Full Review : TATA Xenon 150NX-Plore 4WD กระบะแดนโรตี ดีทั้งแกร่ง เด่นทั้งลุย

อินเดียนับประเทศที่มีความโดดเด่นในอุตสาหกรรมหลายแขนง รวมถึงอุตสาหกรรมยานยนต์จากความเชี่ยวชาญในการพัฒนาตอบสนองคนในประเทศด้วยจำนวนกว่า 8 ล้านคัน ที่วิ่งบนท้องถนนอินเดีย จนก้าวเข้ามาสู่ยานยนต์เพื่อคนทั้งโลกและติดอันดับต้นๆ ยานยนต์เพื่อการพาณิชย์โลก คงจะเป็นใครไปไม่ได้นอกจาก TATA Motors

สำหรับเมืองไทย TATA Motors เข้ามามีบทบาทในวงการรถเพื่อการพาณิชย์ปูทางรุ่นแรกด้วย TATA Xenon รถกระบะที่ได้รับการตอบรับจากบรรดาเจ้าของกิจการระดับร้อยล้านที่อยากได้รถแข็งแกร่ง เด่นในการบรรทุก ทนทานในเรื่องเครื่องยนต์กลไล เพื่อเป็นกุญแจไปสู่ความสำเร็จในธุรกิจ

เริ่มแรก ออกจำหน่ายในรุ่นเครื่องดีเซล 2.2 ลิตร 140 แรงม้า เด่นด้วยช่วงล่างยกสูงตั้งแต่เกิด จนหนึ่งปีให้หลัง สร้างความฮือฮาด้วยการแนะนำรุ่นก๊าซธรรมชาติ CNG 100 % ประกอบจากโรงงาน ท่ามกลางสถานการณ์น้ำมันแพงแต่สามารถสร้างการตอบรับและความมั่นใจให้กับผู้ประกอบการ เจ้าของธุรกิจได้ระดับหนึ่ง ยังแนะนำกระบะพื้นเรียบเปิดได้ทั้ง 3 ด้าน และรุ่นเพลาลอย Heavy Duty เพื่องานบรรทุกหนัก และช่วงปีกลาย TATA นึกสนุกอยากตอบโจทย์กลุ่มรักการผจญภัยและท่องเที่ยวที่อยากได้กระบะเด่นทั้ง สมรรถนะเด่น ตะลุยได้ทุกที่ แถมไม่แคร์สื่อ จึงเป็นที่มาของ TATA Xenon 150NX-Plore 4WD ในร่างรถกระบะ 4 ประตู 

การพบกันอีกครั้งกับกระบะจอมลุยจากแดนโรตี ยังคงใช้บอดี้เดิม แต่ปรับสีสันให้ทันสมัย ด้วยกระจังหน้าแนวนอน 3 ชั้น ตกแต่งเข้มด้วยสีดำ ไฟหน้าตราเพชรแบบมัลติรีเฟล็กเตอร์ส่องสว่าง ชัดเจน พร้อมไฟตัดหมอกพิเศษไฟส่องสว่างเวลากลางวัน DRL เสริมความสปอร์ตด้วยชุดแต่งกันชนหน้าที่เพิ่มตัวตนความหล่อเหลาขึ้น และสเกิร์ตข้างเพิ่มความสปอร์ตอย่างลงตัว แต่ว่าทำไมไม่ใส่บันไดข้างมาด้วย เพราะรถกระบะยกสูง จำเป็นต่อการขึ้น-ลงเป็นอย่างมาก

ด้านข้างได้กระจกมองข้างสีเดียวกับตัวรถเติมความเร้าใจให้เข้ากับชีวิตลุย ราวหลังคา สปอร์ตบาร์ตกแต่งเท่ไม่แพ้ใคร แต่จุดเด่นที่น่าชื่นชมอย่างยิ่งนั่นคือ โป่งซุ้มล้อขึ้นรูปเป็นเอกลักษณ์ช่วยให้ตัวรถดูดี แต่ สติ๊เกอร์ข้างประตูออกลวดลายมาชวนให้นึกถึงรถกระบะในยุค 90 ขึ้นมาพร้อมล้ออัลลอย 5 ก้าน ขนาด 16 นิ้ว 6.5JX16 ปรับดีไซน์ให้สมาร์ทในยามออนโรดกับออฟโรด พร้อมยางขนาดใหม่ 235/70R16 จากยาง GoodYear Wrangler HP ด้านท้ายมาพร้อมชุดไฟท้าย กับไฟตัดหมอกหลัง ไลเนอร์ปูกระบะจากโรงงาน ที่เปิดฝากระบะท้ายกับกันชนหลัง สีเดียวกับตัวรถ สะดวกในการขึ้น-ลงขนของ 

ตัวตนรถกระบะ TATA Xenon 150NX-Plore 4WD พร้อมทุกการใช้งาน มากับมิติตัวรถ ที่อาจใกล้เคียงกับผู้เล่นที่อยู่ในตลาดมานาน เริ่มจากความยาว 5,125 มม. ความกว้าง 1,860 มม. ความสูง 1,765 มม. ฐานล้อ 3,150 มม. ความสูงจากพื้น 210 มม. มิติกระบะภายใน เริ่มที่ความยาว 1,430 มม. ความกว้าง 1,410 มม. ความสูง 405 มม. และความจุถังน้ำมัน 65 ลิตร

 

ทันสมัยกับเขาเหมือนกัน ด้วยกุญแจรีโมทแบบ Integrated Key ที่รวมรีโมทสั่งล็อคประตูกับกุญแจไขไว้ในดอกเดียวกัน สำหรับการขึ้นลงอาจจะลำบากนิดหน่อย เพราะขาดทั้งบันไดข้าง กับ ราวมือจับตรงบริเวณสา A แต่อย่างน้อยก้าวเข้ามาตำแหน่งคนขับแล้ว กลับได้ความดุดัน แฝงด้วยความหรูหรา ด้วยห้องโดยสารสีดำ-เทา เบาะนั่งทรงใหญ่โตหุ้มด้วยผ้าสีดำ-เทา ทูโทนพร้อมลายน่าเกรงขามมากขึ้น กับที่วางแขน 2 ฝั่ง เมื่อได้นั่งแล้วรู้สึกค่อนข้างโอบกระชับแต่ตำแหน่งเบาะอาจเตี้ยไปหน่อยซ้ำร้ายไม่มีตัวปรับระดับสูงต่ำสำหรับเบาะคนนั่ง แต่กลับได้ ปุ่ม Lamba Support ช่วยลดการเมื่อยล้าในการเดินทางให้สบายขึ้น ส่วนเบาะหลัง ตัวเบาะนั่งค่อนข้างสบาย แต่หัวหมอนเป็นแบบ Fix ตายตัว ไม่สามารถปรับขึ้น-ลง ทำให้มีอาการอืดอัดบ้าง เมื่อพับเบาะตอนสองลงก็จะเป็นที่สิงสถิต เหล่าบรรดาเครื่องมือประจำรถ ทั้งก้านเหล็ก และแม่แรงยกรถ

แผงหน้าปัดยังคงดีไซน์เดิมจากรุ่นก่อนที่เน้นความเรียบง่าย แต่ใหม่ด้วยโทนสีดำตกแต่งสีเงินตองช่องแอร์ คอนโซลกลาง และแผงประตู พร้อมที่เปิดประตูโครเมี่ยม ช่วยเรียกความหรูหราขึ้นมาเป็นกอง พวงมาลัย 3 ก้านดีไซน์ใหม่หุ้มหนังแท้ติดตั้งถุงลมนิรภัย SRS สามารถปรับระดับสูง-ต่ำ ได้ แต่ว่าการจัดวางตำแหน่งคอพวงมาลัยกลับ คล้ายรถตู้ หรือรถบรรทุกเล็ก ซึ่งพิสดารกว่าชาวบ้านพอสมควรแต่ภาพรวมก็ยังใช้งานได้ดีในระดับหนึ่งมีนาฬิกาบอกเวลาเป็นดิจิตอลในคอนโซลกลาง แถมมีเครื่องเล่น DVD พร้อมระบบนำทาง แบบ 2 DIN จาก Blaupunkt พร้อมลำโพง 4 ตัว โดยให้ข้อมูลแผนที่ค่อนชัดเจนไม่ผิดพลาด 

พร้อมแผงสวิตช์เครื่องปรับอากาศใหม่ แต่สิ่งหนึ่งจะเรียกว่าเป็นเอกลักษณ์หรือใช้คำว่าโบราณก็เป็นได้ตรงที่ สวิตช์กระจกไฟฟ้า ทั้ง 4 บาน อยู่หลังคอนโซลเกียร์ซึ่งคู่แข่งระดับเดียวกันจะอยู่ที่แผงประตูคนขับเกือบทุกยี่ห้อ โดยเฉพาะบานคนขับจะปรับลงแค่ Auto เท่านั้น แต่สวิตช์กระจกมองข้างอยู่ที่แผงประตูคนขับจะทำได้แค่ปรับไฟฟ้า ด้ามเกียร์ ดีไซน์แบนและหนาอาจสร้างความอึดอัดในการจับ แต่ได้ความดีตรงที่สวิตช์เปิดฝากระโปรงหน้าพร้อมสวิตช์เปิดฝาถังน้ำมันออกแบบใหม่ กลมกลืนใต้แผงหนาปัดจากเดิมเป็นก้านดึงพลาสติกที่เขาว่ากันว่าดึงทีเสียวจะหัก แต่อย่างน้อย TATA ติดตั้ง สวิตช์ปิดการทำงานของถุงลมนิรภัยด้านข้าง ในกรณีที่เจ้าของรถติดตั้งที่นั่งเด็กเสริมไว้ถือว่าสนใจและใส่ใจในจุดนี้ด้วยเช่นกัน

ความประณีตภายในห้องโดยสารจัดอยู่ในเกณฑ์พอใช้ได้ แต่สิ่งที่อาจสร้างความรำคาญให้กับผู้ใช้รถนั่นคือ การเก็บเสียง ในช่วงความเร็วเข้า 90 กม./ชม.เป็นต้นไป กลับได้ยินเสียงของเครื่องยนต์และเสียงการทำงานของ Turbo ตลอดเวลา รวมถึงคุณภาพในการประกอบรถที่พบบางจุดยังหละหลวมอยู่ แต่ถ้าผู้ใช้รถเสพติดความแรงเป็นชีวิตจิตใจ มีสิทธิ์ออกอาการเปรมอุราทันที เพราะมันเป็นเสียงสวรรค์กระตุ้นความสนุกในการขับขี่ ถึงแม้รถกระบะรุ่นนี้จะเน้นการใช้งานลุยเป็นหลัก

รูปลักษณ์ภายนอก-ภายใน อาจผสมผสานระหว่างความร่วมสมัย กับ ความอนุรักษ์นิยมไปหน่อยแต่ เมื่อมาเปิดดูข้อมูลเพิ่มเติมจะพบว่า ขุมพลังเครื่องดีเซลที่มาประจำการ มีความทันมสมัย ทัดเทียมกับผู้เล่นหลายค่าย กับเครื่องดีเซลเทอร์โบแปรผันขนาด 2.2 ลิตร  VTT Dicor 4 สูบ แต่ให้แรงมากขึ้นเป็น 150 แรงม้าที่ 4,000 รอบ/นาที แรงบิดเท่าเดิม 320 นิวตันเมตร แต่ปรับ Flat Torque ใหม่เป็น 1,500-3,000 รอบ/นาที จากเดิมเป็น 140 แรงม้าที่ 4,000 รอบ/นาที แรงบิด 320 นิวตันเมตรที่ 1,700-2,700 รอบ/นาที อีกหนึ่งของเล่นที่ต้องชมเชยสำหรับ TATA Xenon 150NX-Plore 4WD  ไฟส่องสว่างห้องเครื่องติดตั้งในตำแหน่งเดียวกันกับฉนวนกันความร้อนในฝากระโปรง ตรงนี้ได้ใจไปอีก เพราะสามารถส่องสว่างในเวลารถมีปัญหาและอยู่ในท่ามกลางถนนมืดไม่มีไฟส่องสว่างข้างทาง

พร้อมระบบเกียร์ธรรมดา 5 สปีด ที่ TATA เคลมว่าใช้เกียร์ลูกใหม่ในรหัส GBS-76MK-II กับอัตราทดเกียร์ที่ปรับใหม่ โดยเฉพาะ เกียร์ 5 กับเกียร์ถอยหลัง และอัตราทดเฟืองท้ายใหม่ เพื่อเรียกพลังให้จัดจ้านในยามเร่งแซงและยามลุยบนทางหฤโหด แต่อัตราทดเกียร์ 1-4 ยังคงเช่นเดิม เริ่มจาก 

เกียร์ 1 = 4.10
เกียร์ 2 = 2.22
เกียร์ 3 = 1.37
เกียร์ 4 = 1.00
เกียร์ 5 = 0.73 (0.77)
เกียร์ถอยหลัง = 4.22 (3.75)
 

อัตราทดเพืองท้าย 4.10 (3.73)  

*วงเล็บ=เมื่อเทียบกับอัตราทดเกียร์ลูกเดิม

 

กล่าวสรรพคุณเรื่องตัวรถสเปคกันมามากพอแล้ว มาถึงอารมณ์หลังพวงมาลัยกับการควบเจ้ากระบะจากแดนโรตี ด้วยเครื่องดีเซลที่พัฒนาด้านแรงม้า และรอบเครื่องยนต์ Flat Torque ใหม่ ถึงแม้จะเล่นรอบสูงในช่วงความเร็ว แต่กลับให้ความคล่องตัวในการใช้งานแรงต่อเนื่องตามตัวมันเอง เร่งแซงทำความเร็วค่อนข้างประทับใจ การเปลี่ยนเกียร์ในแต่ละความเร็ว ราบรื่น นุ่มนวลไม่กระตุก พร้อมคลัตช์ที่เซ็ตมาครั้งนี้น้ำหนักในการเหยียบอยู่ในเกณฑ์ระดับกลางๆไม่ถึงหนักมาก ก็ตาม 

การบริโภคน้ำมันของเจ้ากระบะโรตีรายนี้ สร้างความว้าวไม่แพ้ใคร ด้วยตัวเลขจาก Bonn Test Mode ทำได้ 14.50 กม./ลิตร จากระยะทางรวม 70.4 กม. และจัดน้ำมันดีเซลเต็มถังจากปั้ม PTT Crystal 4.854 ลิตร และใช้ความเร็วไม่เกิน 120 กม./ชม. ตามสภาพการใช้งานจริง ส่วนการใช้งานในเมือง ก็ว้าวอีกเช่นกัน ทำได้ 12.58 กม./ลิตร นับว่าเป็นตัวเลขสิ้นเปลืองสามารถอยู่ในระดับต้นๆ 

ระบบช่วงล่าง ด้านหน้าแบบอิสระปีกนกคู่พร้อมทอร์ชั่นบาร์และเหล็กกันโคลง ส่วนด้านหลังเป็นแหนบแผ่นซ้อนแบบทรงโค้งคว่ำ ต้องออกตัวเลยว่าอาจจะโบราณกว่าใครเขาตรงที่ยังใช้ทอร์ชั่นบาร์ (ขณะที่คู่แข่งใช้ระบบคอยล์สปริง) แต่ทาง TATA กลับให้คำตอบว่า เพื่อเน้นความทนทานแต่ต่อยอดในการอัพเกรดช่วงล่างออฟโรดได้อย่างสบาย  แถมยังให้ความนุ่มนวลได้ดีแม้จะแข็งกระด้างไปบ้าง เมื่อมาเข้ากับยาง จากแบรนด์ดัง GoodYear Wrangler HP ขนาด 16 นิ้ว ส่งผลให้การเกาะถนนกลับทำผลงานดีแบบน่าพอใจ

 

ทางลุย ทางโหด โดดเด่น สมราคาคุย

เมื่อเป็นกระบะขับเคลื่อน 4 ล้อ ระบบขับเคลื่อน ก็เป็นส่วนสำคัญที่จะนำพาความสนุก ความเข้มข้น เกิดขึ้นในทุกเส้นทางโหด ด้วย ระบบขับเคลื่อน 4 ล้อ 4WD เป็น Part-Time ระบบ Shift-On-The-Fly ปรับเปลี่ยนขับ 2H เป็น 4H หรือ 4H เป็น 2H ได้โดยไม่ต้องหยุดรถ (ความเร็วในการปรับเปลี่ยนไม่เกิน 80 กม./ชม.) แต่ถ้าจะเปลี่ยนมาใช้ 4L ต้องหยุดรถก่อนไม่ว่าจะเปลี่ยนเป็น 4H หรือ 4L สัญญาณไฟเตือนที่แผงมาตรวัดจะทำงานตลอดเวลา เพื่อให้คนขับทราบว่าเข้าะระบบขับ 4 เป็นที่เรียบร้อยแล้ว

ตำแหน่งสวิตช์การทำงานระบบขับ 4 จะอยู่บริเวณใต้คอนโซลด้านเข่าขวาคนขับ เป็นปุ่มเลื่อนเล็กๆ ซึ่งอาจลำบากหน่อยในการปรับเปลี่ยน พ่วงด้วย ระบบลิมิเต็ดสลิป Limited Dift Lock กันเรื่องลดหมุนฟรีของล้อ เสริมกำลังเครื่องผ่านทุกอุปสรรค

การใช้งาน ในทางโหด โดยเฉพาะทาง ขึ่น-ลง ทางชัน ใช้ระบบ 4L ผสม Walking Speed แบบไม่ต้องวุ่นวายกับคันเร่งมากปล่อยให้เครื่องยนต์จัดการเอง ปรากฎว่าผลงานในด้าน Walking กลับทำผลงานได้เยี่ยม หรือบางทีอาจเติมคันเร่งไปบ้างก็ให้การตอบสนองได้ต่อเนื่องเป็นต่อ ไม่เป็นรอง ในช่วงลงเนินก็ใช้ระบบ Engine Brake เข้ามา คือไม่ต้องเหยียบเบรคลงปล่อยให้เครื่องยนต์จัดการเองโดยค่อยๆคลานลงมาแบบช้าๆ ส่วน 4H สมน้ำสมเนื้อ เช่นกัน เหมาะกับเส้นหินดินทราย

ระบบพวงมาลัยก็เป็นส่วนสำคัญ และต้องการให้ผู้ใช้รถเสียค่าใช้จ่ายน้อย TATA Xenon 150NX-Plore 4WD ยังใช้ระบบพวงมาลัยแบบลูกปืนหมุนวน หรือ บอลแอนด์นัท จุดเด่นที่ความทนทานตลอดการใช้งานและน้ำหนักพวงมาลัยอยู่ในเกณฑ์ปานกลาง คือเบากับหนักเท่าๆกัน แต่มีระยะฟรีอยู่พอสมควร

หลังจบการใช้งานโหดๆในระบบขับ 4 ล้อ ปิดท้ายด้วยอัตราเร่งในโหมด Performance Test ด้วยอัตราเร่ง 0-100 กม./ชม.จากกำลังเครื่อง 2.2 ลิตร 150 แรงม้า แรงบิด 320 นิวตันเมตร สามารถทำได้เพียง 14.32 วินาที ส่วนระบบห้ามล้อเป็นดิกส์เบรกในล้อหน้ากับดรัมเบรกในล้อหลังพร้อมระบบเบรก ABS และระบบกระจายแรงเบรก EBD กลับทำผลงานการเบรกได้ค่อนข้างทันใจ

สรุป……..กระบะจอมลุยควงค่าตัวที่ถูกกว่า พร้อมแล้วที่จะเปิดโลกการผจญภัยอย่างท้าทาย

นับเป็นการตัดสินใจในการต่อยอดทางเลือกให้กับกลุ่มเจ้าของกิจการ กับ กลุ่มรักการเดินทางผจญภัย สำหรับ TATA Xenon 150NX-Plore 4WD ที่มาในร่างกระบะ 4 ประตู พร้อมด้วยชุดแต่งกับไฟส่องสว่าง LED Daytime เทียบเท่ากระบะเจ้าอื่นๆ ได้อย่างสมเกียรติ์ ถึงขาดรายการจำเป็นอย่างบันไดข้างกับ มือจับเสา A พร้อมภายในกับออฟชั่นจำเป็นๆ ทั้ง พวงมาลัยพาวเวอร์ เครื่องเล่น DVD-Navi เครื่องปรับอากาศเย็นฉ่ำ พร้อมของเล่นที่คนอื่นเขาไม่มองกัน ทั้งกุญแจปิดการทำงานถุงลมนิรภัยด้านผู้โดยสาร กับ ไฟส่องสว่างห้องเครื่อง กลับเสริมจุดเด่นให้น่ามองยิ่งขึ้น และไม่คิดว่าจะกล้าให้ของเล็กๆน้อยให้

การเก็บเสียง ที่ยังต้องปรับปรุงให้เสียเงียบขึ้น และบุให้หนาขึ้น พร้อมการประกอบที่ต้องดีขึ้นกว่าครั้งก่อน แต่การได้ยินเสียงเครื่องกับ Turbo ทำงานตลอดเวลา เป็นสิ่งที่คนหัวใจซิ่งชอบเป็นทุนเดิม ถึงขั้น มีทีมรถแข่ง 4WD ทีมหนึ่งจับ TATA Xenon ดัดแปลงเป็นรถแข่งเพื่อเข้าร่วมการแข่งขันออฟโรดระดับในประเทศและเอชียในปีนี้

ขุมพลังเครื่องดีเซล 2.2 ลิตร ปรับพลังใหม่ พร้อมเกียร์ธรรมดา 5 สปีดลูกใหม่ ทดกำลังให้สูงขึ้นเพื่องาน Off-Raod สร้างความประทับใจ ทั้งการคิ๊กดาวน์เร่งแซงค่อนข้างประทับใจ ถึงแม้รอบเครืองยนต์จะแปลกกว่าชาวบ้าน พร้อมจังหวะปลี่ยนเกียร์ ราบรื่น ในยามลุยออฟโรดพร้อมช่วงล่างปีกนกกับทอชั่นบาร์ที่ขึ้นชื่อในความทนทาน ทรหด ถึงแม้ออนโรดอาจด้อยกว่าคู่แข่งในด้านเร่งแซงก็ตาม

ตารางแสดงอัตราการทำงานของเครื่องยนต์

ความเร็วที่ขับขี่ (ก.ม./ช.ม.)	รอบเครื่องยนต์
90	1,900
100	2,100
110	2,300
120	2,500

 

อัตราสิ้นเปลืองน้ำมันที่ 14.50 กม./ลิตร กับน้ำหนัก ที่คาดว่าราวๆ ตันกว่าๆ เกือบสองตัน ก็สร้างตัวเลขได้ดีงามและใกล้เคียงเจ้าอื่นๆ พร้อมระบบขับสี่ ที่โดดเด่นไม่แพ้ใคร เพิ่มคะแนนความสนใจมากขึ้นสำหรับคอลุยที่ต้องใช้สมบุกสมบันเป็นสองเท่า

พร้อมระบบความปลอดภัย ทั้งระบบบเบรก ABS,EBD และถุงลมนิรภัยคู่ พร้อมค่าตัวที่ถูกกว่าเจ้าอื่นๆ จึงเป็นอีกทางเลือกที่หาไม่ได้แล้ว และข่าวดีจะเสริมรุ่นเกียร์อัตโนมัติกับอัฟเกรดข้าวของอำนวยความสะดวก ทั้งเบาะหนัง พวงมาลัยมัลติฟังก์ชั่น แผงมาตรวัดเรืองแสง ฯลฯ ที่สำคัญมีการขึ้นโครงสร้างตัวรถด้วยเทคโนโลยีใหม่ตอบโจทย์การขับขี่ที่นุ่มนวลและเกาะถนนอย่างมั่นใจขึ้น ไม่นานเกินรอ สำหรับ TATA Xenon 150NX-Plore 4WD

 

 

เรื่องและขับทดสอบโดย สุกิจ เลิศธนะแสงธรรม  (นายเต้ย)

 

ขอขอบคุณ บริษัท ทาทา มอเตอร์ (ประเทศไทย) จำกัด ที่เอื้อเฟื้อรถกระบะ TATA Xenon 150NX-Plore 4WD มาให้ทีมงาน  Autodeft.com

 

รถทดสอบ   TATA Xenon 150NX-Plore 4WD 4 ประตู  ราคาจำหน่าย 734,900 บาท (พิเศษ!! 709,900 บาท )

 

สิ่งที่ชอบ >>> ชุดตกแต่งกันชนหน้าเพิ่มความหล่อเหล่าขึ้นมา รวมถึงค่าตัวที่ไม่แพงมากกับออฟชั่นที่ให้มาอย่างครบครันและสมรรถนะในด้านออฟโรดเด่นจนเทียบชั้นผู้เล่นรายสำคัญได้ และของเล็กๆน้อยๆทาง TATA Motors ยังใส่ใจ ทั้ง กุญแจปิดการทำงานถุงลมนิรภัยด้านผู้โดยสาร กับ ไฟส่องสว่างห้องเครื่อง

 

สิ่งที่ไม่ชอบ >>> ตำแหน่งเบาะนั่งอยู่ในระดับต่ำ และสวิตช์การทำงานระบบ 4WD กลับอยู่ในตำแหน่งใต้ช่องแอร์ฝั่งคนขับทำให้ลำบากในการปรับเปลี่ยน และการที่ไม่มีบันไดข้างกับราวมือจับบริเวณเสา A กลับเป็นอุปสรรคในการขึ้นลง และขาดกล้องมองหลังสำหรับถอยจอด

 

สิ่งที่อยากให้มี >>> อยากให้เพิ่ม 4 ประตูขับสี่ รุ่นพื้นฐานไร้ชุดแต่งทั้งคัน เพื่อเป็นทางเลือกสำหรับการเจาะกลุ่มฐานลูกค้าขนาดใหญ่ หรือ Fleet

 

คำแนะนำสำหรับผู้ซื้อ >>> ถ้าไม่คิดมากในเรื่องจำนวนโชว์รูมศูนย์บริการกับโนฮาวน์เทคโนโลยีย้อนยุคเมื่อ 10-20 ปี และความทนทานจากช่วงล่างทอชั่นบาร์ กับระบบขับ 4 ที่ไม่ด้อยกว่าใครกระบะจากแดนโรตีรายนี้มีความน่าสนใจไม่แพ้กัน 

ติดตามข่าวสารยานยนต์ รวดเร็วก่อนใคร ได้ที่ Autodeft.com