Full Drive : Subaru Forester 2.0 iL อเนกประสงค์ชั้นนำ ดุสปอร์ตล้ำลงตัว
- โดย : Autodeft
- 29 ม.ค. 57 00:00
- 10,018 อ่าน
มาแล้วบททดสอบอีกอเนกประสงค์จากค่ายดาวลูกไก่ Subaru Forester 2.o iL ราคา 1.84 ล้านบาท ที่มีดีกว่าที่คาด
ย้อนกลับในวันวาน เมื่อกล่าวถึงรถยนต์สปอร์ตทรงสมรรถนะแบบเอาไปใช้งานได้จริง จนคอสปอร์ตหลายคนถึงกับซูฮกในเรื่องสมรรถนะที่มาบรรจบกับความารถสามารถในการใช้งาน ถามว่าแบรนด์นั้นคืออะไร ..พระเจ้าจอร์จ คงไม่ต้องพูดมาก เพราะ ที่กล่าวมาล้วนเป็นจุดเด่นของ Subaru
เวลาผ่านเลยไปอะไรๆ ก็ต้อมีการเปลี่ยนแปลงไปเป็นธรรมดา และไม่แปลกใจเลยที่นาทีนี้ตั้งแต่เมื่อช่วงปลายปี 2012 ย้อนไปเมื่อแนะนำ Subaru XV ออกสู่ตลาด Subaru จะเปิดอกคุยกับหลายสื่อว่า พวกเขาอยากจะผันตัวเองมาสู่รถบ้าน แง่หนึ่งที่ชัดเจน คือพวกเขาพยายามเรียนรู้จากโตโยต้า ในแง่การผลิตรถยนต์ที่ตอบสนองลูกค้าได้ทุกรูปแบบ ไม่ว่าอะไร พี่ต้าท่านมีหมด ในขณะที่ต้องยอมรับว่าสมรรถนะอาจจะไม่หวือหวาเท่า และ นั่นคือสิ่งที่ค่ายสามห่วงพยายามใช้ข้อโดดเด่นของ Subaru เข้ามาเป็นองค์ประกอบโดยเฉพาะในรถยนต์สปอร์ต Toyota GT 86
แม้เราจะพูดว่า Subaru เป็นค่ายรถยนต์ที่เน้นสมรรถนะ หลายคนรู้จักมักจี่ดีกับ Subaru Impreza จนเล่าความสเป็ครถได้ราวกับเป็นรถของตัวเองแต่มีเพียงไม่กี่คนที่จะรู้จัก Subaru Forester ที่เมื่อกลายปี 2013 มันผ่านเข้ามาทำตลาดในไทยอีกครั้งและเป็นรถยนต์ที่ใหม่ที่สุดในพอร์ทของ Subaru ณ นาทีนี้เลยก็ว่าได้
ณ วันเปิดตัวในงานที่ไบเทคบางนา ตอนนั้นจำได้ว่า Subaru Forester ไม่ใช่รถที่หลายคนมองมันมากมายนัก แต่แล้วเมื่อผ้าคลุมสะบัดออกสายตาทุกคนลุกวาว เพราะเจ้า Subaru Forester ใหม่นี้ ให้ความหรูหราสปอร์ตลงตัวมากกว่าที่คาด แม้จะเห็นผ่านภาพที่ส่งตรงจากต่างประเทศว่อนตามเน็ตมานานนับปี
Subaru Forester ใหม่ ได้เสน่ห์ในการออกแบบใหม่สดที่สุดในหมู่ตระกูลรถ Subaru และด้วยความเป็นตัวตนค่อนมาทางความหรูหรามากกว่าเดิม แต่ยังอมความสปอร์ตเอาไว้ตามความเป็นรถยนต์จากค่าย Subaru ที่ต้องดูดุดันเร้าใจไปพร้อมกัน
โจทย์ใหม่นี้จะเห็นชัดที่สุดว่า Subaru ฉีกทุกกฎการออกแบบออกไปเพื่อเติมเต็มความต้องการของลูกค้ามากขึ้น การลดความสปอร์ตแล้วปรับไปในทางความหรูหรา สร้างเส้นสายที่ตรงใจต่อกลุ่มลูกค้ามากขึ้น ตามความเห็นแล้ว ด้วยกระจังหน้าใหม่และโคมไฟหน้าใหม่ ที่พุ่งสู่ความหรูหรา ถือว่า Subaru มาถูกทางแล้ว สำหรับรถยนต์ที่ต้องการให้มันดูพรีเมี่ยมมากขึ้นเพื่อสามารถทำราคาได้มากขึ้น
เส้นสายทางด้านหน้าต่อเนื่องทางด้ายซึ่งดูสะอาดตาตามสไตล์รถหรูที่ดูดี หลังคา ใน Subaru 2.0 iL แอบสปอร์ตมากขึ้น ด้วยหลังคามูนรูฟบานโต คงถูกใจสำหรับคนชอบรับลมชมแดดเผาแคลลอรี่ขณะขับรถ ส่วนบั้นท้ายเรียบง่ายมาในสไตล์ลุยด้วยโคมไฟท้ายที่ดูมีความกลมกลืนตลอดรอบคัน ลงตัวพร้อมล้ออัลลอย ขอบ 17 นิ้วพร้อมยาง ลุย 225/60/R17 ให้ความรู้สึกที่ยังดูภูมิฐาน
แต่จะว่าไป Subaru Forester กลับไม่ได้ใหญ่โตอย่างที่คาดดั่งการออกแบบที่ทำให้มันดูอลังการ ด้วยความยาวตลอดรอบคันเพียง 4,595 ม.ม. กว้าง 1,795 ม.ม. และสูง 1,735 ม.ม. และตอบโจทย์ด้วยฐานล้อยาว 2,640 ม.ม. ทำให้มีระยะยื่นทั้งทางด้านหน้าและหลังสั้น ช่วยในเรื่องการลุยได้ในยามที่จะต้องปีนป่ายฝ่าทางโหด
ภายในห้องโดยสาร Subaru Forester 2.0iL เริ่มเกมด้วยการใส่ความสปอร์ตเข้า เน้นเด่นตามจิตวิญญาณของ Subaru และจะว่าไปพวกเขาก็เด่นอยู่แล้วในเรื่องสมรรถนะการขับขี่ ทำให้การใส่ความสปอร์ตก็เปรียบดังนายพรานยิงปืนนัดเดียวได้นก 2 ตัว เพราะทั้งอารมณ์สปอร์ที่ให้สีดำเป็นตัวสื่อสารในการออกแบบ และยังให้ความรู้สึกหรูหราไปพร้อมกันด้วยในคราวเดียว
ทั้งหมดจะเห็นได้ตั้งแต่คอนโซลหน้าเน้นให้รายละเอียดสปอร์ตผนวกในความทันสมัยของรถไปพร้อมกัน ที่ชัดเจนเลยคงต้องเป็นเบาะนั่งที่สามารถนั่งได้กระชับลงตัว พนักผิงอาจออกแข็งเล็กน้อยส่วนที่รองนั่งสบาย ตรงหน้ามากับพวงมาลัยมัลติฟังชั้นสไตล์ 3 ก้านลุคสปอร์ต อาจจะดูแล้วรกตากับปุ่มต่างๆที่ก้านพวงมาลัย
ด้านซ้ายคุมระบบเครื่องเสียงพร้อมรับวางสายโทรศัพท์ ไม่ต้องบอกก็คงพอเดาได้ว่าระบบเครื่องเสียง Subaru Forester 2.0 iL น่าจะมาพร้อมกับการเชื่อต่อโทรศัพท์สมาร์ทโฟน ผ่าน Bluetooth ด้านขวา มาพร้อมระบบควบคุมความเร็วอัตโนมัติ ทั้งยังมาพร้อมกับโหมดการขับขี่ให้ความเราใจมากขึ้นได้แก่ โหมดการขับขี่ S และ I เพิ่มความเร้าใจตอบโจทย์ในอารมณ์มากขึ้น
ตรงกลางคอนโซลหน้าเน้นความเรียบง่ายต่อการใช้งาน เริ่มจากจอแสดงผลข้อมูลการขับขี่ที่สามารถปรับได้ตามความต้องการ ถัดลงมาออกแบบพลาสติกให้มีรายละเอียดคล้ายการตบแต่งด้วยไม้ ซึ่งต้องยอมรับว่ามีความดูดีลงตัวไม่น้อยเช่นกัน รับเข้ากับระบบเครื่องเสียงเล่น CD MP3 แอบดูค่อนเรโทรไปสักนิด และถัดลงมาเป็นระบบปรับอากาศอัตโนมัติ สามารถแยกอุณหภูมิอิสระซ้าย-ขวา ได้ตามความต้องการ
เรื่องการโดยสารตอนหน้าขึ้นลงสะดวกสบาย แม้รถจะมีความสูงเสียหน่อย ก็ไม่ได้ลำบาก ด้วยมุมประตูที่สามารถเปิดได้กว้างและความสูงของพื้นที่ในห้องโดยสารทำให้สบาย แปลกแต่จริงที่ Subaru Forester ไร้บันไดข้างแต่ก็ยังเข้าสู่ห้องโดยสารได้อย่างสบาย
ส่วนการนั่งตอนหลังพื้นที่เหลือกมากมายเป็นวา สามารถได้สูงสุด 5 คน จากการทดลองของเรา และมากกว่านั้นได้อีก ถ้าคนที่เดินทางไปกับคุณเป็นบรรดาไซส์มินิ ซึ่งด้วยความสูงและความกว้างของตัวถังรวมถึงการออกแบบแผงประตูที่กินพื้นที่มาก ทำให้ในภาพรวมเป็นรถอเนกประสงค์ที่กลับเต็มด้วยความสบายในการโดยสาร ส่วนเรื่องการขนของเหรอ!! สบายหายห่วงด้วยพื้นที่บรรทุกสัมภาระที่กว้างขวางพอจะยัดขอที่ทุกคนต้องการเข้าไปในรถได้ และยังสามารถปรับพับเบาะได้ถ้าต้องมีกิจการขนของเป็นพิเศษ
เรือนร่างที่มีขนาดใหญ่ หน้าตาที่ดูสปอร์ต ออกแนวถึง เชื่อได้เลยว่า หลายคนต้องเหมาเอาว่าเจ้า Subaru Forester จะมีน้ำยาอะไรมากมายนัก ส่วนตัวเคยคุยกับน้องที่เป็นนักทดสอบรถยนต์ด้วยกันแต่มีอายุน้อยกว่าผมในเว็บชื่อดังแห่งหนึ่ง ซึ่งเขาก็คิดเช่นนี้ว่า โอย!! มันไม่เท่าไรหรอก แต่ เอาเข้าจริง!! มันกลับเป็นความสุดยอดมากกว่าที่คิดเสียอีก
บทสนทนาที่ว่ายังจำได้ดีตอนที่ผมรับรถ Subaru Forester 2.0 iL ออกมา ที่พูดเน้นย้ำมาตลอดตั้งแต่เริ่มต้นว่าเป็นรุ่น iL นั้นก็เพรา Subaru นำ Subaru Forester เข้ามาจำหน่าย 2 รุ่น คือ รุ่น 2.0 iL ซึ่งมาพร้อมเครื่องยนต์ 2.0 ลิตร ธรรมดา และ รุ่น XT ซึ่งเป็นรุ่นที่สมรรถนะสูงกว่าด้วยพละกำลังจากเทอร์โบชาร์จ
แม้ว่าเรื่องกำลังทั้งสอง อาจจะมีความแตกต่างกันอยู่พอสมควร เช่นเดียวกับราคาที่โดดต่างกันอย่างมาก แต่ใต้ฝากระโปรงทั้งคู่ก็เบสจากต้นกำลังเดียวกัน ด้วยเครื่องบ๊อกเซอร์เจนแนอร์เรชั่นใหม่ที่เปิดตัวเมื่อครั้งย้อนไปในช่วงปี 2010 ในรหัส FB20 ซึ่งมีการพัฒนาในหลายๆส่วนของเครื่องยนต์
เริ่มตั้งแต่การออกแบบทั้งเสือสูบและฝาสูบใหม่หมด ติดตั้งมาพร้อมกับระบบวาล์วแปรผัน Active Valve Control System ทั้งฝั่งไอดีและไอเสีย รวมถึงกระทั่งเปลี่ยนจากสายพานราวลิ้นเป็นชุดโซ่ขับ และยังปรับตำแหน่งชุดโซ่กดกระเดื่องวาล์ว เพื่อให้สามารถปิด-เปิดวาล์วในตำแหน่งที่แคบลงได้อีก
การพัฒนาทั้งหมดนี้ทำให้เครื่องยนต์ Subaru FB ใหม่มีความประหยัดมากยิ่งขึ้นกว่าเดิมและยังปล่อยไอเสียน้อยลง โดยในรุ่น เครื่องยนต์ 2.0 ลิตร มีกำลังแรงม้า 150 แรงม้าที่ 6,200 รอบต่อนาที และ ทำแรงบิดได้มากกว่า 198 นิวตันเมตรที่ 4,200 รอบต่อนาที ตอบโจทย์ด้วยชุดเกียร์ Lineartronics ให้อัตราทดกว้าง ตั้งแต่ 3.581-0.570 ส่งลงเฟืองท้ายที่มีอัตราทด 3.667
ถ้ามองผิวเผิน Subaru Forester 2.0 iL คงไม่ใช่รถสปอร์ตอย่างแน่นอน แต่หลังจากที่ขับ Subaru มาหลายรุ่นในช่วงหลายเดือนที่ผ่านมา เรากลับต้องยอมรับว่า Subaru Forester กลายเป็นรถยนต์ที่มทีความรู้สึกในการขับขี่ดีที่สุดในกลุ่ม
ใครจะคิดรถยนต์ที่มีขนาดและน้ำหนักราวๆ 1,495 กก. สามารถเคลื่อนตัวได้อย่างกระฉับกระเฉงตั้งแต่เริ่มออกตัว เมื่อจุ่มคันเร่งลงไปเรือนร่างใหญ่ๆของมันไม่มีคว่าอืดอาดยืดยาด จนเต่ากัดยาง แต่สามารถทะยานออกไปอย่างรวดเร็ว แม้เรายังไม่ได้ขับรุ่นเทอร์โบแต่ก็ยอมรับว่า สำหรับคำว่ารถครอบครัว Subaru Forester 2.0 iL ค่อนข้างจะเหลือเฟือแล้ว ถึงจะไม่ได้บ้าพลังแบบรถยนต์อเนกประสงค์บางค่ายที่รุ่นบ้านๆก็แรงเร้าใจถูกใจพวกตีนผีทั้งหลาย
ทว่าในความรู้สึกของ Subaru Forester 2.0iL เรือนร่างใหญ่กำลังที่ไม่มากสามารถทะยานได้อย่างรวดเร็ว ก็คงต้องพูดกันเลยว่ามาจากจิตวิญญาณของรถโดยเฉพาะโครงสร้างตัวถังที่มีการพัฒนาให้เบาขึ้นและสามารถสัมผัสได้ทันที
ถ้าไม่เชื่อว่า Subaru Forester 2.0 iL เร่งดีขนาดไหน ลองมาดูอัตราเร่ง จากกาทดสอบ 0-100 ก.ม./ช.ม. และการทดสอบ 80-120 /ช.ม. แม้ต้องยอมรับว่าการเร่งรถที่ใช้เกียร์ CVT ให้เร้าใจจะต้องอาศัยความเข้าใจต่อชุดเกียร์อยู่บ้าง แต่ โดยรวมแล้ว Subaru Forester 2.0 iL กลับสามารถผลิต 150 แรงม้า ที่สามารถไล่บี้รถที่มีกำลังมากกว่าได้อย่างสบาย อัตราเร่ง 0-100 ส่วนใหญ่อยู่ในช่วง 12 วินาที แต่น่าแปลกที่ครั้งหนึ่งเมื่อคุณรู้จักนิสัยเกียร์ CVT ก็สามารถเร่งได้ดีถึง 9.7 วินาที ส่วนอัตราเร่ง 80-120 ก.ม./ช.ม. เบสที่ 8.4 วินาทีและบางจังหวะเร่งได้เร็วกว่านั้น
|
ครั้งที่ 1 |
ครั้งที่ 2 |
ครั้งที่ 3 |
เฉลี่ย |
อัตราเร่ง 0-100 ก.ม./ช.ม. |
12.60 |
12.30 |
9.70 |
11.53 |
อัตราเร่ง 80-120 ก.ม./ช.ม. |
8.40 |
8.00 |
8.40 |
8.27 |
และถ้าในอัตราเฉลี่ยเวลา 11.53 วินาทีมันก็ไม่ธรรมดาเช่นกันในเรื่องอัตราเร่งที่แรงม้าไม่มากมาย แต่แรงบิดเหลือร้ายสามารถปราบรถสปอร์ตรุ่นเริ่มต้นบางตัวได้ หรือ เจ้าพวกรถแต่งชอบขอท้าลองอันนี้เคี้ยวหมูเลยดีกว่า
ความรู้สึกที่ให้ความสปอร์ตแบบผู้ดีไม่ดิบดุ แม้เราจะขับรถยนต์ยี่ห้อ Subaru นั้น ทำให้โดยรวมแล้ว Subaru Forester มีความเป็นผู้ใหญ่มากขึ้นและลบภาพรถที่ต้องดึงหลังติดเบาะจนพระพะยอมอาจจะขอโดดออกจากรถตั้งแต่ 100 เมตร แรกก็ได้
ยิ่งเมื่อขับไปตามที่ต่างๆในกรุบเทพมหานคร ก็ยอมรับว่ามันเหมาะมาในแง่ของการใช้งานจริง ขนาดยาว 4.5 เมตร เศษ ไม่ได้เป็นปัญหาต่อการแทรกตัวตามการจราจรที่คับคั่งด้วยรถเฟี้ยวฟ้าวด้วยรถมอเตอร์ไซค์ กำลังเครื่องที่มากพอจะแบกน้ำหนักตัวได้อย่างสบาย ทำให้มันมีความคล่องตัวค่อนข้างสูงในเมือง ยิ่งได้ระบบพวงมาลัยไฟฟ้ามาตอบโจทย์ ซึ่งจะปรับน้ำหนักให้ตามสภาวะการขับขี่ ยิ่งทำให้เรารัก Subaru Foresterมากในแง่การขับขี่ในเมือง
ถึงจะต้องยอมรับว่า Subaru Forester ทำให้เราประหลาดใจได้ในหลายๆ เรื่องแต่เอาเข้าจริงนิสัยเครื่อง 2.0 ลิตร ก็ยังเป็นปัจจัยสำคัญสำหรับการเดินทางในเมือง แม้เครื่องยนต์ขนาดนี้กับรถอเนกประสงค์จะเรียกว่าสมน้ำสมเนื้อ แต่เอาเข้าจริงติดจริง ไปพร้อมกับนั่งดราม่าตรงหน้าไฟแดงตามถนนใหญ่ๆในเมือง มันกลับไม่ประหยัดมากมายนักด้วยตัวเลข 7.67 ก.ม./ลิตร ซึ่งค่อนข้าวจะซดกว่าพอตัว ถ้าเทียบกับรถยนต์ที่เป็น 4 สูบแถวเรียงทั่วๆไป
เมื่อเป็นรถยนต์อเนกประสงค์เราก็ควรจะต้องใช้ความอเนกประสงค์ให้เป็นประโยชน์ เรานัดเพื่อมาร่วมทดสอบพาเที่ยวใกล้ๆที่ชลบุรี แต่ให้ตายเหอะ!! ก่อนเดินทางก็ดันตื่นสาย โหมดสปอร์ตจึงต้องถูกใช้ให้เป็นประโยชน์
ไม่ใช่นิสัยที่ดีเลยที่บ้านคุณอยู่นนทบุรีแล้วต้องซิ่งรถไปยังอ่อนนุชภายในเวลาไม่ถึง 20 นาที คงไม่ต้องจินตนาการอะไรมากนอกจากใส่เต็มจัดเต็มที่สุด เพื่อไปให้ทันเวลานัดหมาย ซึ่งก็น่าจะเป็นเรื่องที่หลายคนอาจจะเจอได้ในชีวิตประจำวัน
การใช้ความเร็วสูงในSubaru forester ค่อนข้างมั่นใจได้เกินคาดแม้นาทีนี้ จ่ายตังค์ที่ด่านประชาชื่นแล้วจะทะยานออกตัวอย่างรวดเร็ว โหมดสปอร์ตถูกใช้เพื่อเค้นสมรรถนะสูงสุดในการเดินทางให้ถึงจุดหมายได้เร็วขึ้น แต่ชุดเกียร์CVT ก็ต้องรู้ใจมันสักนิด แต่ยังดีที่คุณสามารถควบคุมอัตราทดผ่าน Paddle Shift กระดิกนิ้วที่พวงมาลัยตามความต้องการ
เรื่องระบบกันสะเทือนมั่นใจได้มากขึ้น ด้วยระบบช่วงล่างแบบแม็คเฟอร์สันสตรัททางด้านหน้า ส่วนด้านหลังเลือกใช้แบบปีกนกอิสระสองชั้น ตอบเรื่องความมั่นใจในการขับขี่มากขึ้นและในความเป็นจริง เมื่อรวมเข้ากับ ระบบ Symmetrical All Wheel Drive หรือระบบขับเคลื่อน 4 ล้อของ Subaru การถ่ายน้ำหนักและการทรงตัวในภาพรวมจึงทำออกมาได้ดี
แม้การตะบันคันเร่งกว่า 140 ก.ม./ช.ม. บนทางด่วนในกทม. จะไม่ใช่ปกติวิสัยของใครหลายคน ตลอดจนการเข้าต่างระดับมักกะสันตัดไปออกทางด่วนขั้นที่ 1 ด้วยความเร็วระดับ 110 ก.ม./ช.ม. จนใครขับตามต้องมีเหวอกันบ้าง รวมถึงระบบเบรกก็มีความมั่นใจ ด้วยเบรกหน้าพร้อมจานระบายความร้อนส่วนด้านหลังใช้ดิสก์เบรกธรรมดาทั่วไป ทว่าก็จัดการฝูงม้าอยู่หมัด ซึ่งSubaru Forester ก็พิสูจน์แล้วว่าเรื่องสมรรถนะของมันไม่ได้ด้อยลงไปแม้จะเป็นคราบของรถอเนกประสงค์แต่ดีเอ็นเอของ Subaru ยังอยู่เหมือนเดิม
โชคดีที่เรามาถึงตามเวลานัดหมาย ก่อนจะจัดแจงขนของเพื่อเริ่มเดินทางกันออกสู่ต่างจังหวัดกันต่อ
การเดินทางบนทางหลวง ต้องเรียกว่า Subaru Forester มันเกิดมาเพื่อสิ่งนี้จริงๆ การนั่งรถที่มีความกว้างสบาย ช่วยให้ทุกเส้นทางเปี่ยมด้วยความสุข เราเดินทางกันทั้งหมด 5 คน ในรถและระหว่างทาง ก็ใช้ความเร็วธรรมดาทั่วไป
ที่ความเร็ว 90 ก.ม./ช.ม. Subaru Forester ใช้รอบเครื่อง 1600 รอบต่อนาที และที่ความเร็ว 120 ก.ม./ช.ม. ใช้รอบเครื่องเพียงแค่ 2100 รอบต่อนาทีนั้น ซึ่งรอบเครื่องที่ต่ำนิ่งเนียนตลอดการเดินทาง ก็หมายถึงโอกาสประหยัดน้ำมันมากยิ่งขึ้นกว่าเดิม และเราสรุปที่ปลายทางด้วยตัวเลข 13.23 ก.ม./ลิตร ส่วนใครที่อยากรู้ความเร็วสูงสุด ขอแอบกระซิบว่า 179 ก.ม./ช.ม. ยังเหลือ
สรุป ....สมรรถนะดีเกินคาด เพียงแค่ต้องให้รู้เท่านั้น
หลังจากปิดจ๊อบการทดสอบ Subaru Forester 2.0iL ...คำถามสำคัญย่อมมาตกที่ว่า ... เหตุใดคนจะไม่ซื้อ
ด้วยเรือนร่างหรือ ?? ….คงไม่ใช่
ด้วยสมรรถนะ ... ก็คงไม่ใช่อีกเช่นกัน
แต่คิดจนปวดกบาลว่า ทำไม รถดีๆแบบนี้ ถึงไม่เห็นมากมายนักบนถนนแม้อาจจะจริงอยู่ที่ Subaru Forester เพิ่งจะออกมาทำตลาดเมื่อไม่นานมานี้ ถ้ากล่าวกันตามความจริงเลย มันไม่ได้อยู่ที่รถ แต่อยู่ที่จะมีสักกี่คนที่รู้ว่า Subaru Forester หน้าหล่อๆ ดู ถึกๆ ออพชั่นครบนี้จะมีดีมากกว่าที่คาด
ยิ่งราคาก็ไม่ได้ตั้งมาแพงเลย ค่าตัว 1.84 ล้านบาท สามารถตอบโจทย์ได้อย่างชัดเจน ทั้งออพชั่นสมรรถนะ เพียงแค่อาจจะต้องยอมรับเรื่องเงินวางดาวน์ที่ยังสูงอยู่พอตัว ทว่าอย่างที่หลายคนพูดถึง Subaru มันต้องเป็นรถที่คนรู้จะซื้อ ทว่าไหนๆ จะเดินเกมปรับตัวเป็นรถตลาดครึ่งขาแล้ว
การเดินเกมทำให้คนเข้ามาคบหาได้ก็สำคัญเช่นกัน เพราะในภาพรวม Subaru Forester 2.0 iL เป็นรถอเนกประสงค์เปี่ยมด้วยสมรรถนะและความดูดี เหลือเพียงแค่จะมีสักกี่คนที่รู้ ....สวัสดี
สรุปผลการทดสอบ Subaru Forester 2.0 iL
รถยนต์ Subaru Forester 2.0 iL
ราคาจำหน่าย 1,840,000 บาท
ผลการทดสอบอัตราเร่ง
|
ครั้งที่ 1 |
ครั้งที่ 2 |
ครั้งที่ 3 |
เฉลี่ย |
อัตราเร่ง 0-100 ก.ม./ช.ม. |
12.60 |
12.30 |
9.70 |
11.53 |
อัตราเร่ง 80-120 ก.ม./ช.ม. |
8.40 |
8.00 |
8.40 |
8.27 |
*หมายเหตุทดสอบด้วยโปรงแกรม Torque OBD II ในสภาพถนนเปิด
อัตราการทำงานของเครื่องยนต์
ความเร็วขณะขับขี่ (ก.ม./ช.ม.) |
การทำงานของเครื่องยนต์ (รอบต่อนาที) |
80 |
1500 |
90 |
1600 |
100 |
1800 |
110 |
2000 |
120 |
2100 |
ความเร็วสูงสุดขณะทดสอบ 179 ก.ม./ช.ม.
อัตราประหยัด
ในเมือง 7.67 ก.ม./ลิตร
นอกเมือง 13.23 ก.ม./ลิตร (เดินทางด้วยผู้โดยสาร 5 คนพร้อมสัมภาระ)
เรื่อง ภาพ และขับทดสอบ โดย ณัฐยศ ชูบรรจง ,
ติดตามความเคลื่อนไหวการทดสอบได้รถได้ที่ Facebook หรือแนะนำติชม หรือสอบถามข้อมูลการทดสอบเพิ่มเติมได้ที่[email protected]
นำเสนอบน Autodeft.com
สงวนลิขสิทธิ์ ห้ามนำส่วนหนึ่งส่วนใดไปใช้ โดยมิได้รับอนุญาต
ขอบคุณ คุณตะวัน คำฤทธิ์ ผู้จัดการฝ่ายการตลาด บริษัท ทีซี ซูบารุ (ประเทศไทย) จำกัด ที่ช่วยอำนวยความสะดวกเรื่องรถทดสอบ Subaru Forester 2.0 iL
ติดตามข่าวสารยานยนต์ รวดเร็วก่อนใคร ได้ที่ Autodeft.com
[GALLERY259]