มูลนิธิโตโยต้า โมบิลิตี้ ร่วมกับพันธมิตรแถลงผลงาน โครงการบริหารจัดการข้อมูลจราจรบนถนนพระราม 4 กรุงเทพมหานคร ข้อเสนอมาตรการการแก้ปัญหาจราจร โดยการใช้ข้อมูลในการบริหารจัดการการจราจร
หลังจากที่เป็นปัญหามานานสำหรับเรื่องกำหนดความเร็วในการขับที่จะเจอผู้พิทักษ์เลนขวา ขับรถแช่ขวาจนสร้างปัญหาและเกิดอุบัติเหตุมาแล้วหลายครั้ง ล่าสุด ราชกิจจาฯประกาศกฎกระทรวง กำหนดให้รถยนต์ใช้ความเร็วไม่เกิน120 กิโลเมตรต่อชั่วโมงวิ่งเลนขวาห้ามต่ำกว่า 100 กิโลเมตรต่อชั่วโมง ส่วนบิ๊กไบก์ ให้ใช้ความเร็ว 110 กิโลเมตรต่อชั่วโมง
"กฎจราจร” คือกติกาที่ทุกคนต้องใช้ร่วมกัน เพื่อให้การสัญจรไปมาในท้องถนน สามารถทำได้โดยปลอดภัยและเรียบร้อย และแน่นอนว่า ผุ้ที่ต้องใช้งานท้องถนนทั่วไป ไม่ว่าจะเป็นการขับรถ, ขี่มอเตอร์ไซค์ หรือแม้กระทั่งเดิน ก็ต้องเคารพกฎจราจรทั้งหมด แต่ก็มีอยุ่บางข้อ ที่หลายคนยังคงเข้าใจผิดว่า สิ่งที่ตัวเองทำหรือคิดนั้นถูกต้องแล้ว ทั้งที่มันผิด (หรืออาจจะถูก) วันนี้เรามาลองยกตัวอย่างกันเสียหน่อย ว่ามีกฎจราจรอะไรบ้างท
ถ้าจะกล่าวถึงเมืองหลวงของเมืองไทยก็คงหนีไม่พ้น กรุงเทพมหานคร เมืองที่เต็มไปด้วยตึกรามบ้านช่องที่สูงตระหง่าน ความเจริญเทคโนโลยี และวัฒนธรรมที่โดดเด่นจนชาวต่างชาติเทใจมาท่องเที่ยวที่มหานครแห่งนี้มากที่สุดจนติดอันดับต้นๆ สุดยอดเมืองท่องเที่ยวโลก
เวลาที่เราขับรถในช่วงรถติด แล้วอยู่บนถนนเลนสวน เรามักจะเจอนักขับรถที่ไร้วินัยกันอยู่เสมอ ประเภทที่ชอบขับรถสวนเลนออกไป ไม่ยอมอดทนต่อคิวชาวบ้าน แล้วค่อยไปแทรกเอาด้านหน้าเดือดร้อนคนอื่น เชื่อว่าหลายคนคงอยากมีวิธีแก้เผ็ดคนแบบนี้กันบ้าง แต่ไม่รู้จะทำอย่างไร
หลังจากมีการวิพากษ์วิจารณ์กันอย่างมาก เมื่อมีข่าวพาดหัวออกมาว่าคณะกรรมการแก้รถติดในกรุงเทพได้สรุปผลการแก้ไขรถติดบนถนนรามคำแหงว่า รถเมล์คันใหญ่ทำให้รถติด ต้องรถปริมาณลงถึงจะหายรถติดได้ จนทำให้คนมีการโวยวายกันอย่างมากว่า การสรุปแบบนี้มันใช่เหรอ เพราะระบบขนส่งมวลชนสิที่จะช่วยลดปริมาณของรถยนต์ได้
แน่นอนว่าการเดินทางช่วงวันหยุดยาวในช่วงเทศกาลปีใหม่ ย่อมมีปัญหาการจราจรในหลายเส้นทาง ล่าสุดกรมทางหลวง แนะนำเส้นทางเลือกในช่วงเทศกาลปีใหม่ 61 เพื่อเพิ่มความสะดวกรวดเร็วในการเดินทางให้แก่ประชาชน รวมทั้งสิ้น 13 เส้นทาง
เรารู้กันดีอยู่แล้วว่า ปัจจัยหลักที่ทำให้การจราจรในเมืองหลวงอย่างกรุงเทพมหานคร ติดขัดอย่างมหาศาลจนติดอันดับโลก ก็คือปริมาณถนนไม่เพียงพอกับปริมาณของรถยนต์ที่วิ่งกันอยู่ ต่อให้รัฐบาลไหน จะมีมาตรการขายฝันดีอย่างไร ถ้าเราไม่สามารถเริ่มกำจัดต้นเหตุแห่งปัญหาได้ การจราจรที่แสนแย่ในเมืองหลวงก็ไม่มีวันแก้ไขได้ ในเมื่อเรารู้กันอยู่แล้วว่าเมื่อยิ่งเอารถออกมา รถก็ยิ่งติด แล้วทำไมเรายังเลือกที่จะเอารถออกมาอีก
เช้านี้ในบางพื้นที่ของ กทม. เกิดมีฝนตกลงมาแบบให้พอชุ่มฉ่ำ รับเช้าวันแรกของการทำงานสัปดาห์สุดท้ายของเดือนพอดี จนทำให้การจราจรนั้นติดขัดมากขึ้นไปอีกหลายเท่าตัว จนหลายคน (รวมถึงผมเองที่ใช้เวลาการเดินทางเพิ่มขึ้นอีกเท่าตัว) เกิดคำถามขึ้นมาว่า ทำไมฝนตกทีไรแล้วรถต้องติด วันนี้เลยขอวิเคราะห์กันคร่าวๆครับ
ด้วยการจราจรปัจจุบันไม่ว่าจะทั้ง กรุงเทพหานคร ปริมณฑล และจังหวัดใหญ่ๆ ล้วนแต่สร้างความปวดหัวให้กับคนใช้รถ คนใช้บริการรถสาธารณะเป็นอย่างมากเนื่องจากการจราจรที่ติดขัดและติดนานมาก
มีมากมายหลายคดีในประเทศไทย สำหรับอุบัติเหตุสุดสยองซ้ำแล้วซ้ำเล่า จนกลายเป็นประเด็นสังคมว่า บ้านเราโทษทางกฎจราจรเบาไปหรือไม่ แต่ไหนๆ บ้านเราก็เอาต้นแบบมาจากประเทศอังกฤษ คงได้เวลาเหลียวมองการปรับปรุงกฎจราจรที่บ้านเขาบ้าง
นับเป็นเรื่องที่หลีกเลี่ยงไม่ได้สำหรับเหตุการณ์ฝนตก รถติดหลังเลิกงาน ที่ชาวกรุงต้องผจญกันในช่วงนี้ แต่ว่า มันไม่เหมือนทุกครั้งที่ผ่านมา เพราะเมื่อวานนี้ (3 ตุลาคม 2559) เป็นเหตุการณ์ที่จะต้องเผชิญอีกครั้ง และหนักกว่าเดิม
ปกติพูดถึงประเทศรัสเซีย ..เรามักจะรับรู้ความโหดร้ายของผู้คนที่เราถูกทำให้นึกว่า พวกเขาจะต้องพูดจาห้าวพร้อมรักษาสิทธิตัวเองด้วยวิธีการรุ่นแรง ทั้งที่ความจริง คนรัสเซียอาจจะไม่ใช่แบบนั้นเลยสักหน่อย หากแต่เป็นภาพที่เราหลายคนจินตนาการจากคลิปวีดีโอหรือเรื่องราวที่เคยได้ยิน
ทุกวันนี้เทคโนโลยีต่างๆบนรถยนต์ต่างก้าวล้ำไปอย่างมาก จนเราหลายคนกำลังก้าวเข้าสู่ยุคที่อีกไม่กี่ปีข้างหน้า เราอาจจะแค่ขึ้นรถแล้วปล่อยมันขับได้เองจากบ้านไปจนถึงที่ทำงาน คุณอาจจะไปสัปหงกบนรถได้ โดยไม่ต้องมาบ่นอะไรวุ่นวาย เรากำลังจะใกล้ถึงในเวลานั้นในชั่วชีวิตนี้ แต่อย่างหนึ่งที่หลายคนอาจจะไม่ทราบมาก่อนคงหนีไม่พ้นระบบสนับสนุนเทคโนโลยีต่างๆ เหล่านี้ และมันอยู่เพียงเอื้อมมือที่ต้องอาศัยวงจรภาครัฐบาลเข้า
เมื่อวานนี้แตกตื่นกันทั้งบางเมื่อรัฐบาลสรุปปัญหาเรื่องอุบัติเหตุและอุบัติภัยในช่วงสงกรานต์ที่ผ่านมา พบว่าสงกรานต์ปีนี้ตัวเลขอุบัติเหตทางถนนเพิ่มมากขึ้นและมีจำนวนผู้เสียชีวิตอย่างน่าตกใจ