แน่นอนว่า ประเทศบนโลกนี้ จะมีกฎหมาย “เมาแล้วขับ” ใช้งานอยู่ ประเทศไทยกำหนดให้ปริมาณแอลกอฮอล์ในเลือดต้องไม่มากกว่า 50 มิลลิกรัมเปอร์เซ็นต์ แต่ก็มีคำถามว่า แล้วประเทศอื่นเขาใช้กันที่เท่าไหร่บ้าง เราลองมาหาคำตอบกัน
ฟอร์ด ประเทศไทย สานต่อพันธกิจในการส่งเสริมทักษะการขับขี่ให้กับผู้ใช้รถใช้ถนนทั่วประเทศไทยต่อเนื่อง เดินหน้าจัดกิจกรรมฝึกอบรมโครงการ ‘ฉลาดขับ ประหยัด ปลอดภัย’ หรือ Ford Driving Skills For Life (DSFL) ต่อเนื่องเป็นปีที่ 16 โดยมุ่งพัฒนาทักษะผู้ขับขี่เพื่อลดโอกาสการเกิดอุบัติเหตุบนท้องถนนผ่านการอบรมทั้งภาคทฤษฎีและปฏิบัติในสถานการณ์เสมือนจริง ในปีนี้ฟอร์ดจัดอบรมโครงการ ฉลาดขับ ประหยัด ปลอดภัย รอบแรกที่
ทุกวันนี้ เทคโนโลยีความปลอดภัยบนรถยนต์ใหม่ ก็มีมากมายหลายรูปแบบ แต่ก็ยังไม่มากพอที่จะหยุดการเมาแล้วขับได้ ดังนั้นทาง NTSB จึงอยากเร่งให้ค่ายรถยนต์ติดตั้งระบบตรวจจับผู้ขับขี่ที่เมาแล้วไม่ให้ขับให้เร็วที่สุด
ศาลสูงเมือง New Mexico ในประเทศสหรัฐฯ มีคำสั่งใหม่ออกมาล่าสุดว่า ในกรณีที่สถานีให้บริการเติมน้ำมันแห่งไหน ที่ทำการเติมน้ำมันให้กับคนที่เมาแล้วขับ จะต้องมีส่วนรับผิดชอบในการรับความผิดกรณีรถคันนั้นขับไปจนเกิดอุบัติเหตุด้วย
ปัญหาเรื่องเมาแล้วขับ จนทำให้เกิดอุบัติเหตุนั้น เป็นปัญหาที่ทุกประเทศทั่วโลกต้องเผชิญ รัฐบาลแต่ละประเทศก็พยายามหาวิถีทางที่จะช่วยลดปัญหานี้ให้เกิดขึ้นน้อยที่สุด โดยล่าสุดทางรัฐบาลรัสเซีย กำลังหาทางที่จะติดตั้งระบบตรวจแอลกอฮอล์ของผู้ขับขี่ ลงในรถยนต์ใหม่ทุกคัน เพื่อลดปัญหาเรื่องเมาแล้วขับ
ค่ายบริษัท IT จากแดนมังกร Huawei ได้ทำการจดสิทธิบัตรระบบการตรวจสอบภายในตัวรถ เพื่อดูว่า ผู้ที่ทำการขับขี่รถยนต์อยู่นั้น มีสภาพพร้อมในการขับรถหรือไม่ กำลังเมาเหล้าหรือเมายาเสพติดอยู่หรือเปล่า
เราได้เห็นภาพอุบัติเหตุที่เกิดจากการเมาแล้วขับบ่อยครั้ง จนกลายเป็นภาพชินตาไปแล้ว ดังนั้นเพื่อลดการเมาแล้วขับ จึงได้มีการออกกฎหมายใหม่ให้ประกันภัยภาคสมัครใจ ไม่ต้องทำการคุ้มครองกรณีที่เกิดอุบัติเหตุจากการเมาแล้วขับ มีผลบังคับใช้แล้วตั้งแต่ 1 มิถุนายนเป็นต้นไป
แน่นอนว่าการเมาแล้วขับรถนั้น ผิดกฎหมายในประเทศส่วนใหญ่บนโลกนี้อยู่แล้ว แต่กับคุณพ่อชาวอังกฤษคนหนึ่งกลับคาดไม่ถึงว่า เพียงแค่การเลื่อนรถไปจอดหน้าบ้านตัวเองที่ห่างไปเพียง 35 เมตร ก็จะถูกจับแล้วปรับได้เหมือนกัน
เทศกาลสงกรานต์ ปี 2559 ได้สิ้นลง พร้อมกับอุบัติเหตุที่มากขึ้นกว่าปีก่อนๆ ตลอด 7 วัน (11-17 เมษายน) รวม 3,447 ครั้ง ผู้เสียชีวิตรวม 442 ราย ผู้บาดเจ็บ รวม 3,656 ราย เมื่อเทียบกับปีที่แล้ว เกิดอุบัติเหตุรวม 3,373 ครั้ง ผู้เสียชีวิต 364 ราย ผู้บาดเจ็บ 3,559 ราย
บริษัทในเมืองออนตาริโอหัวใสผลิตพวงมาลัยป้องกันเมาแล้วขับ เพียงวัดจากเซนเซอร์ที่นิ้ว บอกได้ว่าคุณพร้อมจะกลับบ้านหรือไม่
NHTSA ผู้ชายเสียงอันตรายเกิดอุบติเหตุมากกว่าผู้หญิงสองเท่า เหตุชอบขับรถระยะทางไกลกว่าและ มีอาการเมาแล้วขับด้วยโดยส่วนใหญ่
ชมวีดีดฮที่สุดของอุบัติเหตุเมาแล้วขับจากรัสเซีย เมื่อนักบอลคนดังซิ่ง Nissan GT-R R 35 ชนเสาปูนอย่างจังหวิดม่องเท่ง
เจาะลึกเรื่องราวเมาแล้วขับ ทำไมเพราะอะไร คนไทยยังมีพฤติกรรมสุ่มเสี่ยงในเรื่องราววังวนของการ เมาแล้วขับ