Full Review : Ford Focus GTDi 1.5 Ecoboost Turbo MK3.5 เติมเต็มฟีลลิง เช็คอินสมรรถนะ ...
- โดย : Autodeft
- 12 ก.ค. 59 00:00
- 47,137 อ่าน
ในชีวิตเราสักคน วังวนของการซื้อรถยนต์มาครอบครองสักรุ่นสำหรับชายชาตรี “รถสปอร์ต” น่าจะถือว่าเป็นของที่ใครหลายคนก้ต้องการ แต่เมื่อแงะกระเป๋าทุบกระปุกเงินที่มีอยู่แล้ว อาจจะต้องรูดกรูดยังรถธรรมดาสักคัน หากรถธรรมดาสักคันสามารถตอบความเร้าอารมณ์ได้ คุณว่า มันจะดีแค่ไหนเชียว !!!
ตั้งแต่เปิดตัวออกมาอย่างเป็นทางการเคียงข้างกับข้อคำถามของ Honda Civic เจ้าคอมแพ็คคาร์ของค่ายวงรีสีน้ำเงินก็ดูจะมีกระแสความสนใจไม่น้อย ด้วยการออกมาประชันความแรงในฐานะกลุ่มเครื่องยนต์ 1.5 เทอร์โบ ในฐานะรถยนต์รุ่นหนึ่งที่ได้รับความสนใจจากคนทั่วโลก และวันนี้ตรงมาถึงประเทศไทย เจ้า Ford Focus พกสมรรถนะอันเหนือชั้นมาด้วยขุมพลัง Ecoboost บล็อกใหม่ล่าสุด
แผนงานใหม่สนองความต้องการของผู้ซื้อเรียกว่าเป็นโจทย์สำคัญ สินค้าที่ดีมีคุณภาพและตรงตามความต้องการ แสดงให้ค่ายรถยนต์วงรีสีน้ำเงินเห็นชัดแล้วว่า พวกเขาเดินมาถูกทาง ตั้งแต่ Ford Everest , Ford Ranger และ วันนี้เมื่อเจ้าคอมแพ็คคาร์ต้องเปลี่ยนแปลง Ford Focus ก็ต้องอาศัยแนวทางเดียวกันในการทำตลาด และยังต้องทำการบ้านลบคำสบประมาทที่ทำเอาสาวกขยาดในช่วงหลายปีที่ผ่านมา
การปรับเปลี่ยนรุ่นโฉม Minor change ของรถยนต์ Ford Focus ใหม่ เกิดขึ้นมาตั้งแต่เมื่อปี 2014 รถยนต์ Ford Focus รุ่นปรับโฉมเปิดตัวอย่างเป็นทางการครั้งแรกในงาน Geneva Motor Show 2014 มันเป็นการปรับแนวทางครั้งสำคัญของเจ้าคอมแพ็คคาร์ มันหันสู่ตัวตนใหม่ที่เน้นความสปอร์ตในตัวรถอย่างแท้จริง
ภายใต้การถือหุ้นในบริษัทรถยนต์สปอร์ตลักซัวร์รี่ของอังกฤษ Aston Martin 8% ค่ายวงรีสีน้ำเงินได้นำเอาแนวทางการออกแบบรถยนต์ระดับซุปเปอร์คาร์ชั้นสูงมาใช้ขัดเกลาใบหน้าการออกแบบใหม่หมด เริ่มจาก กันหน้า และกระจังหน้าใหม่ โคมไฟหน้าเปลี่ยนไป ทำให้รถดูโฉบเฉี่ยวมากขึ้น น่าเสียดายในโคมไฟไม่ใช่ Projector ทำให้มันขาดไฟหน้าแบบซีนอนมาด้วย ยังดีฟอร์ดปลอบใจด้วยไฟ Daytime Running Light ก่อนเสริมด้วยฝากระโปรงบานหน้าใหม่ และแก้มข้างซ้ายขวา ที่ทำให้ลงตัวในตัวตน
Aston Martin Look ทำให้รถดูน่าใช้มากขึ้นอย่างมาก มันเหมือนกับจำแลงซุปเปอร์คาร์หลายสิบล้าน มาอยู่รถยนต์ที่คุณสามารถจับต้องได้ เรียกความสนใจจากลูกค้าไม่น้อย และยังทำให้น่าเกรงขามบนถนน
ส่วนทางด้านข้าง Ford Focus ใหม่ เพิ่มเพียงสเกิร์ตข้าง ตลอดจนด้านท้ายมีเพียงไฟท้ายทรงเดิม เพิ่มเติมคือไฟ LED เราแทบไม่พบการเปลี่ยนแปลงใด แถมล้ออัลลอยขอบ 17 นิ้ว ที่ให้มาพร้อมยาง Michelin Primacy LC ขนาด 215/50/R17 นั้น ดู ยังไม่สปอร์ตได้ใจเหมือนใบหน้าที่ดุดันของเจ้าหนูนี่เลย
กระชากมือจับประตุ ระบบ Key Less Entry ทำงาน ปล่อยให้ผมเข้าไปข้างในตัวรถ ...เจ้า Ford Focus ใหม่ น่าจะเรียกว่ามีการเปลี่ยนแปลงต่างไปพอสมควร โดยเฉพาะ สิงที่เห็นได้ชัด คือเรือนไมล์ใหม่ ยังเป็นเข็มบวกดิจิตอล เหมือนที่ผ่านมา แต่มีข้อมูลแสดงผลตรงกลางใหม่ ตลอดจนการตบแต่งเป็นโทนสีฟ้า Icy Blue แนะนำเข้ามารถยนต์นั่งตั้งแต่ Ford Fiesta Ecoboost
ตรงกลางคอนโซลหน้าให้ชุดหน้าจอสัมผัสขนาด 8 นิ้ว พร้อมโปรแกรมระบบเชื่อมต่อใหม่ล่าสุด Sync 3 ใช้งานในการเชื่อมต่อดีขึ้น จอมีเอกลักษณ์ความทันสมัยมากยิ่งขึ้น ตลอดจน ยังสามารถเซทอัพการทำงานต่างๆของรถ ผ่านการสัมผัสบนหน้าจอ ง่ายและสะดวกยิ่งขึ้น รองรับระบบ Apple Car Play ตลอดจน Android Auto ในการใช้งาน เรื่องพลังเสียงได้คู่ซี้ Sony กลับมาทำงานเหมือนเคย ภายในรถกระหึ่มผ่านลำโพง 9 ตัว
จากที่ลองฟังเรื่องมิติเสียงในห้องโดยสาร และพลังเสียง ทำออกมาลงตัวสมน้ำสมเนื้อกับราคาจำหน่าย ที่ตั้งมา แต่สำหรับใครที่ชอบความแน่นกว่านี้อาจจะต้องพึ่ง Bass Box สักตัว จะให้สัมผัสความแน่นของเครื่องเสียงดีกยิ่งขึ้น
ถัดลงมาเป็นปุ่มควบคุมระบบปรับอากาศอัตโนมัติ สามารถปรับแยกอิสระซ้ายขวา ไม่ต้องทะเลาะเรื่องความเย็นอีกต่อไป หน้าตาตัวปุ่มการใช้งานไม่มีการเปลี่ยนแปลง ส่วนแป้นคันเกียร์ก็ปรับปรุงใหม่ หายไปแล้วเจ้าปุ่มกระดิกนิ้วเปลี่ยนตำแหน่งเกียร์ที่หัวเกียร์ ...จนผมรู้สึกดีอย่างบอกไม่ถูกที่ในที่สุดค่ายนี้ก็คิดได้ว่าจะลดต้นทุนขนาดไหน ก็ช่วยดูความเหมาะสมในการใช้งานสักนิด
เบาะคนขับให้การปรับไฟฟ้า 6 ทิศทาง พร้อมดันหลังแบบใช้งานด้วยมือ ตรงหน้า มาพร้อมชุดพวงมาลัยไฟฟ้า EPAS ลงตัวในการใช้งานคล่องตัวยิ่งขึ้นน้ำหนักเบามือ และแปรผันตามความเร็วเพิ่มน้ำหนักตามสภาพการขับขี่ของคุณเหมือนรุ่นอื่นๆ แล้ว
บนพวงมาลัยในรุ่นนี้จัดวางชุดปุ่มต่างๆใหม่หมด ดูเรียบยิ่งขึ้น แต่ปุ่มต่างๆกลับเยอะกว่าเดิม ไม่ว่าจะ ตัวควบคุมการแสดงผลหน้าจออัจฉริยะ, ปุ่มควบคุมเครื่องเสียง , และท้ายสุดปุ่มควบคุมความเร็วอัตโนมัติ พร้อมระบบจำกัดความเร็วในระหว่างการขับขี่ก็มีมาให้ ใช้งานเหมือนเคย
จิ้มปุ่มสตาร์ทเครื่องยนต์ ได้เวลาขับเคลื่อน Ford Focus 1.5 Ecoboost GTDi กันเสียที ใต้ร่างจำแลง Aston Martin มานี้ มันก็ยังพกความเร้าใจจากเครื่องยนต์แบบ 4 สูบแถวเรียงขนาด 1.5 ลิตร พร้อมระบบเทอร์โบชาร์จ ในตระกูล Ecoboost ให้กำลังสูงสุด 180 แรงม้า สูงสุดที่ 6,000 รอบต่อนาที มาพร้อมแรงบิดสูงสุด 240 นิวตันเมตร ตั้งแต่ 1,600-5,000 รอบต่อนาที
เครื่องยนต์บล็อกนี้คือต้นกำลังรุ่นใหม่ล่าสุดในตระกูล Ecoboost ที่เพิ่งจะถูกพัฒนาออกมาแทนที่เครื่องยนต์ Ecoboost 1.6 ลิตร โดยมีการเปิดตัวออกมาครั้งแรกในรถยนต์ Ford Fusion รุ่นโฉมปี 2014 ก่อนจะมาแนะนำในรถยนต์ Ford Focus ใหม่ ซึ่งโดยภาพรวมของขุมพลังใหม่ล่าสุดนี้ คือการแนะนำเทคโนโลยีเดียวกับที่ใช้ใน Ford Ecoboost 1.0 เข้ามาพัฒนาในเครื่องยนต์แบบ 4 สูบแถวเรียง เริ่มตั้งแต่การปรับปรุงชุดฝาสูบใหม่ พัฒนาศักยภาพของระบบหมุนวนน้ำหล่อเย็นภายในเครื่องยนต์ และยัดชุดท่อร่วมไอเสียไว้ข้างในฝาสูบ ช่วยลดน้ำหนักในอุปกรณ์ส่วนควบเครื่องยนต์ไปได้มากพอสมควร ตลอดจนมันยังมาพร้อมระบบปั้มน้ำเครื่องยนต์ควบคุมด้วยคอมพิวเตอร์ ซึ่งช่วยลดเวลาในการอุ่นเครื่องยนต์ให้ถึงระดับการใช้งาน
ด้านตัวเทอร์โบเป็นหอยน้อยตัวใหม่ของบริษัท Borgwarner รหัส B01 ที่เปิดตัวออกมาเมื่อปี 2014 โดยเรื่องรายละเอียดต่างๆนั้น เก็บเป็นความลับอย่างเงียบงัน นอกจากเปิดเผยเพียงว่านี่คือเทอร์โบสมรรถนะสูง แม้จะมีขนาดเล็ก หากสามารถทนความร้อนถึง 1,050 องศาเซลเซียส และอย่างที่ผมบอกไปแล้ว เจ้าท่อร่วมไอเสียเครื่องยนต์ Ecoboost เป็นแบบฝังในฝาสูบ ตัวเทอร์โบลูกนี้จึงต้องออกแบบมาเป็นพิเศษเฉพาะกิจ
นอกจากเรื่องตัวเครื่องยนต์ทีมีการเปลี่ยนแปลงแล้ว ความขยาดของลูกค้าต่อชุดเกียร์ Powershift จนรถ Ford ได้ชื่อฉายาว่า “ขวัญใจรถยก” ไม่แพ้คู่แข่งที่มีปัญหาลักษณะเดียวกัน ทำให้ค่าย Ford ตัดสินใจว่าครั้งนี้จะต้องเรียกความเชื่อมั่นกลับมา
Ford ตัดใจจูบลาชุดเกียร์ Powershift คู่บุญมายาวนานตั้งแต่ปี 2010 แล้วยกชุดเกียร์อัตโนมัติ 6 สปีด ใหม่ รหัส 6F35เข้ามาประจำการแทน
ชุดเกียร์ใหม่เป็นลูกเกียร์แบบไฮดรอลิกธรรมดาบ้านๆ เน้นความทนทานและเมื่อมันไม่ใช้ระบบเกียร์คลัทช์คู่แบบคลัทช์แห้งทำหมดปัญหาเรื่องความร้อนในระหว่างการทำงาน ให้มีความทนทานมากกว่า และไม่มีอาการกระตุกยามความเร็วต่ำ กระเด้าโขยกไส้จนน่ารำคาญเหมือนที่ผ่านมาที่เคยพบในเจ้าตัวเล็กค่ายนี้
อัตราทดเกียร์ใหม่ ปลุกระดมความเร้าใจในการขับขี่ได้พอตัว สนองอัตราทดเกียร์ ด้วยการเซทเพื่อการขับขี่ที่สนุกสนานมากขึ้นอย่างเห็นได้ชัดเจน
ตารางแสดงอัตราทดเกียร์ Ford Focus Ecoboost 1.5 - 6F35
เกียร์ 1 | เกียร์ 2 | เกียร์ 3 | เกียร์4 | เกียร์ 5 | เกียร์ 6 | เกียร์ถอยหลัง | อัตราทดเฟืองท้าย |
4.484 | 2.872 | 1.842 | 1.414 | 1.000 | 0.742 | 2.88 | ??? |
ความแตกต่างของ Ford Focus Ecboost 1.5 เมื่อเทียบกับคู่แข่งในตลาดที่สำคัญ คงหนีไม่พ้นการตอบสนองที่ดี และแถมแรงดันตัวเทอร์โบชาร์จต่ำกว่าเพียง 0.9 บาร์ หรือ 14.2 ปอนด์ต่อตารางนิ้ว ชุดเทอร์โบ Borgwarner อาจจะเป็นชุดเทอร์โบขนาดเล็ก จนคุณอาจจะคิดว่ามันไม่น่าจะไปได้สักกี่น้ำ แต่อย่าได้ลองขยี้คันเร่งบี้ติดพื้นเมื่อออกตัว เจ้าเครื่องยนต์ Ecoboost1.5 พร้อมคู่หู B1 จะพาคุณออกทะยานด้วยกำลังแรงบิดประดุจรถ 2,500 ซีซี มันเร้าใจ ไปได้ไว ฟีลดีกว่าคู่แข่ง ในกลุ่ม
ตารางแสดงอัตราเร่งจากการทดสอบสมรรถนะ Ford Focus Ecoboost 1.5
|
ครั้งที่ 1 |
ครั้งที่ 2 |
ครั้งที่ 3 |
เฉลี่ย |
อัตราเร่ง 0-100 ก.ม./ช.ม. |
9.718 |
9.708 |
9.851 |
9.759 |
อัตราเร่ง 80-120 ก.ม./ช.ม. |
6.700 |
6.700 |
6.300 |
6.567 |
หมายเหตุ : ทดสอบด้วยน้ำมันแก๊สโซฮอล์ 95 นั่งสองคนเปิดแอร์ระหว่าการทดสอบ
จากอัตราเร่งชี้ให้เห็นว่า Ford Focus Ecoboost ใหม่ ทำอัตราเร่งได้เพียง 9 วินาทีปลายๆ เท่านั้น และยังเร่ง 80-120 ก.ม./ช.ม. ในเวลา 6.5 วินาที โดยเฉลี่ย เท่าที่บอกได้ คือมันช้ากว่าคู่แข่ง ทั้งที่ฟีลลิ่งในการขับขี่การขับขี่ดีกว่า กลายเป็นท่าดีทีเหลวเสียงั้น แต่เรื่องนี้มีเหตุผลสามารถอธิบายได้ คือ
1. อัตราทดเกียร์ 3 ของ Ford Focus ห่างไปทำให้มันเร่งเครื่องช้าในช่วงเวลาดังกล่าว
2. กำลังบูสต์ของรถคันนี้ต่ำกว่าเจ้าอื่นๆ ทำให้มันเร่งไม่ดีเท่ากัน
3.ชุดเกียร์ของ Ford มีอัตราแรงเสียดทานมากกว่า เนื่องจากไม่ใช่ระบบ CVT
จากทั้ง สามเหตุผลที่กล่าวมาก็พอจะอธิบายได้แล้วว่า ทำไมมันถึงช้ากว่าคู่แข่ง แต่คุณจะกลับรู้สึกฟีลดีเร้าใจในการขับขี่มากกว่า แสยะยิ้มทุกครั้งที่เห็นมันเร่ง ตลอดจนการทำงานของส่วนควบในการขับขี่ เช่น Paddle Shift ก็ยังตอบสนองไวทันใจไม่มีหน่วงให้น่ารำคาญ คุณเพียงกระดิกนิ้วผ่าน Paddle Shift ใช้ได้แม้ขับในเกียร์ D ไม่ต้องเข้าเกียร์ S ให้วุ่นวาย แถมซุ่มเสียงเครื่องยนต์ไม่ดูกะโหลกกะลา มันแน่นพอตัวจนเร้าใจทุกครั้งที่ได้เหยียบมันลงไป เช่นเดียวกับ ท่อไอเสียทีออกแบบมาให้แผดเสียงดุดันเพิ่มดีกรีความสนุกสนานในการขับขี่มากขึ้น
เมื่อมาดูในเรื่องตัวเลขสมรรถนะอื่นๆ ที่ได้มาในระหว่างการทดสอบ ต้องยอมรับว่า ถึงอัตราเร่งของ Ford Focus Ecoboost จะสู่คู่แข่งไม่ได้ แต่มันก็ไม่เป็นสองรองใครในเรื่องการขับขี่ เราพบว่า ในระยะทาง 1 กิโลเมตร มันสามารถทำความเร็วสูงสุดได้ 179 ก.ม./ช.ม. และควอเตอร์ไมล์ หรือ 0-400 เมตร ทำเวลาได้ 17.4 วินาทีเป็นเวลาดีที่สุดจากการขับทดสอบ แต่เมื่อมามองว่าความเร็วสูงสุดได้เท่าไร มันทำได้เพียง 210 ก.ม./ช.ม. เท่านั้น
ตารางสรุปตัวเลขสมรรถนะ อื่นๆ Ford Focus Ecoboost 1.5
|
|
ความเร็วสูงสุด |
210 ก.ม./ช.ม. |
ความเร็วสูงสุดใน 1 กิโลเมตร |
179 ก.ม./ช.ม. |
เวลาควอเตอร์ไมล์ |
17.4 วินาที |
ด้านชุดพวงมาลัยไฟฟ้า (EPAS) Ford Focus 1.5 Ecoboost ใหม่เซทมาให้มีความเบาสบายในการใช้งานง่ายในยามความเร็วต่ำมากขึ้น พวงมาลัยค่อนข้างคมพอสมควร และตอบสนองได้ไว เวลาคุณขับหมุนพวงมาลัยไปมา เพิ่มคล่องตัวยามเข้าที่แคบมากขึ้น หรือต้องแวบซ้ายแวบขวาแทรกรถติดสุดน่าเบื่อในเมืองกรุง มากกว่ารุ่นเดิม แต่ถ้าเรื่องการจอดรถ คุณสบายยิ่งขึ้นด้วยระบบ Active Park Assisted ซึ่งงวดนี้สามารถจอดเข้าซองชนิดทำได้ดีกว่ามนุษย์กลายเท่า จน ว้าว!! เลย
เรื่องอัตราประหยัด ถึงเราจะบอกว่ารถแรงเอาเรื่อง ก็แหม !! 180 แรงม้าที่ปลายเท้า มันยังมาพร้อมพิกัดเบาหวิวเพียง 1,563 กิโลกรัม หนักกว่ารถซับคอมแพ็คคาร์บางรุ่นไม่กี่กิโลกรัม หากแรงกว่าเป็นทุ่ง จนสามารถสร้างความเร้าใจได้ยามขับขี่ กำลังขนาดเทียบเท่าเครื่องยนต์ขนาด 2.0 ลิตรและแรงบิดไม่ต่างจากเครื่องยนต์ 2.4 ลิตร ไม่ใช่เรื่องล้อเล่น เมื่อสมทับด้วยคำว่า “ประหยัดไหม”
หลังจากขับในเมืองฝ่ารถติดยรกดับตะวัน ผมเติมคืนถังพบว่า ด้วยการขับขี่จากน้ำมันแก๊สโซฮอลล์ 95 อัตราประหยัดในเมืองได้ถึง 11.75 ก.ม./ลิตร และในค่ำคืนเดียวกันผมจบการขับขี่ Bonn Test mode วนรอบเมือง ตามสูตรการทดสอบโดยไม่เจอฝน ได้อัตราประหยัด 13.5 กิโลเมตร/ลิตร ถ้าเทียบกับสมรรถนะที่ได้ ผมว่าก็ค่อนข้างประหยัดอยู่พอตัว แต่คุณอย่ามองเทียบกับเครื่อง 1.5 ลิตร บ้านๆ ทั่วไปแล้วกัน
สมรรถนะครบเครื่องพร้อมความประหยัดดีกว่าเครื่องยนต์ 2.0 ลิตร ทั่วไปพอสมควร เมื่อเทียบกับสมรรถนะที่ได้จากเครื่องยนต์บล็อกนี้ ผมไม่รอช้าที่จะพามันออกนอกเมืองดูการขับขี่ทางไกล
ปลายทางง่ายๆอย่าง “หัวหิน” เป็นเส้นทางที่ไม่ว่าใครก็น่าจะรู้จัก ผมควบ Ford Focus Ecoboost 1.5 ใหม่ ออกนอกเมือง ใช้ความเร็วตามสมควรระหว่าง 120-140 ก.ม./ช.ม. ระหว่างทางเจอ Volvo V40 T5 ตามมาทักทาย เราขับสนุกสนาน ออกรสชาติ ชนิดที่ไม่ได้ไปสร้างความเดือดร้อนให้ใคร เจ้าสวีดิชเองก็งงๆ ว่ารถ Ford ทำไมมันเร่งไวจัง ตามตูทันด้วย ... แถม ระหว่างทางผมเริ่มเห็นประโยชน์หน้าตา Aston martin มันคือมือปรราบพวกช้าชิดขวาชั้นเลิศ
ลองจินตนาการคุณพวกช้าชิดขวา ขับชิว ....ไม่สนหน้าอินหน้าพรหมอะไรทั้งสิ้น ฉันเอาตามใจฉัน คุณกำลังขับสบาย แต่แล้ว คุณเห็นแสงไฟบนกระจกหลัง ในใจคิด “เฮ้ย!!! Aston Martin จะมากระซวกตูดแล้ว!!!” ทันใดนั้นคุณมองซ้ายหักหลบไปอีกเลน ทันที แต่เมื่อมองกลับมาหวังชมรถซุปเปอร์คารหรูคันงาม ก็ต้องเสียใจ ว่า “เฮ้ย !! มัน Ford Focus นี่หว่า” .... นั่นเป็นสิ่งที่ทำให้ผมอมยิ้มตลอดเส้นทางที่รู้ว่า Ford Focus สามารถหลอกใครต่อใคร ได้อย่างไม่น่าเชื่อ 5555 โคตรสะใจ
ช่วงความเร็ว 120 -140 ก.ม./ช.ม. Ford Focus ให้ความมั่นใจ ด้วยช่วงล่างที่ตอบสนองดีขึ้น น้ำหนักที่รู้สึกเบาหวิวของรถ มาพร้อมระบบช่วงล่างชั้นนำ แม็คเฟอร์สันสตรัท พร้อมเหล็กกันโคลงทางด้านหน้า ด้านหลังประจำการด้วยระบบ Control Blade Multi Link ระบบช่วงล่างเอกสิทธิ์ของฟอร์ด ที่ลดพื้นที่การติดตั้งช่วงล่างในห้องโดยสาร ทำให้ Ford Focus มีพื้นที่ใช้สอยกว้างกว่ารถรุ่นอื่นๆ เมื่อนำมันไปเปรียบเทียบกัน
วิธีการของ Ford คือ แทนที่วิศวกรจะต้องนำโช๊คอัพพร้อมคอยย์สปริงที่ติดตั้งด้านบนติดตั้งตรงกับตัวถังโครงสร้างแชสซี Ford จับมันแยกออกมาแล้วออกแบบชุดแพหลังใหม่หมด โดยผสมผสานแนวคิดของระบบ Trailing Arm ดั้งเดิมเข้ามาใช้ และเรียกตัวแขนยึดนี่ใหม่ว่า “Control Blade“
อาจจะจริงที่เจ้าระบบช่วงล่าง Control Blade นี้มีความคล้ายคลึงกับแนวคิดของ Torsion Beam แต่ความซับซ้อนของมัน และจุดยึดที่ไม่ได้ออกมาเป็นคานแข็งทั้งตัว ทำให้ช่วงล่างสามารถให้ตัวตามจังหวะการทำงาน และลดจุดศูนย์ถ่วงของระบบช่วงล่างให้ต่ำลง อีกทั้งยักรักษาค่ามุมองศาต่างๆระบบช่วงล่างให้มีสเถียรภาพในการขับขี่ อิสระในการทำงานลดแรงสะท้อนจากพื้นถนนสู่รถ ทำให้รถนิ่งมากกว่า และ ที่สำคัญลดเสียงรบกวนจากพื้นถนนอันเกิดจากการทำงานของระบบช่วงล่างดีขึ้นด้วย ..
ความแตกต่างของระบบ Control Blade นั้น คุณสามารถรับรู้ยามขับขี่ ช่วงล่างทางด้านหลังจะตอบสนองไวมาก บางทีก็ไว จนการทิ้งโค้งด้วยความเร็วสูงๆ ตั้งแต่ 120 ก.ม./ช.ม. หรือ 90 ก.ม./ช.ม. คุณจะพบว่าท้ายไหลเล็กๆ พอให้คนข้างๆตกใจสั้นๆ แต่ในตำแหน่งคนขับจะรู้ได้ว่ารถคันนี้เอาอยู่ .... มันเกาะถนนพอตัว
หากเทียบกับรุ่นเดิม การเซทอัพระบบกันสะเทือนใน Ford Focus ใหม่ ดีขึ้นอย่างชัดเจน ผมอนุมานว่า Ford จงใจใข้สปริงที่มีค่า K แข็งขึ้นทั้งคัน เพื่อตอบสนองความแรงของเครื่องยนต์ มันน่าจะมาพร้อมโช๊คอัพแก๊สใหม่ เช่นกัน คุณจะรู้สึกการตอบสนองดีมากๆ ยามถนนเรียบยาวๆ อย่างทางหลวงช่วงเพชรบุรีไปยันชะอำ แต่ถ้าคุณไปขับที่ไหนก็ตามที่มีสภาพถนนขุรขระบ้างไม่มากก็น้อย จะสัมผัสได้ถึงความแข็งช่วงล่างที่ออกไปทางค่อนข้างกระด้าง มันไม่ใช่อาการแน่นหนึบอย่างที่หลายคนเข้าใจ ทว่ามันดันเข้าขาดีกับสไตล์ขับขี่ของเครื่องยนต์ Ecoboost ที่คุณไม่อาจจะห้ามตัณหาความเร็วได้เลย แต่กระนั้นขับเล่นซิ่งบ้างช้าบ้างนอกเมือง มันยังทำอัตราประหยัดได้ถึง 12.4 กิโลเมตร/ลิตร ดีกว่าเครื่องยนต์ 2.0 ลิตรธรรมดาดั้งเดิม และคุณมีกำลังเร่งแซงเหลือเฟือ เมื่อต้องการ
พูดเรื่องดีๆมาก็เยอะถึงเวลาของ..เรื่องที่ไม่ดีใน Ford Focus Ecoboost กันบ้าง สิ่งเดียวที่ดูจะเสียเปรียบเพื่อนๆ ตระกูล 1.5 ลิตรเทอร์โบเลยนั้น คือพื้นที่ในการโดยสารของ Ford Focus Ecoboost นั้นค่อนข้างจะแคบเกินไป โดยเฉพาะเบาะนั่งตอนหลังแถว 2 ที่ไม่ได้รับการปรับปรุงเปลี่ยนแปลงเมื่อเทียบกับรุ่นที่แล้ว มันยังคงแคบเหมือนเคย แต่เมื่อมองในความเป็นจริงว่าคุณคงไม่นั่งท่าเดียวหลังตรงแบบหุ่มดัมมี่ตลอดเส้นทางก็ถือว่า ยังพอไปวัดไปวาได้
รวมถึงเบาะนั่งผู้โดยสารตอนหน้า ขาดความยุติธรรมให้ตุ๊กตาหน้ารถปรับด้วยมือ มันอาจถูกมองข้ามว่าเป็นเรื่องเล็กน้อย แต่บางครั้งเรื่องเล็กๆนี้แบบนี้นี่แหละทำเอาบ้านแตก จนลูกค้าอาจจะไม่ซื้อรถคันนั้น ผมก็เคยเจอมาแล้วจากประสบการณ์ของเพื่อนผมเอง
ฟอร์ดอาจจะต้องการโพกัสเรื่องการขับขี่มากไปจนลืมนึกว่าฟังชั่นภายในห้องโดยสารก็สำคัญไม่แพ้กัน บางฟังชั่นที่ควรพัฒนาให้ใช้งานได้ดีขึ้น อย่างเบาะนั่งตอนหลัง น่าจะสมควรปรับพับได้เรียบกว่านี้ไม่ใช่เอียงชี้เด่ จนไม่เหมาะสมกับการใช้งานในความเป็นจริงมากนัก
ตลอดจนถ้าคุณมองหาฟังชั่นอย่าง แอร์สำหรับผู้โดยสารตอนหลัง ก็ต้องของแสดงความเสียใจ เช่นเดียวกับการทอน Sunroof โคมไฟโปรเจ็คเตอร์และรายการฟังชั่นต่างๆมากมาย ที่หายไป ทำให้รารู้สึกถึงพลังงานบางอย่างว่า Ford Focus 1.5 Ecoboost รุ่นนี้ออกมาชิมลางก่อนเฉยๆว่า ลูกค้าจะชอบหรือไม่
และเห็นหลายคนถามมาเช่นกันว่าสรุปจะมีรุ่นซีดานออกมาหรือไม่ .... ผู้เขียนเองก็ต้องยอมรับว่า ยังไม่เคยเห็นเจ้าคันนี้ที่เป็นรุ่นซีดานเช่นกัน จึงอนุมานว่าอาจจะไม่มี
Ford Focus Ecoboost 1.5 Turbo MK 3.5 .....เล่นแรงได้ดี ...ขัดใจเรื่องภายใน
ขับ Ford Focus 1.5 Ecoboost มาหลายคน จนกระทั่งมาเริ่มลงมือเขียนรีวิว สิ่งที่ผมชื่นชมรถคันนี้ เห็นทีจะไม่พ้นเรื่องสมรรถนะการขับขี่ที่ทำได้ดีเกินตัว เหนือความคาดหมายมากกว่าที่หลายคนคิด
จริงอยู่มันอาจจะไม่ใช่รถที่มีกำลังแรงมากมาย 180 แรงม้าก็ไม่ได้ทำให้มันเหนือกว่าคู่แข่งที่มีในตลาดปัจจุบัน แต่เมื่อมองถึงความรู้สึกในการขับขี่ Ford Focus Ecoboost กลับเป็นรถขับสนุก ประดุจสปอร์ตคาร์มาเอง เครื่องยนต์ของพวกเขามีสมรรถนะสูง มันยังคงความเป็นเครื่องยนต์เทอร์โบเร้าใจ ให้ความรู้สึกดึงดันในการขับขี่ ชุดเกียร์ใหม่ก็ตอบโจทย์ได้ดี แม้จะทำให้รถคันนี้มีบุคลิกสิงห์สองเกียร์เพราะดันไปห้อยเกียร์ 3 ถ้าคุณชิงไฟออกตัวกับคู่แข่ง หรือใครที่มาขอท้าประลองคุณในยามขับขี่ มันให้สัมผัสดีกว่า CVT ของบางค่ายที่ออกมา คุณรู้สึกได้ถึงความดึงดันเร่งเร้าในการขับขี่แบบที่ขาแรงต้องการ มันตอบสนองได้ดีจนสามารถทำอัตราเร่งได้เร้าใจ ยิ่งเมื่อเทียบกับชุดเกียร์ Powershift ดั้งเดิมแล้ว ต้องยอมรับว่า คุณจะรู้สึกดีกว่าเดิม มันไม่กระเด้า สะดุด เสียอารมณ์ในการขับขี่เหมือนที่ผ่านมา แถมไม่ต้องกังวลว่าวันดีคืนดี รถคุณจะโชคดีเป็นรถที่เกียร์เกิดปัญหา จนต้องยกเข้าศูนย์หรือเปล่า..
ด้านการออกแบบภายนอกเรียกว่าดุเด็ดเผ็ดมันส์กินใจเราไปเต็มๆ ด้วยหน้าตา Aston Martin Like อย่าแปลกใจที่คุณจะสะดุดตามันเต็มๆ แต่ภรรยาของคุณอาจจะรู้สึกว่าเธอไม่ชอบรถหน้าตาที่ดูสปอร์ตจ๋าเช่นนี้ น่าเสียดาย Ford ดันถอดใจบางออพชั่นเช่น หลังคาซันรูฟออกไป รวมถึงเรารู้สึกว่าลายล้อรุ่นใหม่ ดูไม่ค่อยโดนใจ แต่เอาเหอะ คุณจะสนใจอะไรมันมาก เมื่อนับว่า เดี๋ยวก็ต้องมาแต่งหล่ออยู่ดี
เรื่องภายในห้องโดยสาร Ford Focus Ecoboost 1.5 ใหม่ มาพร้อมลูกเล่มใหม่ๆ หลายรายการ เช่นระบบ Sync 3 ระบบช่วยจอดในช่อง ที่เพิ่มเข้ามาในรุ่นนี่ ตลอดจน Paddle shift และฟังชั่นความปลอดภัยที่ยังครบถ้วยกระบวนความ แม้บางรายการจะถูกตัดหายไปบ้าง เช่นระบบเตือนจุดบอกของรถ แต่ก็พอจะรับได้กับสิ่งที่หายไป
หากแต่ Ford กลับมาตกม้าตายเรื่องฟังชั่นพื้นฐานที่ควรจะทำให้ลงตัวมากขึ้นหรือไม่ก็ใช้งานได้ดีขึ้น อาทิระบบสัมผัส เปิด-ปิดประตู ผมว่ายังใช้ยากไป ลูกค้าอาจจะไม่เข้าใจ ผมเจอปัญหานี้บ่อยที่สุดในระหว่างการใช้งาน บางครั้งรถล็อกให้ก็ดีไป แต่มีบางครั้งไม่ล็อกให้ ทำเอาเสียอารมณ์ต้องมาควักกุญแจล็อกรถ หมดท่าหล่ออวดความเท่ห์กับสาวๆ ไปจนถึงเบาะนั่งและพื้นที่โดยสารที่แลดูหรือใช้งานก็รู้สึกแคบเกินไปกว่าคำว่า “คอมแพ็คคาร์” ตลอดจน เบาะนั่งแถว 2 ที่ไม่สามารถ พับเรียบได้ ทั้งที่มีหลายคนให้คำติไปแล้วในรุ่นก่อนหน้านี้ ก็ยังไม่ถูกปรับปรุง
ถ้ามองภาพ Ford Focus 1.5 Ecoboost คุณจะไม่นึกถึงพ่อเนื้อทองรูปงามหน้าตาดีตูดปอด กล้ามเป็นมัดพร้อมซิกแพ็คอ่อนๆให้ได้ลูบไล้ใช้งานได้จริง สามารถเป็นเจ้าของได้ มีเพียงบางนิสัยที่อาจจะยังไม่ถูกจริตคนไทย โดยเฉพาะเรื่องห้องโดยสารที่กล้าพูดว่า Ford ยังสอบตกเรื่องฟังชั่นการใช้งานไปหลายเรื่องพอสมควร
หากแต่เจ้าหนุ่มเนื้อทองคันนี้ให้ความมั่นใจทุกการขับขี่ ขับมันส์ทุกเส้นทาง และยังประหยัดกว่าสถิติอัตราประหยัดน้ำมันเมื่อเทียบกับรถเครื่อง 2.0 ลิตร .....แต่ถ้าสรุปสั้นๆ คือ คุณได้สมรรถนะมากขึ้น แต่ฟังชั่นใช้งานโดยรวมไม่ต่างจากเดิม .. ...ว่าแต่อยากฝากค่ายวงรีสีน้ำเงินสักนิดว่าจัดรุ่นเกียร์ธรรมดามาก็ดีนะ.. คงจะขับได้สนุกกว่านี้อีก!! และคงจะขายดีไม่น้อย
เรื่อง โดย ณัฐยศ ชูบรรจง (Bonn)
ติดตามผู้สื่อข่าวและนักทดสอบรถยนต์ นาย ณัฐยศ ชูบรรจง ได้ที่ Facebook หรือ ทาง Fan page ,Twiter (@Nattayosc), Blog ส่วนตัว
ติดตามข่าวสารยานยนต์ รวดเร็วก่อนใคร ได้ที่ Autodeft.com
ขอบคุณ ฟอร์ด ประเทศไทย ,พี่หญิง คุณอ้อม และ คุณเต้น ที่ช่วยดูแลและเอื้อเฟื้อรถทดสอบ Ford Focus GTDi 1.5 Ecoboost มาให้ทีมงาน Autodeft ได้ทดสอบกัน
รถทดสอบ Ford Focus GTDi 1.5 Ecoboost
ราคาจำหน่าย 1,099,000 บาท
สิ่งที่ชอบ >>> สมรรถนะความแรงของเครื่องยนต์จะทำให้คุณรู้สึกดีทุกครั้งที่เดินคันเร่งลงไป มันไม่มีรถคันไหนที่จะสร้างความว้าวยามขับขี่ได้เท่าคันนี้ แถมคุณไม่ต้องกังวลเรื่องเกียร์ และนี่ไม่ใช่เล่าเก่าในขวดใหม่ เพราะ Ecoboost 1.5 คือเครื่องยนต์ใหม่ล่าสุดที่แนะนำในรถ Ford Focus
สิ่งที่ไม่ชอบ >>> ภายในที่แคบเบาะนั่งที่ดูสปอร์ตไปไม่สบายในทางฝั่งคนนั่ง เช่นเดียวกับที่นั่งผู้โดยสารตอนหลังที่แคบไปในการใช้งาน แถมเวลาพับยังกระดกควรปรับปรุงด่วน
สิ่งที่อยากให้มี >>> หลังคา Sunroof และเบรกมือไฟฟ้า รวมถึง น่าจะแนะนำรุ่นเกียร์ธรรมดาเข้ามในราคาที่ย่อมกว่า ถอดบางออพชั่นไป ขายราคาไม่ถึงล้าน กล้าพูดเลยว่าน่าจะขายดี ถ้าเป็นไปได้ อยากให้นำ Ford Focus RS มาจำหน่ายให้คนไทยได้สัมผัสของแรงตัวจริงกับเขาบ้าง
คำแนะนำสำหรับผู้ซื้อ >>> เจ้า ford focus Ecoboost มีดีมากกว่าราคาจำหน่ายของมัน เป็นรถที่คุณขับสนุกได้ทุกวันจนบางครั้งเราอาจจะไม่ได้บันยะบันยังเรื่องน้ำมัน แต่บอกได้เลยว่าประหยัดกว่าเครื่องยนต์ 2.0 ลิตร แต่คุณได้สมรรถนะที่พาคุณว้าวทุกครั้งที่ขยี้คันเร่งลงไป มันเหมือนกับคุณซื้อสปอร์ตคาร์ย่อมๆในบ้านมาคันหนึ่ง
จัดหรือจาก ....
จัดหรือจาก เป็นความต้องการที่ผู้เขียนจะนำเสนอว่ารถยนต์คันนั้น น่าซื้อหรือไม่ ...โดยใช้วิจารณญาณหลังจากการทดสอบวิเคราะห์และประเมินผล มันเป้นเพียงความคิดเห็นส่วนหนึ่งของการทดสอบเท่านั้น
หลังจากลองขับ Ford Focus Ecoboost 1.5 มาหลายวัน ....ผมขอชูป้ายว่า “จัด” ให้รถคันนี้ ในราคาระดับนี้คุณจะซื้อรถยนต์เครื่องยนต์ 1.5 เทอร์โบที่เพอร์เฟคกว่านี้ไม่ได้ มันทั้งแรงทั้งประหยัด และ Ford ก็ไม่ได้นิ่งนอนใจเหมือนค่ายรถยนต์ชั้นนำบางค่ายที่เอาแต่เครื่องแรงมาลง แต่ไม่เซทช่วงล่าง แถมระบบเกียร์ที่ใช้ก็หาใช่ระบบ CVT คุณเลยจะยังรู้สึกได้ถึงความแรงเร้าใจในทุกรอบเร่ง
และมันไม่ได้ให้ความรู้สึกเหมือนรถยนต์เครื่องยนต์ใหญ่แบบรถจากบางค่าย มันยังได้ความเป็นเทอร์โบควบแน่นความสปอร์ตเข้าไว้ในเรือนร่าง เพียงแต่ข้อเสียเดียวคือภายในที่แคบไปในยามโดยสาร และ ฟังชั่นการใช้งานทั่วไปยังไม่หวือหวา เท่าคู่แข่งบางรุ่น แต่ถ้าคิดว่าอยากมีรถใช้งานพร้อมความเป้นสปอร์ตคาร์ไว้ในบ้านสักคัน จัดคันนี้ไป กล้ารับรองว่าไม่ผิดหวังอย่างแน่นอนครับ
ตารางสรุป อัตราประหยัด Ford Focus Ecoboost 1.5
อัตราประหยัด |
กม./ลิตร |
ในเมือง |
11.75 |
นอกเมือง |
12.4 |
Bonntestmode |
13.5 |