Full Review : 2016 Subaru forester 2.0 ip (CkD) … ลูกไก่เจ้าป่า

ทุกวันนี้รถยนต์อเนกประสงค์ ถือเป็นรถยนต์ที่ได้รับความนิยมอย่างต่อเนื่อง โดยเฉพาะอย่างฟังชั่นการใช้งานที่ครบครัน ความเหมาะสมต่อวิถีชีวิตคนที่เปลี่ยนไปตามสภาพสังคม และ เศรษฐกิจ รถยนต์ต้องคุ้มค่า และยังต้องมีความสามารถอันหลากหลายด้วย

พูดถึง   Subaru  เราอาจจะนึกถึงรถยนต์นั่งขาแรงสมรรถนะสูงเจ้าถนน ในนาม  WRX   มากกว่ารถยนต์อเนกประสงค์ แต่  Subaru  เองก็ไม่ได้เป็นค่ายรถยนต์ที่เอาดีทางด้านรถเก๋งเพียงอย่างเดียว พวกเขาผลิตรถยนต์อเนกประสงค์มานานแล้ว  เพียงแต่เราไม่ค่อยสนใจ เนื่องจากราคาจำหน่ายค่อนข้างแพง การเป็นตัวเลือกจึงตกไป แต่การปรับกลยุทธ์ผลิตภัณฑ์ ด้วยการนำรถยนต์จากโรงงานในภูมิภาคบ้านใกล้เรือนเคียงมาเลเซีย บวกกับการใช้มาตรการทางภาษี ทำให้รถยนต์   Subaru Forester   ใหม่ เป็นรถยนต์ที่คุ้มค่าและมีราคาที่สู้คู่แข่งได้ในที่สุด ด้วยออพชั่นที่คุ้มค่ามากกว่า

การเปิดตัวไปหมาดๆ เมื่อช่วงมอเตอร์โชว์ที่ผ่านมา  Subaru Forester   กลายเป็นตัวเลือกที่น่าสนใจ แม้ราคาอาจจะต้องยอมรับว่าแพงกว่าคู่แข่ง แถมยังปรับขึ้นอีกนิดหน่อยแทนที่จะปรับลดลงตามที่เคยมีการพูดถึงก่อนหน้า แต่ฟังชั่นที่ให้มาก็ครบเครื่องพร้อมสรรพในการใช้งาน

เจอหน้าค่าตาคราวนี้ ยอมรับว่า   Subaru  Forester   เปลี่ยนไป ภาพลักษณ์ที่ดูเชยระเบิดในรุ่นดั้งเดิม จากเส้นสายการออกแบบก่อนหน้านี้ถูกขัดเกลาใหม่ให้ลงตัวมากขึ้น ความจริงแล้ว   Subaru  ก็ไม่ได้ทำอะไรมากมาย พวกเขาแก้เกมง่ายๆ ด้วยกระจังหน้าใหม่ ดูแล้วมีความลงตัวมากขึ้นในสไตล์ที่ดูสปอร์ต กระจังหน้าแบบนี้ผมจำได้ว่าคล้ายที่อยู่ใน   Forester   รุ่นเครื่องยนต์เทอร์โบดั้งเดิม แต่ด้วยลักษณะตัวช่องใหม่ เมื่อผสานกันชนหน้าที่ยกกมาจากรุ่นเทอร์โบเช่นกัน ทำให้ดูดีขึ้น

ไฟหน้าแบบ   Projector มาพร้อมระบบ Steering Responsive Headlight เหลือกตาได้ซ้าย-ขวา ยามบิดพวงมาลัยบังคับทิศทาง  และ  ไฟยามขับขี่กลางวัน   Daytime Running   light เสริมภาพลักษณ์ความทันสมัยมากขึ้นหลายขุม

ส่วนด้านข้าง   Subaru Forester 2016   เปลี่ยนแปลง ด้วยล้ออัลลอย 17  นิ้ว สีทูโทนมาพร้อมยางขนาด   225/60/R17   จาก  Continental   เสริมตัวตนความสปอร์ตยิ่งขึ้น เรื่องตอบโจทย์การใช้งานก็จัดราวหลังมาให้พร้อมติดตั้งกล่องเก็บของอเนกประสงค์

ด้านหลังจัดการเปลี่ยนไฟท้ายใหม่ ตลอดจนในรุ่นท๊อป ที่เรานำมาขับทดสอบในวันนี้ ยังให้ประตูท้ายเปิด-ปิด ด้วยไฟฟ้าติดปลายนวม มาอำนวยสะดวกสบาย แต่มันทำงานค่อนข้างช้าเล็กน้อย และแน่นอนว่า ถ้าคุณตั้งใจจะใช้รถคันนี้ในระยะยาวอาจจะต้องเตรียมงบประมาณไว้สำหรับซ่อมแซมสิ่งอำนวยความสะดวกชิ้นนี้

เปิดประตูสู่ห้องโดยสาร  Subaru  Forester   เน้นโจทย์การขับขี่ในรุ่นใหม่ ด้วยการให้ความสปอร์ตในตัวตนมากขึ้น ระบบกุญแจแบบ   Keyless   เติมฟังชั่นการใช้งาน ทันสมัยและสะดวกสบายมากขึ้น

เมื่อก้าวเข้ามาในห้องโดยสาร ยอมรับว่าฟังชั่นในการงานส่วนใหญ่ไม่ได้เปลี่ยนแปลงมากเท่าที่คิด ไมล์เรืองแสง และหน้าจอแสดงผลตรงกลางช่วยให้   Subaru  forester   ดูดี บนพวงมาลัยมีระบบควบคุมการทำงานของชุดเครื่องเสียงทำงานแบบหน้าจอสัมผัสรองรับการเชื่อต่อหลากหลาย  ส่วนด้านขวาเติมระบบ   Cruise Control   มาให้ได้ใช้งานกัน รวมถึงยังมีระบบปิดไฟหน้าและปัดน้ำฝนอัตโนมัติมาให้ด้วย สามารถต้งค่าได้ที่ก้านปัดน้ำฝนและการไฟเลี้ยว

เบาะนั่งไฟฟ้าฝั่งคนขับปรับได้  8  ทิศทาง บันทึกตำแหน่งท่านั่งได้  2  โปรแกรม พร้อมพวงมาลัยปรับได้ 4  ทิศทาง เป็นสิ่งที่น่าประทับใจในเรื่องฟังชั่นของผู้ขับขี่ สำหรับฝั่งคนนั่งเบาะปรับไฟฟ้าแบบ  4  ทิศทาง ไม่ลำเอียงเอาใจเฉพาะคนขับ ส่วนด้านหลังนั่งเอนหลังกำลังสบาย สามารถแยกพับได้  60/40   ด้วย ถ้าต้องการ ตลอดจน ตัวเบาะทั้งคันรถหุ้มหนังสีดำดูแลรักษาง่าย เหมาะกับคนเจ้าระเบียบทั้งหลาย

สตาร์ทเครื่องออกเดินทางผมเริ่มการขับขี่   Subaru   Forester  ด้วยเส้นทางในการขับขี่ในเมือง จริงๆ แล้ว   Subaru  Forester   นั้นยังเครื่องยนต์เดิม ขุมพลัง   boxer  4  สูบ ขนาด 2.0  ลิตร ให้กำลังสูงสุด  150   แรงม้า สูงสุดที่ 6,200   รอบต่อนาที และให้แรงบิดสูงสุด   198   นิวตันเมตรที่  4,200 รอบต่อนาที ส่งลงระบบเกียร์   Lineartronic CVT   ขับสบายนุ่มนวลและที่สำคัญให้ความประหยัดมากขึ้นอีกด้วย แน่นอนของเขามาคู่กันขาดไม่ได้เป็นระบบขับเคลื่อนสี่ล้อ   Symmetrical  All Wheel Drive   ขับสี่ล้อตลอดเวลาเป็นจุดเด่นของรถยนต์ซูบารุทุกรุ่น (ยกเว้น   BRZ)

ลาน้องเบียร์ PR  น่ารักประจำค่ายดาวลูกไก่เรียบร้อย เราขับสั้นๆ ในเมือง ดูการตอบสนองของ   Subaru Forester   เมื่อใช้งานจริง ไม่น่าแปลกใจที่   Subaru  Forester   จะขับได้ดีกว่าเดิม ด้วยระบบพวงมาลัยผ่อนแรงแบบไฟฟ้า ทำให้สามารถปรับน้ำหนักและการหน่วงดีขึ้นตามย่านความเร็วขับขี่ แต่อย่างว่าในเมืองสมัยนี้ถนนไม่ได้ต่างจากลานจอดรถสาธารณะรถติดเป็นพัลวัน การมีพวงมาลัยเบามือช่วยให้คุณเบาแรง จะวิ่งจะแทรกก็สบาย

แถมเครื่องยนต์ 150   แรงม้า ก็ไม่อืดอาดอย่างที่หลายคนคิด ยิ่งรู้ว่านี่คือเครื่องยนต์เดียวกับ  XV หลายอาจจะตัดสินใจไปเลือกน้องชายมากว่า  แต่ผมยอมรับว่า การตอบสนองของมันดีกว่า XV  ในระดับหนึ่ง ซึ่งซูบารุบอกว่ามีการปรับบางชิ้นส่วนหากก็ไม่ได้มีการเปิดเผยอย่างเป็นทางการให้เรารู้และเปรียบเทียบได้ชัดเจน ทีมวิศวกรเคยบอกผมว่า พวกเขาเน้นการปรับระบบเกียร์มากกว่า ให้มีความนิ่มนวลและการตอบสนองดีขึ้น รวมถึงยังลดเสียงรบกวนในระหว่างการทำงานด้วย

การขับในเมืองอาจะสั้นไปบ้าง แต่เนื่องจาก   Subaru  Forester   เป็นรถยนต์ที่ออกแบบมาให้ใช้งานเดินทางไกลมากกว่า เราจึงไม่ค่อยได้สนใจในการทดสอบในเมืองมากนัก แต่ขับไปๆมาๆ ในเมืองตามสภาพการใช้งานจริง เราได้อัตราประหยัดถึง  12.5  ก.ม./ลิตร  ซึ่งอาจจะเพราะวันทดสอบการจราจรยังไม่ติดขัดมากนัก (สงสัยคนยังไม่กลับจากเที่ยวสงกรานต์)

ปลายทางงวดนี้ ...ผมคุยกับเดือนมานานแล้วว่า เราน่าจะเอาเจ้าดาวลูกไก่ไปยังเพชรบูรณ์ ซึ่งเมื่อช่วงเดือนมกราคมมีโอกาสขึ้นไปเที่ยวอำเภอน้ำหนาว ผมค้นพบว่าสภาพเส้นทางสวยรถน้อย ขับสนุก และบรรยากาศดี ที่พักถูก อาหารราคาไม่แพง เสียอย่างเดียวมันค่อนข้างไกลจากกรุงเทพ

 การเดินทางเราเริ่มขึ้นในช่วงบ่าย หลังจากเติมน้ำมันเสร็จผมก็มุ่งหน้าเพชรบูรณ์ทันที ผมเองไม่อยากไปถึงมืด เนื่องจากเรายังไม่ชินเส้นทาง แต่เวลายังมีเหลือเฟือจึงไม่ได้ใช้ความเร็วมากมาย เพียง 120  ก.ม./ช.ม. โดยประมาณ

ขับมาได้พักใหญ่เส้นทางเริ่มโล่งเลยเพิ่มความเร็วเล็กน้อย ยืนพื้นที่  130-140  ก.ม./ช.ม แต่ดูเหมือนคนไทยจะมีนิสัยหมั่นไส้คนขับรถเร็ว (ไม่รู้จะหมั่นไส้ทำไม) ว่าแล้ว  Land Rover Free Lander  เครื่อง   TD4  ก็สนใจ  Subaru   Forester   เข้าให้ สงสัยจะหล่อสะดุดตา ผมขับแซงไปก็โดนแซงกลับอยู่ 2  ครั้งสองครา  ในใจตอนนั้นนึกชักเริ่มรำคาญ เลยจัดการเปิดวาร์ปลองทำความเร็วสูงสุดดู

ถึงจะเป็นเครื่องยนต์ขนาด 2.0  ลิตร แต่ตัวตนที่ใหญ่พอสมควรทำให้การแหวกอากาศทำได้ไม่ดีนัก ที่ความเร็วตั้งแต่  120   ก.ม./ช.ม.   ขึ้นไปเสียงลมเริ่มเข้าห้องโดยสาร นั่นเพราะการออกแบบเสาเอทางด้านหน้ามีขนาดใหญ่พอสมควร แต่ตอนนี้เราลากรอบหาความเร็วสูงสุด โชคดีตรงนี้ไปช่วงทางตรงยาวๆ แถมไม่มีรถตรงหน้าเราผมบดคันเร่งมิดพื้น เข็มรอบเร่งชี้ไปยังความเร็วเครื่องยนต์เพิ่มขึ้นอย่างต่อเนื่อง  เกียร์  CVT   พยายามอย่างยิ่งตอบความเร็วสูงสุดเค้นอัตราทดที่เหมาะสม เราลากอยู่ราวๆ 2 กิโลเมตรเห็นจะได้ ผมได้ความเร็วสูงสุด  190  ก.ม./ช.ม.   บนหน้าปัด และไม่สามารถเค้นความเร็วได้ต่อ ซึ่งความเร็วระดับนี้เหลือเฟือมากมายสำหรับรถครอบครัว หากมันก็ไม่ได้เหนือกว่าเครื่องยนต์  2.0   ลิตร  ของรถอเนกประสงค์รุ่นอื่นๆ ที่มีให้เลือกในตลาด

หลังทำความเร็วสูงสุดผมเดินทางด้วยความเร็วปกติจนถึงเพชรบูรณ์ ขับรถมากกว่า   311.9 กิโลเมตร บนหน้าปัดน้ำมันตำแหน่งสุดท้ายก่อนเติมอยู่ก่อนครึ่งถังเล็กน้อย  เด็กปั้มเสียบหัวจ่ายเติมไปแก๊สโซฮอล์ 95  26.897   ลิตร เฉลี่ยแล้ว .. การเดินทางเรียบๆ เส้นทางไม่ขึ้นเขา ผมได้อัตราประหยัด  11.5   ก.ม./ลิตร ในย่านความเร็ว   120-140   ก.ม./ช.ม. บวกความเร็วสูงสุด  1 รอบ แต่เชื่อว่าถ้าไม่ได้ทำความเร็วสูงสุด น่าจะได้อัตราประหยัดดีกว่านี้

เอาล่ะ... !! เดินทางกันต่อไปยังน้ำหนาว หนทางยาวนานแบบนี้ผมอยากให้ หญิงสาวข้างกายขับบ้าง ...!! การมีแฟนขับ.. มันดีแบบนี้ ที่ผมให้เธอลองเพราะอยากรู้ว่า  ผู้หญิงจะมีความคิดอย่างไรบ้าง

เดือนเองค่ะ.....เดือนเคยผ่านมือ  Subaru Forester   มาแล้ว เมื่อตอนทดสอบในงานเปิดตัวแต่นั่นเป็นเพียงสั้นๆ เมื่อขับบนถนนจริง เธอบอกกับผมตลอดทางว่าเธอรู้สึกชอบมัน โดยเฉพาะพวกมาลัยที่เซทน้ำหนักกำลังดีพอสมควร ไม่รู้สึกเบาเหมือนที่เคยทดสอบ แถมการเข้าโค้งของเจ้าลูกไก่คันนี้ในช่วงเส้นทางตัดไปยังอำเภอคอนสารก็มั่นใจ 

เดือนยอมรับว่า ไม่ค่อยคุ้นการขับบนถนนสองเลน แต่... เมื่อมีระบบ   Paddle Shift   มันก็ง่ายขึ้น ถึงแม้ผมจะต้องสอนอยู่นานจนเกือบจะทะเลาะกันก็ตาม ว่ามันใช้งานอย่างไร (คงเป็นธรรมดาของคนที่เป็นแฟนกันสอนกันขับรถ) .. แต่เมื่อเธอใช้เป็นก็ดูจะสนุกสนานในการขับขี่มากขึ้น

มาถึงชายแดนอำเภอน้ำหนาว ผมกลับมาขับอีกครั้ง ... การขึ้นน้ำหนาวทางอำเภอคอนสาร มีข้อดีคือคุณใช้เวลาสั้นกว่าในการเดินทางหากเส้นทางก็โหดไม่แพ้กัน

เส้นทางที่อุดมด้วยโค้งทุกรูปแบบ ที่จินตนาการออก บวกกับทางชันไม่ใช่เรื่องง่ายๆ สำหรับคนขับรถทั่วไป เส้นทางโค้งต่อเนื่องแบบนี้เป็นเวลาที่  Subaru Forester   จะโชว์ให้เราเห็นศักยภาพในการขับขี่ของมัน ที่ไม่เคยเป็นสองรองใครในตลาดรถยนต์

เครื่องยนต์แบบ  Boxer  หรือเครื่องยนต์สูบนอนเป็นเครื่องยนต์ที่แตกต่างจากทั่วไป ตามปกติแล้วเครื่องยนต์จะวางลูกสูบตั้งฉากกับพื้น แต่การวิศวกรรมเครื่องยนต์สูบนอนจะวางลูกสูบไว้ตรงข้ามกันคล้ายเครื่อง V แต่แตกต่างกันตรงสูบนอนจะวางสูบขนานกับพื้นเลยไม่ได้วางแนวเอียง แบบเครื่อง   V  

แนวทางการวิศวกรรมแบบนี้อาจจะดูแปลก แต่มันมีข้อดีอยู่อย่างคือ สูบที่นอนและทำงานตรงข้ามกันจะหักล้างแรงสั่นสะเทือนซึ่งกันและกัน ตลอดจนการวางสูบนอนยังช่วยลดจุดศูนย์ถ่วง เป็นผลดีอย่างยิ่งเมื่อต้องขับรถบนถนนที่มีโค้งเยอะๆแบบนี้ คุณจะรู้สึกได้ว่ารถไม่ค่อยมีอาการเทหรือเหวี่ยงตัวเลย แถมเครื่องยนต์  Boxer   ยังให้ความนุ่มนวลในการขับขี่ มันแรงแบบสุภาพชนให้ความมั่นใจ แม้ว่าทางชันอาจจะไม่ค่อยถูกโฉลกกับระบบเกียร์   Lineartronic CVT   เนื่องการตอบสนองของเกียร์CVT ต่อเส้นทางชันจะค่อนข้างเชื่องช้ากว่าคุณต้องย่ำคันเร่งมากหน่อย หรือไม่ก็เข้า Manual Mode   แล้วกระดิกนิ้วเปลี่ยนเกียร์เลยจะถูกใจกว่าให้ระบบเกียร์คิดเอง

เมื่อประกอบกับทางโค้งต่อเนื่องยาวหลายกิโลเมตร ระบบขับเคลื่อนสี่ล้อที่หลายคนบ่นว่ามันซดน้ำมันกว่ารถขับเคลื่อนสองล้อ กลับมีประโยชน์กว่าที่คิด มันให้ความมั่นใจทุกครั้งที่คุณเข้าโค้งไม่ว่าจะโค้งกว้าง หรือโค้งต่อเนื่อง หรือโค้งแคบ ก็ไม่หวั่นสำหรับ Subaru

ทางโหดสักหน่อย  ...ลูกไก่เจ้าป่า

 

ฉายา “ลูกไก่เจ้าป่า” เป็นชื่อที่ผมตั้งให้เจ้า  Subaru Forester 2.0 iP   คันนี้ หลังจากที่ผมตัดสินใจอยากจะลองอะไรใหม่ๆกับซุบารุดูบ้าง

หนึ่งในรายการที่ต้องลองก็หนีไม่พ้นการลองลุยป่าดู เส้นทางออฟโรด กับ   Subaru  Forester   ถือเป็นสิ่งที่น้อยคนจะคิดถึง แตละวิศวกรชาวญี่ปุ่นบอกว่าพวกเขาทุ่มเทในการทำรถรุ่นนี้ให้มีความสามารถในการขับขี่ทางลุย และนั่นคือจุดเด่นมากกว่าใน Subaru XV

ผาตัดหรือผาซ่อนแก้ว..ผมเคยได้ยินมานานจากเว็บกลุ่มออฟโรด เห็นบรรยากาศสวยๆ น่าลองน่าขับน่าไป และวันนี้ผมพยายามบินเดี่ยวไปที่นั่นด้วย   Subaru  Forester 

การเลี้ยวจากทางลาดยางเข้าสู่ทางลูกรังคลุกฝุ่นเชื่อเลยว่า ไม่มีสาวกซูบี้คนไหนคิดจะทำแบบนี้ แต่ผมกำลังท้าทายรถคันนี้และความสามารถของมันมีเพียงใจและปลายทางที่ยังไม่รู้ว่าจะไปถึงหรือเปล่า

สภาพเส้นทางแบบลูกรังทั่วไป และฝุ่นทรายในหน้าร้อนของเส้นทางมุ่งหน้าผาตัดเป็นเรื่องง่ายของ ระบบขับเคลื่อนสี่ล้อของ   Subaru Forester   ระบบแทบจะจัดการให้เราทุกอย่างคุณมีหน้าที่มองเส้นทางและขับอย่างระมัดระวังก็พอไม่ต้องมานั่งเสียเวลาปรับระบบอะไรมากมาย

ผมพูดกับเดือนและคิดเอาไว้ว่า ถ้าฝนตก จะยกเลิกการทดสอบออฟโรดเนื่องจากเสน้ทางออาจจะเกินความสามารถของรถเดิมๆ และตอนนี้ฝนก็ตั้งเค้าเมฆเขียวมาแล้ว แต่ก็ยังไปต่อ ผมจับทางขับไปตามทางที่เขาบอกกันมา ตามแผนผังคร่าวๆ ที่โหลดมาอินเตอร์เน็ต เป็นกระทู้ที่โพสเมื่อ 3  ปีที่แล้วเห็นจะได้

การลุยของเรายังไม่มีปัญหาอะไร รถขับได้อย่างสบายที่สำคัญการสั่นสะเทือนยามลุยยังค่อนข้างน้อยกว่าครอสโอเวอร์รุ่นอื่นๆ เส้นทางไม่ได้ยากอะไรมากมายนักในตอนนี้ จนกระทั่งมาถึงจุดที่ยาก ถนนฝุ่นกลายเป็นสภาพหลุมบ่อและหินลอย ด้านซ้ายเราคือไหล่เขาสูงชัน การขับเส้นทางในลักษณะนี้ต้องใช้ความระมัดระวังอย่างมาก และเมื่อเส้นทางยาก คุณสามารถใช้ตัวช่วยสำคัญที่ติดตั้งเข้ามาในรถรุ่นใหม่

Subaru  Forester 2016   นอกจากปรับสิ่งต่างแล้ว ทางทีมวิศวกรยังเพิ่มระบบ   X-Mode  เข้ามาเป็นของแถมสำหรับขาลุยที่ต้องการ

X-Mode   เป็นฟังชั่นที่อาศัยการทำงานเข้ามาควบคุมระบบเครื่องยนต์ เกียร์ และการทำงานของระบบขับเคลื่อนสี่ล้อ เพื่อคุณฝ่าเส้นทางอุปสรรคและคาดเดาไม่ได้ โดยในโหมดนี้ยังกระตุ้นการทำงานของระบบ   Hill Decent Control   ควบคุมรถขณะลงเขาอีกด้วย รวมถึงระบบเบรกและระบบควบคุมการทรงตัวเป็นกองหนุนพร้อมช่วยคุณฝ่าทางโหด

การไต่เนินโหด จุดนี้ผมใช้  X Mode   เพื่อเพิ่มความมั่นใจ แต่ไม่ได้หมายความว่าโหมดปกติไปไม่ได้ เมื่อกดเริ่มการทำงานเรียบร้อย ระบบจะทำการตอบสนองตามจังหวะที่สมควร คุณสามารถสังเกตจากหน้าจอแสดงผลตรงกลางคอนโซล ระบบจะตอบสนองทันที ในกรณีที่มีการลื่นไถล ทำให้การลุยของคุณง่ายขึ้น

ทว่าผ่านเนินเจ้ากรรมมาได้เดี๋ยวเดียว ฝนเริ่มโปรยปรายลงมาแล้ว ..ผมเลยตัดสินใจว่าเราควรจะกลับดีกว่า ไม่เช่นนั้น เราอาจจะต้องนอนป่าคืนนี้ ..แต่ถึงเราจะไปไม่ถึงจุดหมายที่เราหวัง ทว่าจากตลอดทางที่ลุยมาในระยะทางหลายกิโลเมตร ก็ยอมรับว่า  Subaru  Forester   มีดีในตัวของมันเช่นกัน

 

Subaru  Forester  2016  ...ลูกไก่เจ้าป่า ...ต้องให้การศึกษาลูกค้า

อ่านมาถึงตรงนี้หลายคนคงสงสัยว่า สรุปแล้วเราจะอวย   Subaru   หรือไง.... รถราคา  1.5 ล้านบาท มันเทพขนาดนั้นเลยหรือ ??

คำตอบคือเปล่า แต่ต้องยอมรับว่ารถยนต์ทุกวันนี้เข้าใกล้คำว่าสมบูรณ์แบบมากขึ้นทุกที การเปลี่ยนแปลงใน   Subaru Forester   ทำให้คุณมีโอกาสเป็นเจ้าของดาวลูกไก่มากขึ้น แต่สำหรับคนที่ชอบความโฉบเฉี่ยวในการออกแบบมากกว่า ไม่ได้มองสมรรถนะในการขับขี่ ก็ต้องยอมรับว่าหน้าตารุ่นใหม่นี้ดูถูกใจขึ้น แต่อาจจะยังไม่โดนใจเท่า   Subaru XV  แม้จะมีการปรับลุคมาแล้วก็ตามที ...

 ตลอดจนออพชั่นภายในก็ไม่ได้มีการเปลี่ยนแปลงมากมาย ดีที่การโดยสารของ   Subaru Forster   ทำออกมาได้แจ่มแมวมาก มันขับสบาย เบาะนั่งมีขนาดใหญ่ ที่นั่งตอนหลังก็ไม่เอนจนเกินไป รวมถึงลุคที่ดูสปอร์ต และฟังชั่นการใช้งานที่ครบครัน จัดว่าผ่านสำหรับผม

อย่างไรก็ดี มีเรื่องสำคัญที่  Subaru  เองต้องตระหนัก บางออพชั่นที่ให้มานั้นจำเป็นต้องให้ความรู้กับผู้ใช้ เนื่องจากยังยากจะทำความเข้าใจในการใช้งานจริง เช่นการเซทความจำเบาะนั่งปรับไฟฟ้าฝั่งคนขับ ที่ผมต้องยอมเปิดวีดีโอจาก  youtube ดูว่ามันเซทอย่างไร  หรือจะระบบ Pin Code access จากประตูท้ายรถ ที่บอกเราตอนเปิดตัวว่า มีให้ใช้สำหรับพวกเดินป่าแล้วชอบทำกุญแจรถหาย คุณสามารถมาเคาะรหัสมอร์สเพื่อเปิดประตูที่ท้ายรถก็ได้ ผมลองแล้วหลายรอบตลอดการทดสอบก็ยังทำไม่ได้เสียที

การใช้งานที่มีฟังชั่นเยอะและค่อนข้างซับซ้อนแบบนี้ ต้องอาศัยการศึกษาข้อมูล แนะว่า   Subaru  ควรทำคู่มือ Quick  Guide ไว้ให้ลูกค้า เพราะรถฟังชั่นเยอะมาก แต่ใช้งานยากไปนิด ..อันนี้พูดกันตามตรง ไม่ค่อยถูกกับจริตคนไทยมากนักที่ชอบอะไรที่  easy  easy   เข้าว่า

 “Is there anything else you can’t you?” วลีการตลาดที่กำลังมาแรงทางทีวีดิจิตอลที่ต้องการสื่อสารความสามารถของรถคันนี้ แน่นอนมันเป็นรถสมรรถนะที่ดี ฟังชั่นครบครัน ราคาก็ไม่ได้แพงกว่าคู่แข่งจนมิอาจเอื้อมเพียงแต่โจทย์อยู่ที่จะทำอย่างไรให้คนซื้อ   Forrester   นั้นยากกว่าที่เห็น เพราะรถที่ดีก็ต้องการสื่อสารที่ดี ถูกต้องและชัดเจน ซึ่งวันนี้ Subaru Forester  ก้าวเข้ามาเป็นอีกตัวเลือกตลาดอเนกประสงค์คอมแพ็ค ที่พรั่งพร้อมและน่าจับจอง.

 

เรื่อง โดย ณัฐยศ ชูบรรจง (Bonn)

ติดตามผู้สื่อข่าวและนักทดสอบรถยนต์ นาย ณัฐยศ ชูบรรจง ได้ที่ Facebook หรือ ทาง  Fan page ,Twiter (@awnattayodc), Blog  ส่วนตัว

 

ติดตามข่าวสารยานยนต์ รวดเร็วก่อนใคร ได้ที่ Autodeft.com 

 

สรุปการทดสอบ   Subaru  Forester 2016

 

สิ่งที่ชอบ >> สมรรถนะในการขับขี่ที่ดีกว่าครอสโอเวอร์หลายๆรุ่นในตลาดจนคุณ อาจจะไม่คิดว่า Subaru   จะสามารถสร้างรถยนต์อเกประสงค์ได้เจ๋ง เท่าๆ กับที่เขาสร้างรถสปอร์ตสมรรถนะสูง รวมถึงลุคใหม่ที่ออกแบบทันสมัยและลงตัวมากขึ้น

 

สิ่งที่ไม่ชอบ >> ฟังชั่นบางอย่างค่อนข้างมีความซับซ้อนในการใช้งาน จนบางครั้งไม่สามารถใช้งานฟังชั่นได้ เช่นระบบ   Pin Code Access เป็นต้น

 

สิ่งที่อยากให้มี >> คู่มือแนะนำการใช้งานฟังชั่นต่างๆ สำหรับลูกค้าที่ต้องมานั่งเรียนรู้ระบบรถคันนี้

 

คำแนะนำสำหรับผู้ที่สนใจ >>> เป็นอเนกประสงค์ที่น่าสนใจ มันมีสมรรถนะในการขับขี่ที่ดี เพียงแต่คุณต้องมั่นใจว่างบประมาณเพียงพอ ถ้านั่นไม่ใช่ปัญหา Subaru  Forester   จะทำให้คุณลืมรถคันอื่นไปหมด เพราะมันขับสนุก และนิ่มนวลอย่างน่าเหลือเชื่อ