Full Drive : Proton Suprima S แปดแสนสุดคุ้มโคตรสปอร์ตเกินตัว
- โดย : Autodeft
- 6 ส.ค. 57 00:00
- 12,002 อ่าน
พบบทดสอบรถยนต์ Proton Suprima S เจ้าแฮทช์แบ็ค 5 ประตูสายเลือดมาเลเซีย ที่มีดีกว่าที่คิดในแบบรถสปอร์ตในคราบรถบ้าน
เรื่อง ภาพ และขับทดสอบ โดย ณัฐยศ ชูบรรจง
“จะซื้อรถต้องดีต้องคุ้มค่า”
“อ่าว แล้วมันจะหารถดีๆ แบบนั้นได้ที่ไหน คงยาก”
“ของดีราคาไม่แพงมีในโลก แต่แค่หายากเท่านั้น ”
ไม่น่าแปลกใจนักที่ทุกวันนี้ เราหลายคนคงอยากจะได้รถยนต์ดีมีความคุ้มค่าในการใช้งาน โดยเฉพาะอย่างยิ่งถ้ารถยนต์คันนั้นตอบโจทย์ได้หลากหลากมากกว่า ราคาไม่แพงเกินไป และยังมีสมรรถนะที่ดี ราคาก็ยังจับต้องได้ เชื่อเลยว่า คุณผู้อ่านกระผมทั้งหลายคงจะนึก ผู้เขียนมันบ้า อะไร รถอะไรมันจะ Perfect ขนาดนั้นเชียว
แน่นอนว่าไม่บ่อยนักที่แบรนด์รถยนต์ Proton จะเปิดตัวรถยนต์ที่พวกเขาวางจำหน่ายออกมา แต่การเอาเข้ามาทำตลาดเมื่อปีกลายกับรถยนต์คอมแพ็คคาร์รุ่นล่าสุด Proton Preve นั้นก็ได้รับกระแตอบรับที่ดีเกินคาด แม้ว่าเราจะต้องพูดเลยว่า Proton ทุกวันนี้ ดูจะจางหายไปมาก เมื่อเทียบกับหลายปีก่อนที่เราเห็นรถแบรนด์นี้วิ่งบนถนนอย่างขวักไขว่ แต่รุ่นหนึ่ง ที่จับใจเราเอาไว้ตั้งแต่แรกเห็น จนอยากที่จะสัมผัสมันเมื่อโอกาส คือ อีกร่างของ Proton Preve ที่มาในแบบ 5 ประตูแอทช์แบ็คในชื่อ Proton Suprima S
รถทดสอบ Proton Suprima S Premium
จะว่าไปพูดกันตามความจริง Proton Suprima S เป็นรถยนต์ทางเลือกที่ Proton ต้องการเอาออกมาตอบโจทย์ สำหรับใครที่มองหารถยนต์แบบแฮทช์แบ็คที่เปี่ยมด้วยความสปอร์ต ตั้งแต่แรกเห็น มันดูมีความกระจ่างเต็มความเร้าใจในอารมณ์แบบสปอร์ตจากค่ายเสือเหลือง ที่พวกเขาภูมิใจตั้งแต่เริ่มต้นพัฒนาเลยทีเดียว
เห็นชื่อว่า Suprima S เชื่อเลยว่า หลายคนคงพอจะเดาได้ว่า รากศัพท์เจ้า Proton คันนี้ มาจากคำว่า Supreme แต่มันไม่ใช่พิซซ่าหน้าสุพรีม ที่คุณสามารถกดโทร 1112 มาทานที่บ้านได้ แต่คำว่า supreme นั้น แปลว่าสุดยอด และ S ที่เติมมานั้นก็เป็นตัวย่อที่มาจากคำว่า Sport รหัสแรงเร้าใจ ซึ่งเมื่อเราจับคำมาเขย่ารวมกันมันก็แปลอย่างลงตัวให้ความชัดเจน Proton รุ่นโคตรสปอร์ต ….จะว่าไปดีแล้วล่ะที่มันเป็นภาษาอังกฤษ ให้ดูเท่ห์เมากกว่า
จริงๆ แล้ว ขอยอมรับและสารภาพเลยว่า การทดสอบในครั้งนี้เป็นผลต่อเนื่องมาจากการที่ก่อนหน้านี้สักเมื่อเดือนเศษ เรามีโอกาสไปขับรถยนต์ใหม่ล่าสุด MG6 มา ซึ่งมันเป็นแรงบันดาลใจทำให้เรานึกได้ว่า เรายังไม่ได้ขับรถจากมาเลเซียคันนี่เลย
แม้ว่าเจ้า Proton และค่ายรถยนต์แบรนด์อังกฤษเลือดจีนนั้น จะไม่เหมือนกันเลย แต่มันมีความเหมือนที่แตกต่างในตัวตนของรถ ที่หนึ่งเป็นมาเลเซียให้อังกฤษช่วย กับอีกหนึ่งเป็นอังกฤษแล้วให้จีนช่วย ... นี่คือความแตกต่างที่รู้สึกว่ามันมีความคล้ายคลึงกันอยู่ เพียงคนจากแบรนด์อังกฤษ มองว่าพวกเขาไม่ใช่คลาสเดียวกันกับ Proton
เอาเหอะ!! จะยังไงก็ตาม มาอยู่ในตลาดการตัดสินไม่ได้ขึ้นอยู่กับความคิดคนในบริษัท แต่อยู่กับการตัดสินของผู้บริโภค และเมื่อเรามายืนตรงหน้ารถทดสอบ Proton Suprima S สายตาของเรามองเห็นแววของความซิ่งในตัวในแบบรถยุโรปที่ดูมีความโฉบเฉี่ยวในตัวตนแต่กลมกลืน ไม่ดูเป็นงานรถสปอร์ตมากไป แต่เช่นเดียวกัน รถคันนี้ก็ไม่ดูบ้านๆ ไปเช่นกัน
หากยังจำได้ Proton Preve เจ้าแฝดพี่ของ Proton Suprima S นั้น เกิดมาในร่างซีดานที่เน้นในความหรูหรา ซึ่ง Proton พยายามทำงานอย่างหนักเพื่อให้เข้าตากรรมการ แต่ดูเหมือนว่า พวกเขาจะเรียนรู้บทเรียนนั้น และพยายามลองอีกครั้งใหม่ทางด้านความสปอร์ตในรถยนต์ Proton Suprima S ที่ทำมาได้ลงตัวโดนใจกว่าพี่ชายของมัน
ใบหน้าที่เกิดมาในแบบรถยนต์ยุโรปขนานแท้ ที่จริงแล้วเมื่อมองเทียบกันโต้งๆ!!! มันกลับดูลงตัวกว่าตามโจทย์ที่ว่า “ข้าคือรถสปอร์ตคราบรถบ้าน” ด้วยการเปลี่ยนเพียงกระจังหน้ามาเป็นแบบรังผึ้งใช้สีโทนดำ ที่ให้ความเข้มดูดุดันกว่า ชัดเจนและลงตัว ส่วนเส้นสายจากกันชนหน้านั้นคล้ายรุ่น Preve ไม่เปลี่ยนแปลง
เรือนร่างแบบ 5 ประตู ทำให้ Proton Suprima S ดูลงตัวกว่าอย่างชัดเมตร การออกแบบรถที่มาในทางรถแฮทช์แบ็คนั้น เป็นโจทย์ที่เหมาะสม และดูแล้วพวกเขาถนัดทางความสปอร์ตมากกว่า ในขณะที่เส้นสายด้านข้างของ Proton Preve ดูเน้นความคมสันที่ในทางหรู
แต่ถ้าคุณมองใน Proton Suprima S จะเจอความรู้สึกที่ดูแล้วสปอร์ตมากกว่าตั้งแต่ด้านหน้าจรดบั้นท้ายของรถที่เสริมสปอร์ยเลอร์หลังคามาให้ รวมถึง ล้ออัลลอยขนาด 17 นิ้ว ลาย 7 ก้านยังเป็นปัจจัยหลักที่ทำให้รถดูมีความสปอร์ตและลงตัวมากขึ้น ทว่าหากคุณมองตัวตนทั้งลำของ Proton Suprima S อย่าแปลกใจว่า มันคล้ายกับรถยนต์จากยุโรปอย่าง Skoda Octavia จะต่างเพียงมันสั้นกว่าขาดหายช่วงเสา D ในแบบรถเอสเตทไป จนบางครั้งเพียงปิดตราแล้ววิ่งไปตามถนน ทุกคนคงจะคิดว่า นี่มัน Skoda รุ่นใหม่หรือเปล่า
ถึงภาพรวมการออกแบบจะชัดเจนดีในการสื่อตัวตนความเป็นยุโรปผสานเข้ากับความเป็น มาเหล...มาเหล... (ให้นึกถึงเสียงเพลงของ เป้ อารักษ์) แต่เรื่องหนึ่งที่ไม่เข้าใจ หรือ Proton อาจจะเก็บงานเก่งเกินไป คือตลอดที่นำรถคันนี้มาใช้งานนั้นไม่พบที่เปิดฝาท้ายของมันเลย ถึงจะพยายามล้วง ควัก ก้ม ส่องมองตูดอย่างไร ก็หาไม่เจอ แต่ยังดี ที่คุณสามารถเปิดจากกุญแจก็ยังพอเป็นทางสว่างให้อภัยได้บ้าง แต่มีสวิทช์เปิดฝาท้าย ดีกว่าแน่นอน ...หรือมันซ่อนดีจนผมหาไม่เจอก็ไม่แน่ใจ
แม้ว่าเราจะกล่าวว่า รถคันนี้มีความคล้ายกับ Skoda แต่เมื่อเทียบแล้ว Proton Suprima S นั้นเป็นรถคอมแพ็คคาร์ที่มาพร้อมร่างที่เล็กกะทัดรัดกว่า ด้วยความยาวเพียง 4,436 ม.ม. กว้าง 1,768 ม.ม. และสูง 1,524 ม.ม. ถ้าถามว่ามันแตกต่างอย่างไรกับพี่ชายของมันคำตอบอยู่ที่ความยาวของรถที่สั้นกว่า 107 ม.ม. เท่านั้นเอง
เปิดประตูเข้าสู่ห้องโดยสาร Proton Suprima S ต้อนรับด้วยความสปอร์ตในอ้อมกอดตามแบบฉบับรถยนต์จากค่ายเสือเหลือง ซึ่งค่อนข้างทำออกมาดีขึ้นตามลำดับ พวกเขามีการเรียนรู้ในหลายๆสิ่ง หลายๆอย่าง โดยเฉพาะการจัดวางองค์ประกอบในห้องโดยสาร ซึ่งยังคงความเป็นรถยนต์ที่ให้อารมณ์หรูหรา ดูภูมิฐาน
หากนั่นเป็นเพียงภาพภายนอกเท่านั้น อย่าไปแตะพวกวัสดุพลาสติกต่างดูก็จะรู้ทันทีว่าคุณภาพพลาสติกนั้นไม่เท่าไร แต่Proton ก็รู้จักเล่นแร่แปรธาตุทำให้ของที่มีคุณภาพสู้คู่แข่งไม่ได้กลับดูดีกว่ารถจากญี่ปุ่นบางรุ่นด้วยซ้ำไป ด้วยการให้ลวดลายบนพลาสติก นับเป็นไอเดียบรรเจิดมากในการสร้างจุดขายที่เด่นขึ้นมาในรถของพวกเขา
รวมถึงการตบแต่งภายในห้องโดยสารใน Proton Suprima S ใหม่นี้ ยังสร้างความลงตัวในการออกแบบที่ดีขึ้นชัดเจนเรื่องความสปอร์ตที่สามารถเห็นได้จากการให้พวงมาลัย 3 ก้าน จับขนาดวงรู้สึกว่ามันกระชับเหมาะมือและวงเล็กกว่า Proton Preve เล็กน้อย
ส่วนนอกนั้นหลายอย่างดูคล้ายกันถอดแบบกันมา ไม่ว่าจะคอนโซลหน้า ชุดคันเกียร์ หรือจะเป็นชุดระบบเครื่องเสียงที่มาพร้อมระบบนำทางในตัว แต่ดูเหมือนทางนักออกแบบของ Proton จะกลัวว่าเราจะจำได้เลยสลับการตบแต่งนิดหน่อยให้หลอกตา ด้วย ชุดพลาสติกลายคาร์บอนไฟเบอร์ ที่เปลี่ยนจากโทนเงินสลับกับโทนดำ กลายเป็นโทนสีดำสลับกับโทนสีเงิน ซึ่งทำให้เจ้าพลาสติกที่พยายามทำงานออกมาเป็นคาร์บอนไฟเบอร์เคฟลาร์ไม่ลงตัว ทั้งที่รถสปอร์ตถ้าห้องโดยสารโทนมืดทั้งหมดจะหล่อมากทีเดียวเชียว
ด้านหลังเอง ระยะที่แคบลงมากอีก 107 ม.ม. นั้น ไม่ได้มีผลต่อการโดยสารแต่อย่างใด เพียงแต่ในเรื่องของการจุสัมภาระ ถ้ามองเทียบกับ Proton Preve ใน Proton Suprima S กลับจะมีพื้นที่ให้วางของน้อยกว่า เพียง 309 ลิตร จาก 508 ลิตร ใน Proton Preve หากก็ยังเพียงพอต่อการใช้งานจริง แม้ว่าหลายคนอาจจะชอบทำตัวเป็นพ่อนักขน แต่คุณก็คงยกตู้เสื้อผ้าไปไว้ในรถหรอกจริงไหม
ถึงเวลาลองของ การสตาร์ทเครื่องยนต์ Proton Suprima S เริ่มต้นด้วยการการเสียบกุญแจ จากนั้นเหยียบเบรกแล้วกดสตาร์ท เป็นวิธีที่เหมือนกับพี่ชายของมัน รวมถึงต้นกำลังใต้ฝากระโปรงนั้นก็ใช้บล็อกเดียวกัน ที่มาพร้อมเครื่องยนต์ 1.6 ลิตรเทอร์โบ ให้กำลังสูงสุด 138 แรงม้า ที่ 5,000 รอบต่อนาที และ ทำแรงบิดระนาบสูงสุด 205 นิวตันเมตร ตั้งแต่ 2,000-4,000 รอบต่อนาที ส่งกำลังลงระบบเกียร์ CVT Protonic 7 สปีด และ เช่นเดิมในตัวท๊อปนั้นยังมี Paddle shift มาให้เล่น
ออกตัวจาก Proton สู่ถนนใหญ่ Proton Suprima S โชว์ตัวตนความสปอร์ตของมันเอาไว้อย่างชัดเจน แม้เป็นเครื่องยนต์บล็อกเดียวกัน แต่เรารู้สึกว่ารถยนต์ Proton Suprima S ไปแรงแซงหน้าพี่ชายของมันอย่างไม่ต้องสงสัย ส่วนหนึ่งความเหมือนในความต่าง คือการได้ล้ออัลลอยขอบ 17 นิ้วเข้ามาตอบโจทย์ พร้อมยาง 215/45/17 นั้น เมื่อเปรียบเทียบแล้วมีขนาดรอบวงที่เล็กกว่าเดิมนิดหน่อย และมันให้ความจี๊ดจ๊าดที่ดีขึ้น แม้หน้าสัมผัสยางจะมากกว่าอีกนิด แต่มันก็ทำให้รถเร่งเร็วขึ้นจากรอบวงที่เล็กลงกว่าเดิมเล็กน้อย ทำให้ รถมีความปรี๊ดปร๊าด!!! มากกว่าเดิม จนกลายเป็นรถที่ขับสนุกไปโดยปริยาย
ความสนุกสนานนอกจากเครื่องยนต์แล้ว ส่วนหนึ่งต้องยกให้พวงมาลัยที่มีน้ำหนักเหมาะมือกำลังดี การควบคุมก็ค่อนข้างง่ายดาย และ ด้วยช่วงตัวที่สั้นพอประมาณ รวมถึงเครื่องยนต์เทอร์โบ อย่าแปลกใจที่ Proton Suprima S จะทำให้มันเป็นสิงห์ตัวจี๊ดในเมือง ใช้ง่ายขับสนุกจนหลงรักสไตล์สปอร์ตของรถมาเลเซียคันนี่
เครื่องยนต์ Campro CFE Turbo ขนาด 1.6 ลิตร
แม้ว่าจะมีดีกรีขับสนุกมาก จนใครที่ได้สัมผัส อาจจะหลงไปตามสมรรถนะการขับขี่ของเจ้ารถคันนี้ แต่ว่าท้ายที่สุดแล้วเจ้า Proton Suprima S ใหม่ ก็ติดตรงที่มันเป็นเครื่องยนต์เทอร์โบ ซึ่งเมื่อเจอการจราจรที่ติดขัด จนแม้แต่มอเตอรไซค์ยังขยับไม่ได้นั้น นรกบนดินกับเครื่องยนต์แบบนี้เป็นของที่ไม่เข้ากันอย่างแรง การจราจรติดขัดหนักมากในการทดสอบ เราใช้เวลาเดินทางจากราชประสงค์กลับมายังนนทบุรี โดยใช้เวลากว่า 2 ชั่วโมง และ เราจบการทดสอบในเมืองด้วยตัวเลขที่ต้องยอมรับว่ามันซดมากไปนิด 7.81 ก.ม./ลิตร เมื่อเติมคืนถัง
เอ้ย!!! มันซดเท่ากับรถสปอร์ต ในใจทัก แล้วแบบนี้มันจะมาพูดทำไมว่ามันประหยัดมากขึ้น ด้วยการทำกำลังเท่กับเครื่องยนต์ 1.8 ลิตร หากในข้อเท็จจริงแล้ว เครื่องยนต์ 1.8 ลิตร วิ่งไปมาในเมือง เจอรถติดสถานการณ์หนักก็ออกแนวซดเหมือนกัน เพียงแต่เครื่อง 1.6 เทอร์โบนั้นจะกินหนักมาก ถ้าคุณเร่งๆหยุดๆ บ่อยๆ ในเขตเมือง เพราะเมื่อเทอร์โบทำงานจะมีการสั่งจ่ายน้ำมันมากขึ้นทันที นั้นเป็นเหตุผลว่าทำไมมันซดกว่ามาก
ยังดีที่ไฮไลท์ของ Proton Suprima S ใหม่นั้น อยู่ที่ การทำให้ระบบเกียร์ CVT 7 สปีด เข้ามาเป็นผู้ช่วย ทว่า ในเมืองไม่มีทางหรอกที่จะใช้อัตราทดเกียร์ ถึงเกียร์ 7 เว้นแต่จะในทางยาว และนั่นเป็นสิ่งที่ทำให้เรารู้สึกได้ทันทีว่า เจ้าเสือคันนี้น่าจะมีดีกว่าบนเส้นทางนอกเมือง
อย่าแปลกใจที่รถคันเดียวกันจะเปลี่ยนไปทันที ที่คุณรู้ว่ามันเหมาะกับเส้นทางแบบไหน และ Proton Suprima S ก็โชว์ความแตกต่างทันที ที่เราเอามันออกมาโลดแล่นรอบๆกรุงในภาวการณ์ขับขี่นอกเมือง
บนทางยาวแบบนี้เครื่องยนต์ 1.6 เทอร์โบของมันนั้นชอบนักแล โดยเฉพาะอย่างยิ่งถ้าคุณเป็นประเภทมีธุระปะปัง 1008 แบบผมที่ต้องเร่งทำอะไรหลายอย่างในวันเดียว ฮ้อ!! บึ่งตะบึงความเร็วที่ 140 ก.ม./ช.ม. เอามันไปถ่ายรูป วิ่งไปธุระนั่นนี่ก่อนกลับเข้ากรุงนั้น บอกเลยว่า อย่าดูถูกรถคันนี้ไป เพราะมันเหมาะมากต่อการเป็นคู่ใจในการขับขี่สถานการณ์รีบด่วน
ส่วนหนึ่งเป็นเหตุผลจากการเซทเครื่องยนต์ที่ให้แรงบิดสูงในรอบต่อต่อเนื่องตั้งแต่ 2,000-4,000 รอบต่อนาที ซึ่งเป็นช่วงที่มีการใช้งานจริงของใครหลายคน คุณสามารถเร่งแซงรถคันหน้าได้ โดยแทบไม่ต้อง ใช้กำลังภายใน ด้วยการคิกดาวน์ ลดเกียร์ต่ำเพื่อพุ่งทะยานด้วยการใช้รอบเครื่องสูงในการขับขี่ แต่กลับเจ้า Proton Suprima S นี้ เพียงแค่เดินคันเร่งลึกขึ้นนิดหน่อย รถก็จะพุ่งไปแบบเนียนๆ จนรถหลายคันมีมอง
ไม่เว้นกระทั่งรถสปอร์ตจากค่ายดาวสามแฉก ที่แอบมาไล่เราบนทางยกระดับลอยฟ้าบรมราชนนี มุดกันไปแซงกันมา แต่ภาษีด้วยความยาวช่วงตัวที่สั้นกว่าและเครื่องเทอร์โบที่มีแรงบิดให้ใช้ต่อเนื่อง นั้นไม่ยากที่จะเอาชนะ จนป่านนี้คนขับคงกัดฝันกรอดคิดว่ารถอะไรฟะมันเร่งแรงดีจัง แถมด้วยตราสัญลักษณ์ที่บั้นท้ายว่า “Handling by Lotus” นั้น ก็ไม่ใช่สิ่งที่ติดมาเพื่อความโก้เก๋ หากมันบอกถึงความพิเศษในจิตวิญญาณของรถ
ด้วยช่วงล่างทางด้านหน้าแบบแม็คเฟอร์สันสตรัท และช่วงล่างทางด้านหลังแบบมัลติลิงค์มาพร้อมเหล็กกันโคลง ถือเป็นโจทย์ที่สำคัญในการขับขี่เช่นกัน ความสามารถของช่วงล่างใน Proton Suprima S ดีพอที่จะทำให้คุณรู้สึกเหมือนขับรถสปอร์ต มันอาจจะดูหนักตามสไตล์อังกฤษ แต่เอาอยู่!! ทุกสถานการณ์ไม่ว่าจะการเปลี่ยนเลนในความเร็วสูงไปจวบจนการเข้าโค้งที่ความเร็วสูงเอง รถก็ยังมั่นใจเกาะแน่น ในสไตล์หนึบที่ผสานความนุ่มหนับเพื่อการนั่ง ที่ให้ความพอใจได้ทั้งผู้ขับขี่และผู้นั่ง ไม่ว่าตำแหน่งไหน ระบบช่วงล่างในรถโปรตอน สุพรีม่า เอส ก็ตอบโจทย์ได้ลงตัว
ถึงจะต้องยอมรับว่า Proton Suprima S มีความดีความชอบมากมายคุณ อาจจะพอสังเกตได้ว่าในสมรรถนะการขับขี่ของ มันเราแทบไม่ติติงเลย โดยเฉพาะอย่างยิ่ง ถ้าคุณมีรถบ้านที่สามารถทำอัตราเร่งได้ไวเว่อ ราวๆกับจะเกาะกลุ่มไปอยู่ในพวกรถสปอร์ต ยิ่งคงชอบใจไม่น้อย
ตารางแสดงการทดสอบอัตราเร่ง Proton Suprima S
อัตราเร่ง |
ครั้งที่ 1 |
ครั้งที่ 2 |
ครั้งที่ 3 |
เฉลี่ย |
0-100 ก.ม./ช.ม. |
11.98 |
9.97 |
11.00 |
10.49 |
80-120 ก.ม./ช.ม. |
7.00 |
7.00 |
6.00 |
6.50 |
โดยจากการทดสอบอัตราเร่ง 3 ครั้ง เราพบว่า รถมีอัตราการตอบสนองที่ดีตั้งแต่เริ่มออกตัว โดยในจังหวะที่ออกตัวดีๆไม่มีฝุ่นไม่มีการลื่นไถลนั้นมีโอกาสที่จะทำตัวเลข 0-100 ก.ม./ช.ม. ต่ำกว่า 10 วินาที ด้วยซ้ำไป ส่วนช่วงเร่ง 80-120 ก.ม./ช.ม. ก็ตกที่ประมาณ 6-7 วินาที ซึ่งกับรถบ้านที่มีกำลังเพียง 138 แรงม้า ถือว่ามันไม่ขี้เหร่มากมายนัก
แต่สิ่งเดียวที่เราไม่ชอบใจในรถคันนี้เลยคือเสียงเจ้าพัดลมไฟฟ้าที่ดังจนได้ยืนไปสามบ้านแปดบ้านในยามค่ำคืน แต่ถ้าคุณเคยขับพวกรถแต่งรถซิ่งมาก่อนจะพบว่าเสียงมันนั้นเบามากกว่า หากสำหรับคนทั่วไปถือว่าค่อนข้างดัง ทว่าก็เป็นข้อเสียเดียวที่เห็นในเรื่องเครื่องยนต์กลไกต่างๆ
และท้ายสุดเราจบการทดสอบนอกเมืองของเจ้าสปอร์ต Proton Suprima S ด้วยอัตราประหยัดที่ประทับใจ จากการขับขี่ 110-140 ก.ม./ช.ม. ด้วยตัวเลข 11.51 ก.ม./ลิตร ซึ่งเรียนตามตรงว่าแอบมีซดนิดหน่อย แต่เราก็ใช้ความเร็วสูงพอสมควร และถ้าคุณสงสัยในเรื่องความสปอร์ตของมัน เจ้า Proton คันนี้ สามารถเหยียบ 180 ก.ม./ช.ม. ได้สบายๆ และเราทำความเร็วสูงสุดได้ถึง 195 ก.ม./ช.ม.
สรุป Proton Suprima S โคตรสปอร์ตราคาประหยัด
จะหารถสปอร์ตสมรรถนะดีสักคันทุกวันนี้ราคาก็แสนแพง ราคาระดับล้านหรือล้านปลายๆ เหยียบสองล้านต้น จึงจะได้รถยนต์ที่มีความลงตัวทางด้านสมรรถนะ และรูปโฉมที่สวยงาม นั่นเป็นเรื่องจริงที่เศรษฐีอาจจะรับได้ แต่สำหรับคนที่มีจิตใจนักในความสปอร์ต แต่ไม่มีงบประมาณมากมายอะไรนัก เชื่อเลยว่าคงจะรู้สึกชอบช้ำในเรื่องการหารถที่มีสมรรถนะดีมีความลงตัวในด้านหารใช้งานด้วย
ถึงเราอาจจะต้องยอมรับว่า Proton Suprima S นั้นเป็นรถที่อยู่นอกสายตาใครหลายคน แต่จากการสัมผัสสมรรถนะของมันแล้ว ต้องซูฮกว่า Proton มีการก้าวหน้าในเรื่องความพยายามปรับปรุงรถของพวกเขาให้มีความโดนใจมากขึ้นกว่าเดิม
ไม่ว่าจะทางด้านเรือนร่างของรถที่ออกมาในสไตล์ของรถยนต์สปอร์ตตัวจริงจากยุโรป แม้จะดันไปเหมือนรถจากโรมาเนียบ้างก็ตามที แต่ความแปลกในเส้นสายของมัน ความเล็กกว่าในตัวตนทำให้มันดุน่าหลงใหลไม่น้อย โดยเฉพาะตัวตนสีน้ำเงินที่สามารถเกลาเส้นสายออกมาได้อย่างลงตัวจนแทบไม่น่าเชื่อ
ส่วนเรื่องของสมรรถนะในการขับขี่ก็ดูแล้วมีโจทย์ที่ลงตัวมากขึ้น ถึงเครื่องยนต์ 1.6 เทอร์โบจะซดบ้างในเมือง แต่นอกเมืองมันขับดีมาก ด้วยการให้แรงบิดสูงในรอบต่ำแถมยังมาต่อเนื่องควบระบบเกียร์ CVT 7 สปีด ยิ่งทำให้มันชัดเจนความสปอร์ต แต่ยอมรับว่าจากการขับขี่น่าเสียดายที่มันไม่มีทางเลือกของระบบเกียร์ธรรมดามาให้เลือก สำหรับใครที่เป็นสาวกสปอร์ตตัวจริง
และท้ายสุดด้วยช่วงล่างจากการเซทโดยผู้เชี่ยวชาญจากอังกฤษ Lotus มันก็ยิ่งทำให้ Proton Suprima S ใหม่ นั้นมีความลงตัวจนเกินคำบรรยาย ที่คุณคงไม่อาจะเรียกรถคันนี้ว่ารถบ้านใช้งานทั่วไปได้ แต่มันคือสปอร์ตที่หลงมาอยู่ในคราบรถบ้าน และจับมันได้ในราคา 829,000 บาท ซึ่งไม่ใช่ราคาไกลเกินเอื้อมสำหรับหลายคน
แม้ว่าหลายสิ่งหลายอย่างจะดี แต่ในแง่หนึ่งเราอยากจะเห็นกำลังที่มากกว่านี่ในเครื่องยนต์ 1.6 เทอร์โบ CFE ซึ่งตอนนี้ Proton อาจจะได้ภาษีเรื่องเครื่องยนต์เทอร์โบเข้ามาเป็นตัวช่วยก็จริง แต่กำลังเครื่องยนต์ ที่เผยว่ามีเพียง 138 แรงม้า แลดูจะน้อยไปหน่อย เมื่อเทียบกับคู่แข่งในตลาดจากญี่ปุ่น ซึ่งบางรายมีเครื่องยนต์ 1.6 ไม่เทอร์โบที่มีกำลังมากกว่า แถมเมื่อมันไม่เป็นเทอร์ดบก็ซดน้ำมันน้อยกว่า ซึ่งลึกๆจากการขับขี่เชื่อว่า เครื่องยนต์บล็อกนี้สามารถไปได้อีก แต่เหมือน Proton อาจจะกั้กไว้
จบปิดประตูลงมาจาก Proton Suprima S มันสร้างความประทับใจในหลายด้าน ทั้งสมรรถนะการขับขี่ที่โดดเด่น แม้จะเป็นรองบ้างเรื่องความประหยัด และกำลังของเครื่องยนต์ แต่ ภาพรวมแล้ว นี่คือรถที่ดีคันหนึ่งในราคาที่จับต้องได้ แต่มันแค่ไม่ใช่ที่เป็นแบรนด์ตลาดจ๋า ก็เท่านั้นเอง ...
ติดตามนักทดสอบรถยนต์ นาย ณัฐยศ ชูบรรจง ได้ที่ Facebook ,Twiter (@nattayodc)
ขอบคุณ บริษัท พระนครโอโค้เซลล์ จำกัด ทีเอื้อเฟื้อรถทดสอบ Proton Suprima S มาให้ทีมงาน Autodeft.com ได้ทำการทดสอบกัน
สรุปผลการทดสอบรถยนต์ Proton Suprima S
รถทดสอบ Proton Suprima S Premium
ราคาจำหน่าย 829,000 บาท
สิ่งที่ชอบ >>> สมรรถนะที่เยี่ยมยอดในการขับขี่ Proton Suprima S น่าจะเรียกว่าเป็นรถยนต์คอมแพ็คคาร์อีกรุ่นที่ขับดีมาก สิ่งที่ไว้ใจได้มากคือช่วงล่างที่จัดมาแนบแน่นพื้นถนนแม้ในยามความเร็วสูง
สิ่งที่ไม่ชอบ>>> ต้องและควรมีการปรับปรุงภายในห้องโดยสาร ให้ลงตัวมากกว่านี้ ทั้งคุณภาพวัสดุ รวมถึงการออกแบบบางประการที่น่าจะดีได้มากกง่านี้ ที่สำคัญเบาะนั่งนั้นยังไม่ดีเท่าที่ควร
สิ่งที่อยากให้มี >>> อยากเห็น Proton พัฒนาเครื่องยนต์บล็อกนี้ให้มีสมรรนถะยิ่งขึ้นกว่าปัจจุบัน ด้วยความที่มันเป็นเครื่องยนต์ที่ดีอยู่แล้ว แต่เรื่องแรงม้าเริ่มจะตกเป็นรองคู่แข่งบ้าน ถือว่าเป็นจุดที่ควรเร่งปรับปรุง และไหนๆ ก็เป็นรถนำเข้าด้วยควรเพิ่มทางเลือกรุ่นเกียร์ธรรมดา 6 สปีดมาหน่อยไหมครับ
คำแนะนำสำหรับผู้ที่สนใจ >>> มันเป็นรถของดีราคาถูกที่หลายคนมองข้ามไปอย่างน่าเสียดาย ด้วยความที่แบรนด์ Proton เองไม่ได้ทำการตลาดมากมายอะไรนัก ด้วยทำให้คนจำนวนไม่น้อยมองข้ามมันไปอย่างน่าเสียดาย
ตารางแสดงการทดสอบอัตราเร่ง Proton Suprima S
อัตราเร่ง |
ครั้งที่ 1 |
ครั้งที่ 2 |
ครั้งที่ 3 |
เฉลี่ย |
0-100 ก.ม./ช.ม. |
11.98 |
9.97 |
11.00 |
10.49 |
80-120 ก.ม./ช.ม. |
7.00 |
7.00 |
6.00 |
6.50 |
ตารางแสดงการทำงานของรอบเครื่องยนต์ Proton Suprima S
ความเร็ว (ก.ม./ช.ม.) |
รอบเครื่องยนต์ (รอบต่อนาที) |
90 |
2000 |
100 |
2200 |
110 |
2400 |
120 |
2600 |
อัตราประหยัด
|
อัตราประหยัด (ก.ม./ลิตร) |
ในเมือง |
7.81 |
นอกเมือง |
11.51 |
[GALLERY661]
ติดตามข่าวสารรถยนต์รวดเร็วก่อนใครได้ที่ AUTODEFT.com