บังคับใช้แล้ว ห้ามใช้ความเร็วเกิน 50 กม./ชม. ในถนน 8 สาย

เมื่อวันที่ 14 กุมภาพันธ์ที่ผ่านมา ราชกิจจานุเบกษา ได้ประกาศ ข้อบังคับเจ้าพนักงานจราจรในเขตกรุงเทพมหานคร ว่าด้วยการกำหนดอัตราความเร็วของรถ ใจความหลักคือห้ามขับรถเร็วเกินกว่า 50 กิโลเมตร/ชั่วโมง ในถนน 8 สายในกรุงเทพมหานคร

ดูขำๆ เร็วที่สุด 20 คันที่โดนใบสั่งในรัฐเท็กซัส สหรัฐอเมริกา

แน่นอนว่าทุกประเทศบนโลกนี้ที่มีกฎหมายจราจร ต้องมีการกำหนดอตราความเร็วไม่ให้เกินในพื้นที่ต่างๆ ถ้าเกินแล้วถูกจับได้ ก้ต้องมีการไปเสียค่าปรับกันตามธรรมเนียม แต่ถึงจะมีกฎหมายบังคับใช้อยู่ ก็ยังมีผู้ขับขี่บนท้องถนนจำนวนมาก ก็อยากจะลองใช้ความเร็วเกินกำหนดอยู่ซักหน่อย ด้วยเหตุผลที่แตกต่างกันไป

จัดระเบียบเข้ม ให้ใช้ป้ายแดงได้ไม่เกิน 30 วัน ฝ่าฝืนปรับสูงสุด 10,000 บาท

กรมการขนส่งทางบก จับมือสำนักงานตำรวจแห่งชาติ แถลงข่าวมาตรการเข้มงวดในการใช้งานป้ายแดงมากขึ้น โดยในปีหน้า จะอนุญาตให้ใช้งานป้ายแดงสำหรับรถยนต์ที่ออกจากศูนย์บริการใหม่เพียงแค่ 30 วันเท่านั้น ถ้าหากเกินกว่านี้มีโทษปรับสูงสุด 10,000 บาท

กฎหมายใหม่เริ่มแล้ว ถ้าเมาแล้วขับ ประกันภัยไม่คุ้มครองเมื่อเกิดอุบัติเหตุ

เราได้เห็นภาพอุบัติเหตุที่เกิดจากการเมาแล้วขับบ่อยครั้ง จนกลายเป็นภาพชินตาไปแล้ว ดังนั้นเพื่อลดการเมาแล้วขับ จึงได้มีการออกกฎหมายใหม่ให้ประกันภัยภาคสมัครใจ ไม่ต้องทำการคุ้มครองกรณีที่เกิดอุบัติเหตุจากการเมาแล้วขับ มีผลบังคับใช้แล้วตั้งแต่ 1 มิถุนายนเป็นต้นไป

ชมภาพรถยนต์คันแรกที่ถูกใบสั่งข้อหาขับรถเร็วเกินกำหนดที่อังกฤษ

กฎหมายในประเทศไทยเกี่ยวกับการจำกัดความเร็วในการขับขี่รถยนต์ ถูกเขียนขึ้นมาเมื่อหลายปีมาแล้ว หลายคนก็ยังมีข้อถกเถียงกันอยู่ว่า รถยนต์สมัยใหม่มีระบบความแรงและความปลอดภัยก้าวหน้ากว่าตอนที่เขียนกฎหมายมากแล้ว ควรจะปรับปรุงได้ซักที เพราะโดนใบสั่งกันจนเบื้อ วันนี้ลองมาดูโฉมหน้ากับรถยนต์คันแรกที่โดนใบสั่งข้อหาขับรถยนต์เร็วเกินที่กฎหมายกำหนดที่ประเทศอังกฤษกันดีกว่า

ข้อหาไหนบ้าง ที่คนขับรถยนต์บนถนนมักทำผิดจนเคยชิน

หลังกระแสดราม่าเรื่องห้ามนั่งในแคปและกระบะ เลยทำให้มีควันหลงถกเถียงกันเป็น 2 ฝ่าย โดยฝ่ายหนึ่งบอกว่า การบังคับแบบนี้เป็นการกลั่นแกล้งผู้มีรายได้น้อย, หักดิบมากเกินไป ไม่อะลุ้มอล่วย, เพิ่มข้อหาให้ตำรวจเขียนใบสั่งได้มากขึ้น เป็นต้น ส่วนอีกฝ่ายก็บอกว่า กฎหมายเขียนแบบนี้มาตั้งนานแล้ว แต่คนไทยทำผิดซะเคยชินจนกลายเป็นเรื่องถูกต้อง เป็นต้น ซึ่งจริงๆแล้วยังมีอีกหลายเรื่องบนท้องถนน ที่คนไทยยังทำผิดกฎหมาย แต

ถอยแทบไม่ทัน!! ตำรวจอนุโลมให้นั่งในแคปและท้ายกระบะชั่วคราว

จากเหตุการณ์ที่ทางภาครัฐ ออกมาตรา 44 เพื่อเพิ่มประสิทธิภาพการบังคับใช้กฎหมายจราจรทางบก ด้วยการไม่ให้โดยสารในกระบะท้าย และ ห้ามกระบะแคปไม่ให้บรรทุกคนโดยสารได้ โดยมีผลตั้งแต่วันนี้เป็นต้นไป (5 เมษายน 2560) ส่งผลให้เกิดกระแสวิพากษ์วิจารณ์ออกไปในวงกว้าง

เริ่มแล้ว!! ห้ามนั่งทั้งในแคปและกระบะท้าย…เจอจับปรับทันที

งานนี้เสาวกกระบะชาวไทยมีสิทธิ์หนาวๆร้อนๆอย่างแน่นอน เมื่อมีมาตรา 44 เพิ่มประสิทธิภาพการบังคับใช้กฎหมายจราจรทางบก ด้วยการไม่ให้โดยสารในกระบะท้าย และ ห้ามกระบะแคปไม่ให้บรรทุกคนโดยสารได้ นอกจากให้รถทุกคันคาดเข็มขัดนิรภัยทุกที่นั่ง โดยมีผลตั้งแต่วันนี้เป็นต้นไป (5 เมษายน 2560)

ม.44 บังคับหากไม่จ่ายค่าปรับ งดต่อภาษี และโดยสารเบาะหลังต้องคาดเข็มขัดด้วย ตั้งแต่ 21 มีนาคม 2560

ล่าสุดตามคำสั่งหัวหน้าคณะรักษาความสงบแห่งชาติ ที่ 14/2560 เรื่องมาตรการเพิ่มประสิทธิภาพการบังคับใช้กฎหมายว่าด้วยการจราจรทางบก ดังสรุปใจความได้ว่าผู้ขับขี่และผู้โดยสารทั้งด้านหน้าและด้านหลังต้องคาดเข็มขัดนิรภัยในขณะโดยสารรถยนต์ และในกรณีที่ผู้ขับขี่ได้รับใบสั่ง ต้องไปชำระค่าปรับภายใน 15 วัน หากไม่ชำระจะไม่สามารถต่อภาษีประจำปีได้ มีผลตั้งแต่วันที่ 21 มีนาคม 2560

คนสอบใบขับขี่ใหม่เตรียมตัว ต้องอบรม 15 ชั่วโมงที่โรงเรียนเอกชนก่อน คาดต้องจ่ายราว 4,000-5,000 บาท

หลังจากมีปัญหาเรื่องอุบัติเหตุบนท้องถนนมากขึ้น และความต้องการทำใบขับขี่ใหม่มีสูงมากขึ้นทุกวัน ทำให้กระทรวงคมนาคมเตรียมปรับแก้กฎกระทรวงใหม่ ด้วยการอาจบังคับคนที่สอบใบขับขี่ใหม่ ต้องไปเรียนที่โรงเรียนสอนขับรถเอกชนก่อน 15 ชั่วโมงถึงจะอนุญาตให้ทำใบขับขี่ได้

Uber&Grab VS Taxi จะเอาที่ถูกใจหรือที่ถูกต้อง?

ปัญหาเรื่อง Taxi เมืองไทย ยังคงเป็นตำนานอันแสนยาวนานกับปัญหาที่มาจากตัวคนขับอยู่ไม่หยุดไม่หย่อน เริ่มจากปัญหาเบสิคอย่างไม่รับผู้โดยสารจากข้ออ้างมากมาย ทั้งแก๊สหมด, ส่งรถ, รถติด, ไม่คุ้นทาง ยิ่งกับบริเวณที่มีฝรั่งเยอะๆนี่ แทบจะปิดไฟไม่ต้อนรับผู้โดยสารคนไทยเลย จนถึงปัญหาที่ใหญ่กว่าทั้งพูดจาแทะโลมผู้โดยสาร, โกงมิเตอร์, พาขับอ้อมเพื่อเอาเงินเพิ่มเป็นต้น จนทำให้คนไทยจำนวนไม่น้อยเลือกที่จะไปใช้วิธีเรียก

ถึงเวลาหรือยังกับกฎหมายบังคับติดกล้องหน้ารถยนต์

ช่วงนี้เราจะได้เห็นภาพอุบัติเหตุหรือเหตุการณ์ต่างๆบนท้องถนนผ่านทางกล้องหน้ารถยนต์มากขึ้น เนื่องจากความนิยมในการใช้งานตอนนี้กำลังเพิ่มสูงขึ้นอย่างต่อเนื่อง เพราะคนที่ใช้รถจะคิดว่าถ้าติดกล้องเพื่อบันทึกภาพไว้ วันหนึ่งมันอาจจะช่วยเราจากอุบัติเหตุที่เราไม่คาดฝันหรือบันทึกเรื่องราวที่น่าจะเป็นที่สนใจของคนทั่วไปได้

ว่าด้วยเรื่องรถฉุกเฉิน

ช่วงหลังๆเราจะได้เห็นภาพข่าวอยู่บ่อยๆว่า มีพฤติกรรมการขับรถของบางคน เมื่อเจอรถฉุกเฉินเปิดสัญญาณฉุกเฉิน แต่ยังขับไปตามปกติไม่ยอมหลบ จนเป็นที่วิพากษ์วิจารณ์กันอย่างมากมายเป็นวงกว้าง และมีมุมต่างๆให้ถกเถียงกันมากมาย วันนี้ Autodeft เลยขอยกกฎหมายจราจรทางบกที่เกี่ยวข้องกับรถฉุกเฉิน เอามาให้ข้อมูลอย่างถูกต้องกันครับ

Deft Opinion : ขับรถชนท้ายคันหลังต้องผิด ....กฏหมายจราจรอ่อนหัด ..ได้เวลาเปลี่ยนใหม่หรือยัง

ถึงเวลาหรือยังที่ต้องปรับปรุงกฏหมายการจราจรในสังคม ที่ระบุว่าคนขับรถชนท้ายต้องผิดเสมอ