Hands on : DFSK V21 พาณิชย์น้อยร้อยช่าง นักขนจากแดนมังกร

บททดสอบรถยนต์บรรทุกขนาดเล็กตงฟง V21 เจ้านักขนแดนมังกรที่มาพร้อมความคุ้มค่าคุ้มราคา

 

 

เรื่องโดย ณัฐยศ ชูบรรจง

 

หากถามถึงรถยนต์จากจีน เชื่อเลยว่าหลายคนจะต้องมองภาพรถยนต์ที่มาจากประเทศมังกรว่า มันจะดีหรือหลายคน จะให้ซื้อก็ยังแทบจะบอกว่าขอคิดดูก่อนเลย ด้วยอาจจะภาพลักษณ์ในเรื่องคุณภาพที่ติดตามานาน แต่ในระยะกว่า 5 ปีที่ผ่านมา ค่ายรถยนต์ตงฟงก็พิสูจน์ตัวเองในตลาดมานานแล้ว่า รถจีนก็มีดี เป็นเจ้าของได้ในราคาไม่แพงและเหมาะต่อการใช้งานจริงๆ

“ตงฟงตรงใจ ใครๆก็ใช้ “ วลีล่าสุดที่ถูกขัดเกลาขึ้นมาจนทำให้หลายคนเริ่มเหลียวมองมากขึ้นกับรถกระบะพาณิชย์ 4 ล้อเล็กจากจีนแม้ในแง่การใช้งาน มันอาจจะไม่ใช่รถยนต์ที่หลายคนมองเป็นตัวเลือกหามาขับขี่มากมายนัก แต่ด้วยราคาที่ถูกสมรรถนะการขนเทียบชั้นระดับรถบรรทุกที่มีขนาดใหญ่กว่า ก็คงจะปฏิเสธไม่ได้สำหรับคนที่มีธุรกิจที่ต้องการประสิทธิภาพการขน

นี่อาจจะเป็นครั้งแรกที่กล่าวได้อย่างเต็มปากว่าผมมีโอกาสจับรถยนต์จากจีนเป็นครั้งแรก หลังจากขับรถยนต์มามากมายหลายรุ่นหลากยี่ห้อ ถึงแม้ว่ามันจะไม่ใช่รถยนต์นั่ง แต่ก็เป็นอีกความท้าทายใหม่และบทพิสูจน์ว่ารถยนต์จากจีน ก็มีดีไม่แพ้กัน

ตงฟง  V21 หรือที่ในค่ายเรียกกันว่า  Champion  นี้เป็นรถยนต์พาณิชย์น้อยรุ่นใหม่ล่าสุดที่ออกมาตอบโจทย์บรรดาพ่อค้าแม่ขาย หรือใครก็ตามที่ต้องการสมรรถนะการขนดีกว่ารถกระบะ แต่ราคาย่อมเยาเท่ารถอีโค่คาร์หนึ่งคัน

ภายนอกตงฟง  V21  เองออกแบบเน้นที่ความเป็นรถใช้งานด้วยสไตล์รถบรรทุกหัวเดียว เน้นพื้นที่บรรทุกเต็มพิกัด แต่กระนั้นเพื่อความดูดีใบหน้า ที่หลายคนครหาว่ารถจีนไรซึ่งสไตล์ ก็ปรับให้มีความเท่ห์เล็กๆ ไม่น่าแปลกใจนักถ้าคุณจะถูกใจกระจังหน้าสีดำเอกลักษณ์ตัวตนของรุ่น  V21  นอกจากนี้ยังมีการอัพเกรดขนาดยางเพิ่มขึ้นมาพร้อมล้อกระทะรัดด้วยยาง 175/80/R14 ตอบโจทย์เรื่องการบรรทุกมากขึ้น

ในห้องโดยสารห้องโดยสารสไตล์เก๋งหัวเดี่ยวรองรับผู้โดยสารเพียง 2 คนเท่านั้น ในภาพรวมการอออกแบบไม่ได้เน้นความหวือหวาอะไรนัก แต่ให้รายละเอียดการออกแบบค่อนไปในทางการเติมความเป็นรถนั่งเข้ามาตอบโจทย์

คอนโซลหน้าออกแบบมาค่อนข้างมีสไตล์เป็นของตัวเอง เสียดายที่วางต่ำไปหน่อยในแบบรถนั่งทำให้มีพื้นที่ช่วงเข่าน้อยเกินไป คนตัวใหญ่หรืออ้วนไปหน่อยจะนั่งแล้วเขาชิดพอดีไม่สะดวกสบาย กล่องเก็บของทางด้านหน้าก็มีขนาดที่เล็กไปทำให้พวกคือมือรถกระเด็นกระดอนออกมาวางที่ช่องวางของเปิดโล่งใต้คอนโซล ยังดีที่มีที่หลังเบาะสามารถเก็บของที่มีความแบนได้อีกนิดหน่อย และจะว่าแปลกแต่จริงก็คงเป็นถังดับเพลิงมีมาให้เป็นมาตรฐาน

ฝั่งคนขับเองมาในสไตล์บรรทุกนักขนตังจริงท่านั่งค่อนไปทางความเป็นบรรทุกมากกว่า ให้รายละเอียดด้วยชุดพวงมาลัย 4  ก้านเน้นตอบโจทย์เรื่องของการขับขี่ ตรงหน้ามาตรวัดมีรายละเอียดต่างๆ อย่างครบครัน ส่วนเบาะนั่งวางตำแหน่งสูงกว่าทางคนนั่งเล็กน้อย แต่ทั้งคู่มีดีเรื่องพื้นที่เหนือหัวเหลือประมาณคืบเศษ ซึ่งถ้าปรับปรุงเรื่องพื้นที่วางขาอีกหน่อยไม่ให้เขาติดจะดีมากทีเดียว

ความโดดเด่นของรถยนต์บรรทุกตงฟง V21 อยู่ที่การออกแบบรถให้เป็นพาณิชย์น้อยสำหรับคนเมืองมีความยาวเพียง 4,425 ม.ม. ตลอดรอบคันกว้าง 1,635 ม.ม. และ สูง 1,690 ม.ม.  ตอบโจทย์ด้วยระยะฐานล้อ 2,820 ม.ม. หายห่วงเรื่องการบรรทุกด้วยความยาวกระบะ 2700 ม.ม. (2.7เมตร) กว้าง 1,540 ม.ม.

เมื่อเป็นรถบรรทุก ภารกิจเราเลยเป็นเรื่องการขนโดยการเดินทางวันนี้เราจะขนอุปกรณ์กีฬาและข้าวของไปบริจาคน้องๆที่โรงเรียนแถวจังๆจังหวัดเพชรบุรีกัน

การเดินทางของเราในตงฟง V21 ใช้เส้นทางตามปกติ ผ่านนครปฐมออกราชบุรี แล้วตรงต่อเนื่องไปยังเพชรบุรี ซึ่งใต้ฝากระโปรงของเจ้าตงฟง V21 นี้เป็นเครื่องยนต์เบนซิน 4 สูบแถวเรียงแคมเดี่ยวขนาด 1.3 ลิตร ให้กำลังสูงสุด 82 แรงม้า ที่ 6000 รอบต่อนาที ในขณะที่แรงบิดให้มาอย่างต่อเนื่องที่ 102 นิวตันเมตร ตั้งแต่ 3,000 -3500รอบต่อนาที ส่งลงชุดเกียร์แม่นวล 5 สปีดให้เล่นสับกันเองตามความเหมาะสมของสถานการณ์ขับขี่

นอกจากนี้เพื่อความประหยัดมากยิ่งขึ้น ตงฟง  V21 ยังมาพร้อมระบบแก๊ส LPG ติดตั้งเบ็ดเสร็จจากโรงงาน มั่นใจได้กับผู้ผลิตระบบแก๊ส Lovato  ที่ได้มาตรฐานระดับโลก ช่วยให้ความประหยัดในการขับขี่เพิ่มความคุ้มค่าในการบรรทุก

ช่วงแรกของการเดินทางผมมารับเป็นผู้โดยสารก่อนด้วยความที่งานเช้ามาเลยง่วงหง่าวหาวนอน การนั่งตงฟง  V21 ยามเช้าจึงน่าจะเป็นทางออกที่ดีกว่า

สัมผัสแรกในตงฟง  V21 ที่มาพร้อมตัวตนความเป็นรถจีน ต้องยอมรับว่าในภาพรวมไม่ได้ขี้เหร่อะไร ถึงหลายคนจะร้องยี้!! แต่เมื่อก้าวเข้าไปนั่ง ถ้าไม่นับเรื่องเข่าติดจากความตัวใหญ่ไซส์ฝรั่งแล้วบอกเลยว่า จะอยู่ในเกณฑ์ดีทีเดียว วัสดุคุณภาพไม่แย่ แต่ก็ยังไม่ถึงกับดี ความก้องแก้งยังมีให้สัมผัสอยู่บ้างแต่ไม่ได้เป็นสิ่งที่ใช้งานบ่อยนักอาทิ ช่องเก็บของทางด้านหน้า ซึ่งน่ากลัวมากเมื่อใช้งานไปนานๆ จะพังง่าย หรือถ้าลูกน้องคุณเป็นประเภทกุลีใช้แรงบ่อย ควรเอาสติ๊กเกอร์ “ปิดเบาๆ”  มาแปะโดยด่วน

ระหว่างทางความเป็นรถบรรทุกเอง คงยากที่จะหาความสบายในการโดยสาร ไม่น่าแปลกใจที่มันออกแนวกระเด้งกระดอนพอสมควร แม้ด้านหน้าจะเป็นระบบกันสะเทือนแบบปีกนกอิสระสองชั้น คอยย์สปริงพร้อมเหล็กกันโคลง ซึ่งน่าจะกระเทือนน้อยกว่าช่วงล่างแหนบแบบรถบรรทุกตัวจริง แต่ก็ยังกระเทือนมากพอสมควร จนอาหารเช้าข้าวเหนียวหมูปิ้งหายไประหว่างการเดินทางถึงจุดพักแรกย่านราชบุรี แต่แปลกใจว่าหลังจากขึ้นขับเองตอนหลังกลับพบว่าที่นั่งคนขับนุ่มเหมือนไม่มีอะไรเกิดขึ้น ทั้งที่คนนั่งสั่นสะท้ายจากช่วงล่างเข้าใจว่าอาจจะเป็นที่ความสูงของตำแหน่งที่นั่งที่ต่างกันเพียงนิดเดียว

ด้านหลังงานหนักแบบนี้ระบบกันสะเทือนก็คงต้องเป็นแบบแหนบแผ่นซ้อนช่วยรับการขนได้มากขึ้นกว่า เป็นธรรมเนียมปกติของรถที่ต้องการสมรรถนะการขน ซึ่งเราอาจจะยังไม่ได้ของของเต็มพิกัด เพราะท้ายรถเราวันนี้ มีเพียงรถจักรยานสำหรับน้องๆ เพียง 4-5 คัน สามารถวางนอนเต็มกระบะได้พอดี แต่ด้วยน้ำหนักที่ยังไม่มากมายนัก จึงยังอาจจะบอกเรื่องสมรรถนะช่วงล่าง แต่รถบรรทุกเล็กขนาดนี้ไม่ได้เน้นงานหนักอะไรมากมาย เพราะเน้นในความคล่องตัวในเขตเมือง

ในที่สุดหลังรอมานานก็ได้เวลาที่จะมาลองเจ้าพาณิชย์น้อยจีนกันเสียที เมื่อขึ้นนั่งคุมบังเหียนเอง ปรับทุกอย่างเรียบร้อย ก็คงต้องยอมรับว่า มันดีกว่าที่คาดเอาไว้

ถึงจะต้องปรับเบาะสุ ด้วยตัวผู้เขียนเองเป็นทางไซส์ฝรั่ง แต่ท่านั่งในฝั่งคนขับถือว่าโอเค เหยียบคลัทช์เข้าเกียร์ ระยะเหยียบคลัทช์ ออกแบบมาให้ขับง่ายไม่ได้มีระยะสูงวางใจได้ สำหรับใครที่ขับเกียร์ธรรมดาไม่คล่อง ด้วยน้ำหนักนิ่มนวลระยะที่ไม่จากไกลมากจนสูงเกินไป ทำให้สะดวกต่อการขับขี่ โดยเฉพาะในเมืองที่อาจจะต้องเย่อบ่อยหน่อย 

แม้ใต้เบาะนั่งเราจะเป็นขุมพลัง 4 สูบบล็อกเล็ก 1.3 ลิตร ซึ่งล้อเทคโนโลยีมาจากค่ายรถยนต์ชั้นนำ แต่เรื่องความทรงพลังนั้นไม่ได้ย่อหย่อนเลย หากมองขนาดตัวที่มีขนาดเท่าๆกับรถคอมแพ็คคาร์หนึ่งคัน ไม่รวมพิกัดบรรทุกซึ่งก็น่าจะจัดเต็มได้ราวๆ 1 ตัน เมื่อบวกรวมกับตัวรถที่มีน้ำหนักเปล่า 1,030 กก.

ก็คงต้องยอมรับว่าเจ้าเครื่อง 1.3 ลิตร บล็อกนี้สู้ตายมากพอตัว ยิ่งเมื่อเราลองขับเร่งกันเต็มด้วยระบบแก๊ส เสียงเครื่องเองค่อนข้างจะมีความทรงพลังความทุ้มลึกของเครื่องยนต์ที่เร่งเร็วจี๋ตั้งแต่ 4,000 รอบต่อนาทมีขึ้นไปบอกภายใต้จิตใจนักขับตัวยงได้เป็นอย่างดีถึงความไม่ธรรมดา

และเมื่อคุณต้องขับทางยาว ซึ่งรถบรรทุกจำกัดความเร็วการเดินทางไว้ที่ 90 ก.ม./ช.ม.  ทีตำแหน่งเกียร์ 5 ซึ่งส่งกำลัง 1/1 ลงชุดเฟืองท้ายที่มาพร้อมอัตราทดไม่ต่างจากรถเก๋ง 3.909 ก็ใช้รอบเครื่องเพียง 2700 รอบต่อนาทีเดินเนียนๆ ไปเรื่อยๆ แต่ถ้าคุณรีบ ก็ยังสามารถเดินทางได้เร็วสุด 125 ก.ม. /ช.ม. เลยทีเดียว และท้ายสุดแก๊ส 1 ถังสามารถเดินทางได้กว่า 338 ก.ม. เรียกว่าประหยัดจริงอะไรจริง

ถึง ตงฟง  V21 จะไม่ใช่รถที่หลายคนมองหาอยากคบไว้ขับเอง แต่ก็คงมีคนอีกกลุ่มผู้ทำธุรกิจขนาดเล็กอยากไว้ตอบโจทย์ในการขนสินค้า ซึ่งรถบรรทุกจากจีนอาจจะเป็นตัวเลือกที่หลายคนมองข้ามไปอย่างน่าเสียดาย แต่ด้วยราคาจำหน่ายที่พอๆกับรถอีโค่คาร์ ...และสมรรถนะที่ประหยัดเกินตัว ลองมอง ตงฟง  V21 ไว้ตอบโจทย์บ้างในสายตาก็ได้...

 

เรื่องโดย ณัฐยศ ชูบรรจง

 

 

สรุปผลการทดสอบ รถ  DFSK (ตงฟง)  V21 Champion

ตงฟง  V21 Champion

ราคาจำหน่าย  338,000 บาท

ขอบคุณ บริษัท ตงฟง มอเตอร์ส (ประเทศไทย) จำกัด ที่เชิญร่วมทริปคาราวานทดสอบ ตงฟง V21

 

ติดตามข่าวสารยานยนต์ รวดเร็วก่อนใคร ได้ที่ Autodeft.com

[GALLERY317]