Honda Civic Hybrid ให้มากกว่าแค่คำว่า ”ไฮบริด”
- โดย : Autodeft
- 12 ก.ย. 56 00:00
- 11,861 อ่าน
มาพบบททดสอบ Honda Civic Hybrid ใหม่ เวอร์ชั่นไฮบริดที่เร้าใจมากกว่าที่คิด
ตั้งแต่เมื่อเริ่มปีนี้มาข่าวคราวการมาถึงของว่าที่รถยนต์รุ่นใหม่ ในตระกูลคอมแพ็คคาร์ที่ครั้งนี้จะกลับมาด้วยการแนะนำรถยนต์ไฮบริดใหม่ของค่ายรถยนต์ฮอนด้า และมันยิ่งน่าสนใจเมื่อพูดว่านี่คือรถยนต์คอมแพ็คคาร์ยอดนิยม
ตั้งแต่เริ่มแนะนำรถยนต์ Honda Civic ใหม่ ค่ายรถยนต์ฮอนด้า ความพยายามในการแนะนำอะไรใหม่ๆสู่ตลาด ยิ่งเมื่อย้อนกลับไปในอดีตโครงการพัฒนารถยนต์ไฮบริดสู่ตลาดบ้านเรา มีมานมนาน เรียกว่าคุยกันมาตั้งแต่ปีมะโว้ราวๆ ปี 2000 ครั้งเมื่อรุ่น Civic dimension
แม้จะใช้เวลาอีกยาวนานกว่า 13 ปี กว่าที่รถยนต์ไฮบริดจะแนะนำสู่ตลาดใหม่อย่างเป็นทางการเมื่อเดือนกุมภาพันธ์ที่ผ่านมา และด้วยควานที่ฮอนด้าแนะนำ Honda Jazz Hybrid ไปเมื่อช่วงกลางปี 2555 ทำให้ Honda Civic Hybrid เป็นที่จับตาในหลายด้าน
การมาของ Honda Civic Hybrid นับเป็นโจทย์ที่ให้ความสำคัญมากต่อตลาดรถยนต์ ด้วยการให้รายละเอียดทางด้านความทันสมัย ในเรื่องการตบแต่ง หนักไปทางเรื่องอากาศพลศาสตร์ จนบางทีก็ดูมากเกินไป ส่วนหนึ่งที่ไม่ลงตัว บ่องตรง (บอกตามตรง) เป็นล้อแม็กที่ให้มาการออกแบบลายที่เน้นหลักอากาศพลศาสตร์ให้ความประหยัดกลายเป็นความไม่สวยงาม ทั้งที่จริง มันสามารถไปได้พร้อมกัน หรือหาทางเลือกอื่นๆที่ดีกว่า นี้ ..น่าจะดีกว่า
แม้ล้อจะไม่สวยงามมาจนหลายคนต่างติชมตามความชอบส่วนบุคคล แต่เมื่อขึ้นขับ Honda Civic Hybrid เริ่มให้รายละเอียดห้องโดยสารไม่ต่างจากเดิมมากนัก ความกว้างนั่งสบาย ที่น่าแปลกใจ คือเราไม่พบเบาะนั่งปรับไฟฟ้า ทั้งที่น่าจะให้มาได้ ด้วยการให้อารมณ์ทันสมัย ทว่าเบาะปรับมือดูง่ายๆก็ให้อารมณ์สบายๆ แต่จะดูดีกว่านี้ถ้าได้อะไรที่ดูทันสมัยมากขึ้น
ใต้ฝากระโปรง Honda Civic Hybrid มาพร้อมเครื่องยนต์ขนาด 1.5 ลิตร ให้กำลังสูงสุด 91 แรงม้า และให้แรงบิดสูงสุด 132 นิวตันเมตร ผนวกเข้ากับมอเตอร์ไฟฟ้าขนาด 20 กิโลวัตต์ ให้กำลังเทียบเท่า 23 แรงม้า และ ให้แรงบิดสูงสุด 106 นิวตันเมตร ส่งกำลังด้วยแบตเตอร์รี่ลิเธียมไอออน และส่งกำลังลงตัวผ่านชุดเกียร์ CVT
การตอบโจทย์เรื่องสมรรนถะครั้งเริ่มต้นในการเดินทาง ไปยังปลายทางดอนหอยหลอด โดยต้องแบ่งขับกับพี่นักข่าว แต่แน่นนอว่า งานนี้เหมือนจะโชคดีได้ไม้แรกในการเดินทาง ปุ่มกดสตาร์ทให้อารมณ์ที่ดูทันสมัย สีแดงผาดให้ความรู้สึกว่ามันสปอร์ตมากกว่าที่คิด
เข้าเกียร์ D เราเคลื่อนตัวออกสู่ถนนใหญ่ โดยในการเดินทางกดโหมด ECON ไว้ตลอดการเดินทาง เมื่อเหยียบเบรกเครื่องยนต์หยุดทำงานชั่วคราว เพื่อลดการก่อมลพิษและเช่นเดียวกันมันให้ความประหยัด และครั้งนี้ระบบปรับอากาศยังให้ความเย็นสบายเหมือนเดิม แถมดีกว่า Honda Jazz Hybrid ส่วนหนึ่งทีมวิศวกรบอกว่า คอมเพรสเซอร์ใน Honda Civic Hybrid เป็นแบบไฮบริด ซึ่งใช้ทั้งระบบสายพาน และเช่นกันยังใช้ไฟฟ้าการทำความเย็น ให้ความสบายต่อห้องโดยสาร
การให้ความสบายสูงสุดในห้องโดยสาร ทำให้ เราแทบไม่รู้สึกถึงความเปลี่ยนแปลงที่มี แน่นอนว่าเว้นแต่การติดเครื่องยนต์ให้กลับมาทำงาน แรงสั่นสะเทือนทำให้เรารู้สึกและขับเคลื่อนต่อ โดยช่วงแรกเป็นเส้นทางบนทางหลวง วงแหวนตะวันตก การขับขี่ช่วงนี้เป็นช่วยที่ดีในเรื่องอัตราเร่ง
เมื่อจุ่มคันเร่งลงไป มอเตอร์ไฟฟ้าจะเข้ามาตอบสนองพร้อมกับเครื่องยนต์จะเริ่มทำงานเพื่อผสานอัตราเร่ง ให้อัตราแรงบิดที่เพียงพอสำหรับการเร่งแซง แม้จะเป็นช่วงสั้น แต่แรงบิดสูงในรอบต่ำ ทำให้มีการตอบสนองที่ไว้ใจได้มาก ในช่วงสั้นๆรถซีวิค พร้อมผู้โดยสาร 4 คน สามารถเทคตัวได้อย่างรวดเร็ว ผ่านช่องแคบๆ ที่ต้องใช้จังหวะและกำลังเครื่องเป็นสำคัญ จนเมื่อถึงสะพานข้ามแม่น้ำเจ้าพระยา
สะพานที่สูงลิบลิ่วทำให้เราต้องเอาชนะแรงดึงดูดของโลก แต่มันก็ไม่ทำให้ผิดหวัง ด้วยอัตราเร่งที่พาขึ้นไปเรื่อยๆแบบง่ายดาย แรงบิดที่ดีจากมอเตอร์ไฟฟ้า ทำให้รถวิ่งขึ้นได้สบายและไม่มีปัญหา แม้ จะเจอรถช้าข้างหน้า แต่มันก็พร้อมตอบสนองตลอดเวลา เมื่อนับว่าเครื่องยนต์ 1.5 ลิตรผสานการทำงานมอเตอร์ไฟฟ้า ตอบโจทย์ได้ดีเพียงใด
ช่วงระหว่างขับขี่ สิ่งที่น่าประทับใจเรื่องอัตราเร่ง นำมาสู่การลองขับขี่แบบสปอร์ตดูเล็กๆ การเปลี่ยนเลนที่เร็ว การทำความเร็วสูงสุด เปลี่ยนความรู้สึกที่มีเรื่องความประหยัดในรถ Honda civic HyBrid ใหม่ ไปโดยสิ้นเชิง การเร่งที่ตอบสนองดี ให้ความยอดเยี่ยมมากยิ่งขึ้น ด้วยช่วงล่างที่ปรับให้มีความรู้สึกลงตัวยิ่งขึ้น แม้แบตเตอร์รี่ลิเธียมไออนจะถูกวางไว้หลังคนนั่ง ก็ตามแถมมีน้ำหนักที่เพิ่ม แต่การปรับช่วงล่างให้เหมาะสม ด้วยการเปลี่ยนชุดสปริงหลังใหม่ ก็ทำให้รถมีการทรงตัวที่ดีขึ้น นุ่มนวลขึ้น และน้ำหนักที่เพิ่มขึ้น ช่วยให้มีการกดทับที่ดี สร้างสมรรถนะที่ดีขึ้นในการขับขี่
นอกจากช่วงล่างที่ดีขึ้นมากอย่างชัดเจน อีกกสิ่งที่หลายคนอาจจะไม่สังเกตก็คือ Honda Civic Hybrid ใหม่ ไม่ได้ใช้เบรกด้วยระบบหม้อลมเหมือนรถทั่วไป วิศวกรฮอนด้าบอกว่า ส่วนหนึ่งที่ยกเลิกออกไปนั้น ก็เพื่อให้มีการตอบสนองต่อระบบไฮบริดดีขึ้น ซึ่งถ้าไม่บอกก็ไม่รู้ เพราะ ตอนขับขี่ เรารู้สึกแค่เบรกของรถจะมีลักษณะทื่อๆ แต่มั่นใจ โดยการเบรกช่วงแรกจะมีความรู้สึกการดึงของเครื่องยนต์ หรือ Engine Brake อาจจะทำให้หน้าทิ่มบ้างถ้ามาเร็วเหยียบเบรกแรงๆ แต่เมื่อคุ้นฝ่าเท้า คุณจะสามารถทำการเบรกให้นิ่มได้ และนี่คือความก้าวหน้าอีกขึ้นที่สำคัญในรถคันนี้
ไม่เพียงแค่การปรับเปลี่ยนเท่านั้น แต่เมื่อเทียบกับรุ่นเล็ก ข้อหนึ่งที่ทำได้ดีขึ้นคือ โหมดไฟฟ้า หรือ EV แต่ดันกลายเป็นว่า เมื่อระบบทำงานเราจะไม่รู้สึกสังเกต เพราไม่มีการขึ้นคำแสดงการทำงานเหมือนที่เราเคยเจอมา ครั้งนี้ โหมด EV ต้องอาศัยการสังเกตในหน้าจอแสดงผลการทำงาน ซึ่งจะแสดงการทำงานของมอเตอร์ไฟฟ้า และเครื่องยนต์ ซึ่งเมื่อระบบทำงาน เครื่องยนต์จะไม่จ่ายน้ำมันไปยังหัวฉีด ชุดวาล์วจะเปิด คล้ายการทำงานของระบบ Variable Cylinder Management (VCM) ที่ใส่ไว้ในเครื่องยนต์ V6 ของรถยนต์ Honda Accord ส่วนที่หน้าจะแสดงผลการทำงานของมอเตอร์ไฟฟ้าล้วน ซึ่งถ้าไม่สังเกตคุณก็จะไม่สังเกตว่าเข้าโหมดไฟฟ้า จนนับว่าเป็นจุดบอดข้อหนึ่ง
แม้จะมีข้อที่ทำเข้าใจยาก แต่ครั้งนี้การเข้าโหมดง่าย ด้วยเงื่อนไขเดิมเหมือนกับ Honda Jazz Hybrid ที่ครั้งนี้ปรับจากที่ความเร็วสูงสุด 50 ก.ม./ช.ม. ของระบบ มาเป็น 70 ก.ม./ช.ม. ทำให้มีช่วงกว้างมากขึ้นเหมาะสมต่อการใช้งาน ซึ่งเราได้ลองดูเล็กช่วงทางว่างๆ มันก็สามารถใช้งานได้ง่ายทว่าก็ต้องเข้าใจเงื่อนไขที่ครบ และ ความเร็วที่ทำได้ในโหมดไฟฟ้าตอนนั้น คือ 58 กิโลเมตร/ชั่วโมง ถือว่าไม่ได้ช้าเลย สำหรับระบบไฟฟ้าที่ตอบสนองได้ดี มากกว่าเดิม
แน่นอน สิ่งที่หลายคนอยากทราบคงไม่พ้นว่าแล้ว Honda Civic Hybrid ใหม่ ประหยัดเท่าได้ และจากการขับขี่ในวันนี้ Honda Civic Hybrid ใหม่ พร้อมผู้โดยสาร 4 คนตอบโจทย์ด้วย ตัวเลข 15.5 กิโลเมตร/ลิตร สำหรับการขับขี่ในอัตราเฉลี่ยรวมบนหน้าปัด โดยช่วงระหว่างทางเราพบการจราจรติดขัด บนทางด่วน วงแหวนตะวันออก ต้องเหยียบๆเร่งๆ ต่อเนื่องกว่า 5-6 กิโลเมตร และช่วงนั้นเราได้เห็นข้อดีของมอเตอร์ไฟฟ้า ที่เทคตัวรวดเร็วทุกครั้งในการกดคันเร่ง
จะว่าไป โดยรวม Honda Civic Hybrid เอง เป็นรถที่มีดีในทุกด้าน มันมากกว่าคำที่โฆษณา 30 วินาที พร้อมนักสเก็ตน้ำแข็งสองคน แต่แน่นอนราคา 1.035 ล้านบาท ก็ไม่ใช่เรื่องง่ายๆที่คนทั่วไปจะตัดสินใจในการเข้ามาคบหารถรุ่นนี้ ซึ่งโจทย์ของ Honda ไม่ได้อยู่ที่ประสิทธิภาพรถ แต่อยู่ที่จะทำอย่างไร ?? ในการโชว์สมรรถนะที่มีอย่างเปี่ยมล้นออกมาจูงใจลูกค้า ด้วยตัวมันเอง ไม่ใช่แค่บอกว่าเล่าให้ฟัง เท่านั้น... นี่แหละ เรื่องที่น่าคิด.....สวัสดี
เรื่องและทดสอบ โดย ดินน้ำมัน
ติดตามข่าวสารรถยนต์รวดเร็วก่อนใครได้ที่ AUTODEFT.com