Hands on : Ford Advance Driving … ครบเครื่องทุกสิ่งความปลอดภัย
- โดย : Autodeft
- 27 พ.ค. 59 00:00
- 12,636 อ่าน
ทุกวันนี้การจราจรที่วุ่นวายทำให้เราหลายคนต่างมองหาความปลอดภัยมากขึ้น รถยนต์สมัยนี้จะมีสมรรถนะในการขับขี่ดีอย่างเดียวไม่ได้ หากยังต้องมีระบบรักษาความปลอดภัยในการขับขี่ หรือผู้ช่วยที่พร้อมจะเดินทางไปกับเราทุกที่ในรถยนต์คู่ใจ
ตลอดหลายปีที่ผ่านมาเรื่องราวของระบบความปลอดภัยในรถยนต์ได้รับการขยายผลให้มีฟังชั่นการทำงานที่ครบเครื่องครบครันมากขึ้น มันไม่ใช่ดั่งเช่นก่อนๆ ที่เพียงระบบเบรกป้องกันล้อล็อค และระบบกระจายแรงเบรก เราก็สมทบขึ้นคำว่านี่คือที่สุดของความปลอดภัยในการขับขี่ ทว่าความก้าวหน้าของเทคโนโลยีทำให้วันนี้รถยนต์หลายรุ่นมีความมั่นใจในการขับขี่มากขึ้น Ford เป็นบริษัทรถยนต์ที่อยู่คู่เร่องเทคโนโลยีมายาวนาน พวกเขาชอบนำเสนอเทคโนโลยีใหม่ๆ ให้ลูกค้าสม่ำเสมอ และในเวอร์ชั่น 2016 ของยอดกระบะพันธุ์แกร่ง Ford Ranger เจ้ากระบะขาโจ๋ที่สร้างชื่อให้บริษัทในยุคนี้ ปีนี้ พวกเขาก็พร้อมแล้ว สำหรับการนำเสนอที่สุดทางด้านเทคโนโลยีความปลอดภัยในรถกระบะ ซึ่งปัจจุบันยังไม่มีใครเทียบชั้นได้
การเติมแต่งสมรรถนะอาจเป็นเพียงปัจจัยหนึ่งที่ทำให้รถยนต์ควบคุมดีขึ้นช่วยเพิ่มความมั่นใจและปลอดภัยในการขับขี่ แต่ปัจจุบันระบบรูปแบบใหม่ๆ ถูกพัฒนาเข้ามาช่วยเพิ่มความสามารถในการขับขี่มากขึ้น ระบบประเภท Active Safety หรือมาตรการความปลอดภัยทำงานตลอดเวลา เป็นระบบที่พร้อมช่วยคุณในการขับขี่ จนไปถึงปลายทางอย่างปลอดภัย
Ford Ranger ใหม่นอกจากรูปหล่อรวยเสน่หืจนหลายคนหลงใหล เจ้ากระบะค่ายวงรีสีน้ำเงินคันนี้ยังมาพร้อมกับหลากระบบความปลอดภัยในตัวตน วันนี้ Ford ต้องการให้เรามาพิสูจน์ว่าระบบเหล่านี้มีดีกว่าที่ตาเห็นกายภายนอกเพราะมันช่วยคุณได้มาก ในยามขับรถทางไกลหรือเหนื่อยล้าจากการทำงาน
ในยามขับทางไกล เมื่อยไหมกับเท้าขวาที่ต้องตั้งท่าขาตั้งเตะคุมคันเร่งเลี้ยงความเร็วในการขับขี่ มันคงไม่เป็นอะไรถ้าขับรถ 200-300 กิโลเมตร หากคุณเดินทางไกลกว่านั้น คงต้องการผู้ช่วยกันบางจริงไหม ....
ปัจจุบันระบบควบคุมความเร็วอัตโนมัติหรือ Cruise Control มีแนะนำเข้ามาในรถยนต์หลายรุ่นพวกมันล็อกความเร็วให้คุณโดยใช้คุณสมบัติของการทำงานของระบบคันเร่งไฟฟ้าเข้ามาช่วยเพิ่มความสะดวกสบายในการขับขี่ แต่ก็ยังมีจุดบอดที่มันไม่ได้ลดความเร็วเองอัตโนมัติเหมือนยามมนุษย์ขับรถ
การทำงานของระบบ Adaptive CruiseControl
ระบบเดียวกันนี้ถูกพัฒนาใหม่ให้มีการตอบสนองมากขึ้น โดยอาศัยการทำงานของระบบเซนเซอร์ทำให้ระบบสามารถเรียนรู้ความเร็วรถข้างหน้าว่ามีความเร็วเท่าไร แล้วปรับลดความเร็วให้เหมาะสมตามสภาพการจราจรในขณะนั้น เมื่อถนนว่างก็จะทำความเร็วสูงสุดตามที่ผู้ใช้เซทเอาไว้
การทำงานของ Adaptive Cruise Control นั้นง่ายดายไม่ต่างจากระบบ Cruise Control เดิม ดีเพิ่มเติมคือมันสามารถคำนวนความเร็วได้ นอกจากนี้คุณยังสามารถตั้งค่าระยะความปลอดภัยได้ ถึง 4 ระดับในรถยนต์ Ford Ranger แถมระบบของเจ้ากระบะคันนี้ยังทำงานที่ความเร็วตั้งแต่ 30 ก.ม./ช.ม.
จากที่ผมลองใช้ต้องยอมรับว่าระบบดังกล่าวทำงานได้ดีตามความต้องการ มันช่วยให้คุณไม่จำเป็นต้องพะวงว่าจะต้องแตะเบรกและกลับมาเซทค่าอีกเมื่อไร ระบบนี้ช่วยให้รถจัดการทุกอย่างเอง มันลดความเร็วเองและเร่งเอง เว้นแต่ความเร็วต่ำกว่า 20 ก.ม./ช.ม. ระบบจะยกเลิกการทำงานอัตโนมัติ
การทำงานที่เมื่อยล้า บางครั้งก็เป็นอุปสรรคสำคัญในการขับขี่บ่อยครั้งอุบัติเหตุไม่ได้เกิดจากความประมาท แต่เกิดจากการเผลอเรอหรือหลับใน แต่ไม่เป็นข่าวก็มีเยอะแยะไป
ใน Ford Ranger นอกจากระบบ Adaptive Cruise Control แล้ว เจ้ากระบะพันธุ์แกร่งยังมีผุ้ช่วยดูแลผู้ใช้สำคัญๆ อีก 3 หน่วย ได้แก่ ระบบ Forward Collision Warning System , ระบบ Driver Assisted และ ระบบ Lane Keeping System อีกด้วย
ระบบ Forward Collision Warning System ฟังชื่อน่าจะคุ้นหูบ้างถ้าคุณขับรถในราคาระดับหลายล้านยาท แต่นี่เป็นครั้งแรกที่มันมาอยู่ในรถกระบะ มันคือระบบช่วยเตือนการชนทางด้านหน้า โดยใช้เทคโนโลยีเรดาห์ร่วมกับกล้องทำการแสกนถนนทางด้านหน้าว่าสามารถมาขับขี่ได้อย่างปลอดภัยหรือไม่
เมื่อระบบตรวจพบว่ามีโอกาสที่คุณจะชนรถคันหน้า หรือคนเดินเท้าที่อยู่ทางด้านหน้าระบบจะแจ้งเตือนผู้ใช้ ด้วยการแสดงผ่านชุดไฟ LED ที่สะท้อนสู่กระจกบังลมตรงหน้าคนขับ เพื่อให้ร่ากำลังถึงจุดวิกฤต ในกรณีที่อยุ่ในภาวะคับขันมากๆ ฟอร์ดเปิดเผยว่า ระบบจะจัดการเพิ่มแรงดันน้ำมันเบรกขึ้น 0.3 กรัมเพื่อตอบสนองผู้ใช้ในกรณีเบรกกะทันหัน แต่ระบบจะไม่หยุดรถให้โดยอัตโนมัติ เหมือนระบบ Active city Stop ใน Ford Focus
ด้านระบบ Lane Keeping system เป็นระบบตรวจจับช่องทางเดินรถโดยอาศัยชุดกล้องทางด้านที่ติดตั้งที่กระจกบังลมหน้าจับเส้นประ ที่ถูกตีไว้บนถนน ซึ่งเมื่อถึงความเร็วระดับหนึ่ง (64 กม./ช.ม.) กล้องจะมองเห็นเป็นเส้นทึบยาว จนสามารถบอกผู้ขับขี่ได้ว่า ยังขับรถตรงช่องทางหรือไม่
การทำงานของระบบ Lane Keeping system
ระบบดังกล่าวไม่ทำงานโดยอัตโนมัติ แต่ผู้ใช้ต้องเปิดสวิทช์ใช้งานบนก้านไฟเลี้ยวด้านขวา เมื่อเปิดใช้งานแล้ว ระบบจะทำงานและตรวจจับช่องทาง หากรถเป๋ออกทางด้านข้าง ระบบจะทำการเตือนโดยสั่นพร้อมกับดึงพวงมาลัยกลับไปยังช่องทาง เพื่อป้องกันไม่ให้รถหลุดเลน นับว่าช่วยได้มากสำหรับคนที่เหนือยล้อ และมีแนวโน้มขับรถหลับใน ... เราแอบถามฟอร์ดว่าแบบนี้กับพวกเมาแล้วขับได้หรือไม่ คำตอบคือได้ แต่ไม่ช่วยป้องกันจ่าจับคุณนะ...
การตรวจจับช่องทางด้วยระบบ Lane Keeping assisted ยังเหนือชั้นด้วยการทำงานร่วมกับระบบ Driver Assisted ระบบดูแลช่วยเหลือคนขับ และป้องกันการเหนื่อยล้าจากการขับรถ
ระบบ Driver Assisted นั้น จะดูลักษณะการควบคุมพวงมาลัยของคุณว่ายังเป็นปกติหรือไม่ โดยอาศัยเกณฑ์ในการขับขี่จากระบบ Lane Keeping เข้ามากำหนดสภาวะผู้ขับขี่ หากคุณขับรถปกติ เปิดไฟเลี้ยวเปลี่ยนช่องทางเหมือนปถุชน ระบบจะไม่แจ้งเตือนอันใด แต่ถ้าเมื่อไรก็ตามคุณเก้ยซ้ายเก้ยขวาบ่อยๆ ระบบจะอนุมาณให้คะแนนว่าคุIเริ่มเหนื่อยล้า พร้อมวัดระดับความล้าของคุณ แจ้งเตือนเป็น...รูปถ้วยกาแฟ
ในกรณีที่ระบบประเมินว่าประสิทธิภาพการขับรถของคุณต่ำมาจนไม่ควรขับรถ ระบบจะส่งสัญญาณแจ้งเตือนตลอดทาง และจะไม่หยุด จนกว่าคุณจะจอดรถดับเครื่องยนต์ลงจากรถ เพื่อพักผ่อน ระบบจึงจะรีเซทและหยุดเตือน
ความล้ำสมัยในรถยนต์ปัจจุบันมีมากมายหลายหลาก ระบบคามปลอดภัยเป็นส่วนหนึ่งที่ลดการเสี่ยงอันตรายของคุณเองในระหว่างการขับขี่ ซึ่งแม้คุณจะไม่ยินดีทีจะจ่ายเงินเพิ่ม หากการจ่ายเงินเพิ่มสามารถรักษาชีวิตคุณเอาไว้ได้ ตัวเลือกกระบะรูปหล่อปลอดภัยอย่าง Ford Ranger ก็คงน่าสนใจไม่น้อย ..จริงไหมครับ
ติดตามข่าวสารยานยนต์ รวดเร็วก่อนใคร ได้ที่ Autodeft.com