ล่าสุดเมื่อเดือนสิงหาคมที่ผ่านมาค่ายรถ BYD ในจีนสามารถกวาดยอดขายรถใหม่กลุ่มรถไฟฟ้าเสียบปลั๊กไปได้ถึง 60,508 คัน ในเดือนเดียว นับเป็นเดือนที่ทางค่ายสามารถทำยอดขายได้สูงสุดของปีในตอนนี้ เมื่อเทียบในช่วงเวลาเดียวกันกับปีก่อนเติบโตขึ้นถึง 332%
สำหรับงาน ACT Expo ที่ลองบีช รัฐแคลิฟอร์เนีย ที่ผ่านมา ค่ายรถจากจีนนามว่า BYD ก็ได้อวดโฉมรถบรรทุกไฟฟ้าเจนเนอเรชั่นใหม่สำหรับลุยตลาดอเมริกาเหนือ กับสองรุ่น BYD 8TT ในลักษณะของรถหัวลาก และ BYD 6F - Class 6 กับรถบรรทุกที่สามารถรองรับการใช้งานที่ด้านท้ายหลากหลาย
ล่าสุดค่ายรถยนต์ BYD จากจีน ได้อวดโฉมรถต้นแบบ BYD Ocean-X Concept ในจีน มาในร่างของรถซีดานขนาดกลางที่เป็นไฟฟ้าล้วน นำเสนอด้วยความโดดเด่นสมรรถนะสูง รูปลักษณ์ของรถมาพร้อมความโค้งมน ที่แตกต่างที่สุดที่ส่วนของล้อที่แปลกตาไป
ล่าสุดค่ายรถยนต์อย่าง BYD ก็ได้เปิดตัวรถไฟฟ้ารถใหม่อย่างเป็นทางการแล้วที่งาน Chengdu Auto Show กับรถใหม่นามว่า BYD Dolphin สุดน่ารัก ในร่างของรถห้าประตู ที่มีรหัสว่า EA1 นับเป็นรถโมเดแรกที่ใช้แพลตฟอร์ม BYD e platform 3.0 ที่ได้รับความสนใจจนมียอดจองล่วงหน้ามากถึงกว่า 2,000 คันภายในหนึ่งชั่วโมงแรก และรวมสูงถึงกว่า 5,000 คันเมื่อผ่านมาหนึ่งสัปดาห์
ล่าสุดมีรายงานตัวเลขยอดขายรถใหม่กลุ่มรถไฟฟ้าเสียบปลั๊กจากค่าย BYD ในจีน เดือนกรกฎาคมที่ผ่านมาสามารถกวาดยอดขายรถใหม่ไปได้ 50,057 คัน เติบโตขึ้นจากช่วงเวลาเดียวปีก่อน 263% เลยทีเดียว และสัดส่วนยอดขายรถไฟฟ้าเสียบปลั๊กคิดเป็น 88% ของยอดขายรถใหม่ของค่าย ซึ่งทั้งหมดขายได้ 56,975 คัน
หลังจากที่มีการแนะนำรถไฟฟ้าใหม่ BYD Dolphin (EA1) ในงาน 2021 Shanghai Auto Show เมื่อช่วงเดือนเมษายนที่ผ่านมา รถที่มาพร้อม BYD e platform 3.0 ใหม่ และแนวคิด X DREAM ซึ่งในรับการอนุมัติให้ผลิตและขายแล้วในเดือนมิถุนายน คาดเปิดตัวอย่างเป็นทางการในไม่ช้านี้
หลังจากที่ทาง BYD ค่ายรถยนต์ยักษ์ใหญ่จากจีน ร่วมมือกับผู้จัดจำหน่ายอย่าง RSA ในนอร์เวย์ ซึ่งก่อนหน้านี้การขนส่งรถไฟฟ้า BYD Tang แบบ 7 ที่นั่ง 100 คันแรก ไปถึงนอร์เวย์เรียบร้อย ล่าสุดพร้อมส่งมอบรถให้กับลูกค้าแล้วเรียบร้อย นับเป็นการเริ่มต้นรุกสู่ตลาดในยุโรปที่สำคัญ ตั้งเป้าจำนวน 1,500 คัน ในนอร์เวย์ภายในสิ้นปีนี้ กับ BYD Tang รถไฟฟ้าล้วน
หลังจากที่เราได้ติดตามข่าวของรถไฟฟ้า BYD ที่จะลุยตลาดในยุโรป โดยเริ่มกันที่นอร์เวย์ โดยทาง BYD ค่ายรถยนต์ยักษ์ใหญ่จากจีน ร่วมมือกับผู้จัดจำหน่ายอย่าง RSA ในนอร์เวย์ ซึ่งล่าสุดรถไฟฟ้าแรกที่ลุยตลาดอย่าง BYD Tang นั้น ได้เดินทางมาถึงนอร์เวย์แล้วเมื่อช่วงปลายเดือน ก.ค. ที่ผ่านมา ผ่านทางการขนส่งทางเรือจากจีน จำนวน 100 คันแรก คาดส่งมอบให้แก่ลูกค้าได้ในเดือนกันยายนนี้ โดยในปีนี้ทางบริษัทตั้งเป้าส่งมอบ 1
ค่ายรถยนต์จากจีน BYD ล่าสุดได้ทำการฉลองการผลิตรถใหม่ BYD Han คันที่ 100,000 แล้วเรียบร้อย นับตั้งแต่มีการวางจำหน่ายตั้งแต่เมื่อฤดูร้อนปี 2020 กับขุมกำลังไฟฟ้าล้วนและปลั๊กอินไฮบริด นับเป็นอีกก้าวความสำเร็จของค่าย และในปีนี้สามารถขายไปได้แล้ว 52,231 คัน รวมสะสมตลอดการวางจำหน่ายอยู่ที่ 92,787 คัน
ล่าสุดมีรายงานเกี่ยวกับยอดขายรถใหม่จากค่าย BYD ในจีน กับกลุ่มรถเสียบปลั๊ก โดยในเดือนพฤษภาคมสามารถกวาดยอดขายไปได้ 31,681 คัน เติบโตขึ้นจากปีก่อนถึง 199% และยังเพิ่มสูงขึ้นต่อเนื่องนับตั้งแต่เดือนกุมภาพันธ์ และมียอดขายสูงสุดต่อเดือนอันดับที่สอง รองจากเดือนธันวาคมในปี 2018
ล่าสุดไม่นานนี้ทางค่ายรถยนต์ BYD ได้ประกาศว่ารถไฟฟ้า BYD Tang จำนวน 100 คันแรก ได้ออกจากท่าเรือเซี่ยงไฮ้เมื่อวันที่ 7 มิถุนายน แล้ว ตามกำหนดจะไปถึงนอร์เวย์ในช่วงปลายฤดูร้อนนี้ ซึ่งนอกจากค่ายรถจีนอย่าง BYD แล้ว ยังมี NIO, Xpeng, Aiways และ SAIC ที่กำลังลุยตลาดรถไฟฟ้าในยุโรป
ล่าสุดค่ายรถยนต์ยักษ์ใหญ่ในจีน ฉลองการผลิตรถไฟฟ้าปลั๊กอินเสียบปลั๊กในวันที่ 19 พฤษภาคม 2564 ที่เพิ่งผ่านมา กับการผลิตรถยนต์ไฟฟ้าปลั๊กอินได้ครบจำนวนแล้ว 1,000,000 คัน จากสายการผลิตที่โรงงานผลิตในเซินเจิ้น
เมื่อนึกถึงรถไฟฟ้าหลาย ๆ คน น่าจะพอทราบว่ารถไฟฟ้าจะมีรูปแบบของเกียร์หรือระบบส่งกำลังที่แตกต่างไปจากรถเครื่องยนต์สันดาป และมักจะไม่เคยเห็นในรูปแบบเกียร์ธรรมดาในรถไฟฟ้า รวมไปถึงการมีแป้นคลัทช์อีกด้วย แต่ล่าสุดนี้ทางค่ายรถยนต์ในจีน BYD ก็ได้เผยรถไฟฟ้า e3 Electric Sedan ที่มาพร้อมกับแป้นคลัทช์และเกียร์ธรรมดา H-pattern
สำหรับตัวเลขยอดขายรถใหม่ในกลุ่มรถไฟฟ้าเสียบปลั๊กของค่าย BYD ในเดือนมีนาคม ปี 2021 ที่ผ่านมา สามารถกวาดยอดขายรถใหม่ในกลุ่มนี้ไปได้มากถึง 23,386 คัน เติบโตขึ้นถึง 99% เมื่อเทียบกับช่วงเวลาเดียวกันในปีที่ผ่านมา
ล่าสุดค่ายรถยนต์อย่าง BYD ได้เปิดตัวรถใหม่รถไฟฟ้านามว่า BYD Yuan Pro ที่ได้รับการติดตั้งมาพร้อมกับแบตเตอรี่ Blade Battery ที่มีการออกแบบแพคแบตเตอรี่แบบใหม่ของทางบริษัททำให้พื้นที่ที่ใช้น้อยลงอย่างมากถึงราว 50% กับความจุขนาด 50.1 kWh ที่ลดลงจากเดิมเล็กน้อย เดิม 53.2 kWh ส่งผลให้รถสามารถวิ่งได้ไกลเหลือราว 401 กิโลเมตร จากเดิมในรุ่น BYD Yuan วิ่งได้ไกล 410 กิโลเมตร