Chevrolet Spin ร่ายเสน่ห์ฟังชั่น ซาเต๊ะมะกันสไตล์อิเหนา
- โดย : Autodeft
- 10 ก.ย. 56 00:00
- 9,405 อ่าน
มาแล้ว บททดสอบรถยนต์อเนกประสงค์ Chevrolet Spin สมรรถนะมะกันในครายความเป็นรถจากแดนอิเหนา
ทุกวันนี้ซื้อรถยนต์สักคันให้มันคุ้มค่าในการใช้งาน ต้องยอมรับว่า มันยากเสียยิ่งกว่างมเข็มในมหาสมุทรเสียอีก ครั้นจะซื้อรถแบบหนึ่ง ก็จะได้รถสไตล์หนึ่งที่สามารถตอบโจทย์ เรื่องความคุ้มค่าต่างๆได้ แต่ไม่มีรถไหนที่ว่าจะตอบโจทย์ได้หมดทุกสิ่งเป็นทุกอย่างใช้ได้ แม้แต่ หอบกิ๊กไป เที่ยว พาแฟนไปเดินเล่น หรือ มีครอบครัว เรียกว่า คบหาดุใจกันยาวๆ ค่าตัวก็ไม่แพง ดูแลก็ง่ายอะไรแบบนั้น
ถ้าคุณเป็นคนเรื่องเยอะขนาดนี้ ในเรื่องความคุ้มค่า ไม่แปลกที่เราจะบอกว่า รถดีๆ คุ้มค่ายังมีในโลก เพียงแต่ คนไทยไม่คุ้นเคยกับมันเท่าไร คนอเมริกาเรียกรถแบบนี้ว่า Mini Van คนไทย เรียก รถแวน หรือ สเตชั่นแวกอน แล้วแต่นานาจิตตัง ของคนที่รูจักมัน อละวันนี้หนึ่งในรถที่ว่าก็กลับมาทำตลาดไทยอีกครั้ง
หวนย้อนไปราวๆ ปี 2000 สิบกว่าปีที่แล้วจะได้ แบรนด์รถยนต์ Chevrolet ที่ไม่มีใครคิดมองมันก็กลับมาผงาดได้อย่างหน้าตาเฉยในกลุ่ม แม้บ้าน ต้องส่งลูกไปทำงาน และเช่นกัน กับคนรักครอบครัว ใครก็ต้องเหลียวมองรถยนต์ Chevrolet Zafira ที่แม้เวลาผ่านไป แต่หลายคนยอมรับว่า นี่ยังเป็นหนึ่งในรถที่ดี ที่สุดของเชฟวี่ ที่ตราตรึง ด้วยความท้าทายตลาดในการเอารถยนต์ อเนกประสงค์แบบ Multi-Purpose Vehicle หรือ MPV เข้ามาทำตลาด และ ด้วยตัวเลือกที่น้อยในช่วงนั้น ราคาที่ไม่ได้แพงมากมายนัก Zafira ก็กลายเป็นรถยนต์ที่ขายดี ขึ้นมาทันใด
แม้จะผ่านมากว่า 10 ปี แล้ว แต่ Chevrolet Zafira ก็ยังเป็นรถที่ถูกใจหลายคน จนเรียกว่า เป็นรถรุ่นหนึ่งที่สำคัญอย่างเนียมแน่นของแฟนเชฟวี่ แม้ ต้องยอมรับว่าค่าบำรุงมันนั่น จะแพงกันเสียหน่อยก็ตามที แต่เมื่อครั้ง เมืองนอกเปิดตัวรุ่นใหม่ที่วางขายในนาม Opel เฉกเช่นที่เคยเป็นมา เมื่อครั้น Zafira จะเข้ามาจำหน่ายในไทย แต่ที่น่าแปลกเรากลับไม่เห็นข่าวคราวในภูมิภาคเอเชียตะวันออกเฉียงใต้แถบบ้านเรา
ทำไม??? เพราะ อะไร ?? คำตอบนี้ไม่ยาก เมื่อครั้น ผมอยู่ Sanook.com เว็บใหญ่อันดับหนึ่ง ก็ได้รับจดหมายด้วยให้ไปเยือนงาน Jakata Motor Show จากค่าย Chevrolet เมื่อปี 2012 แม้ว่าจะได้ไปต้องตบตีจากเจ้านายแทบตาย ทว่าก่อนออกเดินทางไม่กี่วัน เราก็ได้ทราบข่าวว่าคราวความเคลื่อนไหว เมื่อมีข่าวรถยนต์อเนกประสงค์ขนาดเล็กใหม่หลุดออกมา
ชื่อเสียงเรียงนาม Chevrolet Spin ไม่ว่าใครก็คง ฉงนว่า ชื่อที่ดูไม่น่าสมเหตุผล ของ รถยนต์ อเนกประสงค์ขนาดเล็ก 7 ที่นั่งนี้มันน่า จะหมายความว่า อย่างไน แต่ ให้ตายเถอะ เมื่อครั้นรู้ว่า ความจริง ต่องบอกว่า อกอีแป้นจะแตก เพราะ ชื่อเรา รู้ว่า มัน อาจจะหมาย ถึง ความสนุกสนาน กลับบกลายเป็นเพียงคำย่อของ เรื่องราวที่ต้องการสื่อว่า มันทำได้ จริงๆ นะ ตามภาษา 7 ที่นั่ง “Seven People In”
ตั้งแต่เมื่อเห็นครั้งแรก Chevrolet Spin เป็นรถยนต์ที่ดูแล้วมีความแตกต่าง จากรถยนต์ อเนกประสงค์ รุ่นอื่นๆที่ทำตลาด อยู่เป็นทุนเดิม โดยเฉพา การที่เรามีโอกาสไปดูมันครั้งแรกในอินโดนีเซีย เป็นสิ่งที่ชี้ชัดว่า มันมีความแตกต่าง ยิ่งกับตลาดใหญ่ขนาดนี้ เริ่มตั้งแต่การออกแบบที่ไม่ได้เน้นความหรูหรา หรือ ดูสปอร์ต ด้วยตลาดมีรถในสไตล์นี้มากมายก่ายกองอยู่แล้ว ทำให้ โครงการใหม่ของเชฟวี่นี้ ต้องการอะไรที่มากกว่านั้น
ต้องยอมรับว่า เราโชคดี มาก ที่ก่อนที่รถคันนี้จะคลอดที่ไทย ย้อนไปครั้น ที่ Jakata ตอนที่พรีวิวครั้งแรก ก่อนที่จะเริ่มผลิตอย่างเป็นทางการที่ศูนย์การผลิต เบกาซี เราได้ มีโอกาส พบ Matt Noons หัวหน้าศูนย์การออกแบบ GM Brazil ที่เข้ามารับผิดชอบในโครงการออกแบบ ว่าที่รถยนต์อเนกประสงค์ใหม่ ด้วยเช่นกัน
ที่ “แมท” เข้ามารับช่วงในโครงการรถอเนกประสงค์ Chevrolet Spin ก็เพรา ความสามารถของเขาในรถยนต์ที่ปล่อยออกมาก่อน น้า ใช่แล้ว คุณอาจจะคุ้นรถคันนี้เป็นอย่างดี ด้วยวลีเด็ด ที่ครอง ใจคนไทย เมือปีที่แล้ว “ใจถึงก็ไปถึง” ในรถยนต์ Chevrolet Trailblazer ที่ขายดี มาจนถึง วันนี้ ซึ่งแม้จะมีโจทย์ที่ใกล้เคียงกัน แต่กลายอย่างก็มีความต่างกันอย่างชัดเจน
ในครั้งแรกที่เราพบ Chevrolet Spin ใหม่ มันทำให้ เรานึกถึงคำพูดแมท ที่พูดคุยกับเราในเรื่องการออกแบบ ว่า เขารู้สึกว่า รถยนต์อเนกประสงค์อย่างรถสไตล์ MPV นั้นไม่ได้ต่างอะไร จากกล่องติดล้อวิ่งได้ นั่นมันทำให้ดูน่าเบื่อมากๆ เพราะ ลูกค้า ต้องการสไตล์ที่แตกต่าง และเข้าก็ต้องใจให้ มันดูมีความเป็นเชฟวี่เต็มตัวและสะกดใจลูกค้าที่ต้องการอะไรที่มากกว่าแค่ “กล่องติดล้อ”
อาจจะเรียกว่าด้วยประสบการณ์ที่ติดมาจากครั้งโครงการ Chevrolet Trailblazer ทำให้การออกแบบของ Chevrolet spin โดยรวมเน้นไปที่ความแข็งแกร่งอย่างชัดเจน เรือนร่างขนาดที่มีความยาวไม่ได้มากกว่า ซิตี้คาร์ มีความตลอดรอบคันเพียง 4,360 มม. กว้าง 1,953 มม.และสูง 1,683 มม. มาพร้อมกับ ฐานล้อ 2,620 มม.
แม้จะมีเรือนร่างที่ไซล์มินิ เมื่อเทียบกับ โปรเจคก่อนหน้านี้ของแมท แต่ก็ต้องยอมรับว่า การออกแบบในสไตล์ที่เน้นความแกร่ง สามารถผสานได้อย่างลงตัวกับเส้นสายที่ทันสมัย ซึ่ง ให้อะไรที่อตกต่างอย่าชัดเจน
กระจังหน้า Dual Port กลายเป็นสูตรสำเร็จ ทางการออกแบบ ที่ทำให้รู้สึกถึงความแข้งแกร่งไปโดยไปปริยาย ออกแบบรับเข้ากับไฟหน้า ที่ดูออกแนวคล้าย trailblazer บ้างเล็กน้อย แต่ย่อส่วนลงจากเดิมอีกนิดหน่อย ยิ่งมองบางมุมทางด้านหน้าห่างไกลสัก 100 เมตร ไม่บอกก็ไม่รู้ คงนึกว่า Mini Chevrolet Colorado กันเลยทีเดียว
ด้านข้างเส้นสายการออกแบบ ของ แมทยังเน้นความเป็นรถที่ดูแข็งแกร่งเช่นเดิม แต่ให้รายละเอียดเส้นข้างที่น้อยลง ทำให้ รถมีพื้นที่เรียบยิ่งขึ้น ดุแล้ว ทันสมัย ในขณะที่บั้นท้ายร่ายมนต์สะกด ด้วยความมันสมัย ในการออกแบบ ที่ดูแล้ว ยิ่งมีความแตกต่างกว่าเดิม ที่เคยเป็น
ภายในห้องโดยสาร องค์ประกอบเน้นความเป็นรถยนต์ นั่งที่เราหลายคนน่าจะคุ้นเคยการออกแบบเป็นอย่างดี กับแนวคิด Dual Cockpit ที่นำมาใช้ในรถยนต์นั่งหลายรุ่น แถมเอาความสปอร์ตเข้ามาบรรจบที่หน้าปัด ที่ดูคุ้นเคยจาก Chevrolet sonic แต่มันดูสุภาพกว่ามาก
เมื่อเหลียวหันมองด้านหลัง เบาะนั่งสามแถว ถูกตระเตรียมไว้ให้สำหรับ งานหนัก หากต้องพกคนไปสูงสุดถึง 7 คน ถ้า จำเป็น แต่ 5 คนน่าจะดูแล้ว กำลังดี สำหรับการใช้เบาะ แถวสอง แล้วเผื่อแถว 3 ไว้ ขนสัมภาระต่างๆ แถมด้วยสวิทช์แอร์แยก สำหรับผู้โดยสาร ที่จะได้เย็นตามต้องการ สำหรับคนขี้ร้อน
น่าเซ็งที่เบาะแถวสาม ไม่สามารถพับเรียบกับพื้นได้ จากวิธีการติดตั้งตัวเบาะ ซึ่งคล้ายเทรลเบรเซอร์ ทำให้ไม่สามารถพับแล้วเรียบเนียนได้ และ เมื่อใช้งานเบาะ แถวสาม แล้ว เราพบว่า จะมีที่วางของเหลือเพียง ราวๆ 162 ลิตร หรือ พอจุกระเป๋าใบโตๆได้ราวๆ 3 ใบ แล้วที่เหลือน่ะหรอ.. ถ้าใช้งาน 7 ที่นั่งบ่อยก็น่าจะต้องติดกล่องเก็บของเหนือหลังคา ที่มีราวมาแล้วพร้อมติดตั้ง
เมื่อกล้าพูดว่าตัวเองเป็นรถนั่ง เราจึงต้องลองเข้าไปนั่งกันเสียหน่อย และเบาะแถวสาม สำหรับคนสูง 182 ซม. อย่างผมนั้น ไม่ต่างอะไรจากการที่เราต้องพับตัวเองเก็บเข้าไปในกล่องบรรจุภัณฑ์ ส่งไปรษณีย์ด้วนไปยังปลาย ทางแม้ พื้นที่วางขาจะต้องนั่งคุดคู้ มีดีที่คุณสามารถเอามันไว้ซิทอัพได้ ถ้าต้องการ แต่ก็ยังดีที่มีพื้นที่เหนือหัวมากพอที่จะหายใจ
เบาะนั่งตอนสองน่าประทับใจ ในความนุ่มสบายของแผ่นหลัง ที่ทำออกมาได้ดีเช่นเดียวกับส่วนของการร่องนั่ง ทุ่มมีความเป็นรถนั่งพอตัว น่าแปลกที่การจัดวางตำแหน่งเบาะกับทำออกมาค่อนสูง แถม เมื่อมองการยัดคนสามคนในความกว้างของเบาะระดับนี้เรียกว่า คงอัดแน่นจนอบอุ่นย่างแน่นอน
ลองหลายอย่างอครบครัน ในที่สุดเราก็พร้อมที่จะขับขี่ Chevrolet Spin กันเสียที เจ้าอเนกประสงค์ จะชมมาก็เยอะ จะติก็แยะอยู่ แต่เมื่อนั่งตำแหน่งคนขับ ทันใดก็ร้องตะโกนออกมาเสียงหลงว่า ... อุ๊แม่เจ้า!!! ทันใด น้องที่ Sanook.com ก็หันมาถามว่า เป็นไร พี่ แล้วผมก็หันกลับไปบอกว่า เบาะนั่งสูง...ตุ๊ดดด ... หาย
คำที่ต้องดูเสียงอาจจะเป็นคำที่ดูไม่สุภาพไม่บทรีวิว แต่ จะว่าไป มันก็เป็นเช่นนั้นจริง ยิ่งคนตัวสูงอย่างผม รู้สึกได้ทันที แม้ จะจัดท่านั่งให้ตัวเองดูไม่เทอะทะไป หรือ ปรับเบาะ ต่ำที่สุดเท่าที่จะเป็นไปได้ ก็รู้สึกยังนั่งแบบเต่อๆ คล้าย นั่งเก้าอี้ทานก๋วยเตี๋ยวซกเล็กข้างทาง
เบาะนั่งที่ให้อภัยไม่ได้ คิดกลับกัน หรือเขาจะทำให้ไว้ให้ผู้หญิงเป็นคนขับ ตามฉบับคนเอเซียไซส์เล็ก พลันนึกได้ก็กวักตวัดมือเรียก พี่พีอาร์สุดสวยโสดซิง ที่รู้จักกันมานาน “พี่ตวง” ที่มีขนาดไซส์เล็กมินิ แม้แต่นางแบบ ยังอิจฉา มารองนั่งบ้างเผื่ออะไรๆ จะดีขึ้น
พี่ชอบ!!! ว้าย ตายแล้ว ไม่คิดว่าจะจริง เพราะหมายความว่าที่จริงการออกแบบเบาะนั่งของ Chevrolet Spin อาจจะเน้นที่กลุ่มเป้าหมายสตรีเพศมากกว่า สำหรับ แม่บ้านที่มีภารผูกพันเรื่องลูก ต้องไปรับไปส่ง มาโรงเรียนกลับบ้าน เป็นนิจกิจ ซึ่งนั่นจะทำให้ลงตัวตามโจทย์ของเจ้า Spin
เราเริ่มเคลื่อนตัว วันนี้ปลายทางเซทไว้ที่ระยอง และเราใช้เส้นทางจากย่านแบริ่ง ขั้นทางด่วนบูรพา วิถียิงยาวลงบางวัว .. ก่อนตัดออก มอเตอร์เวย์เข้าเส้นชลบุรีเมืองแกลง แล้วย้อนกลับมาอีกเล็กน้อย บนทางหลวงชนบท
ช่วงแรกของการขับขี่ Chevrolet Spin ได้พิสูจน์ตัวเองกับการขับขี่ในเมือง ในสภาพการจราจรติดจัด เป็นนิจกิจของคนเมืองไปแล้วในวันนี้
ด้วยความเล็กกะทัดรัด ภายใต้เรือนร่างซิตี้คาร์ ย่อมน่าจะเป็นโจทย์ที่ทางค่ายโบว์ไทน์อยากจะปั้นให้มันเป็นรถยนต์อเนกประสงค์ที่สนองตอบต่อการขับขี่เมือง ยิ่งดูเครื่องยนต์แบบ 4 สูบแถวเรียง ขนาด 1.5 ลิตร เพลาราวลิ้นคู่เหนือฝาสูบ DOHC (Double Overhead Camshafts) 16 วาล์วพร้อมระบบวาล์วแปรผันคู่ต่อเนื่อง DCVC – (Double Continuous Variable Camphasing) ให้กำลังสูงสุด 107 แรงม้า ที่ 6,000 รอบ/นาที และ เช่นกันยังให้แรงบิดสูงสุด 148 นิวตันเมตรที่ 3,800 รอบ/นาที ส่งลงเกียร์อัตโนมัติ 6 สปีด ที่วางไว้ใต้ฝากระโปรงแล้ว ยิ่งชัดเจนว่า นี่คือรถอเนกประสงค์ที่ต้องการให้เหมาะกับใช้งานในเมือง
โอ้ว!!! ไม่ใช่พระเจ้าจอร์ช มันยอดมาก แต่อะไรกันนี่ เราหมุนพวงมาลัยที่คาดหวังน่าจะเบาสบายนิดหน่อย จากคำบอกตอนสรุปข้อมูล เอาไว้ว่า Chevrolet Spin ใช้พวงมาลัยไฟฟ้าผ่อนแรง แร็กแอนด์พีเนียน แต่เมื่อสาวตอนความเร็วต่ำในช่วงออกตัวก็กลายเป็นว่ามันหนักมือใช้ได้ แต่ก็ดีขึ้นเมื่อล้อหมุน การเลี้ยวต่างเริ่มทำได้ดีขึ้น บ้าง แต่ก็ยังรู้สึกว่ามันหนักเช่นเดิม
แม้วงเลี้ยวจะไม่ประทับใจ แต่ระบบกันสะเทือนก็แทบไม่ต่างกัน ช่วงล่างดูแข็งไปนิด จากสปริงหนึบมาพร้อมโช๊คที่ตอบโจทย์อย่างรวดเร็วในทุกสภาวะถนน ไม่น่าจะใช่คำตอบที่ดีนักสำหรับรถยนต์ครอบครัว ยิ่งการขับในเมือง แม้จะเป็นช่วงสั้นก่อนติดไฟแดงที่เลี้ยวออกบางนา มันทำให้เรารู้สึกว่า ช่วงล่างค่อนข้างกระด้างไปนิดหนึ่ง ความจริง ช่วงล่างแบบนี้ค่อนข้างคุ้นเคยดีจาก Chevrolet Sonic
แน่นอนมันคือช่วงล่างแบบ Chevrolet Sonic แน่ๆ!!! ยิ่งขับยิ่งมั่นใจมากขึ้น เมื่อเข้าสู่ทางด่วนบูรพาวิถี เราใช้ความเร็วเดินทาง 100 ก.ม./ช.ม. และช่วงล่างที่ดูแข็งกระด้างเริ่มดีขึ้น ที่จริงมันดี ถึงขนาดนิ่งสนิท ในระหว่างการเดินทางบนถนนหลวง เลยทีเดียว แต่ก็แค่ประเดี๋ยวเดียวเท่านั้น รถขับกันช้าลง จากอุบัติเหตุข้างหน้า และนั่นทำให้ช่วงล่างกลับมาออกแววกระด้างอีกครั้ง
ในช่วงเข้าโค้งมันดีตามที่คาดด้วยแพลทฟอร์มของช่วงล่าง Chevrolet Sonic ที่เซทช่วงล่างด้านหน้าแบบอิสระแม็กเฟอร์สัน สตรัทพร้อมคอยล์สปริงและเหล็กกันโคลง ส่วนด้านหลังเป็นแบบคานแข็งกึ่งอิสระ คอยล์สปริงและเหล็กกันโคลง ช่วยให้สามารถตอบสนองได้ดี ยิ่งกับโค้งที่เข้าทางออกบางวัว เราวัดใจช่วงล่างดูและ พุ่งเข้าไปที่ความเร็ว 100 ก.ม./ช.ม. ผลเป็นไปตามคาด มันสามารถเข้าโค้งได้ดีทีเดียว แถมยังไม่มีการโยนตัวให้เห็น
ความจริงการเซทช่วงล่างในลักษณะนี้ถือว่าดีมาก กับรถสปอร์ตและ คนที่ชอบความสปอร์ตจะชอบเรายิ่งวิ่งเร็วขึ้นบนทางมอเตอร์เวย์ที่โล่งกว้าง เหยียบกันยาวๆ ยิ่งเห็นว่าช่วงล่างที่สปอร์ตให้ความมั่นใจในเสถียรภาพการขับขี่มากขึ้น
เหลียวมองมาตรวัดสปอร์ตที่ตรงหน้า เรายิ่งมั่นใจว่า Chevrolet Spin เป็น Chevrolet sonic ในร่าง MPV เมื่อใช้ความเร็วเดินทางเกียร์อัตโนมัติ 6 สปีด ช่วยให้ Spin ล้อหมุนอย่างสมเหตุสมผล ที่ความเร็ว 100 ก.ม./ช.ม. ใช้รอบเครื่องยนต์เพียง 2500 รอบต่อนาที และเมื่อเพิ่มความเร็วมากขึ้นเป็น 110 ก.ม./ช.ม. ก็ใช้ความเร็วอยู่ที่ 2800 รอบต่อนาที ส่วนที่ความเร็ว 120 ก.ม./ช.ม. ใช้รอบเครื่องยนต์ สูงไปเล็กน้อยที่ 3050 รอบต่อนาที เราคาดว่า น่าจะมาความต้องการของ วิศวกรในการรีดแรงบิดเครื่องยนต์ เมื่อต้องใช้งานหนัก บรรทุกเต็มอัตรา 7 คน
ในระหว่างการเดินทางเราอดคิดไม่ได้ว่า การนั่ง 2 คน อาจจะดูไม่สมเหตุผล นัก จึงใช้เวลาหลังในการหาคำตอบเรื่องการนั่งเต็มอัตรา 5 ที่นั่ง จากการออกแบบที่นั่ง แบบ 5+2 หลังการเดินทาง เราได้ วิศวกรผู้กล้า รวมทั้งพี่ๆ สื่อมวลชนหลายท่าน และ ที่ขาดไม่ได้ กูรูทางด้านรถยนต์ อย่างน้าตั๋ม มาช่วยตอบคำถามนี้ โดยมี พี่ตวง สตรีสาวมาช่วยด้วยอีกแรง
งานนี้น้าตั๋มรับบทเป็นคนขับให้เราโดยมีผมนั่งอยู่แถวสอง หลังน้าตั๋มพอดี ที่ต้องยอมรับว่า เมื่ออัดสามชายในแถวหลัง มันอบอุ่นแบบแนบชิด จนแอบคิดถ้าเป็นชายหนึ่งหญิงสอง คงจะเหมาะเหม็งใช่น้อย
เราใช้ช่วงระยะทางสั้นๆ เพื่อ ลองอัตราเร่ง ของรถดู แล้วพบว่า มันค่อนข้างที่จะตอบโจทย์ได้ดีพอสมควร น้าตั๋มบอกเราว่าเขาเดินคันเร่ง 1 ใน 4 ของ ทั้งหมด ลองดูความอืดอาดของเครื่องยนต์ แต่มันก็ไม่ได้มากมายอย่างที่คิดมากมายนัก คน 5 คนทีเหมารวมน้ำหนัก ติต่างว่า น่าจะมีราวๆ 600 ก.ก. สามารถตอบโจทย์เรื่องนี้ได้ดีเกินคาด มิหนำซ้ำยังเร่งได้แบบไม่สะทกสะท้านว่าน้ำหนักเพิ่มขึ้นด้วยซ้ำไป
น้ำหนักที่เพิ่มขึ้น แม้จะไม่ได้ขับเอง แต่รู้สึกว่า ช่วงล่างมีความนุ่มนวลมากขึ้นกว่าเดิม พอสมควร นั่นอาจจะหมายถึง Chevrolet Spin เซทติ้งมารองรับการนั่งอย่างเต็มพิกัด จึงอาจจะเป็นเหตุผลว่าทำไม เรารู้สึกแบบนั้นในช่วงแรกๆ
หลังจากจบทุกอย่างจากการทดสอบ Chevrolet spin ผมมีโอกาส พูดคุยกับทีมวิศวกรเล็กน้อย ว่า พวกเขาได้ มีการปรับแต่งใดๆ กับ Chevrolet Spin เพิ่มเติมหรือ ไม่ ก่อนที่จะวางจำหน่าย อย่างเป็นทางการ
ทว่าเราได้คำตอบว่า พวกเขาไม่ได้ปรับสิ่งใดๆ มาจากอินโดนีเซียยังไง ยังเป็นอย่างงั้น แถมยืนยันด้วยน้ำดื่มจากอินโดนีเซีย ที่ติดมาเป็นของแถมกับรถ ..ซึ่งถือว่าเป็นเรื่องที่ผิดมหันต์ ส่วนหนึ่ง ด้วยแต่ละตลาดอาจจะไม่เหมือนกัน จึงอยากฝากเรื่องนี้กับค่ายเชฟวี่ไว้ด้วย เพราะ แม้จะไม่ใช่เรื่องดีที่จะพูด แต่ก็จะบอกตามตรงว่า คู่แข่งมีการวิจัยในตลาดมานมนานก่อนที่จะวางจำหน่าย มีการนำรถเข้ามาปรับจูนอีกเล็กน้อย และมันทำให้รถดูลงตัวมากขึ้น แม้จะมีแหล่งที่มาจากแหล่งกำเนิดเดียวกัน
Chevrolet spin เป็นรถอเนกประสงค์ที่มีความลงตัวอย่างมากในหลายๆ ด้าน ที่จริง ตัวมันเองมีอะไรที่ให้มากกว่า รถยนต์อเนกประสงค์ทั่วไป โดยเฉพาะ ถ้ามองความคุ้มค่า ในแบบรถยนต์ที่สามารถใช้ได้ทุกโอกาส ทั้งครอบครัว งาน หรือ คุณพ่อจะหนีไปหลีสาว คุณแม่ไปช๊อปปิ้ง เจ้ารถสายเลือด ซาเต๊ะที่เขย่าเป่ามนต์ในสไตล์อเมริกาลงตัว เพียงคุณต้องรับความเป็นสปอร์ตของมันได้ รวมถึง คุณอาจจะยังไม่มีทางเลือกมากมายนัก
ผลการทดสอบ รถยนต์ Chevrolet Spin 1.5 LTZ
Chevrolet Spin 1.5 LTZ ราคาจำหน่าย 762,000 บาท
สรุปผลการทดสอบ
การทำงานของเครื่องยนต์ Chevrolet Spin (นั่งสองคน พร้อมสัมภาระ)
ความเร็วที่เดินทาง (ก.ม./ช.ม.) |
การทำงานของเครื่องยนต์ (รอบต่อนาที) |
80 |
2000 |
90 |
2300 |
100 |
2500 |
110 |
2800 |
120 |
3050 |
อัตราเร่ง 0-100 ก.ม./ช.ม. ใช้เวลา 15.516 วินาที
อัตราเร่ง 0-120 ก.ม./ช.ม. ใช้เวลา 22.53 วินาที
ระยะทาง 0-402 เมตร ใช้เวลา 20.518 วินาที
ข้อมูลและขับทดสอบโดย ณัฐยศ ชูบรรจง
ข้อมูลบางส่วนจากการสัมภาษณ์ แมท นูน ผู้อำนวยการการออกแบบ GM Brazil
ขอบคุณคาราวานทดสอบ โดย บริษัท เชฟโรเลต เซลส์ (ประเทศไทย) จำกัด
ข้อมูลการทดสอบรถยนต์เป็นของผู้เขียน ห้ามมิให้เผยแพร่ โดยมิได้รับอนุญาต หากต้องการนำไปลงสามารถติดต่อได้ที่ [email protected]
[GALLERY586]
ติดตามข่าวสารรถยนต์รวดเร็วก่อนใครได้ที่ AUTODEFT.com