Full Review : Nissan X-Trail 2.0V 4WD ลุคหรูพร้อมลุย

  • โดย : Autodeft
  • 4 ม.ค. 59 00:00
  • 45,159 อ่าน

พบบทดสอบรถยนต์อเนกประสงค์ที่หลายคนมองอยู่ Nissan XTrail ครั้งนี้เรากลีบมากับการขับรุ่นที่คุ้มค่าที่สุด Nissan X Trail 2.0 V 4WD

 

 

เรื่องและขับทดสอบ โดย ณัฐยศ ชูบรรจง (Bonn)

 

 

หลายปีที่ผ่านมารถยนต์อเนกประสงค์ถือว่าเป็นรถยนต์กลุ่มใหม่ที่สร้างความน่าสะพรึงทางด้านยอดขายจนหลายค่ายประสบความสำเร็จในการขายรถยนต์กลุ่มนี้และอีกหลายเจ้าต่างพยายามมองอนาคตผันตัวเองเป็นเทพของรถยนต์อเนกประสงค์ไปเสียเลย และด้วยข้อเท็จจริงว่ารถยนต์อเนกประสงค์ใช้งานได้หลากหลาย ... ทำให้ผู้คนนิยมมันมากขึ้นตามลำดับ

Nissan X Trail  ..อาจดูเหมือนหน้าใหม่ในวงการรถยนต์อเนกประสงค์ครอสโอเวอร์ (Cross over)  ในบ้านเราหลังจากรุ่นที่แล้วไม่ประสบความสำเร็จเท่าที่ควร เมื่อเทียบกับคู่แข่ง ที่ทำตลาดมายาวนาน แต่ด้วยตัวเลือกที่ไม่ได้มากมายนักทำให้พวกเขาตัดสินกัดฟันลองทำตลาดอีกครั้ง..พวกเขาทำการบ้านมาเป็นอย่างดีกับศึกครั้ง จนคู่แข่งทีหนาวๆ ร้อนๆ กันบ้าง

ทดสอบรถยนต์  Nissan X Trail 2.0 V 4WD

ความจริง...ผมขอสารภาพบาปกับนิสสันว่า ผมลืมเจ้ารถยนต์คันนี้ไปเสียสนิท มานึกเอาได้ ตอนในช่วงวันปีใหม่ 2016 ว่ายังไม่ได้ใช้หนีเขียนรีวิวคืนพวกเขา หลังจากที่นำเจ้าคันนี้ไปใช้งานจริง บนสภาพการณ์จริงในหน้าเทศกาล ย้อนไปเมื่อตั้งแต่ช่วงปลายเดือนตุลาคมที่ผ่านมา ....แต่ถึงเวลาจะเนิ่นนาน ... ทว่าการเดินทางครั้งนี้ถือเป็นความทรงจำอันล้ำค่า... กับรถที่ทรงคุณค่าที่สุดในตลาดอเนยกประสงค์

 

“โลกคือหนังสือ และพวกผู้คนที่ไม่เดินทางอ่านมันเพียงแค่หน้าเดียว” (“The World is a book, and those who do not travel read only a page.”) คำพูดอันโดนใจของ Saint Augustine ผุดขึ้นมาในระหว่างที่ผมกำลังค้นข้อมูลจากอินเตอร์เน็ต ทำให้นึกถึงการเดินทางครั้งสำคัญ

อย่างที่เราทราบกันดีว่า รถยนต์อเนกประสงค์เป็นรถยนต์ที่เกิดมาเพื่อการเดินทาง มันคือรถยนต์ที่ใช้ตอบโจทย์ ทั้งความสบายและการโดยสาร แถมในบางรุ่นอย่าง  Nissan  X-Trail 2.0V 4WD ยังดีพอที่จะพาคุณพร้อมลุยในเส้นทางอันแสนลำบาก ให้คุณได้เก็บเกี่ยวประสบการณ์อันล้ำค่า เก็บไว้ในความทรงจำ ... ไปในที่ๆ ไม่เคยไป เปิดมุมมองใหม่ จากพื้นที่เดิมๆ

ทดสอบรถยนต์  Nissan X Trail 2.0 V 4WD

พบกันครั้งนี้ถือเป็นครั้งที่สองระหว่างผมกับรถยนต์     Nissan  X-Trail หลังก่อนหน้านี้เมื่อกลางปี ผมได้นำรุ่นขับเคลื่อน 2 ล้อ ตัวล่างสุดของไลน์อัพมาขับทดสอบกันพอหอมปากหอมคอ จนพอจะได้เห็นสมรรถนะในภาพรวมของ     Nissan X-Trail กันไปบางพอสมควร แต่ว่าถึงครั้งนี้จะเป็นรถรุ่นเดียวกัน แต่การตอบโจทย์ที่มากกว่าด้วยฟังชั่นสำคัญอย่างระบบขับเคลื่อนสี่ล้อ ก็น่าจะสร้างสีสันในการขับขี่มากกว่า...

เทียบกับรุ่นขับเคลื่อน 2 ล้อ  Nissan  X-Trail 2.0 V    4WD ยังคงรายละเอียดการออกแบบตัวรถ คล้ายคลึงรุ่นขับเคลื่อนสองล้อ เพียงแต่เมื่อรุ่นนี้สูงขึ้นในไลน์อัพ ออพชั่นฟังชั่นต่างๆ จึงมากขึ้นกว่าเดิม ไม่ว่าจะโคมไฟหน้า LED Projector ช่วยในการส่องสว่างมากขึ้น ไฟหน้าสามารถปรับระดับสูง-ต่ำ อัตโนมัติ แถมยังมีระบบปัดน้ำฝนอัตโนมัติ รวมถึงกระจกมองข้างมีไล่ฝ้าในตัว

ไปจนถึงการให้ราวหลังคา พร้อมใช้สำหรับการติดตั้งชุดแร็คหลังคา หรือกล่องบนหลังคา ย้ายสัมภาระจากท้ายรถไปอยู่ข้างบน โดยเฉพาะพวกกระเป๋าเสื้อผ้าทั้งหลายที่ไม่จำเป็นต้องใช้จนกว่าจะถึงปลายทาง และท้ายที่สุดขาดไม่ได้กับออพชั่นทีเด็ด ประตูท้ายอัตโนมัติเปิด-ปิดด้วยระบบไฟฟ้า ถือเป็นส่วนสำคัญที่ทำให้รถยนต์คันนี้น่าสนใจมากขึ้นมากกว่าคู่แข่ง ที่บ้างไม่มีให้ หรือบางแบรนด์มีให้ แต่ก็มีเพียงแค่รุ่นท๊อปเท่านั้น

ชุดล้ออัลลอย ก็ยังคงขนาด 17 นิ้ว มาพร้อมกับยางขนาด 225/65/R17 ไม่เปลี่ยนแปลง อาจจะพาคุณเซ็งไปบ้าง แต่เราพอเข้าใจได้ว่า นั่นเเพื่อสร้างความแตกต่างจากรุ่นท๊อป 2.5  รวมถึงเมื่อเทียบกับตัวท๊อปแล้ว รุ่นนี้ยังขาดหลังคามูนรูฟ แต่อย่างว่า บ้านเมืองเราอย่างกับเตาย่างถ้าคุณไม่บ้าชอบสังเคราะห์แสงก็คงไม่ได้จำเป็นเท่าไร

ทดสอบรถยนต์  Nissan X Trail 2.0 V 4WD

เปิดประตูก้าวสู่ภายในห้องโดยสาร  Nissan  X-Trail 2.0V 4WD กล่าวสวัสดี ด้วย..คำทักทายสไตล์สปอร์ตผ่านโทนการตบแต่งห้องโดยสารสีดำ จะว่าไปเทียบกับรุ่นขับเคลื่อน 2 ล้อ แล้วต้องยอมรับว่า ภายในสีดำที่ให้สัมผัสสปอร์ตลุคนี้มีดีที่การดูแลรักษาซึ่งง่ายกว่ามากเมื่อเทียบกับภายในสีเบจ แต่ถ้าใจคุณรักความหรูหรา อาจรู้สึกว่า ทางนิสสันน่าจะมีสีเบจให้เป็นตัวเลือกสำหรับลูกค้า ดีกว่าออกแนวแกมบังคับ แบ่งชัดไปว่าขับเคลื่อนสองล้อสีเบจ ขับเคลื่อนสี่ล้อสีดำ

ภาพรวมออพชั่นภายในก็ไม่ได้แตกต่างกันเลย ถ้าไม่นับพวงมาลัยมัลติฟังชั่นที่เพิ่มปุ่มรับ-วางสายโทรศัพท์มาให้ ก็ดูจะไม่มีอะไรโดดเด่น เพราะทุกอย่างเหมือนกับรุ่นขับเคลื่อนสสองล้อทุกประการ ไม่ว่า เบาะนั่ง 3 แถว รองรับสูงสุด 7 ที่นั่ร ตอบการใช้งานแบบเต็มที่ 5 ที่นั่ง และเผื่อสำหรับคนเพื่อนเยอะด้วยเบาะที่นั่งตอนที่ 3 อีก 2ที่นั่งสามารถพับขึ้นมาใช้งานได้ในอัตรา 50/50 จากที่ลองวาดขาเข้าไปนั่งก็เช่นเคยว่า คนตัวสูงอย่างผมนั่งไม่ค่อยสบายเท่าไร ... นั่งแล้ว พับข้องอเข่าไปนิด ประดุจจะจับผมยัดลงกล่องเฟอร์นิเจอร์ ikea ส่ง    DHL   กลับไปยังกรุงโตเกียว ทว่าหากมองมุมกลับกัน ถ้าคุณมีเพื่อนสาวตัวเล็กไซส์คนไยปกติ หรือลูกเด็กเล็กแดง ที่ไม่ค่อยมีปากมีเสียงเรื่องพื้นที่นั่งโดยสาร ขอเพียงขึ้นรถแล้วเข้า  Sleep Mode    เปิดวาร์ปสู่ปลายทาง .... แบบนี้จับพวกเขานั่งแถวสามนี่แหละเหมาะเลย แต่ที่สำคัญอยากแนะนำเพิ่มเติมว่า คนนั่งแถวสามไม่ควรเป็นคนเมารถ เพราะตรงนี้จะเหวี่ยงมากเมื่อเจอทางโค้งต่อเนื่อง

ถึงเบาะแถวสามอาจจะไม่เหมาะให้คนตัวใหญ่นั่ง แต่ฟังชั่นอันครบครันของ Nissan X Trail     ก็ยังทำให้มันน่าสนใจ ไม่ว่าจะเบาะคู่หน้าปรับฟ้า 6 ทิศทาง ฝั่งตุ๊กตาหน้ารถเองก็ยังสบายด้วยฟังชั่นปรับไฟฟ้า 4 ทิศทาง เบาะนั่งแถวสอง สามารถปรับเอนได้  2 สเตป และถ้าคุณไม่มีผู้โดยสารมาก และต้องการความเป็นส่วนตัวพนักแขนของเบาะแถวสอง ยังปรับพับลงมาเป็นที่นั่งแบบแยกอิสระ 2+2 ได้ ด้วยการปรับพับ 40/20/40 และท้ายสุดขาดไม่ได้กับ ระบบปรับอากาศสามารถแยกอุณหภูมิ ซ้าย-ขวา ได้ รวมถึงมีช่องลมระบบปรับอากาศตอนหลังด้วย .... แต่อยากจะบอกว่าอย่าคาดหวังกับมันมากนัก

ทดสอบรถยนต์  Nissan X Trail 2.0 V 4WD

ทดสอบรถยนต์  Nissan X Trail 2.0 V 4WD

ทดสอบรถยนต์  Nissan X Trail 2.0 V 4WD

ใต้เรือนร่างลุคผู้ดี Nissan  X-Trail 2.0 V 4WD ยังคงมาพร้อมเครื่องยนต์เบนซินแบบ 4 สูบแถวเรียง รหัส  MR20DD ต้นกำลังขนาด 2.0 ลิตร เต็มสมรรถนะมากกว่าด้วยระบบวาล์วแปรผัน Twin-C-VTC   ให้กำลังสูงสุด 144 แรงม้า ที่ 6,000 รอบต่อนาที ทั้งยังให้กำลังแรงบิดสูงสุด 200 นิวตันเมตร สูงสุดที่ 4,000 รอบต่อนาที ส่งกำลังลงชุดเกียร์  xtronic CVT  ขับสบายด้วยโหมดทั่วไป และถ้าอยากวาดลีลาการขับขี่ก็ยังมีระบบ Manual Mode 7 สปีด พร้อมให้คุณสับเกียร์เองตามต้องการ

พวงมาลัยแบบแร็คแอนด์พิเนียน ระบบพาวเวอร์ควบคุมด้วยไฟฟ้า (EPS) พร้อม Speed Sensor อาจจไม่ใช่ของแปลกใหม่ในวันนี้ แต่เจ้าพวงมาลัยชุดนี้สามารถผ่อนแรงตามย่านความเร็ว ช่วยให้  Nissan  X-Trail 2.0 V 4WD ขับขี่ได้ง่ายดาย น้ำหนักพวงมาลัยค่อนข้างเบามือมากพอสมควร จนสุภาพสตรีก็สามารถขับขี่เจ้าอเนกประสงค์ขนาด 4.64 เมตร นี้ได้อย่างไร้กังวล

แถมงเลี้ยว 5.6 เมตร ก็ถือว่าค่อนข้างคล่องตัวมาก ไม่ต้องตีวงสาววงเลี้ยวให้เหนื่อยยาก ยิ่งเมื่อคุณมีพวงมาลัยที่เบามือ รวมถึงยังมีระบบ  Around View Monitor ช่วยในการขับขี่และการเข้า-ออก หรือถอยจอดรถ มาเป็นผู้ช่วยอเนกประสงค์คันนี้กับชีวิตคนเมืองก็ดูจะลงตัว

ความง่ายดายในการขับขี่เป้นสิง่ที่เรายังคงประทับใจ แต่เมื่อมานั่งตำแหน่งหลังพวงมาลัย ต้องยอมรับว่าเมื่อเป็นรุ่นขับเคลื่อนสี่ล้อ ตัวรถมีความกระฉับกระเฉงน้อยลงพอสมควร โดยเฉพาะเมื่อคุณมีน้ำหนักเพิ่มขึ้นจากเดิม หลังจากติดตั้งระบบขับเคลื่อนสี่ล้อเข้ามา ทำให้เจ้าหรูคันนี้ตุ๊ต๊ะขึ้นเป็น 1,610 กิโลกรัม (เมื่อเทียบกับพิกัดตัวล่างสุดที่เราเคยขับไปก่อนหน้านี้ 1,524 กิโลกรัม ) ก็น่าจะกล่าวได้เต็มปากว่า น้ำหนัก  86 กิโลกรัม ที่เพิ่มขึ้นทำให้มันนิ่งดูสุขุมมากขึ้นและปราดเปรียวน้อยลงกว่าเดิม

ทดสอบรถยนต์  Nissan X Trail 2.0 V 4WD

การจราจรเมืองกรุงเย็นวันศุกร์  ไม่ต้องกล่าวก็คงจะรู้กันดีว่าติดหนักสะบัดช่อกันสุดๆ และเจ้า  Nissan X Trail   ก็กลายเป็นรถที่คุณมีความสุขได้แม้ว่าการจราจรจะติดขัดจนน่าปวดหัว แต่สัมผัสการนั่งสบายกายจากเบาะ Spinel Support ช่วยให้คุณผ่อนคลายได้มาก และในรถยังสุนทรีย์การเดินทางด้วยระบบเครื่องเสียงพร้อมหน้าจอสัมผัสขนาด 7 นิ้ว สามารถเชื่อมต่อด้วยระบบ Bluetooth รวมถึงยังมีช่องต่อรับสัญญาณจากภายนอก  Aux-in  และ Bluetooth ทว่าไฮไลท์เด็ดของระบบเครื่องเสียงนี้ เรายังไม่มีโอกาสได้ลอง แต่ถ้าคุณมีโอกาสเป็นเจ้าของ Nissan X Trail  จริงๆ ตัวรถยังสามารถใช้ Application “Nissan Connect” ร่วมกับสมาร์ทโฟน  ในการเชื่อมต่อกับโลกโซเชี่ยลมาออนไลน์บนเครื่องเสียงภายในรถ ...แม้ยังไม่มีโอกาสลอง แต่เชื่อเลยว่าต้องล้ำมากๆ  

การจราจรติดขัด ทำเรานั่งแก่วในรถกว่า 3 ชั่วโมง ไม่ต้องบอกก็คงจะรู้ว่า ตัวเลขประหยัดในเมืองคงออกมาไม่ดีอย่างที่คิดแน่นอน และการจราจรติดสุดติ่ง  Nissan  X-Trail 2.0 V 4WD ตอบอัตราประหยัด 5.5 กิโลเมตร/ลิตร ไม่ต้อง

สืบก็คงต้องบอกว่ามันซดมากกว่าปกติอยู่แล้ว ซึ่งเราเองอนากให้  Nissan  ติดตั้งระบบหยุดการทำงานของเครื่องยนต์ชั่วคราวเข้ามา พวก   Start-Stop System  จะช่วยให้ไร้กังวลเรื่องความประหยัดยามขับขี่ในเมือง

 แต่หลังพระอาทิตย์ตกฟ้าอากาศมืดมิดเขาครอบงำ ผมออกมาขับทดสอบ   Bonn test Mode   ตามที่เคยทำเจ้าอเนกประสงค์คันนี้ก็ตอบโจทย์อัตราประหยัดดีถึง 11.4 ก.ม./ลิตร

ทดสอบรถยนต์  Nissan X Trail 2.0 V 4WD

หลายคนอาจจะสงสัยว่าเมื่อเคยขับแล้วจะนำรถยนต์คันนี้มาขับซ้ำให้เสียเวลาทำไม แต่ในมุมมองผม Nissan  X-Trail 2.0 V 4WD เป็นรถยนต์ที่น่าสนใจ ยิ่งถ้าคุณกำลังมองหาความสบายในการเดินทาง ภาพลักษณ์ที่ดูดี และด้วยคำว่าโฟว์วีลไดร์ฟ หมายถึงมันพร้อมลุย ก็คงจะน่าสนใจมากขึ้นไปอีก

ในตลาดบ้านเรา เมื่อมองหารถยนต์อเนกประสงค์เพื่อการลุย  เราอาจจะนึกถึงรถยนต์อเนกประสงค์ที่มาจากพื้นฐานรถกระบะ หรือที่บ้านเราชอบเรียกให้ประหลาดกว่าชาวบ้านว่า  “Pick-Up Passenger  Vehicle”   หรือ  PPV ด้วยพื้นฐานการพัฒนาจากกระบะทำให้ได้ความแข็งแกร่ง ถึกทนในการใช้งาน ดีพอจะไปลุย แต่น้อยคนคงคิดว่ารถลุคหรูดูดีเปรียบดั่งผู้ชายใส่สูทผูกไทด์ก็พร้อมจะลุยได้เช่นกัน

ความบ้าบิ่น...เป็นเรื่องที่เราทีมงาน Autodeft.com  ทำเสมอ และจะมีสักกี่ครั้งที่คุณจะมีโอกาสจับผู้โดยสาร 6 คนพร้อมสัมภาระยัดใส่ Nissan  X-Trail 2.0 V 4WD ...ต่อให้เป็นรถคุณเองก็แทบจะนับครั้งได้ที่คุณจะทำแบบนี้ .....เพราะคนซื้อรถยนต์อเนกประสงค์สุดหรูนี้ก็คงจะอยากจะเดินทางสบายๆ

ทริปการเดินทางนี้.....คงจะไม่ว่าอะไรถ้าผมจะขอบคุณใครสักคน อย่างสาวเจ้าข้างกายผม ที่อยากจะพาเพื่อนเที่ยวรับลมหนาว ซึ่งทีแรกเธอเองบอกจะเอารถยนต์  Toyota Vios  ยัดเพื่อน 6 คน ไปเที่ยวทับเบิก ....แต่คุณจะเดินทางเป็นปลากระป๋องทำไม ถ้าคุณมีอเนกประสงค์ชั้นเลิศพร้อมเดินทางอยู่ข้างกาย  และเพียงชั่วครู่ระหว่างที่รอเธอและเพื่อนๆ เจ้าหล่อนยัดของใส่รถ เผลอสำนึกรู้สึกอีกทีเราก็เริ่มออกเดินทางแล้ว

ท่ามกลางอากาศเย็นยามค่ำคืนเมืองกรุงตอนตีสอง ... Nissan  X-Trail 2.0 V 4WD วิ่งรี่ออกนอกเมือง ผู้โดยสารทั้งหมดเราก็ช่างดี..ช่วยเป็นกำลังใจให้คนขับ เข้า  Sleep Mode   เปิดวาร์ปตั้งแต่เริ่มต้นการเดินทาง .... มันไม่ใช่เรื่องแปลก ถ้าใต้ร่างอเนกประสงค์คันนี้วิศวกรรมด้วย ระบบกันสะเทือนแบบแม็คเฟอร์สันสตรัท พร้อมเหล็กกันโคลงทางด้านหน้า ผสานการทำงานของระบบกันสะเทือนอิสระมัลติลิงค์ พร้อมเหล็กกันโคลงทางด้านหลัง รวมถึงการวิศวกรรมโครงสร้างตัวรถแบบ Monoque   หรือจะอธิบายภาษาชาวบ้านเข้าใจง่ายก็คือว่า ...ตัวแชสซีและตัวถังรถเป็นชิ้นส่วนเดียวกันนั่นเอง

ทดสอบรถยนต์  Nissan X Trail 2.0 V 4WD

ข้อดีของการวิศวกรรมตัวถังแบบนี้คือ รถมีการซับแรงกระแทกที่ดีกว่า การออกแบบตัวถังแบบมีโครงสร้างรองรับ แบบเดียวกับที่ใช้ในรถกระบะ ซึ่งทางวิศวกรรมเรียกว่า  “Body On Frame” ช่วยให้รถมีความนุ่มนวลตลอดการเดินทางจนไม่ต่างจากรถเก๋งทั้งหลาย แถมด้วยยางที่มีความสูงกว่ารถเก๋งเป็นปกติ และการออกแบบตัวถังที่สูงกว่ารถเก๋ง เนื่องจากต้องเผื่อสำหรับความสมบุกสมบันบ้าง ทำให้ Nissan  X-Trail  ได้ความนิ่มนวลมาเต็มๆ นั่งสบายจนคุณอาจจะพลอยหลัยไป ถ้าไม่ต้องมานั่งถ่างตาขับรถแบบผม แต่ในจิตวิญญาณลึกๆ ก็พอจะรู้สึกได้ถึงความแอบห้าวในแบบรถสปอร์ตเพียงแต่ด้วยความเป็นรถครอบครัว มันต้องทำให้นั่งสบายมากกว่า .... ห้าวหาญบนถนน

การเดินทางยามค่ำคืนย่อมตามมาด้วยความเมื่อยล้า ทว่าด้วยการขับขี่ที่สบาย และเบาะนั่งที่ออกแบบมาดี รวมถึงความนุ่มนวลของระบบกันสะเทือนทำให้ เราขับมันรวดเดียวถึงเพชรบูรณ์อย่างสบายๆ การใช้ความเร็ว 130-140 ก.ม./ช.ม. อาจจะผิดกฎหมายถ้าคุณเชื่อว่า ขับ90 ก.ม./ช.ม. ประหยัดน้ำมันช่วยชาติ แต่เอาเข้าจริง คุณขับรถตอนตีสอง ขณะที่หลายคนในรถคุณหลับ .... คุณขับ 90 ก.ม./ช.ม. เผลอๆ...ได้หลับในตามไปเฝ้าพระอินทร์ เผลอๆ อาจจะเป็นยมพบาลแทน ไม่ถึงที่หมาย คงไม่ใช่เรื่องดีแน่...การใช้ความเร็วสักนิด ทำให้เลือดสูบฉีด และคุณตื่นตัวยามต้องขับรถกลางคืน

อุณเบิกฟ้าได้เวลาเติมน้ำมันถังแรกก่อนท่องภูทับเบิก ...เราขับมาแล้วกว่า 386.7 กิโลเมตร เราเติมคืนถังด้วยน้ำมันแก๊สโซฮอล95 ไปกว่า 41.793 ลิตร ....เราได้อัตราประหยัด 9.25 กิโลเมตร/ลิตร ...ถือว่าค่อนข้างประหยัดมาก...เมื่อหวนคิดว่านี่นั่งกันมาเต็มคันรถตั้ง 6 คน แถมยังมีสัมภาระเสียอีก .... ถือว่าทำได้ใม่เลวนัก

 

แต่การวิ่งบนถนนหลวงทั่วไป เราอาจจะไม่เห็นการทำงานของระบบขับเคลื่อน 4 ใน Nissan  X-Trail 2.0 V 4WD จนเมื่อเริ่มขึ้นดอยทางคดเคี้ยว ระบบขับเคลื่อนสื่อล้อจึงเริ่มโชว์ศักยภาพการทำงานของมัน

เมื่อคุณขับขึ้นดอยมีผู้โดยสารเต็มรถ ถ้าคุณใช้รถขับเคลื่อนสองล้อธรรมดา อาจจะรู้สึกว่ามันขึ้นยากกว่า หรือต้องใช้คันเร่งมากกว่า แต่ความอัจฉริยะของระบบขับเคลื่อนสองล้อใน Nissan X Trail ระบบจะส่งกำลังไปยังล้อหลังนิดหน่อย เพื่อช่วยดันรถไปข้างหน้า ทำให้รถออกตัวบนเนินชันได้ดีขึ้น แม้ว่าโดยรวมจะมีระบบช่วยออกตัวบนทางลาดชันหรือ  Hill Start Assisted อยู่แล้ว

ตามปกติเราจะตั้งโหมดระบบขับเคลื่อน 4 ล้อไว้ที่ Auto เพื่อให้มันทำงานอัตโนมัติตามสภาพการณ์ที่เหมาะสม  และนอกจากนี้คุณยังสามารถเลือกโหมดการขับขี่ได้อีกระหว่าง 2WD  ใช้ขับเคลื่อน 2 ล้อ หรือ ถ้าจำเป็นต้องลุยอย่างสมบุกสมบัน (ในระดับหนึ่ง) ก็สามารถเลือกโหมด Lock  เพื่อแบ่งกำลังขับตายตัวที่อัตรา 50/50 ระหว่างล้อหน้าและล้อหลัง

 

หลายคนคงคิดว่า Nissan  X-Trail 2.0 V 4WD  ไม่น่าจะลุยได้มากมายอะไรนัก เมื่อเทียบกับรถที่ดูอึดถึกทนมากกว่าอย่าอเนกประสงค์จากกระบะ แต่เอาเข้าจริง ทุกอย่างขึ้นอยู่กับใจ ใครจะคิดว่า เนินดินสภาพชื้นแฉะสูงชัน ไม่มีป้ายถนนจะกลายเป็นสถานที่ทดสอบระบบขับเคลื่อน4 ล้อ เจ้าอเนกประสงค์คันนี้  ลุคหรูของรถอาจจะทำให้คุณหวั่นใจเมื่อต้องนึกว่าเอามันไปลุยเละเทะเปรอะเปือน หากอย่าให้ภาพในมโนจิตของคุณทำเอาคุณกลัวหัวหดไป เพราะเจ้าอเนกประสงค์มาดหรูคันนี้ตัวจริงกว่าที่คุณคิด

 

“ไปได้แน่หรือ” .... เสียจากคนข้างๆผมถาม .... ผมไม่พูดพร่ำมากมาย เริ่มล็อคโหมดขับเคลื่อน 4 ล้อ ด้วยการหมุนสวิทช์ตรงกลาง ใช้อัตราส่งกำลัง 50/50 แล้วเริ่มโชว์สมรรถนะ Nissan  X-Trail 2.0 V 4WD ให้เธอประจักษ์ว่ารถคันนี้ไม่ได้มีดีแค่ ...ความดูดีเท่านั้น

ทดสอบรถยนต์  Nissan X Trail 2.0 V 4WD

ทดสอบรถยนต์  Nissan X Trail 2.0 V 4WD

การให้เครื่องยนต์เบนซินแบบ 4 สูบแถวเรียง อาจเป็นจุดบอดที่ทำให้รถยนต์อเนกประสงค์คันนี้มีแรงบิดน้อย เมื่อเทียบกับรถกระบะบ้าพลัง หรืออเนกประสงค์จากกระบะ ที่มีแรงบิดมากมายจากเครื่องยนต์ดีเซล ที่มีแรงบิดสูงในรอบต่ำจนสามารถฝ่าอุปสรรคไปได้แบบปลอกกล้องเข้าปาก มันแทบไม่ต้องใช้คันเร่งเสียด้วยซ้ำเพื่อผ่านอุปสรรค แต่เมื่อคุณมาพร้อมรถยนต์อเนกประสงค์เครื่องยนต์เบนซินเรื่องราวจะกลับตาลปัตร

 คุณต้องย่ำคันเร่งลงไปบ้างเพื่อใช้แรงบิดของเครื่องยนต์ ซึ่งมักอยู่ที่รอบเครื่องช่วงกลาง ราวๆ 3,000-4,500 รอบต่อนาทีแล้วแต่รุ่นและยี่ห้อ (โดยเฉพาะเครื่องสี่สูบแถวเรียง)เสียงเครื่องที่ครางฮือ..อาจทำเอาลุ้นว่ามันจะผ่านอุปสรรคหรือไม่ แต่เมื่อเราบุกทางใหม่ที่ไม่มีใครขึ้นมา เส้นทางสมบุกสมบันในระดับหนึ่งอาจจะดูไม่เหมาะกับลุคผู้ดี เล่นเอาหลายคนที่ใช้วิธีเดินเท้าขึ้นมาชมความงดงามของวิวทิวทัศน์พากันงงว่า รถขึ้นมาได้ด้วยหรือนี่

ถึงสำหรับคนทั่วไปอาจจะดูแล้วประหลาดที่นำรถไปทุกที่ในเส้นทางเท่าที่มันไปได้ แต่กับคนรักรถมันเป็นความภาคภูมิใจอย่างหนึ่งและผมก็ค้นพบวิวแสนสวยของ ภูทับเบิก...มันคืออะไรที่แตกต่าง  และนั่นคือสิ่งที่ทำให้รถขับเคลื่อนสี่ล้อแตกต่างจากรถทั่วไปโดยสิ้นเชิง

ทดสอบรถยนต์  Nissan X Trail 2.0 V 4WD

Nissan X Trail 2.0V 4WD แตกต่างจากคู่แข่ง ร่างหรูที่พร้อมลุย

 

แม้กายภายนอกจะเหมือนกันราวกับแกะและแตกต่างกันไม่มากจนเป็นที่สังเกต แต่ถ้าคุณถามว่าคุ้มไหม ที่จะเพิ่มเงินไปซื้อรถยนต์อเนกประสงค์ที่มีฟังชั่นระบบขับเคลื่อนสี่ล้อ ต้องบอกว่ามันคุ้มอย่างแน่นอน ....ถ้าคุณมีโอกาสได้ใช้มัน

ถึงในความเป็นจริงเราอาจจะไม่ได้ใช้ฟังชั่นขับเคลื่อนสี่ล้อมากมาย แต่ใน Nissan  X-Trail 2.0 V 4WD ระบบขับเคลื่อนสี่ล้อของมันที่สามารถทำงานได้ 2 โหมด สำคัญคือ ส่งกำลังอัตโนมัติระหว่างล้อหน้าและล้อหลังในโหมด Auto มันมีประโยชน์อย่างมาก เมื่อคุณต้องการความมั่นใจในการขับขี่มากขึ้น เช่นขับรถท่ามกลางฝนตกหนัก หรือ ต้องขึ้นลงทางชันมากๆ อย่างเส้นทางตามภูเขาต่างๆ และยังมีสภาพการณ์ต่างๆที่ระบบขับเคลื่อนสี่ล้อสามารถเข้ามาช่วยในการขับขี่ เพื่อให้เสถียรภาพในการทรงตัวดีกว่า เพิ่มความมั่นใจในการขับขี่มากขึ้น

ทดสอบรถยนต์  Nissan X Trail 2.0 V 4WD

แต่จะว่าไป  Nissan  X-Trail เป็นรถที่ให้ความมั่นใจอยู่แล้วเป็นทุนเดิม ด้วยระบบช่วยเหลือในการขับขี่ยาวเป็นหางว่าว ไม่ว่าจะระบบควบคุมเสถียรภาพในการขับขี่ Active Trace Control รวมถึงยังมีระบบลดความเร็วอัตโนมัติ ขณะถอนคันเร่งหรือเข้าโค้ง (Active Engine Brake) ซึ่งสองระบบนี้ช่วยให้การทรงตัวของเจ้าอเนกประสงค์คันนี้ดีกว่าคู่แข่งแบรนด์ยอดนิยมอย่างมาก

และท้ายสุดในทางลุย ระบบขับเคลื่อนสี่ล้อที่สามารถเลือกโหมดได้ไม่ใช่สิ่งเดียวที่ทำให้ เจ้ารถยนต์  Nissan X Trail   วิเศษกว่ารุ่นอื่น แต่ด้วยระบบ  Active Ride Control ช่วยให้การโดยสารดีมากขึ้นกว่าเดิม ลดอาการโยนหรือกระแทกกระทั้นจากหลุมบ่อช่วยเพิ่มความสบายในการขับขี่

อย่างไรก็ดี หลายคนอาจจะกังขาเรื่องสมรรถนะการขับขี่ว่า เมื่อเครื่องยนต์ขนาด 2.0 ลิตร มาอยู่ในร่างรถยนต์อเนกประสงค์มันจะอืดหรือไม่ แต่ข้อกังวลนี้เราได้พิสูจน์กับการทดสอบสมรรถนะ เริ่มจากการทดสอบอัตราเร่ง

 

ตารางแสดงผลการทดสอบอัตราเร่งของรถยนต์  Nissan X Trail 2.0V 4Wd

 

ครั้งที่ 1

ครั้งที่ 2

ครั้งที่ 3

ค่าเฉลี่ย

 อัตราเร่ง 0-100 ก.ม./ช.ม.

10.999

11.000

10.981

10.993

 อัตราเร่ง 80-120 ก.ม./ช.ม.

9.000

9.000

10.000

9.333

*หมายเหตุ : ทดสอบบนถนนลาดยาง - ผู้โดยสารสองคน

 

จากการทดสอบอัตราเร่งในรถยนต์  Nissan XTrail  เราค้นพบว่า ตัวรถมีความกระฉับกระเฉงในเรื่องอัตราเร่ง แม้จะติดตั้งระบบขับเคลื่อนสี่ล้อเข้ามา  จนมีน้ำหนักเพิ่มอีก 86 กิโลกรัม ซึ่งจากการเปรียบเทียบข้อมูลเรื่องอัตราเร่งกับรถรุ่นขับเคลื่อน 2 ล้อ ที่นำมาทดสอบก่อนหน้านี้ พบว่า ในรุ่นขับเคลื่อน 4 ล้อ จะมีอัตราเร่งช้ากว่าเพียง 1 วินาที .... โดยประมาณ ไม่ใช่ตัวเลขที่มากมายเลย เมื่อเทียบกับ ระบบขับเคลื่อนที่เข้ามาเพิ่มเติม

 

ตารางแสดงการเปรียบเทียบ อัตราเร่งรถยนต์  Nissan X-Trail  รุ่นขับเคลื่อนสองล้อ และรุ่นขับเคลื่อนสี่ล้อ

 

 

อัตราเร่ง 0-100 ก.ม./ช.ม.

อัตราเร่ง 80-120 ก.ม./ช.ม.

2 WD

4WD

2WD

4WD

ครั้งที่ 1

10.015

10.999

10.000

9.000

ครั้งที่ 2

10.0001

11.000

10.000

9.000

ครั้งที่ 3

9.680

10.981

10.000

10.000

เฉลี่ย

9.899

10.933

10.000

9.333

 

และถ้าคุณสงสัยว่า เมื่อนั่งตันเต็ม....มันจะอืดหรือไม่ .... เราแอบลองจับเวลาตอนออกไฟแดงระหว่างทางตอนไปเที่ยวทับเบิก ในขณะที่ทุกคนหลับ ถนนยามค่ำคืนว่าง เราออกตัวอย่างรวดเร็ว แต่เพื่อไม้ให้ทุกคนตื่นเราเลยทำเพียงครั้งเดียวเท่านั้น เราตัวเลข 0-100 ก.ม./ช.ม.   ในเวลา 14.0 วินาที และ 80-120 ก.ม./ช.ม. ในเวลา 11.0 วินาที

ฟังแล้วอาจจะยังกังขาเรื่องสมรรถนะรถคันนี้ แต่ขากลับเราลองพิสูจน์มันเต็มๆ กับ   Mazda 3 Sedan  รุ่นใหม่ที่ขับรถไม่เอาอ่าวหนึ่งคัน ทั้งที่ผู้โดยสารเต็มรถเราสามารถเร่งสนุกไล่บี้กับเจ้าซีดาน ซูม-ซูมอย่างเมามันส์ แม้ว่าเราจะมีจำนวนคนมากว่า และน้ำหนักมากกว่า พวกเขาก็หนีเราไม่ออก แถมเรายังแซงคืนได้ในหลายจังหวะ ยิ่งถ้าคุณมีทักษะการขับรถมากพอ นั่นคงพอจะให้คำตอบพิสูจน์เรื่องสมรรถนะที่เต็มเปี่ยมของ   Nissan  X Trail  ใหม่ได้

 

ความลงตัวในการวิศวกรรมด้านต่างของ Nissan  X-Trail 2.0 V 4WD ทำให้มันเป็นรถอเนกประสงค์ที่ครบครันไร้ที่ติในเรื่องการใช้งาน .... ในทุกด้านไม่ว่าจะภาพลักษณ์ที่ดูดี ความลงตัวในการออกแบบหรือจะสมรรถนะการขับขี่จากเครื่องยนต์ 2.0 ลิตร ที่มีดีทั้งสมรรถนะและความประหยัดน้ำมัน เพียงแต่ถ้าลุยอาจจะต้องทำความคุ้นชินกับการใช้เครื่องยนต์เบนซิน นั่นทำให้มันเป็นรถที่คุ้มค่าที่สุดในสายตาเราและเราอดไม่ไหวที่จะเฝ้ารอจะได้ขับรุ่นไฮบริด ที่น่าจะขับสนุกและประหยัดมากขึ้นกว่าเดิม

 

 

 

เรื่องและขับทดสอบ โดย ณัฐยศ ชูบรรจง (Bonn)

ติดตามผู้สื่อข่าวและนักทดสอบรถยนต์ นาย ณัฐยศ ชูบรรจง ได้ที่ Facebook หรือ ทาง  Fan page ,Twiter (@nattayodc)

 

 

ขอบคุณ  บริษัท นิสสัน มอเตอร์ ประเทศไทย จำกัด ที่เอื้อเฟื้อ รถทดสอบ   Nissan X trail 2.0 4WD   มาให้ทีมงาน  Autodeft.com สำหรับขับทดสอบในครั้งนี้

 

ผลการทดสอบ   Nissan X Trail 2.0 4WD

รถทดสอบ Nissan X Trail 2.0V 4WD

ราคาจำหน่าย 1,337,000 บาท

 

 

สิ่งที่ชอบ >> ความลงตัวในการออกแบบและการวิศวกรรม คือที่ดีที่สุดของรถยนต์อเนกประสงค์ Nissan X Trail   มันทำให้คุณรู้สึกได้ทันทีว่ารถยนต์อเนกประสงค์คันนี้ดูสง่างามและ เมื่อขับมันคุณยิ่งรู้สึกดี คล้ายกับคุณคิดไม่ผิดที่จีบสาวงามคนหนึ่ง ที่งามทั้งหน้าตาและจิตใจ แถมยังรู้ใจคุณ ...เฮ้ยนี่มันนางฟ้าชัดๆเลยนะ !!

 

สิ่งที่ไม่ชอบ >>  สิ่งที่น่าเป็นห่วงในรถคันนี้ มีอย่างเดียว คือมันมีระบบอิเล็กทรอนิกส์ช่วยในการขับขี่มาก จนน่ากังวล เมื่อคิดถึงว่าคุณอาจจะใช้รถยนต์เป็นระยะเวลานานๆ แต่มองกลับกัน นั่นทำให้รถอเนกประสงค์คันนี้ขับขี่ได้ดีเกินคาด

 

สิ่งที่อยากให้มี >> แม้ว่าจะไม่ได้เกิดมาลุยอย่างแท้จริง แต่เราค่อนข้างจะอยากให้นิสสัน พิจารณาการทำระบบกันสะเทือนที่มีความสูงมากกว่านี้อีกนิดหน่อย หรือย่างน้อยก็ทำให้มันปรับได้เมื่อต้องลุย เนื่องจาก  Nissan X Trail  เป็นรถยนต์ค่อนข้างมีระยะต่ำสุดจากพื้นน้อยกว่าคู่แข่ง ซึ่งถ้ามันสูงกว่านี้อีกนิดน่าจะช่วยได้ไม่มากก็น้อย และก้ไม่น่ากระทบกับสมรรถนะในการขับขี่  

 

คำแนะนำสำหรับผู้ซื้อ  >>> ในความคิดเห็น นี่คือรถยนต์อเนกประสงค์ที่คุ้มค่าและลงตัวในการขับขี่ในรอบปี ยิ่งรุ่นขับเคลื่อนสี่ล้อเทียบกับรถอเนกประสงค์รุ่นอื่นๆ ถือว่ามันไม่ได้มีราคาแพงกว่า ทว่ามันกลับขับดีกว่าอเนกประสงค์ทุกรุ่นที่มีราคาในระดับเดียวกัน

 

ติดตามข่าวสารยานยนต์ รวดเร็วก่อนใคร ได้ที่ Autodeft.com

[GALLERY1874]

5 เรื่องน่าสนใจ