Life Test : Ford Ecoboost Review ..จอมประหยัดนวัตกรรมเร้าใจ ..

พบรีวิวสั่งลาที่สุดเครื่องยนต์ยอดเยี่ยมสามปีซ้อน Ford Ecoboost 1.0 ลิตร กับการขับครั้งสุดท้ายของทีมงาน Autodeft.com

 

 

เรื่องและขับทดสอบ โดย ณัฐยศ ชูบรรจง (Bonn)

 

ถ้ากล่าวถึงรถยนต์ทุกวันนี้ มันกลายเป็นเพื่อนคู่คิดคู่ใจยามเดินทางของใครหลายๆคน รถที่ดี จะบอกคุณได้จากการใช้งาน สมรรถนะที่ลงตัว และสมัยนี้ความประหยัดก็กลายเป็นสิ่งสำคัญที่ต้องคำนึงถึง แล้วถ้าความคิดทางวิศวกรรมช่วยให้คุณขับรถสนุกขึ้น และประหยัดน้ำมันมากขึ้นกว่าเดิม .... คิดว่ามันน่าสนใจหรือไม่

ตั้งแต่ตกเป็นข่าวคราวว่า  ฟอร์ด ประเทศไทย ตัดสินใจขั้นเด็ดขาดในการยกเลิกการจำหน่ายชั่วคราว รถยนต์   Ford Fiesta  Ecoboost  1.0   ลิตร ส่งผลให้หลายคนต่างรู้สึกแปลกใจ และบ้างไม่แปลกใจต่อการตัดสินใจดังกล่าว ทว่าในแง่ของคนที่สนใจรถยนต์อย่างกระผมเอง ก็ค่อนข้างแปลกใจ ที่เครื่องยนต์สุดเจ๋ง จนขึ้นชื่อเครื่องยนต์ยอดเยี่ยมระดับโลก  3  ปีซ้อน ต้องม้วนเสื่อรอการตัดสินใจอีกครั้งหนึ่ง

Ford Ecoboost   อาจจะเป็นที่รู้จักกันมาไม่กี่ปีที่ผ่านมา หลังคนไทยได้มีโอกาสต้อนรับเครื่องยนต์   Ford Ecoboost   ในรถยนต์   Ford Fiesta   เป็นรุ่นแรกสำหรับตลาดประเทศไทย ทว่าในระดับโลกแล้ว   Ford Ecoboost  ถือเป็นเครื่องยนต์ที่ได้รับคำชื่นชมอย่างหนาหูจากหลายตลาดทั่วโลก

ชื่อเสียงของ  Ecoboost เริ่มขึ้นในปี  2009  หลังจากค่ายวงรีสำน้ำเงินเปิดตัวเครื่องยนต์ใหม่ ด้วยความต้องการในตลาดโลกที่มีการเปลี่ยนไปเครื่องยนต์ขนาดใหญ่ไม่ตอบสนองต่อสถานการณ์ราคาน้ำมันในยุคนั้น ที่เริ่มทะยานสูงขึ้น ทำให้ เทรนด์การผลิตเครื่องยนต์ขนาดเล็กลงกำลังเป็นที่สนใจ และฟอร์ดก็ไม่รอช้าที่จะก้าวล่วงไปก่อนค่ายรถยนต์รายอื่นๆ ในตลาด ที่ยังคงเชื่อมั่นเครื่องยนต์ธรรมดาๆ ปัจจุบันทั่วไป

แนวคิดของ Ecoboost  คือการทำให้เครื่องยนต์ธรรมดาๆ นั้นมีความประหยัดและสมรรถนะมากขึ้น วิชาหนึ่งในการวิศวกรรมเครื่องยนต์กลไก อย่างระบบอัดอากาศ หรือ  Force Induction System  เข้ามาประกอบ ลดขนาดความจุเครื่องยนต์ลง และจัดการโด๊ปอากาศมากขึ้น เพื่อตอบสนองสมรรถนะการขับขี่ และด้วยปริมาตรเครื่องยนต์ที่มีความจุน้อยลง ทำให้มันมีความประหยัดมากขึ้น และดีกว่าเครื่องยนต์แบบธรรมดาทั่วไปที่ไม่มีระบบอัดอากาศ

การจดสิทธิบัตรกว่า 128 รายการ และยื่นขอรับสิทธิบัตรอีกกว่า 4,618  รายการ แสดงถึงความตั้งใจจริงของทีมงานวิศวกรค่ายวงรีสีน้ำเงิน ที่ต้องการทำให้เครื่องยนต์นี้ทำงานอย่างยอดเยี่ยม จนส่งผลให้คนเริ่มรู้จักหลังจากเริ่มแนะนำเครื่องยนต์   Ecoboost 2.0 ลิตรออกมาวางจำหน่าย  ในรถยนต์ อย่าง  Ford Mondeo , Ford Explorer  

หากว่า เครื่องยนต์ Ecoboost เริ่มเป็นที่สนใจมากขึ้น เมื่อมีการแนะนำในรถยนต์  Ford F-150   ใหม่ ด้วยต้นกำลังแบบ V6  ขนาด 3.5 ลิตร เทอร์โบชาร์จคู่  ทว่าท้ายสุดแล้ว ชื่อเสียงของ Ecoboost เป็นที่ประจักษ์แก่ผู้ใช้รถยนต์ทั่วโลก ด้วยเครื่องยนต์บล็อกเล็ก  Ecoboost 1.0 ลิตร ขุมพลังแบบ 3 สูบแถวเรียงพร้อมระบบเทอร์โบชาร์จ ที่มีในรถยนต์ Ford Fiesta ,Ford Focus ตลอดจน Ford Ecosport ....

น่าจะเรียกว่า งานนี้เหมือนงานขับสั่งลา ทันทีที่รู้ข่าวว่าค่ายวงรีสีน้ำเงินตัดสินใจไม่ทำเครื่องยนต์ดังกล่าวแล้ว ผมรีบยกหูถาม Ford ว่า ยังมีรถให้ลองขับไหม และครั้งนี้ไม่ใช่การทดสอบเพื่อพิสูจน์ว่า รถคันนั้นดีหรือไม่ดี แต่เป็นการค้นหาว่า ที่ไม่ดี คือความไม่เข้าใจของคนไทย หรือ เพราะอะไรกันแน่ !!

เจอหน้าตา Ford Fiesta Ecoboost ครั้งนี้ เหมือนเจอเพื่อนเก่า ... มันทำให้นึกถึงความทรงจำเมื่อสองปีก่อน ตอนที่พบมันครั้งแรก และครั้งนี้เหมือนการขับสั่งลาครั้งสุดท้าย .. ซึ่งทำให้ผมนึกก็อดเสียดาย

ไม่ต้องบรรยายภายนอก เพราะนี่คือการขับเอาความในใจเครื่องยนต์   Ecoboost   อย่างเดียว สตาร์ทเครื่องยนต์ เสียงไพเราะทุ้มๆ เสนาะหูของขุมพลังบล็อกเล็กเร้าใจนี้ยังประจักษ์ จนเชื่อว่ามันจะต้องเร้าใจอย่างไม่ต้องสงสัย แต่คนไทยมักมีภาพในความคิดเสมอว่า รถติดเทอร์โบมันคงแรงและซดน้ำมัน เช่นเดียวกับเครื่องยนต์ขนาด 1.0  ลิตรนั้น ควรต้องมีราคาขายถูก..กว่าเครื่องยนต์ 1.2 ลิตร ทว่า  Ecoboost   แหกคอกในความเชื่อราคาจำหน่ายแพงถึง  7 แสนบาทกลางๆ ทำเอาผู้คนถอยดะไปหาคู่แข่ง

ความเชื่อ...สามารถเปลี่ยนแปลงได้ถ้าได้รับการสื่อสารให้เข้าใจอย่างถูกต้อง   Ford Ecoboost  ยังคงทำให้ผมชื่นชอบทุกครั้งที่เหยียบคันเร่ง อย่าดูถูกว่ามันเป็นขุมพลังขนาดเล็ก เพราะใต้เครื่องยนต์ที่มีขนาดเท่าขนาดกระดาษ A4  นี้ มันมาพร้อมความทันสมัยมากมาย อัดแน่ทุกอนูการวิศวกรรมของเครื่องยนต์จากค่ายวงรีสีน้ำเงิน เริ่มจากเทอร์โบที่พร้อมตอบสนองอัตราเร่งเร้าใจ  ทำงานสูงสุด 248,000 รอบต่อนาที ฝาสูบยังมาพร้อมระบบวาล์วอัจฉริยะแปรผัน  Ti-VCT  รวมถึงเฮดเดอร์ท่อไอเสียถูกประยุกต์อยู่ในชุดฝาสูบเช่นกัน ตัวเครื่องยังได้ระบบหัวฉีดน้ำมันตรงเข้าสู่ห้องเผาไหม้ Direct injection เรียกว่าแค่สาธยายเรื่องเทคโนโลยีก็มีมากกว่าคู่แข่ง มากมาย

สิบปากว่าไม่เท่าตาเห็น สิบตาเห็นไม่เท่าสัมผัสจริง ... สุภาษิตนี้ยังใช้ได้ ..ว่าแล้วนึกย้อนไปถึงตอนแรก ที่มีโอกาสสัมผัส Ford Fiesta Ecoboost  พี่มาร์ค ธนบดี กุลทล ในฐานะผู้อำนวยการฝ่ายการตลาดฟอร์ดประเทศไทย เคยเอ่ยประโยคหนึ่งก่อนขับทดสอบ ว่า “ลองขับแล้วจะรู้” ....

จำได้ว่า ในตอนนั้น หลังจากหวด Ford Ecoboost ไปพักใหญ่ สิ่งที่เริ่มอยากรู้คือราคาจำหน่าย รถขับดีมาก ถึงมากที่สุด เจ้าเครื่องยนต์ Ecoboost 1.0  ลิตร ให้ความรู้สึกใกล้เคียง 1.6  ลิตร ดั้งเดิมอย่างมาก ด้วยกำลังสูงสุด 125 แรงม้า อาจจะไม่มากมายนัก แต่แรงบิดสูงสุด 170 นิวตันเมตร มีมาให้ใช้ตั้งแต่ 1,400  รอบต่อนาที ยัน 4,500 รอบต่อนาที ถือว่าไม่ธรรมดา

แม้ยามนี้จะขับขี่ในเมือง ความกระฉับกระเฉง ตอบสนองว่องไว ให้ความเร้าใจ ทุกครั้งที่คุณจำเป็นต้องบี้ไฟแดง หรือจำต้องแข่งกับเวลาไปให้ทันนัก แต่ไม่ว่าจะตะบี้ตะบันคันเร่งมากแค่ไหน มันก็ยังประหยัด คิดง่ายๆ ขับบาทาโหดๆ แบบไม่เข้าสู่โหมดประหยัดอย่างกระผมเอง Ecoboost  1.0 ยัง ประหยัดถึง  7.6  ลิตร/ 100 ก.ม. หรือเทียบเท่า 13.15 ก.ม./ลิตร ในน้ำมันแก๊สโซฮอล 91 มันก็แลดูประหยัดไม่น้อยเลยเช่นกัน

เครื่องยนต์ขนาดเล็กอาจจะถูกกังขาเรื่องสมรรถนะการขับขี่เมื่อคุณตัดสินใจพารถคู่ใจออกต่างจังหวัด..แต่ Ecoboost ทำให้เรามองในมุมต่างไปทันทีว่าเครื่องยนต์เล็กขับทางไกลก็เป็นไปได้

การติดตั้งระบบอัดอากาศเทอร์โบชาร์จเข้ามาในเครื่องยนต์ ทำให้โลกของเครื่องยนต์ขนาดเล็กเปลี่ยนไป ความเร้าใจจากเทอร์โบ ช่วยให้รถขับดีมีการตอบสนองที่ดี ระหว่างทางไม่ต้องกลัวเลยว่าจะแซงสิบล้อไม่พ้น หรือจะต้องขับแบบเต่าคลานระหว่าง เพราะทุกครั้งที่กดคันแร่งเพิ่ม Ecoboost ตอบสนองอัตราเร่งอย่างทันใจ ยิ่งถ้าใครบ้าความเร็ว คงจะรู้สึกดี ถ้าเราจะบอกว่า เครื่องยนต์ตัวนี้สามารถทำความเร็วสูงสุดได้ถึง 185 ก.ม./ชม. ตลอดจน อัตราเร่ง  0-100 ก.ม./ช.ม.  ในเวลาเฉลี่ย  11  วินาที และทำอัตราเร่ง  80-120  ก.ม./ช.ม. ใน 8.0 วินาที ในบอดี้ Ford Fiesta คงไม่ใช่เรื่องธรรมดาที่เราพบกันทุกวัน

ท้ายสุดปลายทางวันนี้ ...เรายืนริมทะเลอ่างศิลาไม่ไกลจากกรุงเทพ ไม่น่าเชื่อว่า ขับ  Ecoboost  1.0 ลิตร มาที่นี่ จะใช้น้ำมันเพียง 6.7  ลิตร/100 ก.ม. หรือเท่ากับ  14.9  ก.ม./ลิตร จากการขับนอกเมืองด้วยน้ำมันแก๊สโซฮอล 91 ที่สำคัญขับมาด้วยพฤติกรรมปกติ ไม่ต้องบรรจงสร้างเหยียบคันเร่ง แบบเซียนชั้นนำเพิ่มความประหยัด ...

เพราะทั้งหมดนี้พิสูจน์ด้วยการวิศวกรรมที่เหนือชั้น ...เสียแต่ว่ามันถูกบดบังด้วยหลายสิ่งหลายอย่าง ไม่ว่าจะความไม่เข้าใจของคนไทย ต่อเครื่องยนต์เทอร์โบ ที่วันนี้มันเปลี่ยนไป รวมถึง เครื่องยนต์ขนาดเล็ก ซึ่งปัจจุบันอัดแน่นด้วยเทคโนโลยี จนทำให้มันอาจจะมีราคาจำหน่ายแพง ไปจนถึงแนวทางการเปิดตลาดเครื่องยนต์รุ่นนี้ของฟอร์ด ประเทศไทยในอดีต และ คีย์ในการสื่อสารที่ไม่ได้สร้างความเข้าใจให้คนทั่วไปเกี่ยวกับ หัวใจสำคัญของอีโคบูสต์อย่างจริงจัง ว่าทำไมพวกเขาถึงต้องจ่ายมากกว่า .... จนทำให้ ecoboost ในวันนี้เป็นรถตำนานของการบุกเบิกตลาดด้วยเครื่องยนต์บล็อกเล็กเทอร์โบชาร์จ กลายเป็นรถสำหรับแฟนพันธุ์แท้ของฟอร์ดเท่านั้น

ครั้งหนึ่ง สจ๊วต โรส อดีตประธานบริหารของ Mark & Spencer เคยกล่าวไว้ว่า “ถ้าคุณรอให้ลูกค้าบอกคุณว่าคุณต้องทำอะไรบ้าง แสดงว่าคุณช้าเกินไป ผู้นำทางธุรกิจที่ดีคือคุณต้องก้าวไปมากกว่าคนอื่นครึ่งก้าวเสมอในสิ่งที่ผู้บริโภคต้องการ พวกเขา ..ไม่รู้หรอกว่าพวกเขาต้องการอะไร นั่นคือสิ่งที่นวัตกรรมเข้ามามีบทบาทเป็นแผน A เราไม่จำเป็นต้องรอให้ลูกค้าบอกเรา .... “

หลังจาก โบกมือลา Ford Ecoboost ผมเชื่อว่า Ford  มาถูกทาง พวกเขาพยายามนำเสนอนวัตกรรมแต่ไม่ว่าด้วยเหตุผลอะไรที่ทำให้ Ford Ecoboost ไม่สามารถขายได้ตามที่คาดหวัง พวกเขาได้พยายามและเรียนรู้แล้วว่าสำหรับประเทศไทย จะปั่น Ecoboost อย่างไร

แม้ท้ายสุดการตัดสินจะมีขึ้นเป็นที่เรียบร้อยแล้ว แต่ใจลึกๆ เชื่อว่า Ford คงไม่ละทิ้งคำว่า Ecoboost  สำหรับประเทศไทย เพียงแต่กลับไปคิด...ใหม่ เพื่อตอบโจทย์ได้ถูกจุดกว่าเดิม และมันน่าจะกลับมาในอนาคตอันใกล้นี้  ในรถยนต์ที่เราอาจจะรู้จักกันเป็นอย่างดี

 

เรื่องและขับทดสอบ โดย ณัฐยศ ชูบรรจง (Bonn)

ติดตามผู้สื่อข่าวและนักทดสอบรถยนต์ นาย ณัฐยศ ชูบรรจง ได้ที่ Facebook หรือ ทาง  Fan page ,Twiter (@nattayodc)

 

ติดตามข่าวสารยานยนต์ รวดเร็วก่อนใคร ได้ที่ Autodeft.com