Test Drive : รีวิว ทดลองขับ Mazda CX-8 รุ่นปรับโฉม ปี 2022 หรูหราฟังก์ชันแน่น หนึบนุ่ม กำลังเหลือ
- โดย : รัฐศิลป์ รัตนกู้เกียรติ
- 10 ส.ค. 65 00:00
- 10,710 อ่าน
หลังจากการเปิดตัวอย่างเป็นทางการในบ้านเราไปเมื่อช่วงปลายเดือนกรกฎาคมที่ผ่านมา กับรถ SUV สุดหรูหรารุ่นปรับโฉมใหม่ปี 2022 Mazda CX-8 ที่มีราคาเริ่มต้น 1,549,000 - 2,199,000 บาท ชูเด่นเรื่องงานออกแบบความหรูหรา และอัดแน่นมาด้วยฟังก์ชันเทคโนโลยีมากมาย พร้อมประสบการณ์การขับขี่ที่สะดวกสบายเพื่อครอบครัว
ล่าสุดทาง บริษัท มาสด้า เซลส์ (ประเทศไทย) จำกัด ก็ได้เชิญทีม AUTODEFT เข้าร่วมการขับทดสอบ Mazda CX-8 รุ่นปรับโฉม ปี 2022 นี้ บนเส้นทางหาดใหญ่ - เบตง สุดเขตชายแดนใต้ กว่าสามร้อยกิโลเมตร ที่มีทั้งเส้นทางนอกเมืองทางตรงยาว ๆ สองเลน และเส้นทางเขาโค้งไปมาแบบเลนสวน
แรกเห็นกับ Mazda CX-8 รุ่นปรับโฉม ปี 2022 อเนกประสงค์รุ่นนี้ยังคงเอกลักษณ์ของมาสด้าเอาไว้ ชูเด่นมาด้วยความหรูหรา สะท้อนภาพลักษณ์ความภูมิฐานและความสมบูรณ์แบบ ใหม่ด้วยการออกแบบกระจังหน้าดีไซน์ใหม่ และเลือกใช้สีที่แตกต่างออกไปในรุ่นท็อปด้วยกระจังหน้าสีเทา Gun Metallic และรุ่นรองลงมากับสีดำเงา พร้อมการตกแต่งในรุ่นท็อปสุดด้วยคิ้วสีเงินโครเมียมบริเวณชายกันชนหน้าเพิ่มความหรูหราและแตกต่าง
นอกจากนี้ยังมีการปรับดีไซน์ใหม่กับล้ออัลลอยขนาด 19 นิ้ว หลังคาซันรูฟแบบไฟฟ้าในรุ่นที่เป็นเบาะที่นั่งแบบ 6 ที่นั่ง มีประตูท้ายเปิด-ปิดด้วยระบบไฟฟ้า พร้อมระบบแฮนด์ฟรี ไฟหน้า Projector แบบ LED และมีไฟตัดหมอกคู่หน้าแบบ LED ในรุ่นท็อปสุด ไฟท้าย LED Signature ที่ตกแต่งเชื่อมทั้งสองฝั่งด้วยโครเมียม ราวหลังคาเฉพาะรุ่นท็อปเพิ่มความอเนกประสงค์ มิติตัวรถยาว 4,900 มม. กว้าง 1,840 มม. สูง 1,730 มม. ระยะฐานล้อ 2,930 มม. ระยะต่ำสุดจากพื้น 200 มม. น้ำหนักรถโดยเฉลี่ย 1,781-1,924 กก.
ภายในห้องโดยสาร Mazda CX-8 รุ่นปรับโฉม ปี 2022 เพิ่มทางเลือกด้วยการเสนอห้องโดยสารทั้งหมด 3 แบบ โดยในรุ่น 6 ที่นั่ง (6-Seat) มาพร้อม 2 ทางเลือก ได้แก่ ห้องโดยสารแบบ 3 แถว 6 ที่นั่ง Captain seat แยกอิสระซ้าย ขวา (Captain seats with center walk-through (6-Seat) ที่สามารถเดินเชื่อมได้ถึงเบาะนั่งแถวที่สาม และห้องโดยสารแบบ 3 แถว 6 ที่นั่ง Captain seat ปรับไฟฟ้า (Power captain seats (6-Seat) พร้อมคอนโซลกลาง และแบบ 3 แถว 7 ที่นั่ง (7-Seat) ปกติ
ฟังก์ชันการใช้งานต่าง ๆ มาพร้อมเทคโนโลยีเชื่อมต่อไร้ขีดจำกัด Mazda Connect รองรับ Apple CarPlay แบบไร้สาย และ Android Auto ผ่านหน้าจอสี Center Display แบบทัชสกรีน ขนาด 8 นิ้ว และควบคุมได้ด้วย Center Commander บริเวณคอนโซลกลาง มีการเพิ่มอุปกรณ์ชาร์จไฟแบบไร้สาย Wireless Charger ด้านหน้า และ USB สำหรับชาร์จไฟบริเวณเบาะนั่งแถวที่สาม ระบบปรับอากาศอัตโนมัติแบบ Tri-Zone แยกซ้ายขวาและผู้โดยสารตอนหลัง และช่องปรับอากาศบริเวณใต้เบาะที่นั่งแถวที่สองสำหรับผู้โดยสารตอนที่สาม รุ่นท็อปยังคงมากับตัวเบาะที่นั่งหุ้มหนัง Nappa สีแดง Deep Red ส่วนรุ่นย่อยอื่น ๆ เป็นเบาะหุ้มหนังสีดำทั้งหมด
ช่วงของการขับทดสอบ Mazda CX-8 รุ่นปรับโฉม ปี 2022 ทีมงานเริ่มต้นออกเดินทางกันที่โชว์รูม Mazda Chookiatyont Hatyai เพื่อมุ่งหน้าสู่อำเภอเบตง จ.ยะลา สุดเขตชายแดนใต้ประเทศไทย เส้นทางช่วงแรกของการขับทดสอบนี้เป็นถนนสองเลนวิ่งตรงยาว ๆ ช่วงนอกเมือง โดยรุ่นที่ทางทีมงานได้โอกาสขับทดสอบในครั้งนี้เป็น Mazda CX-8 รุ่นย่อย 2.5SP ที่มีขุมกำลัง Skyactiv-G เครื่องยนต์สกายแอคทีฟเบนซิน ขนาด 2.5 ลิตร ที่ตามสเปคแล้วให้พละกำลังสูงสุด 194 แรงม้า แรงบิดสูงสุด 258 นิวตันเมตร พร้อมเกียร์อัตโนมัติ 6 สปีด พร้อมโหมดบวกลบที่คันเกียร์ และโหมด Sport ให้เลือกใช้งาน และตัวช่วยใหม่ ระบบควบคุมสมรรถนะการขับขี่อัจฉริยะขั้นสูง GVC Plus ที่ทางมาสด้าติดตั้งมาให้เป็นอุปกรณ์มาตรฐานในทุกรุ่นย่อย ซึ่งช่วยให้เราขับขี่ผ่านทางโค้งได้มั่นใจและแม่นยำขึ้น
การเร่งแซงในหลาย ๆ ครั้ง ทำได้แบบไม่ต้องรอลุ้น การเติมคันเร่งเพิ่มขึ้นประมาณนึงเกียร์ก็พร้อมเปลี่ยนเพื่อให้เราได้เรียกกำลังจากเครื่องยนต์เพื่อเร่งแซงในทันที พร้อมเสียงที่คำรามเข้ามาให้ได้ยิน แม้ว่าตัวรถจะมีขนาดที่ใหญ่โตไม่น้อย แต่การควบคุมและขับขี่ Mazda CX-8 นี่แตกต่างออกไป รู้สึกได้ว่า SUV รุ่นนี้ยังคงเป็นรถที่สามารถควบคุมได้ง่ายดาย พวงมาลัยถูกปรับเซ็ตมาให้ขับขี่ได้สบายในช่วงความเร็วต่ำพวงมาลัยน้ำหนักเบากำลังดี ทำให้เรารู้สึกว่ารถมีความคล่องตัวสามารถเปลี่ยนเลนไปมาได้อย่างคล่องแคล่ว และในช่วงเดินทางไกลที่มีการใช้ความเร็วเอง น้ำหนักพวงมาลัยก็หนืดขึ้นแต่อาจมีน้ำหนักเบาไปนิด ซึ่งในความเห็นส่วนตัวหากน้ำหนักหนืดขึ้นอีกเล็กน้อยก็จะยิ่งให้การขับขี่ช่วงความเร็วเดินทางแบบนี้มั่นใจมากยิ่งขึ้น แต่นี่ก็ทำให้เราสามารถควบคุมรถได้แม่นยำแม้ใช้ความเร็วที่สูงได้อย่างดีแล้ว
ช่วงล่างมีความหนึบนุ่มไม่ย้วยและไม่ได้สปอร์ตเท่ากับ CX-5 โดยเฉพาะหากคุณอยู่ตำแหน่งผู้ขับขี่หรือผู้โดยสารตอนหน้าความสนุกและความสบายในการขับขี่นี้เป็นอะไรที่ถูกใจไม่น้อย ส่วนในตำแหน่งของผู้โดยสารตอนหลังหลังจากที่ได้ลองนั่งช่วงทางตรงยาวที่ถนนค่อนข้างจะไม่เรียบและมีลูกคลื่นเป็นช่วง ๆ แอบรู้สึกว่าช่วงล่างมีความแข็งไปเล็กน้อยทำให้รู้สึกถึงอาการดีดเด้งเล็ก ๆ อยู่บ้าง
ส่วนของระบบเบรกที่เป็นแบบดิสก์เบรกทั้งสี่ล้อ การตั้งค่าระบบเบรกต่าง ๆ ทำมาได้ลงตัว แป้นเบรกมีความนุ่มกำลังดี ทำให้เราสามารถกะระยะการเบรก การชะลอความเร็วได้อย่างนุ่มนวล หรือจะต้องการความมั่นใจในขณะฉุกเฉินก็สามารถตอบสนองได้อย่างดีเลยทีเดียว
และเมื่อมาถึงอีกช่วงของการขับทดสอบก่อนถึงอำเภอเบตง บนเส้นทางภูเขาที่มีทางโค้งสลับไปมาแบบต่อเนื่องบนถนนแบบเลนสวน Mazda CX-8 ก็มอบการขับขี่ที่สนุกสนาน ทั้งยังมอบความั่นใจในทุกการควบคุมทั้งพวงมาลัยที่แม่นยำ การตอบสนองของเครื่องยนต์และเกียร์ และช่วงล่างรวมไปถึงระบบตัวช่วยต่าง ๆ ที่ทางมาสด้าใส่มาให้ ทำให้เราขับขี่ผ่านเส้นทางช่วงนี้ไปอย่างปลอดภัย อาการโคลงหรือโยนจากความสูงของรถนั้นน้อยมากทีเดียว ตัวค่อนข้างมีความหนึบและเกาะถนนได้ดีแม้ต้องขับผ่านทางโค้งด้วยความเร็ว
และด้านของระบบความปลอดภัยจัดเต็มแบบรอบคัน ทั้งระบบ Advanced SCBS ระบบช่วยหยุดรถอัตโนมัติแบบ Advance ช่วยลดโอกาสเกิดอุบัติเหตุจากการชนด้านหน้า และระบบ SCBS-R ที่ช่วยลดความเสี่ยงในการเกิดอุบัติเหตุจากการชนขณะถอยหลังเป็นอุปกรณ์มาตรฐานตั้งแต่รุ่นเริ่มต้น และใหม่กับระบบ MRCC แบบ Stop & Go ที่ได้รับติดตั้งใน NEW MAZDA CX-8 เป็นรุ่นแรกของรถมาสด้าที่วางจำหน่ายในประเทศไทย โดยระบบสามารถปรับความเร็วตามรถคันหน้าแบบอัตโนมัติจนถึงจุดหยุดนิ่ง และอื่น ๆ ยังมีกับ
ระบบความปลอดภัย i-Activsense ที่มาพร้อม NEW MAZDA CX-8 ประกอบด้วย
ระบบเตือนเมื่อมีรถในจุดอับสายตาในขณะถอยหลัง (Rear Cross Traffic Alert)
ระบบเตือนการชนด้านหน้าและช่วยเบรกอัตโนมัติ (Smart Brake Support)
ระบบช่วยควบคุมรถให้อยู่ในเลน (Lane-keep assist System)
ระบบช่วยเตือนเมื่อผู้ขับเหนื่อยล้าขณะขับขี่ (Driver Attention Alert)
ระบบปรับไฟสูงอัตโนมัติ (High Beam Control)
ระบบเตือนเมื่อมีรถในจุดอับสายตาขณะเปลี่ยนเลน (Advanced Blind Spot Monitoring)
ระบบเตือนเมื่อรถเบี่ยงออกนอกเลน (Lane Departure Warning System)
ระบบไฟหน้า LED อัจฉริยะ (Adaptive LED Headlamps)
ระบบช่วยหยุดรถอัตโนมัติขณะถอยหลัง (Smart City Brake Support-Reverse)
ระบบช่วยหยุดรถอัตโนมัติแบบ Advance (Advanced Smart City Brake Support)
ระบบควบคุมความเร็วรถอัตโนมัติ MRCC แบบ Stop & Go (Mazda Radar Cruise Control with Stop & Go)
พร้อมกับระบบแสดงภาพ 360° รอบทิศทาง เซ็นเซอร์กะระยะด้านหน้า 4 จุดและด้านหลัง 4 จุด และถุงลมนิรภัยคู่หน้า ด้านข้าง และม่านถุงลมนิรภัย รวม 6 ตำแหน่ง
ซึ่งตลอดการเดินทางในครั้งนี้ที่ผ่านมาทั้งการขับขี่ทางตรงยาวที่มีการเร่งแซงหลายครั้ง รวมไปถึงเส้นทางเขาโค้งสลับไปมา บวกกับการต้องทำเวลาเพื่อให้ถึงที่หมายก่อนค่ำเพื่อความปลอดภัย บวกกับน้ำหนักบรรทุกรวม 3 ท่านพร้อมสัมภาระ ตัวเลขอัตราสิ้นเปลืองเฉลี่ยที่ทำได้โดยการแสดงบนหน้าปัดของรถอยู่ที่ 9.3 km/l ในรุ่นเครื่องยนต์เบนซิน และจากการพูดคุยแลกเปลี่ยนจากพี่ ๆ สื่อมวลชนในรุ่นเครื่องยนต์ดีเซลนั้น ตัวเลขที่ได้แต่ละคันอยู่ที่ช่วงประมาณ 11-13 km/l
และทั้งหมดนี้ก็คือการขับทดสอบไปกับ Mazda CX-8 ใหม่ รุ่นปรับโฉม ปี 2022 ที่ได้เพิ่มเติมอุปกรณ์อำนวยความสะดวกเข้ามา และยังอัพเกรดระบบตัวช่วยการขับขี่ให้สามารถตอบสนองการใช้างานได้ครอบคลุมมากยิ่งขึ้น กับทางเลือกทั้งหมด 5 รุ่นย่อย ดังนี้
- NEW MAZDA CX-8 รุ่น 2.5 S ราคา 1,549,000 บาท
- NEW MAZDA CX-8 รุ่น 2.5 SP ราคา 1,619,000 บาท
- NEW MAZDA CX-8 รุ่น 2.5 SP Exclusive ราคา 1,699,000 บาท
- NEW MAZDA CX-8 รุ่น XDL ราคา 1,849,000 บาท
- NEW MAZDA CX-8 รุ่น XDL Exclusive ราคา 2,199,000 บาท
ทดสอบและเรียบเรียงโดย toptaro
ติดตามข่าวสารรถยนต์รวดเร็วก่อนใครได้ที่ AUTODEFT.com