Full Drive : Chevrolet Sonic 1.6 E85 จัดเต็มสมรรถนะ ดีกรีสปอร์ตสบายกระเป๋า

มาแล้วบททดสอบ Chevrolet Sonic 1.6 E85 จัดหนักขับจริง น้ำมันพลังงานทางเลือกสมรรถนะจะเร้าใจแค่ไหน

เรื่อง ภาพ และขับทดสอบโดย  ณัฐยศ ชูบรรจง

ซิตี้คาร์รถยนต์นั่งสำหรับคนเมืองนาทีนี้ใครที่ไปไหนมาบ่อยในย่านที่คนพลุกพล่านคงต้องมองหา กับรถยนต์นั่งขนาดเล็กตอบโจทย์ในการขับขี่ อาจจะต้องดูดีเตะตา สมรรถนะกลางๆ และ ถ้าได้ความประหยัดเข้ามาพ่วงด้วย อะไรจะเกินเลยกว่าคำว่า “สมบูรณ์แบบ”

การหารถสมบูรณ์แบบสักคันในตลาดในราคาที่เราหลายคนเป็นเจ้าของได้ไม่ใช่เรื่อง่าย แต่เมื่อปีกลาย Chevrolet ท้าทายตลาดด้วยการก้าวล่วงสู่ตลาดรถยนต์พลังงานทางเลือกแบบ Flex Fuel  ซึ่งเป็นรถยนต์ที่ความสามารถในการใช้พลังงานทางเลือก  E85  และหลังจากเปิดตัวมาหลายรุ่น ใครจะคิดว่าพวกเขาจะทิ้งไพ่ตาย ในซิตี้คาร์ที่เคยโดนใจใครหลายคน

รถยนต์  Chevrolet Sonic  1.6  เรียกว่าเปิดตัวมากก็กระแทกใจใครหลายๆคน ไม่ใช่จากการออกแบบที่ได้รับความชื่นชมจากกลุ่มเป้าหมายของรถยนต์ประเภทซิตี้คาร์ที่มักเป็นที่จับตาของวัยรุ่น แต่งวดนี้มันสร้างความสบายใจมากขึ้นด้วยสมรรถนะที่เพิ่มขึ้นของเครื่องยนต์ จากเดิมที่เคยเฉพาะนำรุ่น 1.4  ลิตร ออกมา ยิ่งการให้ความสามารถพลังงานทางเลือกรองรับน้ำมัน E85  มาเพิ่ม จนทำให้หลายคนที่เพิ่งจอง 1.4  ลิตร ถึงกับกัดฟันกรอด อยากเพิ่มเงินอีกนิดเล่น 1.6  ลิตร ดีกว่าในยุคราคาน้ำมันแพง

ไม่ใช่เรื่องแปลกที่นาทีนี้ ใครก็อยากหาหนทางประหยัดเงินในกระเป๋าตัวเอง  อะไรประหยัดได้ประหยัด แต่ต้องไม่ประหยัดหน้าตา .. นั่นเป็นความรู้สึกแรกเริ่มที่ได้พบหน้า  Chevrolet sonic  1.6  E85  ด้วยหน้าตาละม้ายคล้ายพี่น้องของมันดั้งเดิมในรุ่น 1.4  ลิตร มาเป็นพิมพ์เดียวกัน

เส้นสายความสปอร์ตสุดโฉบเฉี่ยวที่พาคุณเหลียวจนคอเคล็ดได้แรงบันดาลใจมากจากรถมอเตอร์ไซค์บิ๊กไบค์ (ไม่ใช่ชีสไบท..นะ) ยังคงต้องมนต์สะกดวัยรุ่นได้เหมือนเดิม เริ่มตั้งแต่ไฟหน้าทรงเปลือยที่ให้อารมณ์สปอร์ตทรงเปลือย แต่ซอกหลืบของมันที่ค่อนข้างเยอะ จนเริ่มน่ากังวลตอนทำความสะอาดในระยะยาว

เหมือนเคยใบหน้ารถนั่งของค่าย Chevrolet  ยังคงมาพร้อมกับกระหน้าหน้าแบบ Dual Port  ในสไตล์ 6  เหลี่ยม ดูมีความกลมกลืนและลงตัว ตลอดรอบคันเส้นสายเน้นคมสันทำให้มันดูเด่นมาแต่ไกล ยิ่งเจอสีใหม่เหมือนที่เรานำมาทดสอบ Orange Rock   ซึ่งช่วยเน้นเส้นสายขอบต่างอย่างชัดแจ้ง บอกได้เลยว่าโดนใจวัยรุ่น!! ที่สุด

มิติตัวถังไม่มีการเปลี่ยนแปลงจากเดิม ในรุ่น  4  ประตูที่เรานำมาทดสอบ ยาว 4,399 ม.ม. (รุ่น 5 ประตูยาว 4,039 ม.ม.) กว้าง 1,735  ม.ม. และสูง 1,517 ม.ม. และ ให้ระยะฐานล้อยาว  2,525  ม.ม. ส่วนห้องสัมภาระท้ายสามารถจุได้  466  ลิตร ตอบโจทย์สำหรับพ่อนัดขนทั้งหลาย

ภายในห้องโดยสาร Chevrolet Sonic  1.6 E85  เน้นความสปอร์ตต่อเนื่องเข้ามาสู่ภายในด้วยวิธีการออกแบบที่เรียบง่าย แต่ยังคงให้การใช้งานได้อย่างมีประสิทธิภาพและดูดี

การให้อารมณ์ง่ายสบาย ยังคงมาพร้อมจิตวิญญาณความสปอร์ต โดยเฉพาะจุดเด่นที่หน้าปัดของรถแลคล้ายมาตรวัดในรถมอเตอร์ไซค์ จากแรงบันดาลใจในการออกแบบจากบิ๊กไบค์ ตรงหน้าคนขับได้พวงมาลัย 3  ก้านตอบโจทย์ขนาดวงกำลังจับถนัดมือ พร้อมปุ่มควบคุมเครื่องเสียงมาให้พร้อมสรรพ ไว้ควบคุมการทำงานขณะขับขี่

การตบแต่งภายในห้องโดยสารยังคงเหมือนเดิมด้วยสีสไตล์ทูโทนในรุ่น  LTZ  โทนสีส้มชานมเย็นผสานรับเข้ากับสีเทาดำ ซึ่งแอบดูแก่ในบางอารมณ์ แต่ถ้าไม่ชอบเราแนะนำให้ซื้อรถรุ่น LT  เพราะภายในจะเป็นเทาดำล้วนดูน่าจะเป็นที่ชื่นชอบมากกว่า สำหรับคอสปอร์ตตัวจริง

แต่ท้ายสุด  Chevrolet sonic 1.6  ก็มาพร้อมของเล่นใหม่ ระบบความบันเทิงแลดูทันสมัย  Chevrolet My link   ให้คุณสามารถเชื่อมต่อกับ โทรศัพท์มือถือของคุณ และทำงานง่ายดายผ่านหน้าจอสัมผัส ซึ่งมาพร้อมฟังชั่นใช้งานที่หลากหลาย สามารรถดูได้ทั้งรูปภาพ ไฟล์ วีดีโอ ไปจนถึง หากเบื่อวิทยุไทยก็สามารถฟังวิทยุต่างประเทศ ผ่านแอพพลิเคชั้นที่โหลดเข้ามาใช้งานร่วมด้วยในการเชื่อมต่อระบบวิทยุ Radio Streaming  ผ่านระบบอินเตอร์เน็ต ฟังได้ทุกที่แม้สัญญาณ วิทยุไปไม่ถึง แต่ก็ต้องยอมแลกค่าข้อมูลเชื่อมต่อในมือถือของคุณ

เรื่องสมรรถนะการขับขี่เชฟวี่มองอนาคตการณ์ไกลผสานกับดูพฤติกรรมการใช้งานรถของกลุ่มเป้าหมาย ทำให้  Chevrolet Sonic 1.6  ใหม่ เกิดมาพร้อมสมรรถนะที่เร้าใจมากขึ้นกว่าเดิม และความสามารถในการประหยัดที่ดีขึ้น

การแนะนำเครื่องยนต์บล็อกใหม่ล่าสุด แบบ 4  สูบ แถวเรียง ขนาด 1.6  ลิตร ให้กำลังสูงสุด  115 แรงม้า ที่ 6,000 รอบต่อนาที และ ให้แรงบิดสูงสุด 155 นิวตันเมตรที่ 4,000 รอบต่อนาที ส่งกำลังลงชุดเกียร์อัตโนมัติ 6 สปีด  จึงมาพร้อมการพัมนาเป็นรถแบบ Flex-Fuel  ซึ่งสามารถใช้น้ำมัน E85  ได้

จุดเด่นนี้ทำให้ Chevrolet Sonic  ค่อนข้างมีความได้เปรียบจากซิตี้คาร์ในตลาดในด้านความประหยัด เพราะค่าน้ำมันในการเดินทางถูกลงกว่า ทั้งยังสามารถเติมน้ำมันได้หลากหลายชนิด ตั้งแต่เบนซิน 95 ธรรมดา ไปจนถึงแก๊สไซฮอลล์  E85  แต่จะว่าไปก็เจ้าน้ำมัน  E85  นี่ก็ยังหาเติมยากอยู่พอสมควร

เมื่อก้าวขึ้นมานั่งตำแหน่งหลังพวงมาลัย Chevrolet sonic 1.6 ต้องยอมรับว่าภาพรวมของ Chevrolet Sonic 1.6  ค่อนข้างเน้นความสปอร์ต ทุกอย่างมีความแตกต่างจาก 1.4  ลิตร น้อยมาก ทำให้เราไม่ค่อยเคอะเขินในการที่จะรีบยัดคันเร่งออกเดินทางกันทันที

การทดสอบในครั้งนี้โดยหลักเราได้รับความร่วมจาก Chevrolet  ด้วยความอนุเคราะห์น้ำมัน E85  มาให้ได้ลองกัน กันอย่างถึงพริกถึงขิง

บททดสอบแรก แน่นอนว่า Chevrolet Sonic  1.6  ลิตร ต้องมาตะลุยในพื้นที่ป่าสีเทาอย่างเมืองและ มันก็คงเป็นรถที่ใช้ในเมืองมากกว่าที่หลายคนอาจจะขับออกต่างจังหวัดไปเที่ยวยามเสาร์อาทิตย์ อีกครั้งที่เรามาขับจริงมาติดจริงท่ามกลางอากาศหนาวแต่แดดร้อนจัดจ้าน กระจกใสดั่งตู้ปลาเริ่มสะท้อนยูวีสู่เรือนร่างที่กำลังกลายเป็นหมูปิ้งใน Chevrolet Sonic 1.6

แม้ช่วงตรงนี้จะเป็นจังหวะที่เรานั่งแช่อยู่ในการจราจรที่คุณสามารถนั่งเล่น  Candy Crush  ได้สบาย แต่ก่อนที่เรามาติด ณ ตรง เส้นทาง พระราม 9 ไปยัง  ถนน เพชรบุรีนั้น ต้องยอมรับว่า Chevrolet Sonic 1.6  มีการปรับปรุงสมรรถนะการขับขี่ที่ดีขึ้นกว่าเดิม โดยเฉพาะเรื่องอัตราเร่งที่เคยอืดอาดจากรุ่น 1.4  ที่เครื่องดังอย่างกับมาแรงแต่รถไปไม่ถึงไหนกลับหายไปจากความรู้สึก

แล้วแต่งแต้มมาด้วยความสปอร์ต ที่เร่งได้อย่างเร้าใจมากกว่าเดิม แม้ในแง่หนึ่งตัวเลขแรงม้า อาจจะไม่เยอะเท่าคู่แข่งบางค่ายที่มีเครื่องยนต์เล็กกว่าและมีสมรรถนะที่จัดจ้านกว่า แต่เจ้าน้องนิค  1.6  คันนี้ก็แสบใช่น้อย เช่นกันแม้จะออกตัวหนืดๆอืดไปบ้างตามสไตล์รถอเมริกาที่ไม่เน้นออกตัวปรุ๊ดปร๊าด แบบสวัสดีครับแล้ว เชคแฮนด์แบบสุภาพ

แต่หลังจากล้อหมุนรอบเริ่มกวาดเครื่องยนต์ 1.6  ลิตร บล็อกนี้ก็จะพาคุณสนุกสนานในการขับขี่ โดยเฉพาะช่วงที่แรงบิดมาเต็มๆตั้งแต่ 3,000 รอบไปจนถึง  4,000 รอบ เสียงเครื่องทุ้มลึกนิดและฟังดูจี๊ดจ๊าดก็จะพาคุณเร่งทะยานอย่างเร้าใจ ไปจนถึงรอบแรงม้าสูงสุดก่อนจะตัดเมื่อใกล้ถึงเข็มเรดไลน์

ถ้าคุณอยากได้เป็นตัวเลขสถิติ เราได้จับเวลาอัตราเร่ง  0-100 ก.ม./ช.ม.และ   80-120 ก.ม./ช.ม. พอเป็นพิธีเพื่อให้เห็นภาพชัดเจนมากขึ้น และได้สถิติเวลา ดีสุดคือ 0-100 ก.ม./ช.ม.ในเวลา 11.0  วินาที ในขณะที่  80-120 ก.ม./ช.ม. เราได้ 8.0 วินาที

	ครั้งที่ 1	ครั้งที่ 2	ครั้งที่ 3	เฉลี่ย
0-100	13.00	13.00	11.00	12.33
80-120	8.00	9.00	8.90	8.63

 

ใช่... Chevrolet Sonic 1.6  ลิตร เป็นรถที่ขับสนุก ถ้าคุณรู้จักนิสัยของรถจริงเพราะ รถแต่ละคันมีนิสัยไม่เหมือนกัน ทั้งเครื่องยนต์และเกียร์ที่ต่างกัน มันก็แตกต่างกันโดยสิ้นเชิง

หากแต่การนั่งแช่ในอากาศร้อน กระจกใส่ ยามบ่ายไม่มีอะไรดีนอกจากผิวสีแทนที่รับมาเป็นของแถม เราจึงเริ่มมุดซ้ายขวาฝ่ารถติดออกนอกเมือง

น่าแปลกที่รถยนต์  Chevrolet Sonic  แม้จะร่างเล็ก แต่พวกมาลัยไม่ได้เบามากมายนักแต่ก็ไม่ได้หนักจนคุณสามารถใช้มันเล่นกล้ามเอาแรงยามขับขี่ อาจจะเพราะ เชฟวี่ยังต้องการเสถียรภาพในยามความเร็วสูงอยู่ในระดับหนึ่ง เพราเครื่องยนต์ 1.6  ลิตร ก็สามารถใช้ความเร็วสูงได้อยู่พอประมาณ แต่เมื่อขับไปๆมาๆในเมือง ต้องยอมรับว่าข้อโดดเด่นของเครื่องยนต์ 1.6  ลิตร ที่มีกำลังเพิ่มขึ้น ทำให้หลายจังหวะที่ไม่คิดว่าเป็นไปได้กลับเป็นไปได้ ทั้งหมดนั้นขอยกให้เป็นเครดิตต้นกำลังจริงๆ

หลังขับมาจบบททดสอบป่าคอนกรีต ได้เวลาที่เราจะมาดุเรื่องอัตราประหยัดการติดสะบัดยามเย็นวันศุกร์ คงเป็นอะไรที่หลายคนเผชิญกันเป็นประจำ และด้วยน้ำมัน  E85  ใน Chevrolet Sonic เราเติมคืนถังไป  9.33 ลิตร จากระยะทาง 84  กิโลเมตร เราได้อัตราประหยัด 9.003 ก.ม./ลิตร ซึ่งกับน้ำมัน E85 ที่มีอัตราปบริโภคน้ำมันกว่าธรรมดา ราวๆ  20%  ถ้าเทียบกับแก๊สโซฮอล 95

ขับในเมืองมาพอสมควรก็ถึงเวลาในการทะยานออกสู่ชนบทบ้าง หลายคนอาจจะไม่ทราบว่ารถยนต์ที่ใช้เครื่องยนต์ขนาด 1.6  ลิตร มีข้อดีตรงสมรรถนะที่สามารถตอบสนองได้พอดิบพอดี สำหรับการขับขี่ทั้งในเมืองและนอกเมือง

แม้ในความเป็นจริงสำหรับซิตี้คาร์ อาจจะไม่ใช่รถที่ใช้นอกเมือง ออกต่างจังหวัดทุกวัน แต่มันย่อมเป็นรถยนต์ที่หลายคนคงฝันอาจะอยากขับไปเที่ยวกับเพื่อนสนิทหรูดู๋ดี๋กับคนรู้ใจเป็นแน่แท้ ไม่น่าแปลกใจที่สมรรถนะในการขับขี่นอกเมืองของ  Chevrolet Sonic  ทำออกมาได้ดีกว่าที่คาด โดยเฉพาะแรงบิดที่ค่อนข้างมากพอสมควร ทำให้ได้แรงถีบทีดีตลอดเวลา

หลายครั้งบนทางยาว สามารถรู้สึกได้เลยว่า Chevrolet sonic  ไปไวกว่าที่คาด แม้เราจะทดสอบด้วยความเร็วเดินทางทั่วไปตลอดเส้นทาง แต่น้องนิคคันนี้ก็ค่อนข้างให้ความรู้สึกสปอร์ตพลุ่งพล่านในดีเอ็นเอ

ช่วงระหว่างทางมีโอกาสสังเกตการทำงานของเครื่องยนต์ในช่วงรอบอัตราทดเกียร์สูงสุดที่เกียร์ 6 และมันค่อนข้างใช้รอบเครื่องยนต์น้อยกว่าที่คาด ด้วยช่วงความเร็วที่เขาว่าช่วยชาติประหยัดน้ำมัน 90 ก.ม./ช.ม. เครื่องยนต์ 1.6  ลิตร กลับใช้รอบเครื่องยนต์เพียง  1900 รอบต่อนาทีและในความเร็วย่าน 120 ก.ม./ช.ม. ใช้เพียง 2800 รอบต่อนาที

การเดินทางด้วยความเร็วเป็นจังหวะดีที่จะวัดสมรรถนะระบบกันสะเทือน ซึ่งตลอดเส้นทางระบบกันสะเทือน Chevrolet sonic   1.6  ที่เซทมาพร้อม ช่วงล่างแม็คเฟอร์สันสตรัททางด้านหน้า และทอร์ชั่นบีมทางด้านหลังนั้น ค่อนข้างให้อารมณ์ความรู้สึกสปอร์ตที่โดดเด่นและลงตัว

แม้ในระหว่างทางจะชัดเจนว่า Chevrolet  อาจจะมีการปรับปรุงเปลี่ยน-แปลงช่วงล่างทางด้านหน้าเป็นสำคัญด้วยน้ำหนักเครื่องยนต์ที่เพิ่มมากขึ้นจากรุ่น 1.4  และ พวกเขาอาจจะไม่ไปปรับช่วงล่างหลัง ทำให้ ในหลายจังหวะจะพบว่า ช่วงล่างหลังมีความอ่อนไปเมื่อเทียบกับด้านหน้า โดยเฉพาะยามเข้าโค้งเร็วๆจะรู้สึกว่าท้ายรถเหมือนจะพยายามย้วยออก โดยเฉพาะในรุ่น 4  ประตูที่เรานำมาขับขี่  แต่ไม่ได้เป็นอันตรายในการขับขี่แค่อาจจะรู้สึกว่าไม่มั่นใจเท่าที่ควร

ตลอดการเดินทางที่ใช้ความเร็วไปยังปลายทางหัวหินเราจบการเดินทางด้วยระยะทางทั้งสิ้น  366.7  ก.ม. และ หน้าปัดยังแจ้งว่าขับต่อไปได้อีกราวๆ  87  ก.ม. สรุปอัตราประหยัดนั้นเราได้ตัวเลข 9.8 ก.ม./ลิตร ตอบโจทย์เรื่องอัตราประหยัดนอกเมือง ถึงจะมองว่าอัตราประหยัดนี้ไม่ได้ต่างจากการทดสอบในเมืองมากมายนัก แต่ความแตกต่างอยู่ที่ความเร็วที่ใช้ ซึ่งระหว่างทางเรายังทำความเร็วสูงสุดของ  Chevrolet Sonic  ดูและน่าประทับใจที่ตัวเลขความเร็วสูงสุด 193  ก.ม./ช.ม.

 

ปิดจ๊อบ!! สรุป น่าซื้อก็ตรง E85  

หลังจากจบลงรถ Chevrolet Sonic   มาริม ทะเล แล้วหันมองเจ้า  Chevrolet Sonic  ท่ามกลางเสียงคลื่นกระทบชายฝั่ง คำถามคือรถคันนี้มีอะไรดี จนน่าจับจองเป็นเจ้าของ

สิ่งแรกและน่าจะเป็นเรื่องที่หลายคนเห็นด้วยก็คงไม่พ้นจุดเด่นทางด้านเครื่องยนต์  1.6  ลิตร ซึ่งสามารถใช้พลังงานทางเลือก   E85  และ ตอนนี้มันเป็นรถรุ่นเดียวในกลุ่ม Sub Compact ที่มีความสามารถนี้ และนาทีที่บททดสอบนี้ออกสู่คุณมันก็ยังเป็นรถรุ่นเดียวที่มีความสามารถนี้อยู่ในตลาด

ยิ่งเมื่อรวมกับพละกำลังที่เพิ่มขึ้นลบภาพ Chevrolet Sonic  1.4  ลิตร ที่ต้องเน้นเค้นเร่งบี้เครื่องยนต์จนโหยหวน  ชัดเจนมากว่า ในรุ่น  1.6  ลิตร กลับทำได้ดีกว่าในเรื่องกำลังเครื่องยนต์ แต่ก็ยังต้องพูดกันอย่างตรงไปตรงมาว่าพละกำลังของเครื่องยังค่อนข้างน้อยไป เมื่อเทียบกับคู่แข่งที่มาในพิกัดเครื่องยนต์ 1.6  ลิตร เท่ากัน หรือรถซิตี้คาร์บางรุ่นที่มีขนาดเครื่องยนต์เล็กกว่า ถึงจะได้แรงบิดที่มากกว่าก็ตามที แต่คงมีไม่กี่คนที่เข้าใจเรื่องนี้ เพราะ สำหรับคนไทย แรงม้ามันเป็นตัวเลขที่ฝังในหัวจิตหัวใจมานาน ว่าไปพูดได้ว่า ดูสิรถเราแรงมากแค่ไหน

เช่นเคยในรายละเอียดอื่นๆ สิ่งที่ยังติติง คงไม่พ้น  toggle Switch   ซึ่งค่อนข้างใช้งานยากไปหน่อย การกระดอก หัวนิ้วโป้งขึ้นลงอาจจะไม่ใช่เรื่องยาก แต่ไม่ดีในยามที่คุณต้องใช้สมาธิและขับรถที่มีความเร็วสูง แต่ยังดีที่เครื่อง 1.6  ลิตร ทำให้เราแทบไม่ต้องแตะ เจ้าสวิทช์นี้เพราะ กำลังเครื่องอย่างเดียวก็เหลือเฟือ และน่าเสียดายที่มันไม่มีรุ่นเกียร์ธรรมดามาให้ได้จับจองกัน

ไม่ว่าอย่างไร เรายังอยากยืนยันที่จะสัมผัส  Chevrolet sonic 1.4 Turbo  ที่มีกำลังถึง 138 แรงม้า ซึ่งมีจำหน่ายในอเมริกาและยุโรป และแอบหวังลึกว่าเชฟวี่ประเทศไทยจะมองและนำมันเข้ามาทำตลาดเป็นรุ่นเฉพาะกิจบ้าง

แต่ถ้าถามว่า Chevrolet Sonic 1.6  น่าซื้อเพราะ อะไร คำตอบเดียวเลย คือการเตะตัดขาคู่แข่งด้วยน้ำมัน   E85  ซึ่งช่วยคุณได้มากในการประหยัดเงินกระเป๋า เมื่อบวกกับสมรรถนะที่สปอร์ตมากขึ้นกว่าเดิม และรูปร่างที่หล่อ ...ในคราบสปอร์ตเต็มพิกัด บอกได้เลยว่า ไม่มีตัวเลือกอื่นในนาทีนี้ที่ดีกว่า  Chevrolet Sonic 1.6

 

สรุป ผลการทดสอบ  Chevrolet Sonic  1.6

รถยนต์  Chevrolet Sonic 1.6 Sedan LTZ  สี  Orange Rock

ราคาจำหน่าย 709,000 บาท

ผลการทดสอบอัตราเร่ง

	ครั้งที่ 1	ครั้งที่ 2	ครั้งที่ 3	เฉลี่ย
0-100	13.00	13.00	11.00	12.33
80-120	8.00	9.00	8.90	8.63

 

ความเร็วสูงสุด ขณะทดสอบ 193  ก.ม./ช.ม.

อัตราประหยัด  Chevrolet sonic  1.6

ในเมือง ได้อัตราประหยัด   9.0  ก.ม./ลิตร  (สภาพการจราจรติดขัด)

นอกเมือง ได้อัตราประหยัด  9.8  ก.ม./ลิตร  (ใช้ความเร็ว 120 ก.ม./ช.ม. บวกความเร็วสูงสุด)

ตารางแสดงการทำงานของเครื่องยนต์ ณ เกียร์ 6  

ความเร็วที่ใช้ (ก.ม./ช.ม.)	รอบเครื่องยนต์ (รอบต่อนาที)
80	1700
90	1900
100	2200
110	2500
120	2800

 

 

เรื่อง ภาพ และขับทดสอบโดย  ณัฐยศ ชูบรรจง

สามารถแนะนำ ติดตามและติชม หรือสอบถามเพิ่มเติมได้ ทาง Facebook หรือทางอีเมล์ [email protected]

ขอบคุณ รถทดสอบ Chevrolet sonic 1.6 LTZ  จาก  บริษัท เชฟโรเลต เซลส์ (ประเทศไทย) จำกัด

ขอบคุณ คุณ มิ้ง และ คุณวีโจ้ วาร์จีส  ผู้จัดการอาวุโส สื่อสารผลิตภัณฑ์ บริษัท เจนเนอรัล มอเตอร์ส (ประเทศไทย) และ บริษัท เชฟโรเลต เซลส์ (ประเทศไทย) ที่อำนวยความสะดวกในการยืมรถทดสอบครั้งนี้ และเติมน้ำมัน E85 มาให้ได้ทดสอบกันด้วย

 

ติดตามข่าวสารยานยนต์ รวดเร็วก่อนใคร ได้ที่ Autodeft.com

[GALLERY242]