Hands On : Suzuki Hustler ลองหน่อย Kei car เสียดายที่ไม่ขายในไทย

พบบททดสอบรถยนต์รุ่นพิเศษที่อาจจะยังไม่มาจำหน่ายในไทย แต่เมื่อคุณได้สัมผัส Suzuki Hustler จะรู้ว่า นิยามของคำว่ารถยนนต์นั่งขนาดเล็กที่ดีมีคุณภาพนั้นยังมีจริง

 

 

เรื่องและขับทดสอบ โดย ณัฐยศ ชูบรรจง (Bonn)

 

เอ้ย..รู้เปล่ารถทดสอบที่เอามา หวยออกงวดนี้ (16  ม.ค. 58)

คำพึมพำของรุ่นพี่รู้จักกันส่งมาทาง สื่อสังคมออนไลน์   Facebook ที่หาเลขเด็ดจากผมประจำและงวดนี้เจ้ารถคันพิเศษที่เราเอามา มันก็ออกแบบตรงเด๊ะๆ เลขท้ายสองตัว จนน่าเสียดายว่าพลาดท่าเสียที ที่เราไม่ได้สื่อสลากกินแบ่ง

แม้จะไม่ถูกหวย แต่สิ่งหนึ่งที่เราสามารถบอกได้ทันที คือคนอย่างเราๆท่านๆ จำนวนไม่น้อยมักจะมีวลีเด็ดว่า งวดนี้ถูกเลขถูกหวยจะซื้อสักคัน และความฝันนั้นก็มลายหายไปทันทีที่เรารู้ตัวว่าถูกหวยรับประทานไปตามๆ กัน ทว่า ความฝันเป็นสิ่งที่ทำได้ แต่อย่างลืมที่จะอยู่บนโลกความเป็นจริงด้วย

หลายคนฝันหารถยนต์ราคาแพง เพราะมันเป็นรถยนต์ที่ขับขี่ดี ออพชั่นจัดเต็ม ให้ความลงตัว เชื่อว่าคนจำนวนไม่น้อยจะคิดแบบนั้น แต่ถ้าเราพูดว่ารถยนต์ที่ดี....ไม่จำเป็นต้องมีราคาแพงนั้นเป็นไปได้เพียงแค่มันต้องลงตัวคุ้มค่า สมราคาและให้การตอบโจทย์กับลูกค้านั่นแหละครับ ผู้อ่านคือสิ่งที่สำคัญ นิยามว่า รถยนต์ที่ดีเป็นอย่างไร

การนำรถยนต์ แบบ   K Car มายั่วน้ำลายบนเวที   motor Expo 2014   เรียกว่าเป็นโจทย์หนึ่งที่ทำให้หลายคนเริ่มสนใจ Suzuki  มากขึ้น เรารู้ว่า Suzuki Swift ขายดี  ส่วน Suzuki  Celerio  ก็ถูกใจคนภูธรที่อยากจะมีรถยนต์เป็นของตัวเองเลิกตากแดดตากลม แต่ที่ญี่ปุ่นพวกเขาคือผู้นำรถยนต์นั่งขนาดเล็ก โครงการพัมนารถยนต์ที่สืบทอดมายาวนาน และมันมาตอบโจทย์การขับขี่ที่ให้ความลงตัวมากกว่า และวันนี้เราได้มีโอกาสสัมผัสมัน

Suzuki Hustler   อาจจะไม่ใช่รถยนต์ที่เรารู้จักกันทั่วไปในประเทศไทย แต่ถ้าใครผ่านไปบูธ  Suzuki  ในงาน  motor Expo 2014  เชื่อว่า หลายคนคงอดไม่ได้ที่จะไปดูมันอย่างใกล้ชิด ก่อนที่จะตกเป็นโจทย์ของการตลาดที่เคยและอยากรู้ว่าถ้าพวกเขานำรถเข้ามาแบบนี้ในไทยจะเป็นอย่างไร

มันเล็กน่ารัก และใช่เลย สำหรับสาวรุ่นๆ หรือใครก็ตามที่ชอบทำตัวแอ๊บแบ๊ว  Suzuki Hustler   กลายเป็นรถที่หลายคนคงอยากจะจับจองมาเป็นเจ้าของ แต่ใครจะคิดเลยว่า Suzuki   นั้นใช้เวลาของรถคันนี้คุ้มค่าทุกนาทีก่อนที่จะกลับมันส่งขึ้นเรือกลับแดนปลาดิบให้เราได้ลองรถยนต์นั่งขนาดเล็กคุณภาพคับแก้วคันนี้กัน

การพบกันระหว่างเราและ  Suzuki Hustler   เรียกว่าเป็นบริบทที่เปลี่ยนไปจากการทดสอบรถยนต์ทั่วไป เมื่อจ้องมองเรือนร่างภายนอกของเจ้า  Suzuki  Hustler   คุณจะรู้สึกได้ถึงตัวตนของรถยนต์ที่มาในรูปแบบอเนกประสงค์ที่ให้ลุคลุยของรถยนต์อเนกประสงค์ขนานแท้ แต่ยังแฝงด้วยความทันสมัยและที่สำคัญยังมีลูกเล่นต่างๆแพรวพราวในรถยนต์คันนี้ ไม่ว่าจะไฟวงแหวนที่เห็นชัดเจน ส่วนโคมไฟหน้าให้มาในแบบโปรเจคเตอร์ช่วยในการส่องสว่างด้วยไฟหน้าแบบ   HID   

ในขณะที่เส้นสายไม่ได้เน้นความหวือหวา แต่มีเพื่อเพิ่มความลงตัวในการออกแบบเพื่อความดูลุยด้วยกันชนหน้าและชายล่างที่มาในแบบความดิบแต่ลงตัวด้วยความดูดีสีดำด้านให้ความรู้สึกแข่งแกร่งกับตัวรถ ส่วนตัวห้องโดยสารในภาพรวมมาในทรงกล่องเพื่อเน้นคุณภาพในการโดยสารสูงสุด และท้ายสุดบั้นท้ายของเจ้า  Suzuki Hustler  ให้ความเป็นปัจเจกในแบบรถยนต์ที่ดูลุย และยังดูทันสมัยด้วยไฟท้ายสไตล์  LED  ทรงโดนัท รวมถึงล้ออัลลอยขอบ 15 นิ้ว แบบ 5 ก้านเต็มคราบความสปอร์ตผสานจิตวิญญาณความประหยัดด้วยยางขนาด  165/60/R15

แต่ท้ายสุด  Suzuki Hustler ดูลงตัวมากขึ้นผ่านการให้โทนสีและเล่นกับสีสันด้วยการตบแต่งในสไตล์ทูโทน อย่างคันที่เรานำมาทดสอบนี้ จะเป็นสีฟ้าตัดกับหลังคาสีขาว ดูไปดูมานึกขำๆว่า ถ้าเอาโบสีแดงมาพันรอบคันนี่ มันคงดูเหมือนเราเอาหลุดจากการ์ตูน โดเรมอนมาใช้ ..555

กุญแจ smart Entry  ถูกยื่นให้โดยน้องแตงกวา  PR   ของ Suzuki  ที่มาอำลาส่งเราให้เอา Suzuki Hustler ไปเลี้ยงดู ขับสนุกเพลินๆ  และเมื่อเปิดเข้ามาในห้องโดยสาร  Suzuki Hustler ก็สร้างความประทับใจด้วยการออกแบบอย่างดูดีมีสไตล์ ถ้าคุณคิดว่าเจ้าเปี้ยกนี้จะมีตัวตนคล้ายรถยนต์นั่งอีโค่คาร์แบบในบ้านเรา ที่ดูธรรมดาไม่เน้นความดูดีมีสไตล์อะไร แค่เพียงขับได้ทั่วๆไปนั้นก็คงต้องคิดดูใหม่  

การต้อนรับด้วย คอนโซลหน้าที่ออกแบบอย่างมีสไตล์ ด้วยวัสดุพลาสติกจับดูทุกอย่างมีคุณภาพไม่ขาดตกบกพร่อง พร้อมคอนโซลหน้าแบทูโทนตัดระหว่างสีขาวและสีดำ และตัวในส่วนของสีขาวจะเปลี่ยนไปตามสีของตัวรถ อย่างเช่น ถ้าคุณซื้อ Suzuki Hustler สีส้ม เจ้าคอนโซลนี้จะมาพร้อมสีส้ม เป็นต้น

ถ้ากำลังกังวลว่าความเล็กกะทัดรัดของมันอาจจะเป็นอุปสรรคในการโดยสารก็คงต้องคิดใหม่ ด้วยตัวตนที่มี 3,395  มม.  กว้าง 1,475  มม. และ สูง 1,665 มม. รวมถึงยังให้ฐานล้อยาว   2,425  มม.ดูจะเป็นอุปสรรคในการใช้งานหรือไม่นั้น คงต้องตอบว่าไม่ เพราะตัวห้องโดยสารของมีมิติมากพอที่จะให้การโดยสารผู้โดยสารสี่คนได้อย่างสบายพอสมควร

ที่จริง  Suzuki  เผยว่า  Suzuki Hustler มาพร้อมห้องโดยสารที่มีความยาว  2,035 มม. กว้าง 1,295 มม. และสูง 1,250  มม. มันดีและมีพื้นที่มากพอจนสามารถรู้สึกได้ทันทีที่เปิดประตูและหย่อนตัวลงนั่งในเจ้าอเนกประสงค์เล็กคันนี้ ...

เบาะนั่งตอนหน้าแบบ   Bench Seating   ทำให้เราหวนนึกถึงวันเก่าๆ ของวงการรถยนต์ที่คุณสามคน พ่อ แม่ ลูก นั่งรถไปด้วยกันได้ในเบาะแถวเดียว ในกรณีถ้าน้องยังเล็กอยู่ แต่ถ้าคุณเป็นข้าวใหม่ปลามัน ก็คงจะรู้สึกดีไม่แพ้กันเมื่อคุณไร้คอนโซลกลางทำให้ไกลห่างระหว่างกัน สามารถเกี่ยวก้อยเดินทางตลอดเวลาได้ถ้าต้องการ แต่ถ้าอย่างไรเสียถ้าคุณเป็นโลกส่วนตัวสูงนั้น พนักผิงแขนทางด้านซ้ายถูกตีเนียนเป็นส่วนหนึ่งของพนักพิงหลังเบาคนขับในยามไม่ได้ใช้งาน สามารถลากลงมาสร้างพื้นที่ส่วนตัวได้

เบาะนั่งตอนหน้าของ  Suzuki Hustler  เน้นความสบายอย่างมาก ท่านั่งจัดวางในตำแหน่งที่สูงกว่าปกติในแบบรถยนต์ SUV   แต่เรื่องความสบายในการขับขี่มีมากมายเหลือเฟือ อย่าแปลกใจถ้าคุณจะรู้สึกสบายอย่างมากในเจ้า Suzuki Hustler ด้วยกระจกข้างใหญ่จนรู้สีกโล่งกว้างและพื้นที่เหนือศรีษะที่มากเป็นคืบแม้จะตัวใหญ่ไซส์ฝรั่งก็นั่งสบายไม่รู้สึกอึดอัด ด้วยการออกแบบทรงกล่อง ซึ่งทำให้เรานึกถึงเจ้าจี๊บจากฝีมือคนไทย   TR Transformer   ด้วยเสาต่างๆถูกวางค่อนจนเกือบตั้งฉาก หลังคาที่สูงเต่อ ทำให้การปรับประจก หรือแม้แต่คว้าเอาม่านบังแดด อาจจะยาก ...นั่นมาจากแฟนผม ผู้หญิงไซส์เล็กที่ดูจะไม่สบอารมณ์ เมื่อเธอมาลองขับใช้งาน

ส่วนเบาะนั่งหลังทำได้ดีไม่แพ้เบาะหน้าคงตัวตนความสบาย ตัวเบาะนั่งที่สามารถปรับเอนได้ในการโดยสารหนึ่งระดับ และยังสามารถเลื่อนเดินหน้าถอยหลังได้ตามต้องการ นั่นดีพอที่ช่วยให้ผู้โดยสารจัดท่านั่งตามความต้องการในการเดินทาง ทว่าก็น่าเสียดายที่มันมีพื้นที่เก็บสัมภาระเล็กไปหน่อย แต่ถ้าต้องการความจุมากขึ้น เพื่อช่วยในการขนของ เบาะสามารถถูกปรับพับได้

จะว่าไป Suzuki Hustler  มันไม่ใช่รถยนต์ธรรมดา เพราะล่าสุดเจ้าอเนกประสงค์ร่างเล็กคันนี้เพิ่งชนะรางวัล RJC  (Automotive Researchers’ and Journalists’ Conference of Japan) Car of the Year award เมื่อช่วงต้นเดือนพฤศจิกายนที่ผ่านมา ซึ่งสาระสำคัญและความพิเศษของรางวัลนี้ มันเจ๋งตรงเป็นการตัดสินในของบรรดานักวิจัยและผู้สื่อขาวในญี่ปุ่น ซึ่งส่วนใหญ่มีความเห็นตรงกันในเรื่องความลงตัวทางด้านการขับขี่และออพชั่นมากมายหลากหลายในรถยนต์  Suzuki Hustler ซึ่งสร้างคุณค่าในตัวตน

จนแค่ได้จับ  Suzuki Hustler เป็นระยะเวลาสั้นๆ ต้องบอกเลยว่ารู้สึกเป็นเกียรติอย่างมากในการขับรถยนต์ดีมีคุณภาพแบบนี้เรียกว่าคงมีโอกาสไม่บ่อยนัก และเมื่อเราออกเดินทางกับมันก็ได้รู้ว่าคุณภาพคับแก้วในรถยนต์นั่งขนาดเล็กก็เป็นไปได้จริงๆ

 

ศุกร์หรรษาวันรถติดอันแสนน่าเบื่อของใครหลายคนในการเดินทางกลับบ้าน แต่วันนี้เราอยู่กับ   Suzuki Hustler   รถยนต์ Kei Car   ที่พร้อมสรรพในคุณภาพและเรากำลังขับมันไปบนถนนพระราม 4  ต่อเนื่องไปยังอโศกท่ามกลางท้องฟ้าที่เริ่มมืดลงตามเวลาสมควร

การจราจรวันในทดสอบนี้เรียกว่ารถตืดมหาโหด จากงานท่อเที่ยวแถวสวนลุมพินีทำพิษ แต่ Suzuki Hustler ก็ยังวาดลีลาในความประหยัดได้ดีเกินคาด ใต้ฝากระโปรงของมันมาพร้อมเครื่องยนต์รหัส   R06A   ต้นกำลังแบบ 3   สูบไร้ระบบอัดอากาศขนาด   660   ซีซี ตอบโจทย์การขับขี่ด้วยกำลังสูงสุดหยุมหยิมสำหรับชีวิตคนเมือง   52  แรงม้า   สูงสุดที่  6,000 รอบต่อนาที   และยังมีแรงบิดสูงสุด  63 นิวตันเมตร สูงสุด   4,000 รอบต่อนาที

กำลังทั้งหมดส่งลงชุดเกียร์อัตโนมัติ CVT   7 สปีด คุ้นเคยกันด้วยผู้ผลิต  Jatco  ซึ่งที่จริงแล้วเกียร์ชุดเดียวนี้ก็เหมือนกับที่เราคุ้นเคยในรถยนต์อีโค่คาร์ทั้งหลายในประเทศไทย อัตราทดก็เดียวกันระหว่าง 4,006-0.550  เช่นเคยยังมีโหมดสปอร์ตให้เลือกเล่นตามความสนุกสนานในการขับขี่ แต่ด้วยเครื่องยนต์ที่มีขนาดเล็กกำลังน้อยกว่าอัตราทดเฟืองท้ายจึงถูกปรับให้มีความจัดจ้านกว่าที่ 4.551 (ในไทย Suzuki , Nissan  และ Mitsubishi   ซึ่งใช้เกียร์ตัวนี้ในรถยนต์อีโค่คาร์ของค่ายใช้อัตราทดที่  3.757)

จะไหวเหรอ   660  ซีซี ...บิ๊กไบค์ยังใหญ่กว่าความท้าทายแรกหลุดออกมาจากเต้ย   Test Driver  น้องใหม่ของเราที่ไปรับมาลองนั่งรถติดสนุกๆ ท่ามกลางสาวออฟฟิศย่านอโศกที่เดินไปมายามเย็น

ฟังดูแล้วหลายคนอาจจะคิดว่าเครื่องมันเล็กขนาดนี้จะขับไหวรึ ไปไหวหรือเปล่า แต่บอกเลยว่า  เครื่องยนต์   660  ซีซี นั้นแม้เราหลายคนจะติดกับเรื่องขนาดเครื่องยนต์ แต่มันไม่ขี้เหร่อย่างที่คุณคิด แถมมิหนำซ้ำสภาวะรถติดแบบทุกวันนี้ เครื่องยนต์ยิ่งเล็กยิ่งประหยัด

มากไปกว่านั้น  Suzuki Hustler  ยังมีองค์รวมของความประหยัดและรักษาสิ่งแวดล้อม ซึ่ง   Suzuki   เรียกว่า Suzuki Green Technology  อันประกอบไปด้วยระบบหยุดการทำงานของเครื่องยนต์ชั่วคราว   Idling Stop   รวมถึงยังมีระบบกักเก็บพลังงานจากการเบรกและการผ่อนคันเร่งที่เรียกว่า  ene Charge   ทำให้เจ้าเปี้ยกคันนี้ก้าวเข้าสู่รถยนต์ที่เราเรียกว่า   Micro Hybrid Car  และถ้าคิดว่าหมดแล้ว มันยังมีระบบ Eco Cool  ซึ่งคอยย์เย็นในห้องโดยสารถูกทำให้มันสามารถทนต่อการเป็นน้ำแข็งได้ และเมื่อเครื่องยนต์หยุดทำงานและระบบปรับอากาศถูกปรับกลายเป็นพัดลมอย่างเดียว ตัวห้องโดยสารก็ยังจะเย็นอยู่เสมอนานพอที่จะทำให้ระบบไม่ต้องเดินเครื่องยนต์เพื่อรักษาความสบายในการขับขี่

ระหว่างนั่งจมอยู่ในรถท่ามกลางการจราจรมหาโหดของกทม. อยู่นานหลายชั่วโมง  Suzuki Hustler  ตอบความสบายในการขับขี่ในเมืองอย่างแท้จริง และไม่เพียงแค่นั้นเรื่องความประหยัดของมันก็ไม่น้อยหน้าระบบหยุดการทำงานเครื่องยนต์เราได้ใช้ตลอดเวลาและดีกว่าที่คาดในเรื่องการไม่สูญเสียความสบาย เพราะระหว่างที่เครื่องยนต์ดับระบบจะปรับมาใช้ไฟในรถยนต์จากแบตเตอร์รี่ลิเธี่ยมไออนของระบบ Ene Charge

และท้ายสุดแล้วติดสนั่นเมืองขนาดนี้แต่ยังยะหยัดได้ใจหลังวิ่งไป 91.2  ก.ม.จากลาดกระบังเข้าเมืองฝ่ารถติดชนิดเต่ากัดยางกลับบ้าน  เพื่อนๆครับ   Suzuki Hustler   ประหยัดเรียกพี่เราเติมกลับคืนถังเพียง  4.66 ลิตร ด้วยเบนซิน 95 (ตามสเป็คของรถระบุมิให้ใช้แก๊สโซฮอลล์) เข้าสูตรหาอัตราบริโภคน้ำมันจบที่ 19.57  ก.ม./ลิตรเท่านั้น....ว้าว!!!

หมดกังวลเรื่องความประหยัดในการเดินทาง โดยเฉพาะในเมือง แต่ที่หลายคนคงสงสัยไม่แพ้เรา ถ้าผู้โดยสารเต็มคันรถ เจ้าแยกนี่มันจะยังวิ่งไหวหรือไม่

โจทย์ข้อนี้เราเองไม่พลาดที่อยากจะพิสูจน์ เช่นเคยเราจับรถคันนี้เข้าสู่   Bonn Test mode   จัดผู้โดยสารมาเพิ่มเติมได้ เริ่มจากน้องสุดเกรียนโอปอ หนุ่มใหญ่ใจวัยรุ่นขาแรงสองล้อ (จักรยาน) วันนี้พิกัดอ้วนพีสุดติ่ง   85  กก. โดยประมาณ อีกคนเป็นหญิงสาวร่างเล็กแฟนผมเองที่มาขอนั่งด้วยพิกัด   50 กก.   ส่วนตัวเองยังคงเดิมที่ 90 กก. (โชคดีไป) และ น้องเต้ยอาจจะเอวบางร่างน้อยที่ราวๆ  60 กก.

ทุกอย่างพร้อมเราออกเดินทาง การพิสูจน์ความประหยัดตามเส้นทางที่กำหนด วันนี้พิเศษที่มีผู้โดยสารสี่คนมาร่วมตอบโจทย์ความประหยัดของเจ้า  Suzuki Hustler ว่าถ้าผู้โดยสารเต็มจะเป็นอย่างไรกัน

ความรู้สึกแรกเลย เมื่อจุสี่คน คุณรู้ว่าเพื่อนเต็มคันรถ แต่จะไม่รู้สึกอึดอัดอย่างที่คิด สิ่งที่หลายคนมักถามผมทันทีว่า พี่ !!660   ซีซี จะออกต่างจังหวัดได้หรือ ขับทางไกลสิบล้อจะไม่เอาไปรับประทานใช่ไหมครับ ขับยากหรือไม่ 

ปัญหาเหล่านี้ไม่ได้มากมายอย่างที่คิด เพียงแต่คุณต้องเข้าใจรถก่อน ซึ่งจริงๆ แล้วการขับรถยนต์นั่งขนาดเล็ก Suzuki Hustler นั้นก็ไม่ใช่ครั้งแรกขิงผมกับรถขนาดนี้ เมื่อนานมาแล้วก่อนที่จะมาทำในวงการรถยนต์ ตามภาษาเด็กชอบรถเราเห็นรถอะไรแปลกๆ ก็มักอยากลอง เผอิญเพื่อนผู้เขียนออกเจ้า   Suzuki Wagon R   มาเลยขอลองขับดูและเรื่องความประหยัดนั้นก็สามารถประทับใจได้เช่นเดียวกับสมรรถนะ ซึ่งแม้จะเป็น 660  ซีซี แต่เครื่องตัวนั้นเป็นเทอร์โบ มีเรี่ยวแรงมากกว่าราวๆ   64   แรงม้าเรียกว่าแรงในระดับที่น่าพอใจสำหรับชีวิตคนเมืองและรถยนต์นั่งขนาดเล็ก

ออกนอกเมืองครั้งแรกกับ Suzuki Hustler ยอมรับว่ามันอาจจะแตกต่างจากที่เคยขับมาบ้าง อย่างที่กล่าวไปแล้วครับว่า รถคันนี้มันเป็นเครื่องยนต์   660  ซีซี ธรรมดา และแม้จะใช้เกียร์จากผู้ผลิตเดียวกัน  ต่างพียงอัตราทดเฟืองท้าย แต่ตั้งแต่ออกตัวไปจนสังเกตการเปลี่ยนเกียร์ของชุดเกียร์ ระบบส่งกำลังในรถเล็กจากญี่ปุ่นคันนี้นุ่มนวลกว่าชัดเจน อาการกระเด้าเกียร์ หรือที่บางคนอาจจะเรียกว่าเกียร์กระตุกน้อยกว่าในรถยนต์อีโค่คาร์ในบ้านเรามาก โดยเฉพาะเทียบกับเจ้าน้องแดง   Mitsubishi  Mirage  ที่ขับประจำแทบทุกวันเรียกว่าแตกต่างกันโดยสิ้นเชิง

ทางด้านพวงมาลัยเองออกทางไกลแบบนี้ยังมั่นใจได้ แม้ต้องสำเหนียกตัวเองเวลาเปลี่ยนเลนอยู่บ้าง แต่พวงมาลัยของ  Suzuki Hustler กลับสร้างความกลมกลืนมากกว่าภายใต้ความรู้สึกที่เป็นเก๋ง ที่จริงแล้วพวงมาลัยออกไปทางความสปอร์ตนิดหน่อยด้วยซ้ำ น้ำหนักสำหรับผู้ชายถือว่าแอบเบานิดหน่อย แต่จากที่แฟนผมแอบมาขับภายหลังบอกว่านี่มันเหมาะสำหรับผู้หญิง ส่วนเรื่องการตอบสนองพวงมาลัยมีตึงมือบางเล็กน้อย ระยะฟรีน้อยมาก ความแม่นยำกลางๆตามสูตร เพราะมันไม่ใช้ตัวสปอร์ตชั้นนำ

เริ่มเข้าเมืองอีกครั้งในยามดึก  Suzuki Hustler   โชว์ตัวตนของมันอีกครั้งในเมืองด้วยความคล่องตัวแม้จะมีผู้โดยสารสี่คนก็ตามทีในระหว่างการขับขี่ ส่วนหนึ่งตัวรถเปล่าเองมีน้ำหนักเบามากเพียง   770  กก. นี่ยังไม่นับรวมการออกแบบให้มีระยะยื่นสั้น ช่วยเพิ่มความคล่องตัวในการเลี้ยวซอกแซกไปมา และท้ายสุดการโดยสารสี่คนนั้นก็ไม่สร้างความแตกต่างเรื่องความประหยัดอะไรมากมายนัก เราจบการขับขี่ที่ตัวเลข   19.69 ก.ม./ลิตร

ความประหยัดคงไม่ใช่ข้อกังขาอีกต่อไป คงไม่บ่อยนักที่ Suzuki Hustler จะมาอย่าในมือของเรา และก็ได้เวลาจับมันไปหวดสมรรถนะการขับขี่ดูบ้าง

เช่นเดิมเรายังมีสี่ผู้โดยสารภายในรถพร้อมสัมภาระประจำวันเล็กน้อย ก่อนที่เราจะเริ่มทดสอบอัตราเร่ง 0-100 ก.ม./ช.ม. นั้น มีโอกาสหวดยาวๆบนทางหลวงได้ตัวเลข   135   ก.ม./ช.ม.  ถือว่าโอเคเลยในการขับขี่ และในช่วงมาเร็วสูงๆนั้นรถก็ไม่ได้ดุน่ากลัวในเรื่องของระบบช่วงล่าง ซึ่งเซทมาอย่างดี

ด้านหน้าใช้ระบบแม็คเฟอร์สันสตรัทยอดนิยมของรถยนต์ยุคนนี้ ส่วนด้านหลังไม่ใช่แบบกึ่งอิสระทอร์ชั่นบีมที่เราคุ้นเคยในรถยนต์อีโค่คาร์ แต่ Suzuki Hustler ใช้ระบบกันสะเทือนแบบ  isolate trailing Link  หรือ ITL   ทำงานผสานกับระบบคอยย์สปริง ช่วยให้ความมั่นใจในการขับขี่แม้จะใช้ความเร็วค่อนข้างสูงก็ตามทีรถก็ยังมั่นใจได้ แต่สำหรับผู้โดยสารตอนหลังบนถนนที่ไม่เรียบก็มักจะบ่นว่าช่วงล่างหลังนั้นกระเทือนมากกว่านั่งไม่สบายยิ่งถ้าเจอช่วงถนนขุรขระ เคยเห็นคนนั่งเบาะหลังตัวลอยมาแล้ว แต่จะว่าไปมันก็เป็นคัวคนในแบบรถยนต์อเนกประสงค์แท้จริงที่ผลุบมาอยู่ในรถยนต์นั่งขนาดเล็ก

ถึงที่เก่าเจ้าประจำในการทดสอบ เราตกลงใจที่จะทำการทดสอบ  สองแบบในรถยนต์นั่งขนาดเล็ก Suzuki Hustler คันนี้ โดยครั้งแรก เราจะนำผู้โดยสารเต็มคันรถไปทดสอบอัตราเร่ง ก่อนที่จะทำการทดสอบตามปกติอีกครั้งหนึ่ง

ทุกอย่างพร้อมถนนว่าง เราเหยียบคันเร่งจมมิด ต้นกำลัง   660  ซีซี เดินเครื่องยนต์อย่างเร่งรีบ การออกตัวช่วงแรกทำได้ดี เครื่องเร่งอย่างรวดเร็วก่อนที่จะเริ่มไต่ช้าลงเล็กน้อยที่ความเร็ว  80  ก.ม./ช.ม.   ก่อนที่จะไปแตะ 100 ก.ม./ช.ม.   ทีแรกยอมรับว่า จะทำอัตราเร่ง  80-120  ก.ม./ช.ม.   ด้วย แต่หลังจากลองสักสองสามรอบเราแน่ใจว่าคงเป็นไปได้ยากในรถยนต์นั่งขนาดเล็กคันนี้ จึงตัดสินใจสรุปข้อมูลเพียงในส่วนของ  0-100 ก.ม/ช.ม. เท่านั้น

 

ตารางแสดงการทดสอบอัตราเร่ง 0-100  ก.ม./ช.ม. ในรถยนต์  Suzuki Hustler  

อัตรา 0-100  ก.ม./ช.ม	ครั้งที่ 1	ครั้งที่ 2	ครั้งที่ 3	เฉลี่ย
ผู้โดยสารสี่คน	28.19	26.676	27.636	27.501
ผู้โดยสารสองคน	23.87	23.98	23.48	23.78

 

 

 

 

 

 

 

จากการทดสอบ ค่อนข้างชัดเจนว่าน้ำหนักของผู้โดยสารนั้นมีผลต่ออัตราเร่งอย่างมากใน  Suzuki Hustler แน่นอนว่ามันมาจากผลพวงของระบบเครื่องยนต์ที่มีขนาดเล็กเพียง   660  ซีซี ในขณะที่ตัวชุดเกียร์เองมีความชาญลาดมากพอ การให้อัตราทดเฟืองท้าย 4.5  ทำให้รถสามารถขับเคลื่อนในการออกตัวและอัตราเร่งได้เป็นอย่างดี ซึ่งแม้จะมีรอบเครื่องยนต์มาให้แบบดิจิตอลที่แสดงผลใต้ล่างชุดความเร็ว ทว่าก็ไม่ได้ชัดเจนมากมายอะไรนัก

เราจึงวัดด้วยเครื่องมือ OBD II เชื่อมต่อจากกล่องข้อมูลของรถ ซึ่งระหว่างที่ขับขี่ด้วยความเร็ว  80 ก.ม./ช.ม. มันใช้รอบเครื่องยนต์ที่ 2000 รอบต่อนาที และที่ความเร็ว  90  ก.ม./ช.ม.   ใช้รอบเครื่องยนต์ที่  2300 รอบต่อนาที ส่วนที่ 100 ก.ม./ช.ม.  จะอยู่ราวๆ 2,700 รอบต่อนาที ซึ่งถ้าสังเกตจะพบว่าช่วงความเร็วในเมืองมันประหยัดน่าดูชม

 

Suzuki Hustler   ขับดีจนอยากให้ขาย ..แต่ถ้าจะมาคงปฏิวัติคนไทยน่าดูชม ...

 

พี่วัลลภครับ ... มีคนถามราคา Suzuki Hustler   ผมยกหูหาพี่การตลาดที่มักคุ้นกันดี เพื่อตอบคำถาม เพื่อนมีเงินกระเป๋าหนักคนหนึ่งที่ชอบรถยนต์คันนี้ มากจนแดดิ้นอยากได้สักคัน
“อ้อ เรายังไม่มีแผนการขายนะ” ......ผมไม่แปลกใจที่ได้ยินประโยคนี้ พร้อมสนทนาอีกเล็กน้อยก่อนจะวางสาย และแสดงความเสียใจกับเพื่อนที่มิอาจจะเป็นเจ้าของรถยนต์นั่งขนาดเล็กที่มีคุณภาพคับแก้วคันนี้ได้

จะว่าไปเอง ภาพรวมของตัวตน Suzuki Hustler ลงตัวมากมายในการใช้งานในเมือง มันประหยัด มันคล่องตัว มันมีฟังชั่นการใช้งานครบครัน ไม่ขาดตกอะไรที่ชีวิตคนเมืองจำเป็นในการขับรถ นี่ยังรวมถึง เทคโนโลยีความปลอดภัย ไม่ว่าจะถุงลมนิรภัยคู่หน้า ระบบเบรก  ABS ไปจนถึงระบบความปลอดภัยชั้นนำช่วยในการขับขี่ความเร็วต่ำ  Suzuki Radar Brake support  ซึ่งจะทำงานในช่วงความเร็ว  5-30  ก.ม./ช.ม. ในกรณีรถคันหน้าหยุดกะทันหัน หรือคุณประมาทลืมแตะเบรกในระหว่างการขับขี่แล้วมีรถหยุดอยู่ข้างหน้า  และท้ายสุดยังมีระบบควบคุมการทรงตัว  ESP   เสริมทัพความปลอดภัยด้วยเช่นกัน

เหตุผลที่ Suzuki Hustler นั้นไม่เข้ามาจำหน่ายในไทย ก็มาจากตอนช่วง  motor Expo  2014  ที่มันมาโชว์ที่บูธ Suzuki  มีการลองสำรวจความเห็นของคนไทยที่มีต่อรถยนต์นั่งขนาดเล็ก เมื่อบอกว่ามันเป็นเครื่องยนต์  660  ซีซี หลายคนก็เบ้หน้าเบือนหนีไปตามๆ กัน เนื่องจากคนไทยอาจจะยังไม่ศรัทธารถยนต์นั่งขนาดเล็ก และ   660  ซีซี คงจะคิดว่ามันเล็กไปนิดต่อการใช้งานในชีวิตประจำวัน

รวมถึง  จากยอดขาย  Suzuki Celerio  ปัจจุบัน ซึ่งมันมีเครื่องยนต์ขนาดเล็กกว่าชาวบ้าน เพียง   1000 ซีซี คนไทยยังคิดแล้วคิดอีกก่อนจะคิดตัดสินใจ ซึ่งเป็นเหตุผลว่าทำไม Suzuki   ตัดใจปิดประตูไม่ยอมนำรถยนต์ที่มีเครื่องยนต์ขนาดเล็กคันนี้ทั้งที่ออพชั่นมากมายเหลือรับประทานและดีกว่าอีโค่คาร์หลายคันในตลาดด้วยซ้ำไป

ลองคิดว่า ถ้ารถ  Suzuki  Hustler   เข้ามาจำหน่ายจริงๆ ใครน่าจะเป็นลูกค้า ผมลองสำรวจด้วยสายตาเล่นๆ จากการขับมันไปตามถนน ส่วนใหญ่น่าจะเป็นผู้หญิงที่อดเหลียวมองรถยนต์คันนี้ที่ดูหล่อเหลาเอาการแตกต่างอย่างที่ไม่มีใครเคยเห็นมาก่อน

ด้วยการเล็งเห็นแล้วว่าผู้หญิงน่าจะชอบ ท้ายสุดเลยลองให้ แฟนผมมาขับขี่ดู ซึ่งเจ้าตัวเธอใช้อีโค่คาร์   Mitsubishi Mirage  อยู่แล้ว และหลังจากขับขี่ วิสัยทัศน์ในเรื่องเครื่องยนต์  660  ซีซี ก็เปลี่ยนไป และยิ่งกว่านั้นเธอบอกว่า สิ่งที่น่าจะทำให้คนซื้อ  Suzuki Hustler   นั้นก็คือออพชั่นภายในรถยนต์ที่มากมาย ครบครัน การโดยสารที่สบายเกินคาด ซึ่งเรามีความเห็นตรงกันในเรื่องนี้ มากกว่าความประหยัดของตัวรถ เพราะ เป็นอะไรที่คนจับต้องได้
ส่วนราคาที่เหมาะสมน่าจะสักเท่าไร ที่ญี่ปุ่น  Suzuki Hustler   รุ่น   2WD CVT  อย่างที่เราขับทดสอบนี้มีราคาที่  1,078,920  เยน หรือราวๆ 298,000 บาท ซึ่งตัวเธอบอกว่าถ้าสักสี่แสนบาทกลางๆ จะยังเป็นทางเลือกที่ดูจะน่าสนใจ และถ้าราคาราวๆ นั้น ส่วนตัวเธอเองจะขายมิราจ มาซื้อ Suzuki Hustler   แน่นอน แต่ถ้าเกินกว่านั้นไปอยู่แถบ  5  แสนบาท ถึงออพชั่นจะเต็มเชื่อว่าคนก็คงจะมองหาถยนต์รุ่นอื่นที่มีคำตอบที่ดีกว่าในการขับขี่  ...จะว่าไปมันเป็นคำตอบที่น่าสนใจไม่น้อย

แม้ว่าท้ายสุดแล้ว   Suzuki   Hustler   อาจจะไม่มาขายในไทย และเจ้าน้องม่อนคันนี้กำลังจะลงเรือล่องกลับบ้านของมันที่ญี่ปุ่น หลังจากมาออนทัวร์ในอาเซียนยาวนาน แต่ท้ายที่สุดแล้วหลังจากลงจากรถคันนี้เมื่อสิ้นสุดการทดสอบ เราได้รู้แจ้งเห็นจริงว่า  รถยนต์ที่ดีไม่ต้องมีราคาแพงก็เป็นไปได้ เพียงให้ออพชั่นครบครัน มันก็ตอบโจทย์ลูกค้าอีกกลุ่มที่ไม่ได้ต้องการสมรรถนะเร้าใจ แต่ต้องการออพชั่นในการขบัขี่ที่สามารถจับต้องและใช้งานได้จริง

 

เรื่องและขับทดสอบ โดย ณัฐยศ ชูบรรจง (Bonn)

ติดตามผู้สื่อข่าวและนักทดสอบรถยนต์ นาย ณัฐยศ ชูบรรจง ได้ที่ Facebook ,Twiter (@nattayodc)

 

รถทดสอบ  Suzuki Hustler

ราคาจำหน่าย – ยังไม่มีแผนวางจำหน่ายในประเทศไทย

 

สิ่งที่ชอบ >>>  เครื่องยนต์ที่ประหยัด ออพชั่นที่มาแบบจัดเต็มและการออกแบบที่ลงตัว ไปจนถึงฟังชั่นต่างๆจุ๊กจิ๊กๆ มากมายที่มารอตอบโจทย์ในการขับขี่ นั่นทำให้มันน่าสนใจ

 

สิ่งที่ไม่ชอบ >>>  อาจจะต้องจะจำกัดขำเขียดหน่อยเวลาเดินทางไกล แต่คิดอีกที มันก็ดีที่คุณจะไม่มีใบสั่งเรื่องจับความเร็วส่งมาถึงบ้าน

 

สิ่งที่อยากให้มี >>>  สั้นๆ ว่าอยากให้ขาย

 

คำแนะนำสำหรับผู้ซื้อ  >>>>  มันยังไม่ขายในไทย แต่อนาคตมีหรือไม่ ต้องรอตัดสินชะตา

 

ติดตามข่าวสารยานยนต์ รวดเร็วก่อนใคร ได้ที่ Autodeft.com

[GALLERY1035]