Test Drive รีวิว ทดลองขับ Nissan Navara SC SL 6MT 4WD หัวเดี่ยวทำกิน แรงพอ บรรทุกดี
- โดย : พิสน ลีละหุต
- 25 ม.ค. 67 20:33
- 2,469 อ่าน
“กระบะทำกิน” น่าจะเป็นคำที่อยู่คู่กับคนไทยมานานแสนนาน ผมเองเคยได้ยินตั้งแต่เด็ก ๆ สมัยยุค Datsun ช้างเหยียบ ซึ่งเป็นรถกระบะหัวเดี่ยว ที่เน้นการบรรทุกสิ่งของแล้วเดินทางไปยังจุดหมายต่าง ๆ
ประเทศที่เป็นเกษตรกรรมแบบประเทศไทย คุ้นเคยกับการใช้งานรถกระบะทำกินกันมาแสนนานแล้ว กระบะหัวเดี่ยวเลยต้องมีอยู่ทุกยุคของการเปิดตัวใหม่ของรถกระบะ แต่การโปรโมทผ่านช่องทางต่าง ๆ บนสื่อ ส่วนใหญ่แล้วถ้าไม่เป็นแบบ Cab ก็เป็นรถกระบะ 4 ประตู แต่ทราบไหมครับว่ายังไงก็ตาม รถกระบะที่ขายดีตลอดทุกยุค ก็คือรถกระบะหัวเดี่ยวนั่นเอง
รอบนี้ทางนิสสันมาแปลก มีการส่งหมายเชิญไปร่วมขับรถกระบะหัวเดี่ยวไปทำมาหากินกัน บอกตรง ๆ ครับว่าผมเองไม่เคยถูกค่ายไหนเชิญไปลองรีวิวรถกระบะแบบหัวเดี่ยวมาก่อน โดยรอบนี้เราจะได้รีวิวรถ Nissan Navara SC SL 6MT 4WD รถกระบะเกียร์ธรรมดา แต่มีระบบขับเคลื่อน 4 ล้อ โดยเราจะเอารถคันนี้ไปรับแตงโมจากสวนในจังหวัดสุพรรณบุรี แล้วเอาไปขายที่ตลาดไทกัน
ก่อนออกเดินทาง เรามาทำความรู้จักข้อมูลของ Nissan Navara SC SL 6MT 4WD คันนี้กันก่อนดีกว่า แน่นอนว่าภาพลักษณ์ของรถกระบะคันนี้ เป็นรถกระบะหัวเดี่ยว 2 ประตู พื้นที่ห้องโดยสารจะมีพอให้นั่งได้แค่ 2 คนเท่านั้น เพราะพื้นทีที่เหลือจะเอามาทำเป็นกระบะทั้งหมด โดยรถคันนี้ ใช้เป็นเครื่องยนต์ดีเซล 2.5 ลิตร ดีเซล 4 สูบแถวเรียง DOHC 16 วาล์ว เทอร์โบแปรผัน (VGS) อินเตอร์คูลเลอร์ ให้กำลังได้สูงสุด 163 แรงม้า แรงบิด 403 นิวตันเมตร ขับเคลื่อนด้วยเกียร์ธรรมดา 6 สปีด มีระบบขับเคลื่อน 4 ล้อแบบ Shift-On-The-Fly
ไซส์ของรถ Nissan Navara SC SL 6MT 4WD นั้น เอาทั้งหมดเลยจะมีมิติที่ 1,790 x 5,235 x 1,775 มม. (กว้าง x ยาว x สูง) ฐานล้อกว้าง 3,150 มม. และด้วยพื้นที่ห้องโดยสารมีขนาดเล็ก ตัวกระบะก็เลยมีขนาดใหญ่อยู่ที่ 2,310 x 1,550 x 470 มม. (ยาว x กว้าง x สูง) รองรับน้ำหนักบรรทุกได้ระดับ 1 ตันแบบสบาย ๆ วางตะกร้าตลาดไทได้ประมาณ 14 ลัง ถ้าซ้อน 3 ชั้น จะวางได้ร่วม 40 ลังเลยทีเดียว ช่วงล่างด้านหน้าเป็นแบบ อิสระปีกนกคู่ พร้อมคอยล์สปริง และเหล็กกันโคลง ส่วนด้านหลังเป็นแบบ แหนบซ้อนพร้อมโช้คอัพ ระบบห้ามล้อด้านหน้าใช้แบบ ดิสก์เบรกแบบมีช่องระบายความร้อน ส่วนด้านหลังเป็นดรัมเบรกที่ดูแลง่าย ล้อเป็นแบบกระทะ ใช้เป็นขนาด 16 นิ้ว รัดมาด้วยยางขนาด 205 R16C
ถ้าพูดถึงภายนอกของ Nissan Navara SC SL 6MT 4WD คงไม่มีอะไรให้พูดถึงได้เยอะ เพราะอุปกรณ์ต่าง ๆ ก็ดูธรรมดา ไม่มีอะไรโดดเด่น จะมีดีหน่อยก็ตรงบันได หรือจะเรียกว่าช่องวางเท้าก็ได้ อยู่ตรงตำแหน่งด้านข้างตัวรถ นั่นทำให้คุณสามารถเหยียบขึ้นไปทำกิจกรรมใด ๆ บนกระบะท้ายได้แบบไม่ยากเย็น
ของเจ๋งบน Nissan Navara SC SL 6MT 4WD นั้น อยู่ข้างในครับ โดยเฉพาะหน้าจอกลางขนาด 7 นิ้วระบบสัมผัส ที่รองรับการใช้งาน AppleCarPlay และ Android Auto แบบไร้สาย เชื่อมต่อทีเดียวใช้งานยาว ลองคิดดูครับว่าในตลาดรถหัวเดี่ยว จะมีสักกี่ยี่ห้อที่ให้หน้าจอแบบสัมผัส เชื่อมต่อ Apple CarPlay ได้ สั่งงานไปที่ไหนก็สะดวก กด Maps ทีเดียววิ่งได้ทั่วไทย ส่วนอื่น ๆ ก็ไม่มีอะไรมากครับ เหมือนธรรมดาทั่ว ๆ ไป
ระบบความปลอดภัยของ Nissan Navara SC SL 6MT 4WD นั้น เขาให้ระบบที่จำเป็นมาครบถ้วน ดังนี้ครับ
- ระบบเบรก ABS พร้อม EBD และ BA
- ระบบล็อคเฟืองท้ายแบบไฟฟ้า
- ถุงลมนิรภัยคู่หน้า
- กระจกบังลมหน้าแบบอัดซ้อนนิรภัย (Laminated Glass)
- ไฟเบรกดวงที่ 3 แบบ LED
- เข็มขัดนิรภัยเบาะนั่งด้านหน้าELR 3 จุด 2 ตำแหน่ง พร้อมระบบดึงกลับและผ่อนแรงอัตโนมัติ
- ระบบกุญแจ Immobilizer
- โครงสร้างนิรภัย Zone Body
- คานกันกระแทกด้านข้าง
- พวงมาลัยแบบยุบตัวได้ เมื่อเกิดการชนด้านหน้า
- ระบบตัดวาล์วน้ำมันเชื้อเพลิงอัตโนมัติ ในกรณีรถพลิกคว่ำ
น่าจะครบถ้วนแล้วกับข้อมูลเบื้องต้นของ Nissan Navara SC SL 6MT 4WD เรามาเริ่มขับกันเลยดีกว่า มาเริ่มต้นกันที่การนั่งกันก่อนเลย ออกตัวก่อนเลยว่า ผมไม่ได้ขับรถกระบะหัวเดี่ยวมานานมากแล้ว ครั้งสุดท้ายที่ขับก็คือ การขายรถ Mazda Magnum 2200 หัวเดี่ยวไปเมื่อประมาณ 20 ปีก่อน แทบจะจำไม่ได้แล้วว่าความรู้สึกในการขับรถแบบนี้เป็นยังไงบ้าง ดังนั้นพอนั่งไปปั๊บ ความรู้สึกแรกคือที่นั่งชันชิบ หลังตรงกว่ารถที่ใช้งานอยู่เป็นประจำ ปรับให้เอนสุดแล้วก็ยังว่าชันเกินปกติไปอยู่ดี ต้องเข้าใจว่าต้องใช้พื้นที่ในการเก็บให้ส่วนของกระบะเยอะหน่อย แต่ถ้าเพิ่มพื้นที่อีกสักหน่อย น่าจะเวิร์คกว่านี้ เห็นใจพวกพี่ขับส่งของแบบเส้นทางยาว ๆ ขึ้นมาทันทีเลย
เราเริ่มต้นออกเดินทางจากแถวปททุมธานี เดินทางกระบะเปล่ามุ่งหน้าสู่จังหวัดสุพรรณบุรี แถว ๆ อำเภอสามชุก ซึ่งช่วงนี้เราจะใช้ลมยางปกติที่ 35 PSI เอาจริง ๆ นะ ตอนแรกผมจินตนาการเอาไว้ว่า น่าจะเจอรถเด้งดึ๋งแน่ ๆ ในทริปนี้ ปรากฎว่าผิดคาดครับ ช่วงล่างของรถหัวเดี่ยวเน้นบรรทุกคันนี้ กับให้ความนุ่มนวลมากกว่าที่คิด เอาล่ะ มันไม่เท่ารถกระบะ 4 ประตูของนิสสันด้วยกันเองหรอก แต่อย่างน้อยก็ไม่สะเทือนเหมือนสมองโดนเขย่าอยู่ตลอดเวลาก็แล้วกัน
พอมาถึงเรื่องการใช้งานเกียร์แบบธรรมดา 6 สปีด ซึ่งต้องยอมรับกันอีกว่าผมเองไม่ชอบใช้เพราะพอใช้ไปนาน ๆ แล้วปวดเข่า แค่สิ่งที่ Nissan Navara SC SL 6MT 4WD ให้มาคือคลัทซ์ที่แสนจะนุ่มนวล ไม่ต้องออกแรงในการกดมากมาย และการปล่อยคลัทซ์ก็ง่าย ปล่อยเท้าแบบไม่ต้องเนียนมากก็ทำให้รถอออกตัวแบบไม่กระตุกได้สบาย เอาเป้นว่าถึงแม้ว่าคุณอาจจะห่างหายจากการใช้งานเกียร์แบบธรรมดามานาน ก็ใช้เวลาในการสร้างความเคยชินให้กับกล้ามเนื้อขาได้ไม่ยาก และไม่ต้องใช้แรงอะไรมากมาย ขับในเมืองเปลี่ยนเกียร์บ่อย ๆ ก็คงไม่เมื่อยเท่ารถบางยี่ห้อเลย
กำลังของเครื่องยนต์ขนาด 2.5 ลิตร 163 แรงม้า ถ้าถามว่าเพียงพอไหม ถ้าพูดถึงตอนใช้วิ่งเป็นกระบะตัวเปล่า บอกเลยว่าพอแบบเหลือเฟือ คือมันอาจจะไม่ได้ขนาดโอ้โห ปล่อยคลัทช์กดคันเร่งแล้วพุ่งแบบสุดแรง แต่มันเพียงพอกับการใช้งานในสไตล์รถแบบนี้แน่นอน ส่วนเรื่องที่ว่าจะพอกับการใช้งานบรรทุกหนักไหม เดี๋ยวเราค่อยว่ากันอีกที
สิ่งที่ผมว่าดีงามมากที่สุดในรถกระบะใหม่คันนี้ ก็คือการใส่หน้าจอระบบสัมผัสขนาด 7 นิ้ว พร้อมรองรับการเชื่อมต่อ Apple CarPlay และ Android Auto มาให้ด้วย นี่จะตอบโจทย์การใช้งานรถกระบะขนของแบบนี้มากที่สุด ลองจินตนาการว่าถ้ามีคนซื้อรถคันนี้ไปทำเป็นกระบะตู้ทึบเพื่อขนสินค้าส่งแบบ Delivery ค่ายต่าง ๆ ที่ต้องไปตามบ้านที่แทบจะไม่ซ้ำกันแต่ละวัน ถ้ามัวแต่มองบนหน้าจอแสนเล็กบนโทรศัพท์มือถือ มันจะลำบากขนาดไหน แต่ถ้าเราสามารถเอาระบบนำทางไปขึ้นหน้าจอได้ เท่านี้ก็เห็นได้ชัดเจนมากแล้ว และในตลาดหายากนะครับกับรุ่นหัวเดี่ยวที่ให้หน้าจอแบบนี้มาด้วย
ก่อนที่พวกเราจะเดินทางเข้าสู่สวนแตงโม เราก็ต้องเติมลมยางกันเสียก่อน เพราะเราจะต้องบรรทุกแตงโมเดินทางกันด้วยน้ำหนักกว่า 1 ตัน (ตามกฎหมาย) โดยจะเพิ่มลมเข้าไปเป็น 60 PSI เรียกได้เลยว่าแข็งเป๊ก เวลาวิ่งตัวเปล่าแล้วกระดอนเอาเรื่อง ยังดีว่าระยะทางในการเดินทางช่วงตัวเปล่าลมยางแข็งนั้นเพียงแค่ไม่กี่สิบกิโลเมตร
ช่วงที่ขับรถกระบะ Nissan Navara SC SL 6MT 4WD รถหัวเดี่ยวพร้อมคอกเดินทางถึงบริเวณสวนแตงโม ซึ่งเป็นเส้นทางดินขรุขระพอสมควร เชื่อได้เลยว่าถ้าฝนตกลงมาเมื่อไหร่คงจะบันเทิงแน่นอน เพราะน่าจะมีอาการลื่น ติดหลุมกันบ้าง แต่ที่มั่นใจในการขับเข้าสวนแตงโมรอบนี้ เพราะอากาศร้อนสุด ๆ ดินแห้ง มีแต่ฝุ่นฟุ้งไปทั่ว ผมเลยลองใช้งานระบบขับเคลื่อน 4 ล้อแบบ Shift-On-The-Fly หมุนลูกบิดตรงใต้คอนโซลหน้าไปที่ 4H ระบบมีเสียงก๊อกแก๊กอยู่แปปเดียว หน้าจอก็บอกมาแล้วว่าระบบเปลี่ยนไปเป็นระบบขับ 4 เรียบร้อย เท่านี้เราก็พร้อมลุยสวนไปขนแตงโมกันแล้วล่ะครับ
หลังจากชุลมุนวุ่นวายกับการขนแตงโมขึ้นรถ และทำการคลุมตาข่ายเพื่อป้องกันการหล่นของน้องแตงโมกับทำตามกฎหมายจราจรสักระยะหนึ่ง พวกเราก็พร้อมจะออกเดินทางสู่ตลาดไท เพื่อนำแตงโมไปจำหน่ายกันแล้ว โดยแตงโมที่เราขนมานี้ จะเป็นพันธุ์คริมสันเรด ลูกใหญ่ เนื้อแดงแน่น หวานอร่อยมาก โดยเฉพาะเมื่อได้กินสด ๆ จากที่เด็ดมาเลย ติดใจมาก ราคาออกจากส่วนแบบเหมา ก็จะมี 3 ขนาด เล็ก กลาง ใหญ่ ราคาช่วงนี้อยู่ประมาณ 8-12 บาทต่อกิโลกรัม ลูกนึงก็จะประมาณ 2 กิโลกรัมขึ้นไป ก็ลองไปคำนวนเอานะครับว่าลูกนึงจะประมาณกี่บาทได้
หลังจากขนแตงโมขึ้นกระบะรถ Nissan Navara SC SL 6MT 4WD เรียบร้อยแล้ว น้ำหนักจากการประเมินคือ 1 ตัน ผมได้ลองปรับกลับมาเป็นระบบ 2H ในทางฝุ่นเลย เพราะห่วงเรื่องวงเลี้ยวที่กว้างไปหน่อยตอบขับ 4 ในขณะที่ถนนบนสวนนั้นแคบอยู่ ตอนแรกคิดว่าพอบรรทุกหนักแล้วจะขับยากขึ้น ทั้งเรื่องการที่หน้ารถเชิดขึ้นมากกว่าปกติ และน้ำหนักรถเพิ่มขึ้นอีก 1 ตัน แต่ผิดคาดครับ ตัวเครื่องยนต์นั้นยังพารถขับเคลื่อนได้แบบไม่ต้องเพิ่มกำลังในการเหยียบคันเร่งให้มากขึ้นสักเท่าไหร่ ดังนั้นกำลังเครื่องเท่านี่ “พอ” กับการใช้งานบรรทุกได้อย่างแน่นอน รวมทั้งเมื่อบรรทุกไปแล้ว ความกระเด้งกระดอนของช่วงล่างตอนเติมลมยางรอบหลังก็หายไปเยอะเลย เพียงแต่ว่าเวลาที่เราขับรถผ่านพวกหลุมเล็กหลุมน้อย ก็ต้องระมัดระวังกันหน่อย น้ำหนักมันมากขึ้นเยอะ ถึงแม้ว่าตัวช่วงล่างจะถูกออกแบบให้รองรับการบรรทุกหนักได้อยู่แล้ว แถมตัวโครงสร้างยังเป็นเหล็กกล้าชิ้นเดียวตลอดคัน ทำให้การบรรทุกหนักไม่เกินความสามารถของรถกระบะหัวเดี่ยวคันนี้แน่นอน
การเดินทางจากสุพรรณบุรีมาจนถึงปลายทางที่ตลาดไทนั้น Nissan Navara SC SL 6MT 4WD แทบไม่มีอาการแปลกแตกต่างไปจากการขับแบบตัวเปล่าเลย ช่วงล่างดูแน่นขึ้นด้วยซ้ำ (ใช่สิ น้ำหนักเพิ่มอีก 1 ตัน) พวกเราชาวคณะใช้ความเร็วอยู่ในย่าน 90-100 กิโลเมตร/ชั่วโมงแบบสบาย ๆ ไม่ต้องเค้นกำลังเครื่อง ไม่ต้องประคองพวงมาลัยมาก ถึงแม้ว่าหน้ารถจะสูงขึ้นเล็กน้อยก็ตาม ซึ่งตัวกระบะหัวเดี่ยวแล้วเอามาบรรทุกแบบนี้ น้ำหนักจะกระจายได้ดีกว่ารถแบบ King Cab เพราะน้ำหนักจะถูกมาวางที่กลางรถได้มากกว่า ในขณะที่ตัว King Cab จะทำให้การบรรทุกนั้นเยื้องไปด้านหลัง ดังนั้นพวกเราที่เดินทางไปทริปนี้จะเห็นได้เลยว่า รถที่เป็นแบบ King Cab ที่บรรทุกน้ำหนักพอ ๆ กันในทริปนี้ จะหน้ายกมากกว่าตัวหัวเดี่ยวแบบชัดเจนเลย
ในที่สุดเราก็เดินทางเข้าสู่ตลาดไท ตลาดเกษตรที่น่าจะใหญ่ที่สุดในประเทศแล้ว โดยส่วนที่ขายแตงโมจะอยู่ด้านในสุดของตลาด อยู่ติด ๆ กับตลาดไอยราที่เพิ่งเปิดใหม่ เราเอาแตงโมเข้าไปขายรวม 2 คันรถ (ได้เท่าไหร่ไม่รู้) แต่ผมทึ่งกับการคัดเกรดแตงโมมาก โดยจะมีเด็กคนหนึ่งขึ้นไปอยู่บนรถแล้วโยนแตงโมมาให้คนที่ยืนรออยู่ด้านล่างทีละลูก แล้วคนนี้จะเป้นคนคัดแยกเกรด แยกขนาดของแตงโมได้เหมือนเป็นเครื่องจักรอัตโนมัติ ลูกเล็กไปทางขวา, ลูกกลางไปทางซ้าย และลูกใหญ่ไปด้านหลัง เพลินตามาก ใช้เวลาไม่นานในการขนลง พร้อมแยกขนาดในการขายได้อย่างดี จบภารกิจการเป็นผู้ขนส่งด้วยความสุขทั้งผู้ซื้อและผู้ขาย
เอาจริง ๆ นะครับ ผมตอบไม่ได้หรอกว่า Nissan Navara SC SL 6MT 4WD จะเป็นรถที่ดีระดับไหนของตลาด แต่ผมว่าด้วยค่าตัวที่ 659,000 บาท แต่ได้รถที่เครื่องยนต์ทรงพลัง, มีระบบขับเคลื่อน 4 ล้อ, มีหน้าจอระบบสัมผัส รองรับการใช้งาน Apple CarPlay กับ Android Auto เท่านี้ผมก็ว่า คุ้มค่ามากสุด ๆ แล้วครับ
ทดสอบและเรียบเรียงโดย EARTHPARK02
ติดตามข่าวสารรถยนต์รวดเร็วก่อนใครได้ที่ AUTODEFT.com