Test Drive : รีวิว ทดลองขับ BMW 3 Series & BMW X5 ใหม่หมด..รถหรูเยอรมัน 2 สไตล์ เท่ แรง เร้าใจ
- โดย : Autodeft
- 15 พ.ค. 62 00:00
- 12,804 อ่าน
ค่ายรถยนต์จากเมืองมิวนิกอย่าง BMW โหมตลาดอย่างหนักกับการเปิดตัวรถยนต์รุ่นใหม่ออกสู่ตลาดเมืองไทยอย่างต่อเนื่องในปี 2562 เริ่มต้นกับ BMW X5 อเนกประสงค์หรูเจนใหม่ รวมถึงการมาของพี่ใหญ่อย่าง BMW X7 และอีก 2 รุ่นนั่นคือ BMW 3 Series และ BMW Z4 โรสเตอร์เจนใหม่โดนใจสาวกเปิดประทุนอย่างเต็มรูปแบบ
สำหรับครั้งนี้ บีเอ็มดับเบิลยู จัดกิจกรรมทดสอบรถยนต์เป็นครั้งแรกในปีหมูทอง โดยนำรถซีดานเล็ก BMW 3 Series Sedan เจนใหม่ รวมถึงอเนกประสงค์เจนใหม่ อย่าง BMW X5 มาให้ทดสอบเพื่อรับรู้ถึงการพัฒนาทั้งในด้านดีไซน์ ระบบช่วงล่าง เครื่องยนต์ และเทคโนโลยีการขับขี่ มอบประสบการณ์ที่เหนือระดับยิ่งขึ้น มาให้พี่ๆเพื่อนๆสื่อมวลชนรวมถึงผมได้รู้จักและสัมผัส ชนิดถึงลูกถึงคนกันเลยทีเดียว
เริ่มกันที่ BMW 3 Series Sedan (รหัส G20) เป็นเจเนอเรชั่นที่ 7 สานต่อความสำเร็จจาก 3 Series เจนก่อนๆ มายาวนานตลอด 40 ปี โดยจำหน่ายเมืองไทยทั้งรุ่น 330i M Sport เบนซิน และ 320d Sport ดีเซล ความหล่อแตกต่างกันชัดเจนอย่างรุ่น 320d Sport มาพร้อมตัวตนที่เรียบง่าย ตั้งแต่ล้ออัลลอย 18 นิ้วลาย V Spoke พร้อมยาง 225/45 R18 และชุดแต่ง BMW Individual high-gloss Shadow Line ด้วยขอบหน้าต่าง ขอบช่องดักอากาศ และซี่บริเวณกระจังหน้าไตคู่สีดำเงา
ส่วนรุ่น 330i M Sport มาในแนวสปอร์ตดูดีทั้งคันกว่ารุ่น 320d Sport กับชุดแต่ง M Sport เสริมรูปลักษณ์โฉบเฉี่ยวและสมรรถนะปราดเปรียว ไม่ว่าจะเป็นระบบช่วงล่าง ชุดเบรก และชุดแอโรไดนามิคส์ แบบ M Sport ล้ออัลลอย M ขนาด 18 นิ้วลาย Double Spoke พร้อมยางที่ขนาดต่างกันโดยล้อหน้าได้ยางขนาด 225/45 R18 และขนาด 255/45 R18 ในล้อหลัง
เส้นสายภายนอกของ BMW 3 Series Sedan ทั้ง 2 รุ่นแข็งแกร่งและคมชัด กระจังหน้าทรงไตคู่ขนาดใหญ่ขึ้นในกรอบพร้อมระบบ Active Air Flap แผ่นปิดด้านในกระจังหน้า มีการจัดระเบียบทิศทางการไหลของอากาศผ่านช่วยลดแรงเสียดทานอากาศได้อย่างมีประสิทธิภาพ เชื่อมกับไฟหน้าคู่ LED ทรงเรียวยาวดีไซน์ใหม่ล่าสุด ด้านข้างของตัวรถโดดเด่นด้วยกรอบหน้าต่างดีไซน์แบบ Hofmeister Kink ออกแบบให้เป็นหนึ่งเดียว พร้อมด้วยไฟท้ายดีไซน์รูปทรง L แนวนอนสีหม่นแบบสามมิติ และ ท่อไอเสียแบบคู่ให้ท้ายรถดูกว้างและสปอร์ตกว่าเดิม
BMW 3 Series Sedan ทั้ง 2 รุ่นจะมีตัวตนที่ต่างกันแต่มีความโดดเด่นในเรื่องน้ำหนักที่เบากว่ารุ่นเดิม (รหัส F30) ถึง 55 กิโลกรัม เพราะใช้วัสดุอลูมิเนียมเป็นส่วนประกอบในชิ้นส่วนและโครงสร้างต่าง ๆ เช่น กระโปรงและกันชนหน้า รวมถึงมิติตัวรถที่ใหญ่ขึ้นกว่าเดิมทำให้มีความคล่องตัว ขับขี่ปราดเปรียวกว่าเดิมหลายเท่า
ภายในใหม่หมดด้วยคอนโซลดีไซน์คล้ายกับ BMW X5 เจนใหม่ ตั้งแต่มาตรวัดขนาดใหญ่ 12.3 นิ้ว แบบ Control Display พร้อมจอสัมผัสตรงกลางคอนโซลหน้าทั้งขนาด 10.25 นิ้ว เครื่องปรับอากาศแยกอุณหภูมิ 3 โซน สะดวกสบายด้วยพื้นที่ด้านหน้าและด้านหลังที่กว้างขวางยิ่งขึ้น รวมถึงพื้นที่จุสัมภาระถึง 480 ลิตร เบาะนั่งสามารถพับได้แบบ 40:20:40 หรูหราด้วยไฟ ambient light
ออพชั่นเฉพาะรุ่นต่างกันชัดเจนเริ่มที่รุ่น 320d Sport ติดตั้งพวงมาลัยมัลติฟังก์ชั่น 3 ก้าน ตกแต่งด้วยวัสดุอลูมิเนียมลาย Mesheffect และที่นั่งด้านหน้าแบบสปอร์ต ส่วนรุ่น 330i M Sport พวงมาลัยมัลติฟังก์ชั่น 3 ก้านหุ้มหนังแท้แบบ M ภายในตกแต่งด้วยวัสดุอลูมิเนียม Tetragon ระบบเครื่องเสียงคุณภาพจาก Harman Kardon และจอเหนือแผงคอนโซลหน้า head-up display
รักการสื่อสารและไม่พลาดทุกการเชื่อมต่อมาทางนี้เลยครับสำหรับรุ่น 330i M Sport มาพร้อมระบบ BMW Intelligent Personal Assistant เป็นส่วนหนึ่งของระบบปฏิบัติการ BMW Operating System 7.0 ทำงานประสานเป็นหนึ่งเดียวกับระบบ BMW Live Cockpit Professional ระบบผู้ช่วยส่วนตัวนี้สามารถรับคำสั่งจากเสียงพูดในรูปแบบที่เป็นธรรมชาติมากยิ่งขึ้น สามารถเรียนรู้และจดจำกิจวัตรประจำวันและความชอบส่วนตัวของผู้ขับขี่ได้ เช่นผู้ขับขี่รู้สึกว่าอุณหภูมิในตัวรถหนาวเกินไป ก็สามารถพูดออกคำสั่งว่า “Hey BMW, I’m cold” เพื่อให้ระบบปรับการทำงานของระบบปรับอากาศให้เหมาะสม และยังสามารถสั่งการด้วยภาษาไทยได้อีกต่างหาก
มาถึงเรื่องการขับขี่ทาง BMW เลือกผมและเพื่อนๆพี่ๆสื่อมวลชน เป็นกลุ่มแรกที่ต้องทดสอบขับกันใน สนามปทุมธานีสปีดเวย์ โดยขับขี่ในรูปแบบทดสอบสมรรถนะด้านต่างๆทั้งทดสอบความเร็ว ความคล่องตัว การขับขี่แบบ Gymkhana และการขับขี่ทั่วไปบนถนนจริงในชีวิตประจำวัน
เริ่มกันที่ 320d Sport กับดีเซล TwinPower Turbo 2.0 ลิตร 190 แรงม้าที่ 4,000 รอบ/นาที แรงบิด 400 นิวตันเมตรที่ 1,750-2,500 รอบ/นาที ด้วยน้ำหนัก 1,530 กก. สร้างพลังการขับขี่สุขุม นุ่มลึก เร้าใจอยู่ในระดับที่รับได้ ไม่ว่าจะเข้าโหมดการขับขี่ทั้ง Eco Pro, Comfort และ Sport (เมื่อเข้าโหมด Sport การเรียกกำลังทันใจแต่ไม่หวือหวามากนัก) ช่วงล่างให้ความรู้สึก นุ่มนวล หนึบพอสมควร ระบบเกียร์อัตโนมัติ Steptronic 8 สปีด ยังแม่นยำในการเข้าเกียร์แต่ละช่วง พวงมาลัยไฟฟ้าที่ปรับน้ำหนักตามความเร็วรถให้น้ำหนักดียิ่งการควบคุมในช่วงสถานีต่าๆ คมเข้าแม่นยำทุกโค้ง
ทางด้านรุ่น 330i M Sport ที่พกความแรงมากสุด 258 แรงม้าที่ 5,000- 6,500 รอบ/นาที แรงบิด 400 นิวตันเมตรที่ 1,550-4,400 รอบ/นาที จากเครื่องยนต์เบนซิน 2 ลิตร TwinPower Turbo ด้วยเสียงเครื่องยนต์ที่คำรามในช่วงความเร็วสูงๆ ประมาณ 100 กม./ชม. ขึ้นไป เป็นเสียงสังเคราะห์ให้อารมณ์แบบเดียวกับสปอร์ตคาร์แรงม้าสูงนั่นเอง เมื่อเข้าโหมด Sport ขับทางตรงยาวๆด้วยรอบของแรงบิดที่สูงกว่ารุ่น 320d Sport การเรียกกำลังมาเร็วกว่าทันใจอย่างเห็นๆ พวงมาลัยไฟฟ้าการทำงานคล้ายรุ่น 320d M Sport แต่กลับเพิ่มฟังก์ชั่นแปรผันตามการหมุนและความเร็วให้ความคมแม่นยำขณะเข้าโค้ง ช่วงล่างแบบ M สำหรับ 330i M Sport จะออกอาการแข็งๆไปหน่อย เหมาะสำหรับสาวกที่ขับรถแรงๆมาเป็นทุนเดิมอยู่แล้วนั่นเอง
มากันที่อเนกประสงค์เจนใหม่ในตระกูล X กันบ้างสำหรับ BMW X5 เจเนอเรชั่นที่ 4 (รหัส G05) จำหน่ายในไทยรุ่นเดียวคือรุ่น X5 xDrive30d M Sport เท่ หล่อ ลุย ตามสไตล์รถ SAV (Sports Activity Vehicle) ใหญ่โตกว่าปราดเปรียวด้วยชุดแต่ง M Aerodynamics เสริมลุคสปอร์ตด้วยขอบหน้าต่างและราวหลังคาสีดำเงา กระจังหน้าทรงไตคู่ที่มีผิวอลูมิเนียมแบบด้าน ทรงพลังด้วยชุดเบรกและช่วงล่างแบบ M Sport และล้ออัลลอย M ขนาด 22 นิ้ว ลาย Double-spoke พร้อมยางขนาดคนละไซส์แบบ 275/35 R22 ในล้อหน้า และ 315/30 R22 ในล้อหลัง ไฟหน้าแบบ Adaptive LED headlights และไฟท้าย LED
ภายในหรูสปอร์ต 5 ที่นั่งหุ้มด้วยวัสดุหนังแท้ Vernasca เบาะหลังพับได้แบบ 40 : 20 : 40 รองรับปริมาตรการบรรจุของตั้งแต่ 650 ลิตรถึง 1,870 ลิตร พร้อมประตูท้ายที่สามารถแยกเปิดสองส่วนเพื่อให้สะดวกต่อการขนย้ายสัมภาระ ซึ่งสามารถเปิดปิดอัตโนมัติด้วยระบบไฟฟ้า ดีไซน์คอนโซลหน้าลงตัวด้วยวัสดุหนังผสมกับลายไม้คุณภาพ มาตรวัดดิจิทัลขนาด 12.3 นิ้ว แบบ Control Display ได้รับการออกแบบทั้งกราฟฟิคและดีไซน์มาให้สอดรับกัน BMW Head-Up Display เจเนอเรชั่นล่าสุด ขนาด 7x3.5 นิ้ว สามารถแสดงภาพกราฟฟิคสามมิติได้ ขณะที่ระบบควบคุมผ่าน iDrive, BMW Gesture Control และจอ Control Display ระบบสัมผัสขนาด 10.25 นิ้ว ยังเป็นทางเลือกที่สุดแห่งความสะดวกสบายแก่ผู้ขับขี่ และระบบ BMW ConnectedDrive มอบบริการการเชื่อมต่อแบบไร้ขีดจำกัดระหว่างยานยนต์และผู้ขับขี่ พวงมาลัยมัลติฟังก์ชั่น 3 ก้านแบบ M Sport และหลังคากระจกแบบ Panorama ที่มีขนาดใหญ่ขึ้นกว่ารุ่นเก่า 30%
การทดสอบครั้งนี้ใช้วิธีแบบเดียวกันกับ BMW 3 Series Sedan ทั้งแบบโดยขับขี่ในรูปแบบทดสอบสมรรถนะด้านต่างๆทั้งทดสอบความเร็ว ความคล่องตัว การขับขี่แบบ Gymkhana ในสนาม การขับขี่นอกสนามขับทั่วไปบนถนนจริงในชีวิตประจำวันแล้วยังเพิ่มการขับขี่แบบออฟโรด เริ่มที่การขับขี่ในสนามและบนท้องถนน ด้วยอานุภาพเครื่องยนต์ดีเซล 6 สูบแถวเรียง 3 ลิตร TwinPower Turbo 265 แรงม้าที่ 4,000 รอบ/นาที แรงบิด 620 นิวตันเมตรที่ 2,000-2,500 รอบ/นาที สร้างพลังมหาศาลนำพาร่างหนัก 2 ตันต้นๆ คล่องแคล่วรวดเร็ว เสียงเครื่องยนต์คำรามเล็กน้อยแต่ให้ความน่าเกรงขามในยามเร่งแซง
ระบบเกียร์อัตโนมัติ Steptronic 8 สปีด ทำงานแม่นยำในการเข้าเกียร์แต่ละช่วง ถ้าอยากสะใจเพิ่มยังมีโหมดการขับขี่ให้เลือกทั้งแบบ Eco Pro, Comfort, Sport และ Adaptive ลุยได้ด้วยระบบขับเคลื่อนสี่ล้อ xDrive พัฒนากำลังขับเคลื่อนและควบคุมการทรงตัวได้อย่างดีเยี่ยม ด้วยการถ่ายแรงขับเคลื่อนอย่างนุ่มนวลระหว่างล้อหลังทั้งสองข้างที่ครั้งนี้พัฒนาระบบได้อย่างแม่นยำเช่นเคยถึงเส้นทางที่ขับออฟโรดเป็นส้นทางเล็กๆ แต่ให้ความมั่นใจในการขับขี่อย่างเต็มรูปแบบ
ปิดท้ายด้วยฟังก์ชั่นใหม่ Reversing Assistant ในรุ่น 330i M Sport และ X5 xDrive30d M Sport ซึ่งจะให้ความช่วยเหลือแก่ผู้ขับขี่ขณะถอยจอดหรือถอยออกจากที่แคบอัตโนมัติได้อย่างมีประสิทธิภาพ เป็นส่วนหนึ่งของระบบช่วยนำรถเข้าที่จอดอัตโนมัติ Parking Assistant สามารถถอยออกจากบริเวณที่มีพื้นที่แคบ เช่น อาคารจอดรถ ทางเลี้ยวเข้า หรือทางตัน ได้อย่างง่ายดายแม้จะมีมุมมองที่จำกัด โดยจะจดจำองศาการเลี้ยวของพวงมาลัยขณะขับเข้าไปยังพื้นที่แคบได้เป็นระยะทางไกลสูงสุด 50 เมตร ขณะขับขี่ที่ความเร็วไม่เกิน 36 กิโลเมตรต่อชั่วโมง
ใช้งานง่ายโดยกดปุ่ม Reversing Assistant ขณะจอดนิ่งที่เกียร์ P หลังจากนั้น รถยนต์จะถอยหลังอัตโนมัติตามเส้นทางที่ขับเข้าไปล่าสุด โดยใช้งานง่ายดายให้พวงมาลัยปรับทิศทางเองโดยอัตโนมัติ เพียงแค่ผู้ขับขี่มีหน้าที่แตะเบรกหรือคันเร่ง เท่านั้นเองนับเป็นความสบายอีกระดับสำหรับคนที่ถอยรถแล้วเผลอไปชนสิ่งกีดขวางรอบตัวรถจนเป็นรอย
รถยนต์ใหม่ 2019 จากค่าย BMW ทั้ง BMW 3 Series Sedan & BMW X5 เป็นรูปแบบนำเข้าจากต่างประเทศมาพร้อมค่าตัวที่คบหาได้โดยราคาดังกล่าวรวมโปรแกรมบำรุงรักษา BSI Standard แล้ว
- 320d Sport ใหม่ ราคาจำหน่าย: 2,959,000 บาท
- 330i M Sport ใหม่ ราคาจำหน่าย: 3,359,000 บาท
- X5 xDrive30d M Sport ราคาจำหน่าย: 5,699,000 บาท
ถ้าชอบความประหยัดบวกกับความสุขุมใจเย็นไม่หัวร้อนต้องเลือกรุ่น 320d Sport แต่ถ้าชอบความแรงเร้าใจฟิลสปอร์ตคาร์ ต้องเลือก 330i M Sport แต่งานนี้ต้องรีบตัดสินใจ เพราะอีกไม่นานรุ่นประกอบในประเทศ เตรียมที่จะออกมาไม่ปลายปีนี้หรือต้นปีหน้าก็เป็นได้สำหรับรุ่น 330i M Sport เพราะอาจกลายเป็นรุ่น 330e Plug-In Hybrid ก็เป็นได้
เรื่องและเรียบเรียงโดย นายเต้ย
ขอขอบคุณ บีเอ็มดับเบิลยู กรุ๊ป ประเทศไทย ที่เชิญทีมงาน Autodeft.com เข้าร่วมกิจกรรมทดสอบรถยนต์ All New BMW 3 Series Sedan และ All New BMW X5
ติดตามข่าวสารยานยนต์ รวดเร็วก่อนใคร ได้ที่ Autodeft.com