากติดบ้างก็สามารถใส่ได้ (แน่นอนต้องเพิ่มเงิน) แล้วตอนขับระหว่างทาง ยูทั้ง 2 จะชอบเสียงมันมากกว่านี้แน่นอน

เส้นทางในวันนี้ปอร์เช่กำหนดให้เรามาทั้งหมด 5 จุด ดูจากแผนที่แล้วก็วนเป็นวงกลมรอบทั้งเกาะสิงคโปร์พอดี โดยในทางไปจุดแรก ต้องทำภารกิจการถ่ายรูปซะก่อน ซึ่งทาง Porsche ก็จัดตากล้องมาให้อย่างดี ซึ่งตามกำหนดการ จะต้องไปถ่ายกันแถวสนามบิน ซึ่งมีชายหาดมุมสวยๆอยู่ แต่โชคร้ายที่วันที่เราทำการทดสอบ ดันเจอฝนกระหน่ำมาแบบไม่ลืมหูลืมตา ระหว่างทางที่ขับไปเจอกับกิ่งไม้หักเป็นระยะ ตากล้องเลยจัดการเปลี่ยนแผน ด้วยการขับรถตีคู่ แล้วถ่ายรูประหว่างขับในอุโมงค์ที่แสนจะยาวมากๆแทน และเมื่อออกมาจากอุโมงค์ ฝนก็ตกเพียงปรอยๆ ตากล้องชื่อ Adrian ชาวสิงคโปร์ก็เลยพาขับแถวๆ Marina Bay เพื่อเก็บรูปกันอีกรอบเป็นอันเสร็จพิธี

จากจุดนี้ก็ฟรีสไตล์ จริงอยู่ว่ามีการกำหนดเส้นทางไว้ให้แล้ว โดยให้เราไปตามเส้นทางที่ Navigator จะนำทางไป แต่ Karl บอกกับเรา 2 คนว่า ยูจะไปไหนก็ได้ ไม่ต้องตามเส้นทางก็ได้ แต่ขออย่างเดียวว่าให้ไปกินอาหารเที่ยงตามร้านที่กำหนดไว้ก็พอ (อ่ะเคร)  จากนั้นเราก็กดไปจุดหมายที่ 2 ในทันทีนั่นก็คือ Kent Ridge Park สวนสาธารณะประวัติศาสตร์ของประเทศสิงคโปร์ ที่สมัยสงครามโลก ชาวสิงคโปร์ใช้จุดนี้เป็นจุดยุทธศาสตร์เพื่อต่อสู้กับศัตรู ซึ่งเส้นทางนี้ทางขึ้นเป็นแบบเลนสวน มีโค้งเยอะพอสมควร เลยแอบกดเข้าโค้งด้วยความเร็วมากกว่ารถคันอื่นๆ (ห้ามถามว่าเท่าไหร่) ซึ่งตอนนั้นขับอยู่ในโหมดสปอร์ต ต้องบอกว่าทุกโค้งที่เข้า แทบหาอาการโยนตัวไม่ได้เลย ทุกโค้งผ่านไปอย่างง่ายดาย ไม่มีอาการเอียงซ้ายเอียงขวา แม้จะเข้าที่ความเร็วเท่าไหร่ก็ตาม (ไม่เกิน 100 แน่นอน) ซึ่ง Macan Turbo PP ถูกเซ็ตมาให้ต่ำกว่ารุ่นปกติ 15 มม. เลยทำให้การเข้าโค้งทำได้ดีอย่างไม่ต้องสงสัย

แวะจุดแรกเรียบร้อย ก็เดินทางไปรับประทานอาหารเที่ยงที่ร้านอาหารสไตล์สแปนิชที่ร้าน La Ventana (แปลว่าหน้าต่าง) ซัดกันไป 1 คอร์สเต็มๆก็เริ่มออกเดินทางต่อ โดยจุดหมายต่อไปคือ Neo Tiew ที่ตอนแรกเราไม่รู้ว่ามันคืออะไร เพราะในใบที่ให้มาไม่ได้บอกไว้ แต่ระยะทางก็ไกลพอสมควร จึงได้มีโอกาสใช้งานเส้นทางหลวงพิเศษ ที่สามารถใช้ความเร็วได้ 90 กิโลเมตร/ชั่วโมง มีบางจังหวะที่แอบลองความแรงของเครื่องยนต์ 440 แรงม้า ด้วยการประคองความเร็วแค่ประมาณ 30 แล้วกดพรวดเดียวให้ขึ้นไปที่ 90 ต้องบอกว่าพรวดเดียวจริงๆ เข็มไมล์ขึ้นเร็วอย่างกับเข็มรอบเครื่อง ถอนคันเร่งแทบไม่ทัน สัมผัสได้ถึงพลังอันสุดยอดใต้ฝากระโปรงที่มีอย่างเกินคาดจริงๆ แต่ก็เท่านั้น เพราะสุดท้ายแล้วความเร็วก็ต้องอย่าให้เกิน 90 กม./ชม. อยู่ดี (เฮ้อ...)

เมื่อไปถึงจุดหมาย ที่นี่ก็คือ Sungei Buloh Wetland Reserve หรือป่าชายเลนของสิงโปร์นี่เอง คิดว่าผู้จัดเส้นทางก็อยากให้เรารู้ว่า ที่ประเทศสิงคโปร์ไม่ได้มีแต่แหล่งท่องเที่ยวที่สร้างเองนะ เป็นแบบธรรมชาติก็มี ตอนแรกก็ชั่งใจอยู่ว่าจะเข้าไปเดินดีไหม เพราะส่วนตัวผมเองก็ไปทริปอาสาปลูกป่าชายเลนก็บ่อยแล้ว แต่เอาน่า ไหนๆก็มาถึงแล้ว เดินดูหน่อยก็แล้วกัน เส้นทางท่องเที่ยวที่นี่ ก็จะเป็นการเดินข้ามไปที่เกาะเล็กๆ แล้วเดินตามเส้นทางไปเรื่อยๆประมาณ 2.5 กิโลเมตร ขาเข้าแรกๆก็เจอป้าย “ระวังจระเข้” ก่อนเลย เอาล่ะสิ เอายังไงดีหว่า แต่ก็ทำใจดีสู้จระเข้ เดินกันต่อไป แต่บอกตรงๆครับว่าเดินไม่มีความสุขเลย ระแวงอยู่ตลอดเวลา หลังจากเดินไปจนครบรอบแล้ว ก็ไม่ได้มีอะไรน่าสนใจซักเท่าไหร่ แล้วก็แอบบ่นในใจว่า มันจะเตือนเรื่องจระเข้ทำไม ไม่เห็นจะมีเลย แต่เมื่อเดินข้ามสะพานกลับแผ่นดินเท่านั้นแหละ พวกมากันเป็นฝูง กระจายอยู่รอบๆท้องน้ำเลย แถมพวกปล่อยให้อยู่ตามธรรมชาติอีก มิน่าล่ะทำไมถึงมีป้ายเตือนไว้ เมื่อจบภารกิจแล้ว ก็เดินกลับสู่รถ ควบไปยังจุดสุดท้ายเลย

จุดสุดท้าย ปลายทางก็คือ Punggol Settlement ศูนย์รวมร้านอาหารทะเลที่อยู่ริมทะเล ห่างจากจุดที่เราอยู่ประมาณ 27 กิโลเมตร เช่นเคย เราขับ Macan Turbo PP ไปอย่างเคารพกฎจราจรเต็มที่ (อึดอัดโคตร) จนไปถึงจุดเป้าหมาย เดินเล่นซักพักก็กลับ เพราะร้านอาหารก็ยังไม่เปิด เลยตัดสินใจเดินทางกลับที่พักดีกว่า หลังจากออกมาได้นิดเดียว เราเห็นว่าถนนตรงนี้ไม่มีรถวิ่ง เราเลยขออนุญาต (เอาเอง) เพื่อทดสอบสมรรถนะของรถบางอย่าง เริ่มต้นจากขับที่ความเร็วราว 60 กิโลเมตร/ชั่วโมง พื้นเปียกเล็กน้อยจากฝนที่ตกนิดหน่อย จากนั้นผมก็ทำการกระทืบเบรกแบบสุดเท้า ในเวลาไม่น่าถึง 2 วินาที รถยนต์หยุดนิ่งสนิทแบบไม่มีอาการเป๋แต่อย่างไร ระยะเบรกไม่น่าจะเกิน 15 เมตร ถือว่ามั่นใจได้อย่างเต็มที่ถ้าเจอสถานการณ์ที่ฉุกเฉิน เมื่อรถนิ่งสนิท ก็จัดการเปลี่ยนเป็นโหมด Sport Plus แล้ว ย่ำคันเร่งแบบสุดเท้าไปอีกรอบ เพื่อสัมผัสอัตราเร่ง 0-100 ใน 4.4 วินาทีว่าเป็นอย่างไร โห พลังระดับ 440 แรงม้านี่มันช่างแรงแบบเร้าใจจริงๆ เพียงอึดใจเดียวเข็มไมล์ก็พุ่งพรวดขึ้นไปแตะกับเลข 100 ได้อย่างรวดเร็ว ถอนคันเร่งแตะเบรกแทบไม่ทัน ถือว่า Porsche Macan Turbo Performance Package เขาไม่ได้โม้จริงๆ

หลัง 1 วันผ่านไปไวเหมือนโกหก ก็ถึงเวลาที่ผมต้องบอกลา Macan Turbo PP คันนี้แล้ว กับระยะทางราว 130 กิโลเมตร แถมเป็นประสบการณ์ขับขี่ที่ประเทศสิงคโปร์ครั้งแรก ถือเป็นประสบการณ์การขับรถที่ดีมาก เสียดายอย่างเดียวว่าเราไม่มีโอกาสได้ทดสอบความแรงของเครื่องยนต์อย่างเต็มที่ ถ้าเป็นทีเมืองไทยคงจะได้เอาไปลงทดสอบที่สนามแข่งอย่างพีระเซอร์กิตดูหน่อย จะได้รู้ว่าของมันแรงได้ขนาดไหน แต่ก็ถือว่า ภาพรวมการขับขี่เป็นอะไรที่ประทับใจอย่างมาก ทั้งความสะดวกสบายในการขับขี่ ความแรงของเครื่องยนต์ และอื่นๆที่ไม่สามารถพรรณนาได้หมด แอบกระซิบถาม Karl ว่า ค่าตัวของ Porsche Macan Turbo Performance Package ในสิงคโปร์ราคาเท่าไหร่ Karl บอกว่า 450,000 ดอลลาร์สิงคโปร์ เอาคูณ 25 เข้าไปก็ตกประมาณ 11,250,000 ล้านบาทเท่านั้นเอง ซึ่ง Karl บอกอีกว่า ถ้ายกเข้าไปที่เมืองไทยก็น่าจะประมาณนี้ เพราะภาษีทั้ง 2 ประเทศใกล้เคียงกัน แต่อย่างไรก็ตามให้ลองถามกับทาง ปอร์เช่ ประเทศไทย โดย เอเอเอส ออโต้ เซอร์วิส (AAS Auto Service) โดยตรงเลยดีกว่าครับ

หลังจากจบทริปการทดสอบรถยนต์ครั้งแรกที่สิงคโปร์ ต้องขอขอบคุณทาง ปอร์เช่ ประเทศไทย โดยบริษัท เอเอเอส ออโต้ เซอร์วิส จำกัด (AAS Auto Service) ที่ให้เกียรติเชิญทีมงาน Autodeft ให้มาทดสอบ Porsche Macan Turbo Performance Package  แถมยังให้การต้อนรับขับสู้เป็นอย่างดี สุดท้ายนี้แอบนึกขึ้นมาได้ว่าถ้ามีเงินล้นฟ้า จะขอแอบมาสร้างสนามทดสอบรถที่รองรับความเร็วได้ระดับ 200 กม./ชม. ขึ้นไปที่นี่ซักหน่อย น่าจะมีคนเข้ามาใช้บริการเยอะน่าดู เพราะเจ้าของรถยนต์ซูเปอร์คาร์ที่สิงคโปร์ก็มีไม่น้อย น่าจะอยากลองความแรงของรถยนต์ตัวเองกันดูมั่งนะครับ (ตื่นๆ)

ขมภาพทั้งหมดของ Porsche Macan Turbo Performance Package ที่นี่

เรียบเรียงโดย Earthpark02

ติดตามข่าวสารยานยนต์ รวดเร็วก่อนใคร ได้ที่ Autodeft.com