Full Drive : Mazda CX-5 2.2 XDL AWD Crossover หรู แรง เร้าใจ ตามสไตล์ Zoom-Zoom

  • โดย : Autodeft
  • 21 ส.ค. 61 00:00
  • 29,662 อ่าน

ปัจจุบันตลาดรถ Crossover มีการเติบโตอย่างต่อเนื่อง ทำให้ค่ายรถยนต์ชั้นนำจากญี่ปุ่น อเมริกา ยุโรป ฯลฯ ต่างเบนเข็มที่จะพัฒนาให้สนองความต้องการของผู้ใช้รถที่ถวิลหาความสะดวกสบายในการบรรทุกและโดยสาร พร้อมสรรพด้วยเทคโนโลยี ซึ่ง Mazda เองก็เป็นอีกหนึ่งค่ายที่ตอบโจทย์ผู้ใช้รถ ด้วยการส่ง Mazda CX-5 ทำตลาดแทนรุ่นเก่า Mazda Tribute

Mazda CX-5

สำหรับเมืองไทย Mazda CX-5 เริ่มเข้าทำตลาดตั้งแต่ปี .. 2556 ในฐานะ Compact Crossover สร้างยอดขายอย่างงดงามล่าสุดกับเจเนอเรชั่นที่ 2 เปิดตัวอย่างเป็นทางการตั้งแต่ปีกลายจนสร้างยอดขายช่วงครึ่งปีแรกของปี 2561 มากกว่า 4,000 คันติดอันดับ 2 รุ่นรถขายดีต่อจากเก๋งเล็ก Mazda 2 นับเป็นเครื่องพิสูจน์ที่ผู้ใช้รถชาวไทยภักดีกับยานยนต์อเนกประสงค์หรูอย่างเหนียวแน่น

รถยนต์ Crossover หรูค่าย มาสด้า รุ่นนี้ ยังคงนำเข้าจากมาเลเซียเช่นเดิมพร้อมหน้าตาสดใหม่ไฉไล แต่ยังเป็นเอกลักษณ์สืบทอดกันมานานนั่นคือ Kodo Design เริ่มจากกระจังหน้าดีไซน์แบบ Signature Wing ที่มีกรอบแบบโครเมี่ยมล้อมรอบไว้ โดยไส้ในของกระจังหน้าเป็นแบบตะแกรงเหลี่ยม ทำให้ดูมีมิติมากกว่า พร้อมโลโก้ Mazda ขนาดใหญ่ สอดรับกับ ไฟหน้าโคมเล็กลงแบบ Projector แบบ LED ชัดเจนในยามค่ำคืนตอนเข้าโค้งด้วยระบบไฟหน้าปรับตามทิศทางการเลี้ยว AFS โดยทิศทางของลำแสงไฟหน้าจะหมุนไปซ้าย-ขวา ตามการหมุนของพวงมาลัยและ Day Time Running Light ในโคมเดียวกันไฟตัดหมอกดวงเล็กๆแบบ LED ฝังในกันชนหน้าที่หรูหราแฝงความสปอร์ตในตัว

Mazda CX-5

Mazda CX-5

ด้านข้างเส้นสายเรียบง่าย แต่คมสวยงาม ตามคอนเซ็ปต์ Less is more เหมือนกับการออกแบบสวนหินของชาวญี่ปุ่นลงตัวด้วยการตัดเส้นโครเมี่ยมที่กรอบกระจกรับกับชุด Color Key สีเดียวกับตัวรถทั้ง กระจกมองข้างพร้อมไฟเลี้ยวและที่เปิดประตู ล้ออัลลอยขนาด 19 นิ้ว คมด้วยลายสีเงินผสมรมดำพร้อมยาง 225/55 R19 จาก Toyo Proxes R 46 รับกับซุ้มล้อสีดำดีไซน์เรียบง่ายเฉกเช่นกับดีไซน์ด้านข้าง

เสียดายที่ Mazda ไม่ได้ให้แร็คหลังคาจากโรงงานมาอาจทำให้เหล่าสาวกที่ชอบขี่จักรยานเป็นชีวิตจิตใจ บ่นโอดครวญกันหลายราย แต่ยังให้ความเท่ด้วยเสาอากาศแบบครีบฉลามสีเดียวกับตัวรถกับหลังคา ซันรูฟ ที่เปิดเลื่อนและกระดกขึ้นด้วยระบบไฟฟ้า ด้านท้าย ดีไซน์ดูเรียวขึ้นอย่างชัดเจนด้วยไฟท้าย LED Signature มีลายเส้นขีดออกไปจากตัวไฟพร้อม ฝาท้ายหลังมีการปรับไปจากเดิม รวมไปถึงแนวกันชนชายขอบด้านล่างที่ไม่สูงขึ้นมาเมื่อเทียบกับเจนก่อน แถมเอาใจสาวๆขาช็อปสามารถจัดเก็บสัมภาระได้สะดวกสบายยิ่งขึ้น ด้วย POWER LIFTGATE ประตูท้ายเปิด-ปิดด้วยระบบไฟฟ้าได้ง่ายเพียงปลายนิ้วสัมผัส

มิติตัวรถใหญ่ขึ้นเล็กน้อยตั้งแต่ ความยาว 4,550 มม. ความกว้าง 1,840 มม. ความสูง 1,680 มม. ฐานล้อ 2,700 มม. ระยะต่ำสุดจากพื้น 193 มม. น้ำหนักรถ 1,726 กก.และความจุถังน้ำมัน 58 ลิตร มื่อเทียบกับ Mazda CX-5 เจนที่แล้วพบว่า ความยาวเพิ่มขึ้น 10 มม. ความสูงลดลง 30 มม. ระยะต่ำสุดจากพื้นลดลง 22 มม. และน้ำหนักรถเพิ่มขึ้น 53 กก. แต่ความกว้างกับระยะฐานล้อ เท่าเดิม

Mazda CX-5

Mazda CX-5

Mazda CX-5

ภายในยังคงเป็นแบบรถ Crossover 5 ที่นั่ง แต่ปรับรุงการออกแบบและนำข้อเสียจากเจนที่แล้วมาพัฒนาในรูปแบบ HUMAN-CENTERED Design ผลที่ได้คือเบาะนั่งคู่หน้าทรงสูงโอบกระชับกว่าเก่า หุ้มด้วยวัสดุหนังสีดำเดินด้ายสีน้ำตาล ปรับสูง-ต่ำด้วยระบบไฟฟ้าคู่หน้า โดยคนขับปรับได้ 8 ทิศทาง พร้อมระบบบันทึกตําแหน่งเบาะได้ 2 ตําแหน่ง และดันหลังไฟฟ้าและคนนั่งปรับ 6ทิศทาง ส่วนเบาะหลังจากที่เคยบ่นจากรุ่นเจนที่แล้วว่าปรับเอนไม่ได้ เบาะนั่งอยู่ในตำแหน่งชันไปมากจนอึดอัด ตอนนี้สบายขึ้นระดับหนึ่งเพราะสามารถปรับเอนได้ (แต่แอนได้แค่ 20-30 %) ส่วนพื้นที่วางขากว้างขวางสบายกว่า และสามารถพับแยกอิสระได้แบบ 3 ส่วน 40:20:40 รวมถึงที่พักแขนและที่มีที่วางแก้วน้ำในตัวแถมเอาใจคนเล่นสมาร์ทโฟนด้วยช่องเสียบ USBที่ปล่อยไฟระดับ 2.1 แอมป์ ไว้ชาร์จกันจุใจถึง 2 ช่อง และพื้นที่เก็บสัมภาระท้ายมีขนาดความจุ 505 ลิตร

ทัศนวิสัยของรถยนต์รุ่นนี้บอกได้เลยว่า กว้าง โล่งโปร่งสบาย จากการที่เสา A มีการขยับไปด้านหลังมากกว่าเดิม 35 มม. ทำให้การมองกระจกด้านหน้ากว้างกว่าเดิม

Mazda CX-5

แผงคอนโซลหน้าใหม่หมด แบบ Metal Wood มีสไตล์มีเอกลักษณ์ภายใต้แนวคิดHand-Crafted Design” เปี่ยมด้วยกลิ่นอายแห่งความหรูหราสไตล์ยุโรป ด้วยโทนสีดำแบบพลาสติกคุณภาพ ตกแต่งวัสดุผิวสัมผัสสีดำ เดินด้ายสีน้ำตาล Soft Touch รวมถึงแผงประตูขึ้นรูปอันสง่างาม พวงมาลัยมัลติฟังก์ชั่น 3 ก้านหุ้มหนัง ตกแต่งด้วยสีเงินซาตินโครมดูเงางามเป็นเอกลักษณ์พร้อมมาตรวัดเรืองแสงใช้งานง่าย พร้อม multi-information gauge หน้าจอสี TFT ขนาด 4.6 นิ้ว อยู่ทางด้านขวาของหน้าปัด รวมไปถึงจอบนคอนโซลหน้า Active Driving Display แบบสี ที่ดูง่ายเข้าใจง่ายในระดับสายตาผู้ขับ แสดงข้อมูลสําคัญในการขับขี่แบบสี บนกระจกหน้ารถ

Mazda CX-5

Mazda CX-5

ช่องแอร์ดีไซน์แบบทรงเหลี่ยมคล้ายลูกศรชี้ตกแต่งขอบสีเงินซาตินโครมถัดลงมาเป็นเครื่องปรับอากาศแยกอุณหภูมิซ้าย-ขวา พร้อมช่องแอร์ที่ติดตั้งอยู่ด้านหลังของคอนโซลกลาง บันเทิงเริงใจด้วยลำโพงคุณภาพจาก Bose ติดตั้งภายในรอบคันถึง 10 จุด เพิ่ม Subwoofer มาที่ด้านท้าย ทำให้ฟังเพลงแล้วมีมิติมากขึ้น เสียงชัด สมจริง คอนโซลเกียร์อัตโนมัติหุ้มด้วยวัสดุหนังสลับกับวัสดุสีเงินซาตินโครม ด้วยการวางตำแหน่งคันเกียร์ให้สูงขึ้นกว่าเดิม 60 ซม. ทำให้การเปลี่ยนเกียร์มีความรู้สึกจับได้ง่ายกว่าเดิม และปุ่ม Parking Brake ที่ใช้งานง่ายพร้อม Auto Hold และ ปุ่ม Push Start กับ กุญแจรีโมท Smart Keyless ตามสมัยนิยม

Mazda CX-5

Mazda CX-5

หน้าจอจอทัชสกรีนดีไซน์ใหม่ ขนาด 7 นิ้วรวมถึงระบบนำทางและเครื่องเล่น DVD CENTER DISPLAY แสดงเมนูสั่งงานของระบบ และตั้งค่าฟังก์ชั่นการใช้งานอื่นๆ หรือ พร้อมระบบ MZD Connect ไม่พลาดทุกการติดต่อ อัพเดทข้อมูลข่าวสารได้ตลอดการเดินทาง หรือ รับ-ส่ง SMS จากสมาร์ทโฟนผ่านสัญญาณ Bluetooth พร้อม Infotainment ที่มีให้เลือกมากมาย เรียกดูข้อมูลผ่านระบบสั่งงานด้วยเสียง Voice Command ให้ ควบคุมด้วยปุ่มการทำงานระบบ MZD Connect แบบ Center Commander

Mazda CX-5

ด้วยการรวางตำแหน่งคันเกียร์ ามด้วยความเป็นรถยนต์ที่ใช้เทคโนโลยี SKYACTIV ทั้งคัน ทำให้ Mazda ขึ้นแท่นเป็นรถยนต์ทีมีชื่อเสียงเป็นที่รู้จักกันอย่างรวดเร็ว ทีมวิศวกรจึงไม่หยุดที่จะพัฒนาสิ่งใหม่ๆลงใน Crossover ตามแนวคิด Jinba-Ittai -Iที่ให้ผู้ขับขี่และรถเป็นหนึ่งเดียวกัน ี่ให้ผู้ขับขี่และรถเป็นหนึ่งเดียวกันด้วยเครื่องยนต์ดีเซลเทอร์โบ SKYACTIV-D รหัส SH ขนาด 2.2 ลิตร 175 แรงม้าที่ 4,500 รอบ/นาที แรงบิด 420 นิวตันเมตร ที่ 2,000 รอบ/นาที ปล่อย CO2 ที่ 164 กรัมต่อกิโลเมตร ระบบเทอร์โบชาร์จเป็นแบบสองขั้น 2-STAGE TURBOCHARGER ช่วยให้เครื่องยนต์มีแรงบิดสูงแม้ในรอบต่ำพร้อมพัฒนาไปอีกขั้นด้วยระบบหัวฉีดแบบหลายรู ช่วยให้ฉีดน้ำมันได้อย่างแม่นยำจนได้อัตราส่วนกำลังอัด 14.0:1 ที่จัดจ้านสะใจ ให้สมรรถนะการขับขี่ที่ดีในทุกรอบความเร็ว

ระบบส่งกำลังยังเป็นเกียร์อัตโนมัติ SKYACTIV-Drive 6 สปีด เช่นเดิม พร้อมระบบขับเคลื่อน 4 ล้ออัตโนมัติ แบบ i-ACTIV AWD ช่วยปรับระบบการขับขี่ให้เหมาะสมโดยใช้เซนเซอร์ 27 ตัว ทราบพฤติกรรมการขับขี่ตามสภาพเส้นทางที่เปลี่ยนแปลงมากยิ่งขึ้น

Mazda CX-5

จาก เจนแรกรุ่นปรับโฉมเคยขับเมื่อสองปีก่อน ความแรงของพลังดีเซล 2.2 ลิตร ที่ดีเสมอต้นเสมอปลายทั้งในรอบต้น รอบปลาย หรือแม้กระทั่งเร่งแซงทำได้ดีมากจนยกย่องให้เป็นเครื่องยนต์ดีเซลที่ทรงประสิทธิภาพเมื่อเทียบกับคู่แข่งระดับเดียวกัน

แต่พอมาอยู่ในเจนใหม่ที่ต้องแบกน้ำหนักมากขึ้นจากเจนที่แล้ว 53 กก. ถึงกำลังยังเท่ากับเจนที่แล้วคือ 175 แรงม้าแต่ก็ไม่ทำลายความสุนทรีย์ในการขับขี่อย่างสนุกสนานแถมให้ความกระฉับกระเฉงในทุกช่วงความเร็ว ให้อารมณ์ ดุดัน เร้าใจ เมื่ออยู่ในย่านความเร็วสูงๆ รอบเครื่องยนต์ในแต่ละช่วงความเร็วตั้งแต่ 90-120 กม./ชม. ทำผลงานได้ดีไม่แพ้คู่แข่ง ด้านการเก็บเสียงเงียบกว่ารุ่นเดิมสามารถฟังเพลงได้เสนาะหู พูดคุยสนทนากันอย่างเมามันส์เลยทีเดียว ในช่วง 60-120 กม./ชม. ถึงแม้จะมีเสียงยางรถกัดกับถนนซึ่งเป็นอาการเดียวกันตอนที่พี่เอริ์ธ (Earthpark02)ได้ไปทดสอบมาแล้ว

 

รอบการทำงานของเครื่องยนต์ดีเซล SKYACTIV-D 2.2 ลิตร ใน Mazda CX-5

Mazda CX-5

Mazda CX-5

Mazda CX-5

อัตราสิ้นเปลืองกับ รถยนต์ Crossover หรูจากเมืองฮิโรชิม่า จากโปรแกรม Save Mode ทำได้ 18.36 กม./ลิตร จากระยะทางรวม 63.9 กม.จัดน้ำมันเต็มถังจากปั๊มแถวเพชรบุรีตัดใหม่ กรุงเทพฯ 3.48 ลิตร ใช้ความเร็วไม่เกิน 120 กม./ชม. ตามสภาพการใช้งานจริง ส่วนการใช้งานในเมืองได้ตัวเลข 15.49 กม./ลิตร ด้านอัตราสิ้นเปลืองนอกเมืองทำตัวเลขอยู่ที่ 12.37 กม./ลิตร จากระยะทาง 145.6 กม. เส้นทางไป-กลับ กรุงเทพฯ- ชลบุรี (อมตะนคร) และเติมเข้าไปเต็มถัง 11.77 ลิตร นับว่าเป็นตัวเลขสิ้นเปลืองทำได้ดีไม่แพ้เจ้าอื่นๆ (ตัวเลขสิ้นเปลืองจากโรงงาน เฉลี่ย 16.13 กม./ลิตร ในเมือง 13.89 กม./ลิตร นอกเมือง 17.54 กม./ลิตร)

 

ตารางแสดงอัตราสื้นเปลืองน้ำมัน Mazda CX-5 2,2 XDL AWD

Mazda CX-5

Mazda CX-5

ระบบเกียร์อัตโนมัติเป็นแบบ SKYACTIV-Drive 6 สปีด ถึงแม้จะเป็นลูกเดิมยกชุดจากเจนที่แล้ว ด้วยอัตราทดเกียร์ยังเหมือนเดิมตั้งแต่ เกียร์ 1 =3.487 เกียร์ 2 = 1.992 เกียร์ 3 1.449 เกียร์ 4 = 1.000 เกียร์ 5 = 0.707 เกียร์ 6 = 0.600 เกียร์ถอยหลัง 3.990 และอัตราทดเฟืองท้าย 4.090 ยังรักษาการตัดต่อกำลังที่นุ่มนวล ไม่กระตุก ตอบสนองฉับไว ไม่รอรอบ เหมือนเช่นเดิม พร้อม Activematic แบบ Manual Mode +/- ไว้ใช้สำหรับขึ้น-ลงทางลาดชัน หรือ เร่งแซงในบางจังหวะ

ช่วงล่างหน้าและหลังสำหรับ Mazda CX-5 2.2 XDL AWD เลือกใช้ระบบแบบอิสระ 4 ล้อ เริ่มจากด้านหน้าแบบแมคเฟอร์สันสตรัทพร้อมเหล็กกันโคลง และหลังแบบมัลติลิงค์พร้อมเหล็กกันโคลง ตลอดการขับขี่ให้ความนุ่มนวลขึ้นในช่วงความเร็วต่ำถึงปานกลาง เกาะถนนเข้าโค้งมั่นใจซับแรงกระแทกที่เป็นหลุมเป็นบ่อรวมถึงช่วงจัมพ์คอสะพานได้ดี ส่วนหนึ่งเพราะระบบ G-Vectoring Control GVC ที่ทำให้ทุกโค้งที่เข้ามั่นใจหายห่วงแม้จะอยู่ในความเร็วสูงและยังลดอการหน้าลื่นท้ายปัดได้อย่างดี ช่วยให้การควบคุมอยู่ในมือของเราอย่างง่ายดาย และยังทำงานร่วมกับระบบควบคุมการทรงตัว DSC อีกด้วยระบบห้ามล้อตามสมัยนิยมด้วย ดิสก์เบรก 4 ล้อ พร้อมระบบเบรก ABS ระบบกระจายแรงเบรก EBD ระยะการเหยียบเบรก ที่ 30 % ทันใจหยุดฉับไวไม่แพ้รุ่นน้อง CX-3 Facelift

Mazda CX-5

ระบบบังคับเลี้ยวเป็นแบบพาวเวอร์ไฟฟ้า (EPAS) ที่น้ำหนักอาจแตกต่างจากรุ่น CX-3 Facelift โดยให้น้ำหนักพอประมาณและหนักเสมอกัน แต่พอมาขับเจ้า CX-5 รุ่นดีเซล บอกได้เลยว่าความเห็นผมตรงกับพี่เอริ์ธ (Earthpark02) นั่นคือ น้ำหนักเบามือแบบเสมอต้นเสมอปลาย ถ้าช่วงขับในเมืองธรรมดาไม่เกิน 80 กม./ชม. ไม่เทาไหร่ แต่ถ้าความเร็วสูงๆก็ยังเบาเช่นเดิม โดยถ้าปรับน้ำหนักมากขึ้นและหนืดในช่วงความเร็วสูงๆหน่อยก็จะดี

สารพัดฟังก์ชั่นความปลอดภัย i-Activsense ของ Mazda CX-5 2.2 XDL AWD จัดเต็มๆดังนี้

- ALH (Adaptive LED Headlamps) ระบบไฟหน้า LED อัจฉริยะ ปรับการทํางานของไฟ สูง - ต่ำ แยกอิสระ ซ้าย - ขวา โดยอัตโนมัติ ให้เหมาะสม กับสภาพถนน

- MRCC (Mazda Radar Cruise Control) ระบบควบคุมความเร็วรถอัตโนมัติ ระบบจะทำการปรับลดความเร็วลงตามความเร็วของรถคันหน้าและรักษาระยะห่างกับรถคันหน้าให้เหมาะสมโดยอัตโนมัติ

- LDWS (Lane Departure Warning System) ระบบเตือนเมื่อรถเบี่ยงออกนอกเลน ระบบจะส่ง สัญญาณเตือนไฟกะพริบบนหน้าปัด พร้อมส่งเสียง เตือน เมื่อตรวจพบการเบี่ยงออกนอกเลนโดยไม่ได้ ตั้งใจ

- DAA (Driver Attention Alert) ไฟสูงไม่รบกวนรถคันที่วิ่งสวนมา ระบบจะขึ้นสัญลักษณ์เตือนที่หน้าจอ

- Windshield Active Driving Display ระบบช่วยเตือนเมื่อผู้ขับเหนื่อยล้าขณะขับขี่ โดยเฉพาะขณะขับรถทางไกล

- LAS (Lane-keep Assist System) ระบบช่วยควบคุมรถให้อยู่ในเลน ในกรณีที่ตรวจพบ การเบี่ยงออกนอกเลนโดยไม่ได้ตั้งใจ ระบบจะส่ง สัญญาณเตือนหรือเตือนโดยการสั่นที่พวงมาลัย และช่วยปรับทิศทางพวงมาลัยให้รถกลับเข้าสู่เลน

- SBS (Smart Brake Support) ระบบเตือนการชนด้านหน้าและช่วยเบรกอัตโนมัติ หากพบว่ามีความเสี่ยงที่จะเกิดอุบัติเหตุจาก การชนรถคันหน้า ระบบจะส่งสัญญาณเตือนและเสียง เตือนอย่างต่อเนื่อง

- ABSM (Advanced Blind Spot Monitoring) ระบบเตือนเมื่อมีรถในจุดอับสายตาขณะเปลี่ยนเลนช่วยให้ผู้ขับปลอดภัยขณะเปลี่ยนเลน

- SCBS (Smart City Brake Support) ระบบช่วยหยุดรถอัตโนมัติ หากระบบตรวจสอบพบว่า ไม่สามารถเลี่ยงการชนได้

- SCBS-R (Smart City Brake Support-Reverse) ระบบช่วยหยุดรถอัตโนมัติขณะถอยหลัง ช่วยลด ความเสี่ยงในการเกิดอุบัติเหตุจากการชนขณะขับถอยหลังด้วยความเร็วต่ำ

- RCTA (Rear Cross Traffic Alert) ระบบเตือนเมื่อมีรถในจุดอับสายตาขณะถอยหลัง

เกือบหนึ่งสัปดาห์ที่ได้ทดสอบเจ้ารถยนต์ Crossover ราคาล้านเจ็ดปลายๆ ระบบต่างๆที่ได้กล่าวมานี้ กลับได้ใช้แค่บางระบบเหมือนตอนไปขับ CX-3 Facelift เช่น ระบบระบบเตือนเมื่อรถเบี่ยงออกนอกเลน (LDWS) ส่งสัญญาณเตือนเมื่อรถอาจเบี่ยงออกนอกเลนโดยไม่ได้ตั้งใจ

Mazda CX-5

ระบบเตือนเมื่อมีรถในจุดอับสายตาขณะเปลี่ยนเลน (ABSM) จะมีสัญลักษณ์บนกระจกมองข้าง เพื่อเตือนว่ามีรถในจุดอับสายตาขณะเปลี่ยนเลน หรือกำลังแซงขึ้นมาจากทางด้านหลังและอยู่ในจุดที่ผู้ขับอาจมองไม่เห็น

จำเป็นมากสำหรับคนขับรถทางไกลที่ขับติดต่อกันหลายชั่วโมง จนเกิดอาการง่วง เมื่อยล้า จะมีระบบช่วยเตือนเมื่อเหนื่อยล้าขณะขับขี่ (DAA) มาเป็นของแถม เตือนให้คนขับสามารถพักผ่อนหรือเปลี่ยนคนขับได้

Mazda CX-5

อีกระบบหนึ่งที่เหมาะอย่างยิ่งสำหรับคนเดินทางไกลนั่นคือ ระบบควบคุมความเร็วอัตโนมัติ MRCC (Mazda Radar Cruise Control) จะมี Radar จับรถที่อยู่คันหน้าพร้อมตรวจสอบความเร็วแล้วปรับความเร็วให้เหมือนกับคันหน้าโดยอัตโนมัติ สมมติถ้าเราตั้งความเร็วไว้ที่ 120 กม./ชม. แล้วคันหน้าอยู่ที่ความเร็ว100 กม./ชม. ก็จะปรับความเร็วเท่ากับคันหน้า และจะกลับมาที่ 120 กม./ชม.อีกครั้งเมื่อคันหน้าเปลี่ยนเลนไปช่องทางอื่น

ระบบ SCBS (Smart City Brake Support) ระบบช่วยหยุดรถอัตโนมัติ เมื่อเราขับใกล้วัตถุ หรือมีวัตถุอะไรก็ตามที่ตัดหน้าเรามาในระยะที่อันตราย นอกจากจะมีสัญญาณเตือนเพื่อแจ้งให้เราเบรกแล้ว รถจะทำการกดเบรกให้อัตโนมัติก่อนราว 2 วินาที เพื่อลดความเร็วของตัวรถซะก่อนที่เท้าเราจะเข้าไปเบรกเพื่อหยุดรถอีกครั้งระบบนี้เหมาะมากสำหรับคนหนุ่มสาวที่ซุ่มซ่ามทำข้าวของหล่นลงพื้นจนต้องเก็บแล้วไม่หันมามองรถคันหน้าเบรกกะทันหัน

Mazda CX-5

ด้วยความเป็นรถยนต์ที่ขายดีอันดับต้นๆของค่าย ผนวกกับเทคโนโลยี SKYACTIV ที่บรรจุลงในรถยนต์ Crossover หรูรุ่นนี้ ส่งผลให้ Mazda CX-5 2.2 XDL AWD เดินหน้าเติบโตต่อเนื่องด้วยความสดใหม่กว่าเจ้าอื่นๆ

แม้พลังดีเซล SKYACTIV-D 175 แรงม้า จะยังไม่มีการปรับปรุงในเรื่องเรี่ยวแรงแต่ก็ยังรักษาความเป็นรถยนต์ขับสนุก ขับเร้าใจเช่นเดิม เบาะหลังพัฒนาใหม่ถึงจะปรับเอนได้นิดหน่อย แต่ก็ให้ความสบายไม่เมื่อยล้าในช่วงการเดินทาง อีกหนึ่งจุดเด่นที่น่ายกย่องนั่นคือ เครื่องเสียงพร้อมลำโพง Bose ชั้นดี มอบเสียงเพลงไพเราะเสนาะหู น่าฟังมากขึ้น แต่อยากให้แก้เรื่องของระบบพวงมาลัยที่ควรให้มีระบบน้ำหนักแปรผันในช่วงขับความเร็วกลางๆและความเร็วสูงๆ โดยจะส่งผลให้การขับขี่มั่นใจมากยิ่งขึ้น

 

เรื่องและขับทดสอบโดย นายเต้ย

 

รถทดสอบ Mazda CX-5 2.2 XDL AWD ราคาจำหน่าย 1,770,000 บาท

 

ขอขอบคุณ บริษัท มาสด้า เซลส์ (ประเทศไทย) จำกัด ที่ให้ความอนุเคราะห์รถยนต์ Mazda CX-5 2.2 XDL AWD มาทดสอบ

Mazda CX-5

Mazda CX-5

 

 

ติดตามข่าวสารยานยนต์ รวดเร็วก่อนใคร ได้ที่ Autodeft.com 

 

 

 

5 เรื่องน่าสนใจ