Test Drive: รีวิว ทดลองขับ All New Honda City สัมผัสแรกกับเครื่องยนต์ 1.0 ลิตร VTEC TURBO พร้อมความสบายเกินคาด!!

  • โดย : รัฐศิลป์ รัตนกู้เกียรติ
  • 18 ธ.ค. 62 00:00
  • 22,201 อ่าน

นับตั้งแต่การเปิดตัวครั้งแรกในโลกที่ประเทศไทย เมื่อวันที่ 25 พฤศจิกายน 2562 ที่เพิ่งผ่านมา All New Honda City ใหม่ เจนเนอเรชั่นที่ 5 ก็ได้สร้างกระแสฮือฮาในตลาดอย่างมาก จนในขณะนี้หลังผ่านไปราว 3 สัปดาห์ ก็สามารถกวาดยอดจองไปได้แล้วถึงกว่า 4,500 คัน ก่อนที่รถจะพร้อมให้สัมผัสทั่วประเทศตั้งแต่วันที่ 24 ธันวาคม 2562 เป็นต้นไป และในวันนี้ทางทีมงานก็ได้เข้าร่วมขับทดสอบกันในสนามทดสอบ ฮอนด้า อาร์แอนด์ดี เอเ

รถใหม่ All New Honda City

สำหรับการขับทดสอบรถใหม่ในสนามทดสอบ ฮอนด้า อาร์แอนด์ดี เอเชีย แปซิฟิค ปราจีนบุรี ครั้งนี้ ถือเป็นโอกาสอันดีจากทาง ฮอนด้า ออโตโมบิล (ประเทศไทย) จํากัด ที่ได้เชิญทีมงาน Autodeft.com ร่วมสัมผัส Honda City เครื่องยนต์ 1.0 ลิตร VTEC TURBO ใหม่ ซึ่งในการขับทดสอบครั้งนี้ ทางฮอนด้าได้แบ่งการขับทดสอบในสนามเป็น 2 สนามหลักๆ สนามแรกกับสนาม Oval Course สนามทดสอบรูปวงรี ที่มีความยาว 2.18 กิโลเมตร และอีกสนามกับ Winding Course สนามทดสอบทางโค้ง ที่ยาว 1.38 กิโลเมตร นับเป็น 2 สนาม ในหลายสนามทดสอบที่นี่

แม้จะเป็นเพียงช่วงเวลาสั้นๆ กับการสัมผัสและขับทดสอบรถใหม่ All New Honda City รุ่น RS รุ่นท็อปสุด แต่ก็พอให้ได้ทราบถึงฟิลลิ่งในหลายๆ ด้านของรถ ที่เปลี่ยนแปลงไปจากเดิมอย่างชัดเจน พร้อมกับรายละเอียดของขุมพลังใหม่ เครื่องยนต์ขนาด 1.0 ลิตร DOHC VTEC TURBO 3 สูบ 12 วาล์ว ที่สามารถรีดกำลังสูงสุด 122 แรงม้า ที่ 5,500 รอบต่อนาที แรงบิดสูงสุด 173 นิวตันเมตร ที่ 2,000 - 4,500 รอบต่อนาที พร้อมการส่งกำลังด้วยระบบเกียร์อัตโนมัติอัตราทดแปรผันต่อเนื่อง (CVT)

All New Honda City

โดยเฉพาะความโดดเด่นของเครื่องยนต์ใหม่นี้ เครื่องยนต์ 1.0 ลิตร VTEC TURBO ที่ได้ติดตั้งระบบฉีดน้ำมันเชื้อเพลิงแบบฉีดตรง (Direct Injection) ฉีดตรงเข้าสู่ห้องเผาไหม้ด้วยปั๊มน้ำมันเชื้อเพลิงแรงดันสูง ช่วยให้เครื่องยนต์ทำงานได้ราบเรียบและต่อเนื่อง Dual VTC ระบบแคมชาฟท์ สามารถเพิ่มหรือลดองศาของแคมชาฟท์ในการเปิดปิดวาล์วไอดีและไอเสีย และระบบแปรผันระยะยกของวาล์ว VTEC เป็นการแปรผันระยะยกของวาล์วไอดี เพิ่มประสิทธิภาพในการประจุไอดีจำนวนมากเข้าสู่ห้องเผาไหม้ เอกลักษณ์เฉพาะของ VTEC อีกทั้งยังมีอินเตอร์คูลเลอร์แบบน้ำ (Water-Cooled Type Intercooler) ช่วยระบายความร้อนจากการบูสท์ของเทอร์โบด้วยน้ำที่ติดตั้งมากับเครื่องยนต์ รวมไปถึงเทอร์โบชาร์จเจอร์และวาล์วเวสเกตไฟฟ้า ที่จะให้การควบคุมที่แม่นยำสั่งได้

รถใหม่ All New Honda City

พร้อมเริ่มต้นการขับทดสอบ ทีมงานได้เดินทางเข้าสู่ภายในสนามทดสอบ สนามแรกกับ Oval Course ซึ่งในช่วงระหว่างรอคิวการทดสอบนี้ ขอพามาดูรายละเอียดของมิติตัวรถที่เปลี่ยนแปลงไป ซึ่งภาพรวมของ All New Honda City ใหม่ มีมิติตัวรถที่ใหญ่ขึ้น มีความยาว 4,553 มม. ความกว้าง 1,748 มม. ความสูง 1,467 มม.(เตี้ยลงกว่าเดิม) พร้อมฐานล้อ 2,589 มม. ความสูงใต้ท้องรถ 135 มม. น้ำหนักรถ 1,150- 1,165 กก. พร้อมความจุถังน้ำมัน 40 ลิตร ทั้งนี้ตัวรถยังมีการพัฒนาปรับปรุงในหลายๆ ด้าน เพื่อให้ Honda City ใหม่ เจนเนอเรชั่นที่ 5 นี้ดีมากยิ่งขึ้นกว่าเดิม มีการลดน้ำหนักโครงสร้างตัวถัง แต่ความแข็งแรงเพิ่มขึ้น 20.4% มีการลดเสียงจากจุดต่างๆ ที่จะเข้ามาสู่ภายในห้องโดยสาร ช่วงล่างปรับปรุงใหม่ ฟิลลิ่งในการควบคุมพวงมาลัย และอุปกรณ์ต่างๆ ภายในรถ เป็นต้น

รถใหม่ All New Honda City

เริ่มต้นการขับทดสอบสนามแรก Oval Course สนามทดสอบรูปวงรี ในช่วงของการขับขี่ในสนามนี้ เป็นช่วงที่พอให้ได้จับความรู้สึกของอัตราเร่งตั้งแต่ช่วงออกตัว จนไปถึงช่วงการใช้ความเร็วในการเร่งขึ้นไปที่ระดับความเร็วประมาณกว่า 100 กม./ชม. ด้วยเครื่องยนต์เทอร์โบ 1.0 ลิตร VTEC TURBO สามารถพาตัวรถเคลื่อนที่ไปได้แบบสบายๆ กำลังมีพอแบบเหลือเฟือให้เรียกกำลังในทุกครั้งที่เติมคันเร่ง และยิ่งโดยเฉพาะเมื่อรอบของการทำงานของเครื่องยนต์ที่ผสานกำลังกับเทอร์โบแล้วนั้น การเรียกกำลังเรียกได้ว่ากดเป็นมา ไม่ได้รู้สึกว่าตัวรถอืดจนเร่งไม่ขึ้น แม้ในช่วงการขับทดสอบนี้มีการโดยสารทั้งหมด 3 ท่านก็ตาม  กลับสามารถตอบสนองได้อย่างดี ใครที่กังวลว่าเครื่องยนต์ 1.0 ลิตร เทอร์โบจะวิ่งไหวหรอ หมดห่วงประเด็นตรงนี้ไปได้เลย โดยเฉพาะความเร็วช่วงกลางที่รถสามารถไต่ระดับความเร็วได้อย่างต่อเนื่อง ในโหมดการขับขี่ D ปกติ

รถใหม่ All New Honda City

และส่วนของพวงมาลัยแรกสัมผัสในช่วงสนามทดสอบนี้ สัมผัสได้ถึงความหนืดในแบบรถใหญ่สุดหรู พวงมาลัยหนืดมีน้ำหนักกำลังดี ไม่ได้รู้สึกว่าเบาจนเกินไปในแบบรถเล็กที่เน้นการใช้งานในเมือง การควบคุมผ่านทางโค้งยาวๆ สามารถควบคุมได้อย่างมั่นใจ หรือแม้การขับด้วยความเร็วราว 100-120 กม./ชม. การคุมพวงมาลัยก็ทำได้แบบสบายๆ ไม่ต้องคอยประคองพวงมาลัยให้รู้สึกล้า รวมไปถึงการโยกเปลี่ยนเลนเองก็สามารถทำได้อย่างมั่นใจเช่นกันในส่วนของสนามทดสอบนี้ เรียกได้ว่าเผลอทำความเร็วเกิน 100 กม./ชม. กันแบบไม่รู้ตัว บวกกับการเก็บเสียงในห้องโดยสารที่ค่อนข้างเงียบ ที่การได้ยินเสียงจากภายนอกน้อยมากๆ มีเพียงเสียงเครื่องยนต์ที่พอดังเข้ามาให้ได้ยินอยู่บ้างในจังหวะจุ่มคันเร่งเต็มที่ หากแต่การขับขี่บนสภาพถนนจริงต้องลองทดสอบกันอีกครั้ง และสำหรับ All New Honda City ใหม่นี้ ทางฮอนด้าได้ล็อคความเร็วสูงสุดของรถไว้ที่ 200 กิโลเมตร/ชั่วโมง ซึ่งคาดว่าความเร็วปลายสุดคงไม่นี้ไปจากตัวเลขนี้มากเท่าใดนัก หากแต่รถในกลุ่มนี้ก็ไม่แนะนำให้ใช้ความเร็วในระดับนี้อยู่แล้ว

รถใหม่ All New Honda City

ต่อกันที่สนาม Winding Course สนามทดสอบทางโค้ง กับระยะทาง 1.38 กิโลเมตร ที่มีทางโค้งในสนามรวม 17 โค้ง มีทั้งโค้งซ้ายขวาสลับไปมา รวมถึงโค้งรูปแบบต่างๆ และเนินชัน ให้ได้ลองขับทดสอบกัน พวงมาลัยที่หนืดน้ำหนักกำลังดีนี้ ทำให้ควบคุมรถได้แม่นยำ การกะระยะขับขี่ผ่านโค้งทำได้ง่าย ช่วงล่างที่สัมผัสได้ ให้ความรู้สึกที่เน้นมาในทางนุ่มนวลแต่ไม่ย้วย ทั้งการขับขี่และโดยสาร บวกกับตำแหน่งท่านั่งท่าขับกับเบาะที่นั่งที่ออกแบบมาให้ค่อนข้างหนานุ่มและโอบกระชับตัว ก็ได้เห็นความตั้งใจในการออกแบบเพื่อการโดยสารที่สบายสูงสุดตลอดการเดินทาง

รถใหม่ All New Honda City

ซึ่งในสนามนี้เราได้ขับทดสอบกันเพียง 1 รอบเท่านั้น อาจจะยังจับอาการของรถในการขับขี่จังหวะต่างๆ ยังไม่ครบถ้วน แต่ในภาพรวมนั้น Honda City ใหม่ ได้เปลี่ยนความรู้สึกเดิมๆ จากเจนเนอเรชั่นที่แล้วไปอย่างแตกต่าง ทั้งพวงมาลัยที่ให้ฟิลลิ่งการขับขี่แบบรถใหญ่ ช่วงล่างของรถที่ให้ความนุ่มนวลไม่ตึงตัง รวมทั้งการออกแบบภายนอกภายใน ที่เปลี่ยนไปทั้งหมดจากเดิม จึงไม่ยากที่จะรู้สึกได้ถึงความเปลี่ยนแปลงไปอย่างชัดเจน

รถใหม่ All New Honda City

และจากการที่ได้ลองนั่งทั้งที่เบาะด้านหน้า และเบาะแถวหลังนั้น ตัวเบาะด้านหน้าโอบกระชับได้ค่อนข้างดี มีความหนานุ่มและซัพพอร์ตส่วนต่างๆ ของร่างกายได้พอดี ทำให้การนั่งขับขี่กระชับและสบาย ทั้งยังสามารถปรับระดับสูงต่ำได้

รถใหม่ All New Honda City

ส่วนเบาะแถวหลังพื้นที่วางขาค่อนข้างเป็นไฮไลท์เด่น ด้วยพื้นที่ที่เหลืออย่างกว้างขวางแม้ว่าผู้โดยสารตอนหน้าจะเลื่อนเบาะมาด้านหลังสุดแล้วก็ตาม ก็ยังมีพื้นที่เหลืออยู่ เพราะด้วยตัวรถที่ยาวขึ้น และการเว้าส่วนของด้านหลังเบาะหน้าก็ช่วยให้พื้นที่กว้างขึ้น และส่วนของพื้นที่เหนือศรีษะเองก็พอมีเหลือให้ไม่รู้สึกอึดอัด เบาะที่นั่งส่วนพนักพิงเองก็เอนในระดับที่กำลังนั่งโดยสารได้สบาย หมอนดันศรีษะไม่รู้สึกดันหัวจนเกินไป 

รถใหม่ All New Honda City

All New Honda City

ทั้งหมดนี้กับการสัมผัสครั้งแรกในโลก All New Honda City ใหม่ พร้อมเครื่องยนต์เทอร์โบ 1.0 ลิตร VTEC TURBO แม้เป็นช่วงระยะทางสั้นๆ และอยู่ภายใต้ข้อจำกัดในการขับขี่ที่อาจแตกต่างจากการใช้งานจริงบนท้องถนนบ้าง ก็ทำให้ทีมงานได้พอทราบถึงความเปลี่ยนแปลงที่ดียิ่งขึ้นในเจนเนอเรชั่นที่ 5 นี้ ที่ได้รับการพัฒนาในหลายๆ ด้าน ที่เน้นให้รถนั้นขับสบายมากยิ่งขึ้น ทั้งยังมอบความประหยัดด้วยเครื่องยนต์ใหม่ ที่ในโอกาสครั้งต่อไปทางทีมงานจะได้สัมผัสและขับขี่กันบนถนนจริง ช่วงเดือนมกราคมปี 2020 ที่จะถึงนี้ แล้วมาคอยติดตามกันว่า Honda City ใหม่ สามารถตอบโจทย์สมรรถนะการขับขี่การใช้งานด้านต่างๆ ได้ดีขนาดไหน รวมไปถึงการใช้งานจริงบนสภาพถนนจริงในเมืองไทย จะเป็นเช่นไร รอติดตามกันได้เลย...

รถใหม่ All New Honda City
 

ติดตามข่าวสารรถยนต์รวดเร็วก่อนใครได้ที่ AUTODEFT.com

5 เรื่องน่าสนใจ