New! Chevrolet Cruze เปลี่ยนแค่นิดเดียว แต่ต่างกว่าเยอะ
- โดย : Autodeft
- 10 ก.ย. 56 00:00
- 14,415 อ่าน
มาพบบททดสอบรถยนต์ Chevrolet Cruze ใหม่ สมรรถนะลงตัว เมื่อบรรจบด้วย E85
หากพูดถึงตลาดรถยนต์ที่มีการแข่งขันอย่างสูงในช่วงปีที่ผ่านมา คงไม่มีใครปฏิเสธว่า กลุ่มคอมแพ็คคาร์ดูจะเป็นกลุ่มยานยนต์ที่มีการเปลี่ยนแปลงค่อนข้างมาก โดยเฉพาะเมื่อรถยนต์กลุ่มนี้มีการรุกในตลาดพลังงานทางเลือก E85 ที่ถือว่าช่วยให้หลายคนใจชื้นเรื่องค่าพลังงานที่สูงขึ้นอย่างต่อเนื่อง
ราคาน้ำมันที่ถีบตัวสูงขึ้นทำให้ Chevrolet เป้นค่ายรถยตืรายล่าสุดที่เข้ามาทำตลาดในกลุ่มนี้ และการกลับมาอีกครั้งของรถยนต์ Chevrolet Cruze ก็ยิ่งทำให้ มันต้องเดินตามรอยคู่แข่ง หลังจากที่ค่ายรถยนต์เชฟโรเล็ตก็เป็นอีกค่ายรถยนต์ที่ปลุกปั้นให้รถยนต์ของตัวเองสามารถรองรับพลังงานทางเลือก E85 ได้
การกลับมาของ Chevrolet Cruze Minorchanged ใหม่นั้น เริ่มต้นด้วยการปรับโฉมตัวเองให้เสน่ห์ที่แตกต่าง โดยเฉพาะ การนำเสนอตัวตนใหม่ ด้วยการปรับกันชนหน้าใหม่ รวมถึงกระจังหน้า นั่นยังหมายถึงกันชนท้าย เรียกว่า ขับตามถนนถ้าไม่สังเกตจริงๆคงไม่รู้ว่า นี่แหละ ไมเนอร์เชนจ์แล้ว
ยิ่งถ้าให้มองจริง จุดที่พลาดไป คงไม่พ้นไฟท้าย ที่น่าจะมีการเปลี่ยนแปลง หลังจากมีเสียงจากลูกค้า ว่ามันดูไม่หรูมากอย่างที่ควรเป็นทั้งยังมีความคล้ายกับคู่แข่ง มาก ซึ่ง หลายคนก็คงหวังว่าจะเห็นการเปลี่ยนแปลงมันมากกว่านี้ เมื่อนับว่านี่คือรุ่นปรุงโฉม
ภายในห้องโดยสาร วันนี้เราเริ่มต้นด้วยการขับขี่ในรุ่นดีเซล ซึ่งที่จริงในเวอร์ชั่นที่ปรับไมเนอร์เชนจ์ การเปลี่ยนแปลงหลักอาจจะอยู่ที่เครื่องยนต์เบนซิน ที่สามารถใช้น้ำมันพลังงานทางเลือก E85 ได้ แต่ในดีเซลเอง ก็มีการปรับเปลี่ยนที่สำคัญไม่แพ้กัน
ที่จริงห้องโดยสารของรถยนต์รุ่น LTZ ของ Chevrolet Cruze ใหม่ ทุกรุ่น จะมีการเปลี่ยนแปลงในเรื่องของสีที่ใช้ โทนเดิมที่เป็นชานมตัดกับเทาดำ เป็นน้ำตาลไหม้ แทน ซึ่งจะว่าไป มันทำให้ลดดีกรีความวัยรุ่นลงไป กลายเป็นรถที่ดูแล้ว เหมาะสำหรับคนมีอายุมากขึ้น แต่จะว่ากันตามจริง แล้วกลุ่มเป้าหมาย ของ ครูซ คือ กลุ่มคนที่วัยกลางๆ และต้องบอกว่า สีนี้แก่เกินไปจริงๆ นั่นแหละ
ด้านรายละเอียดอื่นๆ ไม่ได้มีการเปลี่ยนแปลงอะไรมากมายนัก ความจริงแล้ว มันทำให้ มีความลงตัวยิ่งขึ้น หากนับรวม Chevrolet Cruze เต็มไปด้วยความทันสมัยเป็นทุนเดิม เพราะ รายละเอียดอื่นๆก็ไม่ได้ เปลี่ยนแปลงอะไรมากมายนัก
ในวันนี้อย่างที่บอกไปแล้วว่า เราเริ่มต้นกันที่รุ่นเครื่องยนต์ดีเซล ซึ่งก็ไม่ได้เป็นพระเอกในงานนี้นัก เพราะ เครื่องยนต์ดีเซล มีการปรับแต่งไปแล้วหนึ่งรอบเล็กด้วยการทำให้มันมีไอเสียต่ำเข้าสู่มาตรฐานยูโร 4 ตั้งแต่เมื่อช่วงปีกลาย และเป็นเครื่องยนต์ดีเซล ที่แรงกว่าในตลาดทั่วโลก และสมรรถนะของมันก็เทียบเท่าใน Chevrolet Captiva ดีเซลที่มีขายในบ้านเรา
ครั้งนี้ Chevrolet Cruze มาพร้อมการเปลี่ยนแปลงในเรื่องของระบบส่งกำลัง อาจจะยังเป็นระบบเกียร์อัตโนมัติ 6 สปีด แต่ก็พัฒนาจนก้าวเข้ามาสู่เจนเนอร์เรชั่นที่สอง ที่มีความสำคัญอย่างมากในแง่ความสามารถและสมรรถนะ ซึ่งระบบเกียร์ในเจนใหม่นี้ มีการใช้ชุดปั้ม ชุดคลัทช์ รวมถึง ตัววาล์วใหม่ในเบื้องต้น ทำให้ มีความสามารถในการตอบสนองที่ดีขึ้น และ เช่นเดียวกัน ยังมีการปรับชุดโซลินอยด์ ที่มีความแม่นยำสูงไปด้วยพร้อมกัน
อาจจะฟังดูเป็นเพียงไม่กี่สิ่งที่เกิดขึ้นในระบบส่งกำลังใหม่นี้ แต่ มันก็มากพอที่จะให้เรารู้สึกได้อย่างชัดเจน สิ่งที่เปลี่ยนไป มันคือ บุคลิกในความนุ่มนวล ซึ่งเกียร์อัตโนมัติ 6 สปีด ให้ความลงตัว โดยเฉพาะการต่อเกียร์เปลี่ยนอัตราทดเกียร์ คุณแทบจะไม่รู้สึกว่า มันเปลี่ยนแปลง ที่จริง ต้องยอมรับว่าเกียร์ชุดนี้เป็นระบบส่งกำลัง แบบธรรมดา ตัวแรกที่กล้าพูดว่าทำได้ดี เทียบเท่าระบบเกียร์ CVT
การเปลี่ยนแปลงเรื่องความนุ่มนวล ยังมาพร้อมความสามารถในการตอบสนองที่กระฉับกระเฉงยิ่งขึ้น ส่วนหนึ่งน่าจะด้วยการเปลี่ยนแปลงที่สำคัญในพวกอัตราทดด้วยประกอบกัน ซึ่งเรายังไม่มีข้อมูลในเรื่องดังกล่าว แต่ด้วยการเปลี่ยนแปลงจนเห็นได้ชัดในการตอบสนอง ทำให้เชื่อว่า อาจจะมีการเปลี่ยนแปลงที่สำคัญ โดยเฉพาะของระบบเฟืองท้าย
ในรุ่นดีเซล เดิมที่เครื่องยนต์ที่กระฉับกระเฉงของมัน ทำให้มันเป็นรถสปอร์ตดีเซลที่มีความลงตัวอยู่แล้ว และเรียกว่า น่าจะเป็นคอมแพ็คคาร์ดีเซลรุ่นเดียวในตลาดที่มีอยู่ในตอนนี้ ซึ่งชุดส่งกำลังใหม่นี้เป็นการทดแทนเพิ่มการตอบสนองให้มากยิ่งขึ้น จนคุณสามารถเห็นได้ชัดอัตราเร่งดูดีมากขึ้น อย่างชัดเจน แต่กระนั่นมันก็ยังให้ความนิ่ม นวล ซึ่งทำให้รถมีบุคลิกที่ดูผู้ใหญ่ขึ้น บั่นทอนความเป็นสปอร์ตลงไป เพื่อให้ตรงกลุ่มเป้าหมายผู้ใหญ่ที่ไม่ไต้องการรถที่กระโชกโฮกฮากมากมายนัก
การเปลี่ยนแปลงในรุ่น ดีเซล ทำให้เราเฝ้ารอการขับขี่ในรุ่น 1.8 เบนซิน ซึ่งสิ่งที่สำคัญ อยู่ที่การเปลี่ยนแปลงให้รถยนต์สามารถใช้น้ำมัน E85 ได้ โดยได้มีการพัฒนาการวิศวกรรมในหลายๆส่วน โดยเฉพาะส่วนที่สำคัญ กับระบบจ่ายน้ำมันเชื้อเพลิง ที่ต้องมีการพัฒนาในหลายๆส่วน ให้สามารถรองรับได้ ตั้งแต่ถังน้ำมันที่อาจจะมีลักษณะการออกแบบที่คล้ายกับที่เดิมพัฒนาให้ตอบสนองพลังงานทางเลือก E20 แต่ต้องให้มีการทนการกัดกร่อนมากกว่า เดิม
อีกส่วนที่สำคัญ คือท่อน้ำมันเองที่ต้องมีความทนทานการกัดกร่อนมากขึ้น เช่นเดียวกับ การปรับชุดเซนเซอร์เพื่อดูน้ำมันที่เราใช้เติมรถและสั่งจ่ายอัตราส่วนผสมให้มีความเหมาะสมและลงตัวต่อลักษณะน้ำมันที่มีในถัง
อาจะเรียกว่าเป็นจุดเปลี่ยนที่สำคัญอย่างมากต่อ Chevrolet Cruze และมันทำให้เราสนใจว่า การเปลี่ยนแปลงครั้งนี้จะตอบโจทย์ดีหรือไม่ และเมื่อขึ้นขับ Chevrolet Cruze 1.8 ลิตร เราค้นพบว่า ทุกอย่างเปลี่ยนอย่างแท้จริง
ถ้าทียบกับรุ่นที่วางจำหน่ายก่อนหน้านี้ที่มีโอกาสได้สัมผัสไป Chevrolet Cruze ใหม่ถือว่าเป็นรถที่ออกแนวจะหนักแน่นเรื่องความหรูในสไตล์การขับขี่ที่ดูจะหนักๆไม่คล่องตัวนัก แต่ทั้งหมดนั้นหายไปเมื่อเป็นรุ่นไมเนอร์เชนจ์ที่เรากุมพวงมาลัยในการขับขี่
เครื่องยนต์เปลี่ยนให้มันมีการตอบสนองที่สำคัญ โดยเฉพาะในเรื่องของอัตราเร่งที่ปรู๊ดปราด เปลี่ยนจากรถที่ขับให้มันดูหล่อ เป็นรถที่สนุกสนานในการขับขี่ ซึ่งหลายคนน่าจะบอกว่านี่สิคือ คอมแพ็คคาร์ แต่ในแง่หนึ่งจุดขายของครูซคือความหรูหรา ที่อาจจะมีการตอบโจทย์ในเรื่องสมรรถนะบ้าง แต่การให้โจทย์เรื่องความหรูหราทำให้ มันมีการเปลี่ยนแปลงไปจากเดิม และดูขัดกับตัวรถเล็กๆ ทว่าก็ทำให้มันเร่งง่ายขึ้น แซงง่ายขึ้นกว่าเดิม
เครื่องยนต์ที่พัฒนาใหม่ได้รับการพ่วงเข้ากับระบบเกียร์อัตโนมัติ 6 สปีดในเจนเนอร์เรชั่นที่ 2 และอย่างที่บอกและเรารู้ได้ตั้งแต่เครื่องดีเซลแล้ว ว่ามันเปลี่ยนเกียร์เร็วขึ้นและนุ่มขึ้น นั่นทำให้ เรามองเห็นเรื่องการสูญเสียกำลังในการต่อเกียร์น้อยลง ที่จริงก็ทำได้ดีค่อนข้างมากเสียด้วยซ้ำไป จนเรียกว่า ถ้าคุณมองหารถหรูขับสนุกสบายกระเป๋า งานนี้โจทย์นั้นคงยกให้ Chevrolet Cruze ไปโดยปริยาย
แม้เครื่องยนต์จะเป็นที่โดดเด่นอย่างมาก ในการกลับมาอีกครั้งของ Chevrolet Cruze ใหม่ แต่สิ่งที่นอกเหนือ จากเครื่องยนต์นั้นยังมีระบบช่วงล่างซึ่งความจริงแล้ว ดูเหมือนจะมีการปรับแต่งใหม่เล็กๆ เมื่อเทียบกลุ่มเดิม เพราะ คุณสามารถที่จะรู้สึกได้เลยว่า รถ Chevrolet Cruze มีช่วงล่างที่นิ่มนวลมากขึ้นกว่าเดิม จนสามารถรู้สึกได้อย่างชัดเจน โดยเฉพาะทางด้านหลัง ซึ่งมีความนิ่มกว่าเดิม จนบางครั้งเข้าโค้งแรงๆ ช่วงล่างหลัง จะทำให้รถมีอาการท้ายปัด นั่นรวมถึงบางครั้งที่คุณเบรกแรงๆ ด้วยจะรู้สึกได้นิดๆ ซึ่งในแง่ของคนขับอาจจะไม่ชอบใจนัก แต่ถ้าเป็นคนนั่งเสียส่วนใหญ่ โดยเฉพาะตอนหลัง คุณจะรักมัน
เป็นอันว่าเท่านี้ก่อน สำหรับ Chevrolet Cruze 2013 ใหม่ที่ได้ไปสัมผัสมา และการเปลี่ยนแปลงที่มากมายจนบุคลิกเปลี่ยนไป เราก็ไม่ปฏิเสธว่าจ่ายเพิ่มอีกนิด แต่ให้อะไรมากกว่า นั่นคือความคุ้มค่า สำหรับรถยนต์คันหนึ่ง โดยเฉพาะกลุ่มปรับโฉม
เรื่องโดย ณัฐยศ ชูบรรจง
ติดตามข่าวสารรถยนต์รวดเร็วก่อนใครได้ที่ AUTODEFT.com