Full Review Honda Civic 2016 1/2 : Honda Civic 1.5 Turbo RS หล่อครบเครื่อง..อารมณ์ครบรส ...
- โดย : Autodeft
- 13 พ.ค. 59 00:00
- 136,060 อ่าน
ในทุกยุคทุกสมัยไม่ว่าจะกี่ปีที่ผ่านไป หลายปีที่ผ่านมา รถยนต์ที่รับความนิยมจากลูกค้าล้วนแล้วแต่สรรค์สร้างมาจากชื่อเสียงที่สังสมมายาวนานจากรุ่นสู่รุ่น และน่าแปลกที่คนไทยก็ยังคงเวียนวนกับรถเจ้าตลาดยอดนิยมติดลมบนเหล่านี้ โดยเฉพาะชั่วโมงนี้เห็นทีจะไม่มีใครไม่กล่าวถึงรถยนต์ Honda Civic 2016
ความผิดหวังของสาวกจากรุ่นที่แล้วปนการกร่นด่าเล็กว่า นับวัน Honda ออกแบบรถถอยหลังลงคลองไปทุกที ทำเอาผู้บริหารรุ่นใหญ่ระดับ CEO อยู่ไม่ติดเก้าอี้ออกมาขอโทษขอโพยสาวก หลังจากปล่อย Honda Civic เจนเนอร์เรชั่นที่ 9 ออกมาปีเศษๆ พร้อมกับยืนยันว่าจะรีบปรับแก้การออกแบบให้ดีขึ้น จนมาเป็นรุ่นปรับโฉมใหม่ที่เริ่มพอจะไปวัดไปวาได้ หากมันก็ยังไม่สามารถสร้างยอดขายเป็นชิ้นเป็นอันให้กับฮอนด้า แถมกลายเป็นสร้างให้ราคาของรถยนต์ Honda Civic เจนเนอร์เรชั่นที่ 8 ในตลาดมือสองพุ่งสูงขึ้นกว่าที่ควรจะเป็นอีกต่างหาก จนท้ายสุดแล้วหมากเกมนี้ดูท่าจะต้องกลับมาตั้งต้นกันใหม่อีกคราว..
ถ้านับตั้งแต่ปี 2012 ที่ Honda เปิดตัวรถยนต์ Honda Civic รุ่นที่ 9 มาจวบจนเมื่อช่วงก่อนงานมอเตอร์โชว์เล็กน้อยกับการเปิดตัวรถยนต์ Honda Civic 2016 ใหม่อย่างเป็นทางการในประเทศไทย มันเป็นช่วงเวลาเพียง 3 ปีกว่าๆ เท่านั้น ที่ Honda Civic รุ่นก่อนหน้านี้ทำตลาด.....และรุ่นใหม่ Honda ก็ทำการมาบ้านมาอย่างดี จนวันเปิดตัวในระดับโลกเราถึงกับอ้าปากค้างกัน และสาวกคนไทยก็อยากจะให้มันมาไวๆ
ย้อนไปก่อนเปิดตัว ช่วงบรรดากัปตันสายการบินโลว์คอสปากเหลืองสไตร์ค ... ในขณะที่คนอื่นพาหวานใจเที่ยววันวาเลนไทน์อย่างชื่นมื่น ผมกับเดือน...เหาะเจ้า Honda Accord Hybrid ไปบุรีรัมย์ เพื่อเตรียมตัวทดสอบ Honda Civic 2016 อย่างเป็นทางการครั้งแรก..
ตอนนั้น เราเห็นรถแล้ว ... เรารู้แล้วด้วยว่าเครื่องยนต์ 1.5 ลิตรเทอร์โบกำลังจะมาวางจำหน่าย ...แต่มันเป็นเพียงเวลา 5 นาที กับ 2 รอบสนามช้าง อินเตอร์เนชั่นแนลเซอร์กิต เพื่อกลับมาบอกผู้อ่านว่ามันเป็นอย่างไร ..... และหลังจากผ่านไป 2 เดือน Honda ก็มาชวนผมไปภูเก็ตกับพี่น้องสื่อมวลชน ... ผมรู้ว่าการไปขับที่ภูเก็ตนั้นเราจะต้องแย่งกับคนอื่น การขับสลับสับเปลี่ยนมืออาจจะไม่ได้ข้อมูลบางอย่างที่หลายคนอยากรู้...ผมจึงตัดสินใจเด็ดขาดว่า ขอไม่ไป...แต่จะขอนำรถมาทดสอบเองภายหลัง....
วันนี้มาถึง....ผมใช้วาระดีในวันที่ 9 พฤษภาคม พ.ศ. 2559 เป็นมงคลฤกษ์ทำการทดสอบรถยนต์ Honda Civic 2016 วันนี้เป็นวาระครบรอบวันคล้ายวันเกิดอายุ 32 ปี ของผม การทำเพื่อผู้อ่าน..เป็นสิ่งที่ยิ่งใหญ่เสมอ และผมใช้โอกาสที่ยอมอดเปรี้ยวไว้ทานหวาน .... ตอบทุกคำถาม...กับทุกโจทย์ที่คุณอยากรู้ในเจ้าตัวท๊อป Honda Civic 1.5 Turbo RS
จากในรุ่นที่แล้วที่โดนค่อนขอดว่า Honda ออกแบบรถยนต์ได้.....บรม ในรุ่นใหม่ทางทีมงานนักออกแบบฮอนด้าจึงเข้มข้นมาขึ้นในการสร้างความเชื่อมั่นกับลูกค้า พวกเขาชี้ทางสว่างให้ตัวเองด้วยการวางแนวทางรถยนต์ Honda Civic ใหม่ รุ่นปี 2016 ให้มีความสปอร์ตชัดเจนมากขึ้น ไม่เหยียบเรือสองแคมมองว่าจะเน้นทางไหนดีอีกต่อไป หากตั้งใจสื่อสารเต็มที่ว่า Honda Civic ต้องคล้องแขนคำว่า สปอร์ตเท่านั้น (เหมือนตอน Rising Spirit รุ่น FD)
หน้าตา Honda Civic 2016 เห็นครั้งนี้ก็ไม่รู้ว่ารอบที่เท่าไรแล้ว เพราะ Honda เริ่มปล่อยรถออกมาให้กับลูกค้า ขับอวดความงามสร้างจุดขายไปบนถนนมากมายหลายครั้ง .ในตัวรุ่น 1.8 ลิตรและหลังๆ ข่าวสารมาไกลจากโรงงานว่ารุ่นเครื่องยนต์ 1.5 ลิตรเทอร์โบก็ออกมาสู่ถนนด้วยแล้วเช่นกัน
หากแต่...ตั้งแต่วันแรกที่เจอ ณ สนามช้าง จะว่าไปก็ไม่เจอ Honda Civic 1.5 Turbo RS ออกมาวิ่งโดดเด่นบนถนน จนวันก่อนรับรถมาทดสอบเพียงวันเดียว... ผมก็พบรถลูกค้าแถวบ้าน และมันงามสง่าจริงๆ ...และผมกำลังจะขับมัน
Honda Civic 1.5 Turbo RS เรียกว่าเป็นที่สุดของแจ้ จาก Honda ใน Honda Civic รุ่นนี้ มันไม่ใช่เพียงเป็นรุ่นท๊อปสุด แต่สำหรับใครที่เป็นสาวก Honda อาจจะรู้สึกตื่นเต้นอย่างมาก ไม่คิดว่ารถยนต์ที่ปั้นออกมาจากโรงงานของค่ายรถยนต์รายนี้จะสปอร์ตมาดเข้ม ดุดันได้ใจ ...
ส่วนตัวแล้ว..ผมให้ฉายา เจ้า Honda Civic 1.5 Turbo RS ว่า “รถแบทแมน” ด้วยความคมเข้มดุดันดูดียามกลางวันและสง่างามท่ามกลางไฟถนนสีส้มยามกลางคืน ล้วนถูกโฉลกกับมันทั้งสิ้น ไม่ว่าคุณจะเป็นชายหรือหญิงเชื่อเลยว่าจะต้องชอบมันอย่างแน่นอน
แนวทางการออกแบบ Honda Civic 1.5 Turbo RS ใหม่ที่เน้นความสปอร์ตเต็มคราบเห็นจากด้านหน้าคุณก็บอกได้ทันทีว่าเป็นตัวท๊อป Honda Civic 2016 ไม่ต้องมาดูเส้นสายลายกระจกให้มากความ จากกระจังหน้าสีดำ ดุดันจนเพื่อนร่วมทางต้องสองสงสัย เป็นส่วนหนึ่งของชุดแต่ง RS เส้นสายการออกแบบ Solid Wing Face ถูกปรับมาใช้กับรถยนต์ Honda Civic ใหม่ ช่วงซุ่มล้อและแก้มข้างออกแบบให้ยกขึ้นเล็กน้อยดูทรงพลังปราดเปรียวในการขับขี่มากยิ่งขึ้น เมื่อดูควบรวมกับชุดไฟหน้าแบบ LED มีมาให้เฉพาะรุ่น RS ภายในโคมให้ไฟ Daytime Running Light และ ไฟตัดหมอกแบบ LED เป็นตัวแสดงเข้ามาสมทบ มันก็หล่อบาดใจจนพี่ใหญ่อย่าง Honda Accord มีแอบเขินบ้าง
เทียบกับรุ่นเดิม Honda Civic ใหม่ ปรับการออกแบบเสาหน้า (เสา A)ให้เอนลงนิดหน่อยทำให้เส้นสายหลังคาดูปราดเปรียวขึ้นอย่างชัดเจน ทีมนักออกแบบของ Honda ทุ่มเทในการออกแบบรถให้โดนใจลูกค้ามากที่สุด ด้วยการจัดหนักความสปอร์ตสื่อสารผ่านเส้นสายทรวดทรงเหมือนรถคูเป้ 2 ประตู หรือ Coupe Like Design แนวทางการออกแบบที่กำลังเป็นที่นิยมในต่างประเทศ จนทำเอาคนจำนวนไม่น้อยหวั่นใจ เมื่อมองว่านี่คือรถใช้งานไม่ได้เน้นซิ่งมันจะนั่งตอนหลังได้ดีหรือไม่
เมื่อแลเส้นสายด้านข้าง เราก็ค้นพบว่า .. ตัวรถช่างดูปราดเปรียว สะท้อนความสปอร์ตมากขึ้นด้วยช่วงไหล่ตัวรถ ลงตัวยิ่งขึ้นกับล้ออัลลอยขอบ 17 นิ้วกว้าง 7 นิ้วมาพร้อมยางขนาด 215/50/R17 บางคนอาจจจะทักว่าแก้มยางยังดูสูงบ้าง แต่ถ้าคุณต้องการขับรถตะลุยทุกเส้นทางในเมืองไทยแบบไม่ต้องหวั่นใจว่า จะมีอะไรรบกวนจิตใจระหว่างขับขี่หรือไม่ ผมว่ายางที่ให้มาถือว่าลงตัว หากมันอาจจะดูดีกว่านีถ้าเพิ่มเป็นล้อขอบ 18 นิ้ว ...
ด้านหลังทีมงาน Honda พยายามอย่างหนักในการอกแบบรถที่ลงตัว อันที่จริงพวกเขาทำได้ดีกว่าความคาดหมายด้วยการแนะนำเอกลักษณ์ใหม่ของรถยนต์ Honda Civic ใหม่ ด้วยไฟท้ายรูปตัว C ... ผ่านชุดไฟท้ายแบบ Led ในรุ่นเครื่องเทอร์โบ คุณยังได้ชุดท่อไอเสียคู่ติดตั้งพร้อมสรรพมาจากโรงงานเสียงดังฟังดูดุดันพอตัว ในระดับที่ไม่ทำให้ข้างบ้านต้องตื่นยามดึก และในรุ่น RS ที่ผมว่าดูดีที่สุดคือ เจ้าสปอร์ยเลอร์หลังทรงเตี้ย ไม่ได้ออกแบบเป็นทรงตูดเป็ด หรือ Built in ในฝากระโปรงหลังเหมือนค่ายอื่น มันยกขึ้นมาเล็กน้อย มันสมส่วนดูดี ไม่ใหญ่เทอะทะจนคนที่บ้านคุณอาจจะสบถว่า “นี่รถลิเกหรือเปล่า”
เรื่องขนาดมิติตัวถัง Honda Civic ใหม่มีการปรับขนาดให้มีความใหญ่มากขึ้นอีกนิดหน่อย ตอนเดินมาที่รถกับคุณยอดชายผมเหลียวมองเจ้า Honda Civic FB รุ่นเดิม แล้วมองน้องใหม่ เห็นได้ชัดว่ามันมีขนาดที่ใหญ่ และยาวขึ้น โดยเฉพาะส่วนกว้างของรถที่เพิ่มความกว้างเป็น 1,799 มม. หรือ กว้างขึ้นกว่าเดิม +50 มม. ความยาวเองก็มีการปรับให้สมส่วนมากขึ้น ด้วยความยาวตลอดรอบคัน 4,630 มม. เพิ่มขึ้น +25 มม. ส่วนหนึ่งมาจากฐานล้อของรถปรับขยับเพิ่มความยาวมาอีกถึง +30 มม. จนรุ่นนี้มีฐานล้อระหว่างหว่างด้านหน้าและด้านหลังยาว 2,700 มม. และจัดการเรื่องความสูงปรับตัวลดลง -20 มม. เหลือเพียง 1,416 มม.
“คุณ Bonn ผมชวนไปภูเก็ต ไม่ไปนะ” ... นายยอดชายจากฮอนด้า พูดแซวระหว่างที่เดินพาผมไปที่รถทดสอบของเรา Honda Civic 1.5 Turbo RS ... ผมหันไปอมยิ้ม... แต่ไม่ได้ตอบอะไรกลับไป ..เพราะการไม่ไปทดสอบไม่ต่างจากการโดดงาน ทว่าการเลือกจะหอบรถมาขับเอง....น่าจะได้ข้อมูลมากกว่านั่นคือที่ผมคิด ... ผมเชื่อว่า นายยอด เขาก็รู้ดี
น้องโอ๊ต ..หนึ่งในสมาชิกใหม่ทีมงานประชาสัมพันธ์ Honda ยื่นกุญแจ Honda Smart Key มาให้ทีแรกแปลกใจทำไมมันหนาๆ.. แต่พอรูดซิบซองหนังออกดู ก็ถึงบางอ้อว่ามันหนาที่ซอง นี่เอง ...
ยื่นมือจับประตู Honda Civic เหมือนรู้ว่ามันกำลังจะได้เที่ยว มันเปิดประตูต้อนรับผมทันที การใช้งานแบบนี้ง่ายดีและคือสิ่งที่ผมชอบใน Honda มาเสมอ แต่หลายครั้งก็พบว่ามันเป็นปัญหากับผู้ใช้บางกลุ่ม ซึ่งไม่เข้าใจระบบของ Honda ว่าไม่ต้องกดปุ่มให้วุ่นวาย เพียงแค่เอื้อมจับมือเปิดประตู ระบบจะปลดล็อคทันที
เข้ามาในห้องโดยสาร ล้มตัวลงนั่งเบาะฝั่งคนขับ กวาดสายตามอง Honda Civic โดยรอบความคุ้นเคยจากเดือนกุมภาพันธ์กลับมาอีกครั้ง เพียงแต่ครั้งนี้ Honda ไม่ได้ให้เราเร่งรีบขับออกไป ผมนั่งมองภายในดูการตบแต่งโทนสีดำเน้นความสปอร์ตเต็มพิกัดอยู่สักพัก จนรู้สึกว่าพวกเขาทำการบ้านมาดีอย่างน่าเหลือเชื่อ และแปลกกว่ารถยนต์คอมแพ็คคาร์ที่ต้องการความสปอร์ตยี่ห้ออื่น คือ Honda ไม่ได้วัสดุอะไรก็ตามที่มีลวดลายเคฟล่าร์ หรือพลาสติกแปะสติกเกอร์อะไรก็ตามหลอกผู้ซื้อกว่ามันเป็นลวดลายเคฟล่าร์ในห้องโดยสารเลยแม้แต่ชิ้นเดียว....
การไร้วัสดุเคฟล่าร์.ก็ไม่ได้หมายความว่า รถคันนั้นจะไม่สปอร์ต..ผมชอบการเดินความคิดนี้ในรถยนต์ Honda Civic 1.5 Turbo RS การตบแต่งของรถคันนี้ขลับไปในแนวทางความทันสมัยมากกว่า ท่ามกลางคอนโซลหน้า ปุ่มสตาร์ทเครื่องยนต์สีแดงตกรุ่นไป กลายเป็นปุ่มสีดำ ครั้งนี้จัดวางใหม่ไว้ทางด้านขวาของคนขับ สามารถเรืองแสงเปลี่ยนสีมีลูกเล่นในการใช้งานพอตัว
เมื่อเหยียบเบรกกดปุ่มลงไป เจ้าปุ่มนี้จะแปลงเป็นสีส้มบอกความสปอร์ตในตัวตนของมัน ขณะที่เครื่องยนต์ก็เริ่มต้นการทำงานทันที... เอกลักษณ์หนึ่งที่หายไปคือคอนโซล 2 ชั้น หาก Honda ทดแทนด้วยหน้าปัดเรือนไมล์ใหม่ออกแบบให้ทันสมัยมากขึ้น บรรจุชุดจอแสดงผล TFT แบบที่รถยนต์ยุโรปหลายรุ่นเริ่มหันมาใช้
เมื่อเริ่มต้นทำงานหน้าจอเรือนไมล์ จะมีการแสดงผลสุดเว่อร์วังอลังการล้านแปดดูแล้วบางครั้งก็ขนลุกเกลียวฟู่ เราไม่คิดว่า Honda จะทำได้จับใจขนาดนี้ ตัวหน้าจอเอง สามารถปรับลดความสว่างหน้าจอได้ตามต้องการ และตรงกลางจะแสดงเรือนไมล์ความเร็วและวัดรอบเครื่องยนต์เป็นมาตรแสดงหลัก และยังสามารถปรับใช้งานให้แสดงผลฟังชั่นต่างๆ เพิ่มขึ้นได้ อาทิ การใช้งาน ,การประหยัดน้ำมัน ระยะทางที่ยังเดินทางได้, ข้อมูลจากโทรศัพท์,และรวมถึง ยังมีมาตรวัดเทอร์โบชาร์จอีกด้วย ...
คนขับได้แป้นเหยียบแบบสปอร์ต ตลอดจนบนพวงมาลัยยังคงลูกเล่นในการใช้งานครบเครื่อง ฝั่งซ้ายเป็นชุดปุ่มควบคุมเครื่องเสียงและโทรศัพท์ ปุ่มใหม่ที่น่าสนใจคือ Swipe Key ทีแรกก็คิดว่าอ่อ มันกดบวก หรือลบ ..เท่านั้น แต่ที่ไหนได้ คุณสามารถรูดนิ้วปุ่มเพิ่มหรือลดเสียงนี้ได้เหมือนบน Smart Phone ..บอกเลยว่าโคตรเจ๋ง. (แต่กว่า จะรู้ก็วันสุดท้ายแล้ว 55) ส่วนฝั่งขวาเป็นระบบ Cruise Control ควบคุมความเร็วอัตโนมัติติดตัวมาให้ใช้งาน น่าเสียดายฮฮนด้ายังไม่ใจปล้ำพอให้ระบบ Adaptive Cruise Control
เหลียวมองทางซ้ายตรงกลางคอนโซลหน้าเป็นระบบเครื่องเสียงติดรถยนต์มาให้ Honda Advance Touch ขนาด 7 นิ้ว รองรับการเชื่อมต่อมือถือ และยังมีฟังชั่นการใช้งานระบบ Apple Car Play มาเป็นลูกเล่นเสริมการทำงาน และจากการทดลองเล่นระบบหลายวัน ผมค้นพบว่า ยังซ่อนฟังชั่น Andriod Auto ไว้ให้ใช้งานด้วย ..แต่ยังไม่ได้มีโอกาสลองเล่น
เรื่องการใช้งานระบบ Apple Car play ภาพรวมก็คล้ายกับที่เคยเจอในรถรุ่นอื่นๆ ที่ติดตั้งระบบนี้ เน้นหนักไปที่การใช้ Siri เพื่อช่วยในการทำงานจัดการความต้องการของคุณ ปัญหาเดิมๆ เช่น Siri งง หรือฟังชั่นแผนที่ยังไม่รองรับการทำงาน จะพูดก็พูดมันทำให้การใช้งานยังไม่สมบูรณ์อย่างที่ควรจะเป็น
ถัดลงมาระบบปรับอากาศเป็นแบบปรับอัตโนมัติ ในรุ่น RS มันสามารถปรับแยกอิสระซ้าย-ขวา ได้ด้วย หากถ้าสังเกตจะพบว่าปุ่มปรับพัดลมแอร์หายไป นั่นเพราะ Honda ปรับระบบไปรวมในการทำงานผ่านชุดหน้าจอเครื่องเสียง เพียงกดปุ่มแล้วจากนั้นสัมผัสบนหน้าจอ เลือกตามต้องการ
ส่วนตรงคอนโซลกลางด้านล่างเป็นตำแหน่งคันเกียร์ Honda Civic ใหม่ ให้ระบบ Brake Hold พร้อมระบบเบรกมือไฟฟ้ามาตอบโจทย์ลูกค้าทุกรุ่น ข้างคันเกียร์จัดปุ่มเพิ่มความประหยัด E Con มาให้ใช้งาน.... เหมือนเคย
เบาะนั่งคู่หน้าใน Honda Civic 1.5 Turbo RS ฝั่งคนขับเป็นเบาะปรับไฟฟ้า 8 ทิศทาง ฝั่งคนนั่งเป็นระบบไฟฟ้าเช่นกันปรับได้ 4 ทิศทาง น่าเสียดายในรุ่นนี้ ฮอนด้าน่าจะให้ฟังชั่นบันทึกท่านั่งมาด้วย เนื่องจากราคาค่าตัวเฉือนกับ Honda Accord นิดเดียว
เรื่องความสบายในการใช้งานยังเป็นเอกลักษณ์ที่ Honda ทำได้ดีเสมอมา เบาะนั่งออกแบบมาได้นั่งสบายทั้งในส่วนของพนักผิงหลังหรือในส่วนที่รองนั่ง ทำออกมาได้ดีจนคนตัวใหญ่อย่างกระผมนั่งได้สบาย แม้เบาะนั่งจะทำออกมาพยายามให้ดูสปอร์ตสวยงาม แต่เค้าโคลงเบาะคล้ายๆกับรถยุโรปอย่าง SAAB เหมือนกัน ....นายเต้ยเองแสดงความคิดเห็นกับผม
เบาะนั่งตอนหลัง เมื่อเทียบกับรุ่นเดิมก่อนหน้านี้ Honda Civic ใหม่ จัดท่านั่งมาดีกว่าเดิม ส่วนที่ดีที่สุดเห็นที่จะเป็นพื้นที่วางขา ที่ทางทีมวิศวกรบอกกล่าวว่า ได้เพิ่มระยะวางขามาอีก 45 มม. เช่นเดียวกับการวางขาปรับให้มีระยะเข่าถึงเบาะหน้าเพิ่มขึ้นอีก 70 มม. มากพอจะทำให้คนที่เคยนั่งทั้งสองรุ่นมาแล้วเห็นความแตกต่างอย่างชัดเจน
หลังคาลาดเทสไตล์คูเป้อาจจะดูอึดอัดภายนอก แต่เมื่อเข้านั่งจริงๆ ในท่านั่งที่ทาง Honda จัดให้มันไม่เลวร้ายอย่างที่หลายคนมโน การจัดท่านั่งเอนหลังเล็กน้อยทำให้รู้สึกสบาย การออกแบบตัวเบาะหลังทำได้ดีไม่จัดว่าแข็งไปหรือนุ่มไป ที่พักแขนสำหรับคนนั่งหลังยังมี และพับเก็บได้ถ้ามีเพื่อนร่วมทางอีกคน
หากแต่ที่น่าเจ็บใจคงไม่พ้นการลดต้นทุนง่ายด้วยการเพิ่มชิ้นส่วนพลาสติกมาที่ขอบเบาะนั่งตอนหลังทั้ง 2 ด้าน ทำเอารู้สึกกระดากใจอยู่บ้างเมื่อมองว่านี่คือรถราคาล้านบาทขึ้นไปแล้ว และดูเหมือนว่า Honda จงใจที่จะไม่ทำฟังชั่นเบาะนั่งตอนหลังปรับพับได้มาให้ กลายเป็นจุดที่ทำให้รถรุ่นนี้ด้อยกว่าคู่แข่ง ...ไปอย่างน่าเสียดาย
กดปุ่มสตาร์ทเครื่องยนต์พร้อมออกเดินทาง ขุมพลังบล็อกเล็กแต่เร้าใจเครื่องยนต์ 4 สูบแถวเรียง Double Over Head Camshaft ขนาด 1.5 ลิตร พร้อมระบบเทอร์โบชาร์จ พร้อมสนองตอบการขับขี่ทันที่
เครื่องยนต์บล็อกนี้เป็นบล็อกใหม่ล่าสุดจาก Honda พัฒนาขึ้นมาตอบสนองความต้องการประหยัดน้ำมัน แต่ยังเน้นการให้สมรรถนะในการขับขี่อันยอดเยี่ยม การวิศวกรรมเครื่องยนต์ออกแบบให้เป็นมีลักษณะช่วงชักและกระบอกสูบ 89.5X73.0 มม. อัตรากำลังอัด 10.6:1 สนองความเร้าใจด้วยกำลังสูงสุด 173 แรงม้า สูงสุดที่ 5,500 รอบต่อนาที และทำกำลังแรงบิดสูงสุดต่อเนื่อง 220 นิวตันเมตร ให้แรงบิดต่อเนื่องตั้งแต่ 1,700 รอบต่อนาที ถึง 5,500 รอบต่อนาที (เทียบเท่าเครื่องยนต์ขนาด 2.4 ลิตรที่ยังวางขายใน Honda CR-V – Honda Accord)
ตัวเทอร์โบเองยกชุดมาจาก Mitsubishi Heavy Industry รหัสคุ้นหู TD03 พร้อมเวสเกทในตัว ในเครื่องยนต์ยังได้รับจ่ายน้ำมันตรงสู่ห้องเผาไหม้ Direct injection ผสานกับการทำงานระบบ Variable Timing Control ทั้งทางฝั่งไอดีและไอเสียควบคุมสมรรถนะการขับขี่เป็นไปตามต้องการ
ถ้าคุณถามว่าแล้วเครื่องยนต์บล็อกนี้ให้ความรู้สึกอย่างไรในการขับขี่จริง....ผมกล่าวเลยว่า ความรู้สึกการขับขี่ในภาพรวมนั้นไม่ต่างจากความรู้สึกที่คุณสัมผัสจากเครื่องยนต์ขนาด 2.0 ลิตรที่ Honda ปลดประจำการออกไป แม้ว่า เครื่องยนต์บล็อกนี้จะเป็นแบบเทอร์โบชาร์จ หากด้วยการวิศวกรรมอันดุเด็ดเผ็ดมันส์ซับซ้อนซ่อนเงื่อนต่างๆไว้มากมาย ทั้งหมดตอบโจทย์สำคัญเพียงข้อเดียว คือคุณขับเครื่องยนต์เทอร์โบได้ง่ายไม่ต้องวุ่นวายเกรงกลัวแรงกระชากเหมือนรถรุ่นอื่นๆ ที่ติดตั้งเทอร์โบชาร์จเข้ามา ... ยิ่งถ้าไม่มีใครบอกคุณว่านี่เครื่องยนต์เทอร์โบชาร์จ เชื่อเถอะคุณจะต้องคิดว่านี่มันเครื่องยนต์ 2000 ซีซี แน่นอน
ส่วนหนึ่งมาจากการควบคุมการไหลเวียนอากาศผ่านระบบวาล์วแปรผันคู่ ทำให้เจ้า Honda Civic ลดอาการรอรอบของเทอร์โบได้หายเป็นปลิดทิ้ง คุณไม่รู้สึกถูกดึงดูดฉุดกระชากในการขับขี่ หรือเฝ้ารอว่าเทอร์โบจะบูสต์เมื่อไร มันดีสำหรับคนที่ไม่เคยขับรถเทอร์โบ แต่สำหรับผมคนที่ใช้ชีวิตกับรถเทอร์โบมายาวนาน ต้องยอมรับว่า Honda ดันทำเสน่ห์ของเครื่องยนต์เทอร์โบชาร์จหล่นหายไปอย่างน่าเสียดาย และเชื่อว่าลูกค้าหลายคนคาดหวังกับมัน เมื่อพวกเขาหูพึ่งว่า Honda ทำเครื่องยนต์เทอร์โบมาขาย มันยังพาคุณตูดจมเบาะได้ แต่ไม่รู้สึกหลังติดเบาะเสียทีเดียว
การให้ระบบเกียร์ CVT มาเคียงข้างคู่เครื่องยนต์เทอร์โบเป็นอีกเรื่องที่ทำเอาหมดสนุกในการขับขี่ แต่กลับกันคุณจะได้ความนุ่มนวลในการเดินทางและการตอบสนองของชุดเกียร์ดีเยี่ยม แม้อาการ CVT ที่ไม่พุ่งปรู๊ดออกทันทีที่ถีบคันเร่งลึกลงไป .... จะเป็นหนึ่งในหลายเรื่องที่ไม่ชอบใจนักในเจ้า Honda Civic 1.5 Turbo RS กลับกันสำหรับคนทั่วไป ลูกค้าชาวฮอนด้าน่าจะรักมันเพราะไม่ได้ดูดิบเถื่อนเกินไปนัก
การขับขี่ในเมืองเจอสารพันปัญหารถติด ทำให้ผมนึกว่าเครื่องยนต์บล็อกนี้น่าจะติดตั้งระบบหยุดการทำงานอัตโนมัติมาให้ และเราอยากจะร้องขอแบบนั้นกับฮอนด้า เพื่อทำให้มันประหยัดน้ำมันมากขึ้นกว่านี้ แม้ว่าจากการขับขี่ในเมือง ผมจบอัตราประหยัดจากการขับขี่ด้วยน้ำมันแก๊สโซฮอล 91 ที่ทางฮอนด้าอนุเคราะห์มาให้เต็มถัง ด้วยระยะทางทั้งสิ้นไม่รู้ขับไปไหนมานักหนาถึง 172.8 ก.ม. เติมน้ำมันคืนถังไป 16.097 ลิตร ที่ 10.73 ก.ม./ลิตร จะว่าไปแล้วมันทำได้ดีกว่าเครื่องยนต์ขนาด 2.0 ลิตรส่วนใหญ่ และจะดีกว่านี้อีกถ้าได้ระบบหยุดการทำงานเครื่องยนต์ชั่วคราวมาเสริมทัพ
จบในเมืองวันแรก... ยอมรับว่าหลายฟังชั่นของ Honda Civic ได้ใช้งานจริงมากมาย อาทิ ระบบ Brake Hold หรือผู้ช่วยในการขับขี่อย่างระบบช่วยออกตัวบนทางลาดชัน หรือกล้องมองหลังปรับได้ 3 ระดับ ในการใช้งาน ...แต่ Honda Civic 1.5 Turbo RS ยังจำเป็นต้องพิสูจน์หนทางยาวไกล .... .
อันที่จริง ...ผมมีเรื่องอยากจะเล่ามากๆว่า ผมเชื่อว่า Honda Civic 1.5 Turbo RS คันนี้ที่ผมนำมาทดสอบเป็นคนเดียวกับ ที่สนามบุรีรัมย์ ผมจำได้ว่าเจ้ารถคันนี้เป็นหมายเลข 2 ของฮอนด้าที่ผลิตออกมา และในเช้าวันใหม่ที่เตรียมทดสอบทางไกล คนของจ้าละหวั่นขึ้นรถ ผมเห็นรอยสติกเกอร์ของมัน ...และผมนึกภาพทบทวนในหัวดีๆ ผมก็มั่นใจว่า เจ้าวิคคันนี้นี่แหละ... ที่ผมเคยหวดมันที่สนามช้าง
การขนของขึ้นรถพร้อมเดินทาง ทำให้ผมรู้ว่าเจ้า Honda Civic 1.5 Turbo RS มีดีกว่าที่เห็น ห้องสัมภาระท้ายของมันค่อนข้างใหญ่พอสมควร ตามข้อมูลระบุว่า Honda Civic ใหม่ มีพื้นที่สัมภาระท้ายมากถึง 630 ลิตร เลยทีเดียว โดยทางวิศวกร Honda เพิ่มอำนาจในการขนสัมภาระด้วยความยาวห้องสัมภาระท้ายยาวขึ้นจากเดิมอีก 60 มม.
อากาศร้อนเช่นนี้ ..ใครอยากขึ้นรถก็อยากจะเย็นสบาย ... Honda Civic ใหม่ ทุกรุ่นมาพร้อมฟังชั่น Remote Engine Start ให้คุณสตาร์ทรถรอ เพื่อให้ระบบปรับอากาศในรถทำงานจะได้ชุ่มฉ่ำเมื่อหลบร้อนเข้าไปในรถ ไม่ใช่หลบร้อนภายนอกเข้าไปเจอร้อนกว่าประดุจเตาย่าง ...
วิธีการใช้งาน Remote Engine Start ให้คุณล็อครถเพิ่มหนึ่งครั้งแม้ว่ารถจะล็อคอยู่แล้ว ..เมื่อรถล็อคแล้วในช่วงเวลา 5 วินาที กดปุ่ม Remote Start ที่มีสัญลักษณ์รูปลูกศรวน สักพักจะมีไฟเลี้ยวกระพริบตอบ และเมื่อเครื่องยนต์ทำงานไฟเลี้ยวจะกระพริบ 6 ครั้งติดกัน ...
เมื่อใช้รีโมทสตาร์ท เจ้า Honda Civic จะสตาร์ทเครื่องยนต์พร้อมทำงานและแอร์เย็นฉ่ำ หากคุณเผลอลืมเหยียบเบรกกดปุ่มตาร์ทอีกที แล้วหันไปเข้าเกียร์เลยรถจะดับการทำงาน ดังนั้นเมื่อใช้ฟังชั่นนี้จำต้องกดปุ่มสตาร์ทการทำงานอยู่ดี
ใกล้หมดหน้าร้อนผมอยากไปทะเลตัวออกดูบ้าง ปลายทางวันนี้เป็นสถานที่ตากอากาศไปไม่ไกลจากกรุงเทพฯ หาดเจ้าหลาว และคุ้งวิมาน สถานที่ถ่ายรูปยอดฮิตของคอคนรักรถ ผมเดินทางออกเสน้ทางมอเตอร์เวย์มุ่งหน้าไปทางพัทยา เนื่องจากมีรายงานว่า ช่วงอำเภอบ้านบึงมีการทำถนนอย่างต่อเนื่องและการจราจรติดขัดพอสมควร
เมื่อผ่านด่านลาดกระบังผมปฏิบัติการกฎหมายกำหนดขับด้วยความเร็วไม่เกิน 120 ก.ม./ช.ม. เนื่องจากรถทดสอบเราวันนี้เป็นป้ายขาวแล้ว เกรงว่าพี่ตำรวจจะส่งภาพที่ระลึกให้ทางฮอนด้า เพื่อตัดปัญหาผมใช้งานระบบ Cruise Control ในการขับขี่ล็อกความเร็วไว้ที่ 120 ก.ม./ช.ม.
บนหน้าปัดรอบเครื่องยนต์โชว์การทำงานที่ 2300 รอบต่อนาที ในบางจังหวะจราจรเราใช้ความเร็วเพียง 110 ก.ม./ช.ม. บนหน้าปัดโชว์รอบเครื่องเพียง 2,100 รอบต่อนาที น่าเสียดายที่ Honda ยังไม่ยอมให้ระบบ Adaptive Cruise Control ใน Honda Civic ซึ่งจะทำให้เราใช้งานง่ายขับสบายมากขึ้นยามเดินทางไกล
การขับขี่ผ่านระบบเกียร์ CVT ให้ความนุ่มนวลและตอบสนองเร็ว เมื่อผสานกับการทำงานของระบบช่วงล่าง ปรับตั้งค่าแบบแม็คเฟอร์สันสตรัทพร้อมเหล็กกันโคลงทางด้านหน้า และด้านหลังเลือกใช้ระบบมัลติลิงค์พร้อมเหล็กกันโคลง กลับยิ่งที่ทำให้รู้สึกดีในการขับขี่ การเซทช่วงล่างค่อนออกไปทางความสปอร์ต รถมีความหนึบแน่นในการขับขี่ตลอดเส้นทาง คุณรู้สึกได้ผ่านการทำงานของระบบโช๊คและสปริงตอบสนองค่อนข้างไว ทว่าทางฮอนด้าคงเกรงว่าจะสปอร์ตมากไปอย่างเดียวคงจะไม่ดีแน่ในยุคนี้ จึงแอบซ่อนสอดไส้ความนุ่มนวลเอาไว้ภายใน สำหรับลูกค้าที่ยังต้องการความสบายในการเดินทาง
ใครที่เน้นขับรถเร็วชอบซิ่งในโคง้มันส์ ช่วงล่างของ Honda Civic 1.5 Turbo RS เรียกว่าไม่เป็นสองรองใคร มันตอบโจทย์ได้ดี เช่นในช่วงการขับขี่ผ่านคอสะพาน รถจะไม่มีอาการดิ้นย้วยให้เห็น แม้จะมาด้วยความเร็วสูงพอสมควร เพียงแต่สำหรับใครที่คิดว่าอยากได้ช่วงล่างที่นิ่มนวลในการขับขี่มากๆ คงอาจจะยังไม่ค่อยถูกใจนัก
เรื่องการเก็บเสียงเอง Honda Civic 1.5 Turbo RS ทำออกมาได้ค่อนข้างดี เป็นธรรมดาเมื่อคุณใช้ความเร็วสูงแล้ว จะมีเสียงลมเล็ดรอดเข้ามาสู่ห้องโดยสารบ้างไม่มากก็น้อย สำหรับเจ้าซีวิคใหม่การออกแบบที่เน้นความปราดเปรียวของมันช่วยลดแรงปะทะจากลมทางด้านหน้าด้วยเสาเอที่ลดลง ตลอดจนเสา C ที่ออกแบบให้ลาดลงแบบรถคูเป้ก็มีส่วนสำคัญทำให้ Honda Civic .มีหลักอากาศพลศาสตร์ดีขึ้น ซึ่ง Honda ระบุว่าด้วยการออกแบบ Honda Civic ใหม่ พวกเขาสัมฤทธิ์การทำให้รถมีความลู่ลมกว่าเดิมอีก 12%
การลดแรงลมปะทะไม่ใช่การเก็บเสียงในห้องโดยสารอย่างเดียวที่ทำได้ดีเท่านั้น หากยังรวมถึงการเก็บเสียงจากพื้นถนน ด้วยการเปลี่ยนไลน์เนอรซุ้มล้อใหม่ กระจบบังลมหน้าเป็น Acoustic Glass และข่าวดีคือ Honda Civic ใหม่ทุกรุ่นมีซีลประตู 3 ชั้น รวมถึงแผ่นซีลบังความร้อนฝากระโปรงหน้าใหม่ เพื่อการเก็บเสียงดีที่สุด เท่าที่ทำได้
ช่วงก่อนเข้า อำเภอแกลง เราได้โปรโมชั่นจากกรมทางหลวงนิดหน่อย ด้วยทางโค้งต่อเนื่องติดต่อกัน Honda Civic 1.5 Turbo RS โชว์ความสามารถในการเข้าโค้งเหล่านี้ด้วยความเร็วสูงจนเราประทับใจ ในแง่หนึ่งอาจจะมาจากการเซทระบบกันสะเทือนที่เราได้กล่าวไปแล้วเบื้องต้น หากส่วนที่สำคัญกลับเป็นการพัฒนาแชสซีให้มีความแข็งแกร่งยิ่งขึ้น และทนทานต่อแรงบิดมากขึ้นกว่าเดิม
โครงสร้างแชสซี Honda Civic 2016 ใหม่หันมาใช้เหล็ก high Tensile Steel มากถึง 59% รวมถึงทีมวิศวกรยังออกแบบโครงสร้างด้วยเหล็กแบบ Ultrahigh Tensile Steel ทั้งเหล็กแรงดัน 780 MPA และมากกว่านั้น ถึง 14% ทั้งหมดเป็นการปฏิวัติโครงสร้างหลักของรถรุ่นนี้ตลอดในช่วงหลายปีที่ผ่านมา
การวิศวกรรมดังกล่าวส่วนหนึ่งเพื่อให้รองรับความสามารถของเครื่องยนต์ที่เพิ่มมากขึ้น แรงบิดที่ทางฮอนด้ากล่าวว่าเทียบเท่าเครื่องยนต์ขนาด 2.4 ลิตร ทำให้โครงสร้างตัวถังต้องต่อสู้กับแรงบิด และการบิดของตัวถังมากขึ้น ฮอนด้าปิดเผยว่า Honda Civic ใหม่ สามารถทนต่ออาการตัวถังบิดภาพรวมดีขึ้นกว่าเดิมถึง 3.8% และความแข็งแกร่งของตัวถังทนทนต่ออาการบิดตัว 25.8% หากตัวถังกลับเบาลงราวๆ 68 ปอนด์ เมื่อเทียบกับรุ่นเดิม และเพิ่มความแข็งแรงพิเศษในจุดรับแรงสำคัญตลอดคันรถ อาทิ จุดรับแรงจากระบบกันสะเทือน และซับเฟรมต่างๆ ถึงเราจะไม่เห็นภายนอกตัวรถด้วยตาเปล่าก็ตามที หากก็ยังร้สึกได้ถึงความหนึบแน่นในการขับขี่ระหว่างเข้าโค้ง
โค้งที่สองมาแล้วป้ายเตือน “โค้งอันตราย” ดูจะไม่มีผลกับจิตใจผมไปแล้ว ผมใช้ความเร็ว 115 ก.ม./ช.ม. แล้วเลี้ยวพวงมาลัยอย่างนิ่มนวลเข้าโค้งไป ผมมองกระจกหลังรถคันที่ตามมาชะลอความเร็วกันเป็นแถวๆ ขณะที่ Honda Civic กุมชัยชนะพุ่งลงโค้งอย่างรวดเร็ว
มือค่อยกวาดพวงมาลัย สายตาจ้องทางออกโค้งและมองมุมโค้ง เจ้าสอง Honda Civic 1.5 Turbo RS ที่เราควบมาก็ไม่หวั่นใจ มันตอบสนองตามที่ผมต้องการ สิ่งที่ผมชื่นชมคือพวงมาลัยไฟฟ้าน้องใหม่ของ Honda Civic ระบบ Dual Pinion Electronic Power Steering ทำงานได้ดี ฮอนด้าเซทออกมาได้ค่อนข้างลงตัวจนเข้าขั้นเพอร์เฟคมาก พวงมาลัยมีน้ำหนักตึงมือกำลังดีที่ความเร็วปกติ ไร้ระยะฟรี เพื่อตอบความต้องการบังคับทิศทางได้อย่างรวดเร็วทันใจ มันอาจจะไม่ดีเหลือล้นขนาดจะเทียบกับรถสปอร์ตชั้นนำราคาแพงกว่านี้ แต่ในกลุ่มคอมแพ็คคาร์ที่สัมผัสในวันนี้ถือว่าลงตัวที่สุดแล้ว
นอกจากระบบช่วงล่าง พวงมาลัย และความแข็งแกร่งที่ทำให้เข้าโค้งอย่างมั่นใจแล้ว Honda Civic ใหม่ยังได้รับการวิศวกรรมระยะห่างล้อ (ซ้าย-ขวา) หรือ Track ให้กว้างขึ้นกว่าเดิมอีกด้วย ทางด้านหน้าวิศวกรได้เพิ่มระยะพวกมันอีก 25 มม. จนมีความกว้าง 1,547 มม. ส่วนความกว้างด้านหลังบวกเพิ่มจากรุ่นเดิม 20 มม. จนมีความยาว 1,563 มม. ตลอดจนถ้ามองไปลึกถึงยางที่ติดจากโรงงานหน้าสัมผัสยางต่อพื้นถนน (Tread Width) เพิ่มขึ้นจากเดิม 19.8 มม. จากการเปลี่ยนยางและขนาดล้อใหม่
ความมั่นใจในการโค้งอีกส่วนหนึ่งที่สำคัญ มาจากช่วยขับขี่ใหม่ล่าสุด ระบบ Agile Handling Assisted (AHA) ระบบช่วยเหลือในการขับขี่ ซึ่งทางทีมวิศวกรได้พัฒนาความสามารถการทำงานระบบควบคุมการทรงตัว (Vehicle Stability Assisted – VSA) ดั้งเดิมให้สามารถช่วยในการขับขี่ ระบบดังกล่าว ช่วยให้ผู้ขับขี่ลดการใช้พวงมาลัยบังคับทิศทาง และกลับกันใช้ความเร็วในการขับขี่มากขึ้น ในหลายสถานการณ์ เช่น การเข้าโค้ง , การหักหลบกะทันหัน หรือการเปลี่ยนเลนในความเร็วสูง.. มันเข้ามาช่วยในการหันเหทิศทางง่ายขึ้น และทำได้อย่างนิ่มนวลมากขึ้น จนการขับขี่สุดห่ามของคุณจะไม่โดนคนข้างๆ กร่นด่าตัดกล่อง.... น่าแปลกใจ ... ทางทีมงาน Honda ไม่เคยพูดถึงระบบดังล่าว ...แต่มันกลับมีในรถยนต์ Honda Civic ใหม่ทุกรุ่น
ถึงที่หมาย ผมจอดริมจุดจอดรถประจำที่หาดคุ้งวิมาน บรรยากาศโดยรอบยามเย็นที่นี่ทำให้ผ่อนคลายได้ทุกครั้งที่มา จากการเดินทางของเราทั้งสิ้น 326 กิโลเมตร บนหน้าแสดงว่าเราเหลือการขับขี่อีก 251 กิโลเมตร .. Honda Civic มีเรื่องให้แปลกใจอีกเมื่อทีมวิศวกรตัดสินใจลดขนาดถังน้ำมันเหลือเพียง 47 ลิตร (จากรุ่นก่อนหน้านี้มาพร้อมถังขนาด 57 ลิตร) ทำเอารู้สึกประหลาดใจอยู่เหมือนกัน แต่กระนั้นเจ้าเครื่องยนต์ 1.5 เทอร์โบบล็อกนี้ก็ทำอัตราประหยัดได้ไม่เลว ... ผมจบการเดินทางที่นี่ที่ 12.29 กิโลเมตร/ลิตร ... ถือว่ารับได้ และสำหรับเพื่อนที่ขับรถทั่วๆไปน่าจะทำอัตราประหยัดได้ดีกว่านี้ และจะว่าไปมันก็เทียบเท่ากับเครื่องยนต์ 2000 ซีซี
สรุป Honda Civic 1.5 Turbo RS ทันสมัยมากกว่า..ต้องแลกกับราคาแพง??
อะไรที่ล้ำสมัยมักจะมาพร้อมราคาแพง ... เรื่องนี้ผมเรียนรู้ตั้งแต่สมัยยังเด็กย้อนไปช่วงมือถือกำลังเป็นที่นิยม อะไรมาใหม่ ล้วนแพงทั้งสิน เช่นเครื่องเล็กลง จอสี มีกล้อง ..บลา บลา ที่ผู้ผลิตจะสรรหามาหลอกเงินในกระเป๋าของเรา
หลังจบการทดสอบ ผมมานั่งทบทวนพักใหญ่ว่า Honda Civic 1.5 Turbo RS มีอะไรดีพอที่จะทำให้เราจ่ายเงินกับมันบ้าง อย่างแรกที่ผมนึกออกคือความหล่อของชุดแต่ง RS ที่ไม่เป็นสองรองใครในตลาดวันนี้ มันดุดันจนคุณไม่คิดว่าฮอนด้าจากโรงงานจะทำได้ถึงเพียงนี้ นั่นทำเอาผมทึ่งไปเช่นกัน ไม่ว่าจะกระจังหน้าสีดำ สปอร์ยเลอร์ที่ดูดีและไม่บดบังทัศนวิสัย ตลอดจนล้ออัลลอยลายไซโคลน น่าเสียดายมันเป็นเพียงขอบ 17 นิ้วแทนที่จะมากกว่านั้น... ก็ทำเอารู้สึกว่าพวกเขายังกั๊กบางอย่างเอาไว้
ในห้องโดยสารทุกอย่างค่อนข้างครบครัน คงไม่ต้องสาธยายเรื่องราวของเล่นออพชั่นต่างๆมากมาย ที่ Honda สรรหามาให้คุณ อาทิ หน้าจอเรือนใหม่แบบ TFT คล้ายในรถยุโรปบางรุ่น เบาะไฟฟ้าคู่หน้า ระบบความบันเทิงทันสมัยและรองรับ Apple Car Play แล้วไปยันเบรกมือไฟฟ้า ที่มาพร้อมระบบ Brake Hold จนคุณจะลงรัก หากความดีความชอบที่ผมสาธยายมาทั้งหมด Honda กลับมาตกม้าตายในเรื่องการโดยสารตอนหลัง จริงอยู่ห้องโดยสารกว้างขึ้นนิดหน่อย มันดีพอสำหรับการโดยสารทางไกล หลังคาทรงคูเป้ ไม่เป็นปัญหาสำหรับคุณๆ .. แต่ Honda กลับไม่ทำฟังชั่นพับเบาะมาให้ในรุ่นนี้และเท่าที่เราเปิดดูจากห้องสัมภาระท้าย มันก็ไม่สามารถพัฒนาได้ ... ทั้งที่คู่แข่งมีมาให้
ตลอดจนการออกแบบการโดยสารตอนหลังทำเอาผมรู้สึกว่าบางครั้ง Honda ดูเหมือนจะลดต้นทุนมากไป เช่นขอบเบาะนั่งตนหลังกลายเป็นชิ้นส่วนพลาสติก แทนที่น่าจะเป็นหนัง หรือคอนโซลกลางที่ดูกิ๊บเก๋ ทำเป็นแบบเปิดโล่ง .ผมไม่รู้ว่าทีมงานออกแบบไปปรึกษาทีมรถจักรยานยนต์ Honda Zoomer X หรือเปล่า ทำเอาผมแปลกใจไม่คิดว่าจะเจอแนวคิดนี้ในรถยนต์
ด้านเครื่องยนต์ 1.5 ลิตร เทอร์โบชาร์จ ที่หลายคนรู้สึกว่าสมรรถนะน่าจะเร้าใจ บอกสั้นๆว่า ท้ายที่สุด มันคือสมรรถนะเดียวกับเครื่อง 2.0 ลิตร แต่สามารถเร่งแซงได้เทียบเท่าเครื่องยนต์ 2.4 และยังประหยัดพอๆ กับเครื่องยนต์ 1.8 ลิตร และยังขับง่ายกว่าด้วยการไร้ความรู้สึกเทอร์โบรอรอบ .. เหมาะมากสำหรับผู้ที่ไม่เคยขับเครื่องยนต์เทอร์โบมาก่อน มันรู้สึกคล้ายคุณขับรถเครื่องธรรมดาขนาดใหญ่ที่ทรงพลัง
ตารางแสดงอัตราเร่ง รถยนต์ Honda Civic 1.5 Turbo RS
|
ครั้งที่ 1 |
ครั้งที่ 2 |
ครั้งที่ 3 |
เฉลี่ย |
อัตราเร่ง 0-100 ก.ม./ช.ม. |
9.146 |
8.884 |
9.070 |
9.033 |
อัตราเร่ง 80-120 ก.ม./ช.ม. |
5.900 |
5.600 |
5.600 |
5.700 |
หมายเหตุทดสอบด้วยน้ำมันแก๊สโซฮอล 95 ผู้โดยสาร 2 คน บนถนนลาดยาง อุณหภูมิภายนอก 32 องศาเซลเซียส
แม้ว่าอาการระหว่างการทดสอบทั่วไปจะไม่รู้สึกถึงความแรงมากมายนัก แต่เมื่อมาดูสถิติการขับขี่ จะพบว่า Honda Civic 1.5 Turbo RS ค่อนข้างจะตอบความลงตัวในการขับขี่ด้านสมรรถนะดีกว่าที่รู้สึก จากข้อมูลการทดสอบ ชี้ชัดว่าแม้ว่าเจ้า Honda Civic มีอัตราเร่งจี๊ดจ๊าดพอตัว น่าเสียดายคุณจะไม่พบอาการหลังติดเบาะมากมายนักจากมัน หากเมื่อดูอัตราเร่งที่ออกมามันมีดีไม่แพ้คู่แข่ง อาจด้วยเจ้า Honda Civic 1.5 Turbo ให้กำลังบูสต์จากโรงงานมากพอสมควร ตามที่ผมอ่านค่าจาก OBD ที่ 22.6 ปอนด์ต่อตารางนิ้ว หรือ 1.5 บาร์
มิหนำซ้ำ Honda ใส่ใจที่จะทำให้รถคันนี้ที่มีอัตราเร่งเร้าใจ มั่นใจในยามขับขี่พวกเขาทุ่มเทการทำโครงสร้างที่แข็งแรงขึ้น ระบบช่วงล่างที่เซทมาให้เหมาะสมลงตัวมากขึ้น และพร้อมทุกสถานการณ์ในการขับขี่ อย่างเช่น ผมเองฮ้อด้วยความเร็ว 200 ก.ม./ช.ม. ระหว่างทำความเร็วสูงสุด ปรากฏข้างหน้าเป็นเนินกระโดด... ทันใดนั้นเจ้าสองรถยนต์ Honda Civic 1.5 Turbo RS ของเรา ก็คงต้องการจะบอกว่า I Believe I Can Fly เราบินเป็นระยะเวลาสั้นๆ 2 วินาที แล้วเราก็ลงมาแตะพื้นเหมือนไม่มีอะไรเกิดขึ้น พร้อมทำความเร็วต่อจนถึงสูงสุด 207 ก.ม./ช.ม. ตามที่ Honda ล็อคเอาไว้ .... ตลอดจนทีมวิศวกรยังตั้งใจเซทเบรกให้พร้อม มั่นใจหนึบแน่นพร้อมหยุดทุกครั้ง ที่คุณเดินแป้นเบรกลงไป นี่ยังไม่นับผู้ช่วยในการขับขี่ ระบบ Agile Handling Assisted ที่ซ่อนตัวอยู่ข้างใน
ถึงแม้จะเป็นเจ้าชายรูปหล่อจนผมพูดดูแล้วจะสมบูรณ์แบบไปเสียทุกด้าน แต่ส่วนตัวก็ยังรู้สึกว่าในราคานี้ Honda น่าจะให้อะไรใน Honda Civic 1.5 Turbo RS ได้อีก ประการแรก ผมเห็นพ้องว่า Honda ยังให้ระบบความปลอดภัยมาน้อยไป ยุคนี้ ABS – EBD – VSA ผมมองว่าไม่เพียงพอแล้ว Honda ต้องตอบโจทย์ลูกค้ามากกว่านี้ โดยเฉพาะออพชั่น Honda Sensing ที่มลายหายไประหว่างข้ามน้ำข้ามทะเลมาประเทศไทย ซึ่งใน Package ดังกล่าวมีประโยชน์มากกว่าเจ้าระบบ Honda Lane Watch ที่ติดตั้งมาให้เสียอีก ไม่ว่าจะระบบ
Collision Mitigation Braking System (CMBS)
Lane Departure Warning (LDW) integrated with RDM
Forward Collision Warning (FCW) integrated with CMBS
Adaptive Cruise Control (ACC) with Low Speed Follow
Lane Keeping Assist (LKAS)
Road Departure Mitigation (RDM)
ทั้งหมดที่กล่าวมาผมอยากให้มีใน Honda Civic ใหม่มากที่สุด ... เนื่องจากในอนาคตคู่แข่งจะมีเข้ามาอย่างแน่นอน และฮอนด้าในฐานะเจ้าตลาด อีกทั้งขึ้นชื่ออยู่แล้วในเรื่องความปลอดภัย น่าจะสามารถสร้างมาตรฐานใหม่ที่ดีได้ ผมมั่นใจว่าดีกว่าระบบ Honda Lane Watch ที่แนะนำมาอีก เพราะทั้งหมดนั้นมีประโยชน์มากกว่า และใช้งานจริงบ่อยกว่า .. แถมจะทำให้ Honda Civic 1.5 Turbo RS ดูคุ้มค่าคุ้มราคามากขึ้น..
Honda Civic 1.5 Turbo RS นาทีนี้เชื่อว่าหลายคนคงสนใจมันไม่น้อย กับที่สุดของรถยนต์คอมแพ็คคาร์ยอดนิยม ที่พรั่งพร้อมความหล่อ ออพชั่น และสมรรถนะที่น่าสนใจ น่าเสียดายการทอนออพชั่นบางส่วนทำให้มันไม่คุ้มค่าคุ้มราคาอย่างที่ควรจะเป็น ....แต่ถ้าคุณรักฮอนด้าจริง ชอบความเท่ห์ที่ยากจะหาใครซ้ำ ....เจ้าหล่อคันนี้เหมาะกับคุณอย่างแน่นอน แต่ต้องยินดีพร้อมจ่ายกับราคาค่าตัวที่ฮึดอีกไม่กี่บาทคุณก็ได้ Honda Accord แล้ว
ติดตามข่าวสารยานยนต์ รวดเร็วก่อนใคร ได้ที่ Autodeft.com
รถทดสอบ Honda Civic 1.5 Turbo RS
ราคาจำหน่าย 1,199,000 บาท
สิ่งที่ชอบ >>> สมรรถนะที่มาพร้อมความประหยัดจากเครื่องยนต์ 1.5 เทอร์โบ ชุดแต่ง RS ที่ดูหล่อมาแต่ไกล ตลอดจนกรเซทช่วงล่าง และเบรกที่ลงตัวเหมาะกับใช้งาน
สิ่งที่ไม่ชอบ >>> ความรู้สึกของเครื่องยนต์ที่ไม่ต่างจากเครื่องยนต์ N/A บล็อกใหญ่... ตลอดจนการลดต้นทุนบางประการเช่น ขอบเบาะนั่งตอนหลังเป็นต้น
สิ่งที่อยากให้มี >> ถอดระบบ Honda Lane Watch แล้วใส่ระบบ Honda Sensing ดีกว่า และควรมีระบบ Idling Stop มาตอบโจทย์
คำแนะนำสำหรับผู้ซื้อ >>> สิ่งเดียวที่จะทำให้คุณซื้อคันนี้ คือคุณชอบและรัก Honda ผมไม่แปลกใจตัวในสิ่งที่ผมกำลังจะบอกว่า นี่คือ Honda Civic ที่ดีที่สุดนับตั้งแต่ผมรู้จักรถรุ่นนี้ มันครบครัน ลงตัว โดนใจ .... ผมเชื่อแล้วว่า Honda พยายามอย่างหนักในการซื้อผู้บริโภค ยังขาดเพียงแค่บางออพชั่นเท่านั้นเอง
สรุปอัตราประหยัด
อัตราประหยัด |
ก.ม./ลิตร |
ในเมือง |
10.73 |
นอกเมือง |
12.29 |
Bonn Test Mode |
16.11 |
หมายเหตุ ทดสอบด้วยแก๊สโซฮอลล์ 91
การทำงานของเครื่องยนต์
ก.ม./ช.ม. |
รอบต่อนาที |
90 |
1,700 |
100 |
1,900 |
110 |
2,100 |
120 |
2,300 |