หลังจากการเปิดภาพอย่างเป็นทางการไปแล้วกับรถกระบะเกิดมาแกร่ง Next-Gen Ford Ranger และเตรียมที่จะเปิดตัวอย่างเป็นทางการพร้อมขายช่วงกลางปีนี้ ก็มีการถามถึงตัวแต่งดุ Ranger Raptor กันบ้างแล้ว ล่าสุดเหมือนเป็นการยืนยันว่ามาแน่ เพราะมีการแอบถ่ายภาพการวิ่งทดสอบในประเทศไทยแล้ว
หลังจากการเปิดตัวโฉมใหม่ของรถกระบะสาย Full-Size เกิดมาแกร่งอย่าง Ford F-150 แล้วยังมีรุ่นพิเศษออกมาเป็นตัวโหดอย่าง Raptor ออกมาด้วย ทำให้คู่แข่งอย่าง Toyota ก็ไม่รอช้า กำลังซุ่มพัฒนารถกระบะตัวใหญ่สายพลังงาน Hybrid ออกมาท้าชนเช่นกันที่สหรัฐฯ
ล่าสุดทางฟอร์ดได้มีจดหมายส่งไปยังตัวแทนจำหน่าย ซึ่งระบุเตรียมหยุดรับการสั่งซื้อรถกระบะใหม่ Ford Maverick ในวันที่ 27 ม.ค. นี้ ไปจนถึงช่วงปลายปีนี้ ก่อนจะมีการเปลี่ยนแปลงภายหลัง นี่อาจแสดงให้เห็นว่าปัจจัยการขาดแคลนชิปหรือชิ้นส่วนต่าง ๆ ในการผลิตนั้นกำลังส่งผลกระทบเพิ่มมากขึ้น
ในวงการยานยนต์ มีการจดสิทธิบัตรเกิดขึ้นมากมายแทบตลอดเกือบทุกวัน แต่ส่วนใหญ่แล้วจะถูกเก็บเอาไว้ในลิ้นชักแล้วไม่ได้นำออกมาใช้จริง รวมถึงไอเดียที่ถูกปล่อยออกมาล่าสุดก็เช่นกัน ที่ไม่รู้จะได้เอามาใช้หรือไม่ เพราะว่า Ford ได้ทำการจดสิทธิบัตรการปล่อยโดรนให้บินนำหน้ารถเพื่อสำรวจสภาพเส้นทางก่อนที่รถจะเดินทางไปถึง
ถึงแม้ว่ารถกระบะเกิดมาแกร่ง Next-Gen Ford Ranger จะยังไม่มีการวางตลาดจำหน่ายจริงแต่อย่างใด แต่กระแสเรื่องรุ่นพิเศษ ต่างก็ออกมากันแทบจะเป็นรายวัน อย่างล่าสุดก็มีออกมาอีกแล้วว่า รถกระบะรุ่นพิเศษ Ford Ranger Raptor R อาจจะมาพร้อมเครื่องยนต์ทรงพลังระดับ V8 ก็เป็นได้
ล่าสุดมีรายงานว่าทางฟอร์ดกำลังวางแผนเตรียมเพิ่มกำลังการผลิตเกือบสองเท่าภายในปี 2023 สำหรับรถกระบะไฟฟ้า Ford F-150 Lightning ที่กำลังได้รับความนิยมเพิ่มมากขึ้นเรื่อย ๆ โดยเป้าแรกต่อปีที่ 40,000 คัน ก่อนจะเพิ่มขึ้นเป็น 80,000 คันภายในต้นปี 2023 และจะเพิ่มเป็น 150,000 คันต่อปี ในช่วงกลาปี 2023
เมื่อรถยนต์ใหม่ในปัจจุบัน มีความแรงมากขึ้นทุกวัน โอกาสที่รถของผู้ร้ายจะวิ่งได้เร็วก็มากขึ้นตามไปด้วย ทำให้ผู้พิทักษ์สันติราษฎร์ต้องหาทางเพื่อปกป้องประชาชนให้ได้มากที่สุด ล่าสุดตำรวจนิวยอร์กเมืองใหญ่ของสหรัฐฯ ได้สั่งซื้อรถไฟฟ้าตัวแรง Ford Mustang Mach-E เข้าประจำการ เป็นจำนวน 184 คันเป็นที่เรียบร้อยแล้ว
หลังจากที่รอคอยกันมานาน กับการปรับโฉมใหม่ของรถกระบะเกิดมาแกร่ง Next-Gen Ranger ที่เราได้รับชมภาพการพรางตัวกันมาหลายครั้งแล้ว รอบนี้ได้เห็นโฉมหน้ารุ่นใหม่กันเสียที และครั้งนี้ก็มีการเพิ่มออพชั่นมากมายหลายอย่างที่น่าสนใจ วันนี้เรามาเจาะกันดูทีละจุดว่า รถกระบะใหม่คันนี้ มีการเปลี่ยนแปลงอะไรบ้าง และมีอะไรบ้างที่ใส่มาแล้ว ทำให้รถกระบะใหม่คันนี้น่าครอบครองมากขึ้นกว่ากระบะทั่วไปในตลาดเมืองไทย
หลังจากการนำเสนอเรื่องภาพหลุดของ All-New Ford Everest หรือจะเรียกแบบทางการของทางค่ายว่า Next-Gen Ford Everest ก็ได้ เพียงระยะเวลาเพียงไม่กี่ชั่วโมง ก็มีการปล่อยภาพรถพรางตัวแบบทางการออกมาจากทางฟอร์ดโดยตรงแล้ว พร้อมคำอธิบายว่า “ระหว่างการทดสอบขั้นสุดท้าย”
ประเทศไทยถือว่าเป็นศูนย์กลางการผลิตรถกระบะและรถอเนกประสงค์ PPV ทั้ง Ford Ranger และ Ford Everest เราจึงได้เห็นการเอารถมาวิ่งทดสอบกันบ่อยครั้ง ล่าสุดก็ถึงคิวของ All-New Ford Everest อีกแล้ว คาดว่าจะเปิดตัวตามหลังรถกระบะ All-New Ford Ranger ภายในปีหน้าอย่างแน่นอน
ฟอร์ด ประเทศไทย จัดทัพรถยนต์เปี่ยมสมรรถนะครบทุกรุ่น เปิดฉากงาน Motor Expo 2021 นำขบวนโดย Ford Ranger Raptor X และ Ranger XL Street Special Edition ที่เปิดตัวในปีนี้ ระหว่างวันที่ 1-12 ธันวาคม 2564 ณ อิมแพค ชาเลนเจอร์ ฮอลล์ 1 เมืองทองธานี พร้อมมอบโปรโมชั่นสุดเร้าใจอีกมากมาย ทั้งภายในงานและที่ผู้จำหน่ายฟอร์ดทั่วประเทศ ตลอดช่วงระยะเวลาการจัดงาน
หลังจากการรอคอยมานานแสนนาน กับการเปิดตัวโฉมใหม่ของรถกระบะเกิดมาแกร่ง Ford Ranger ในที่สุดก็ได้มีการเผยโฉมอย่างเป็นทางการเรียบร้อยแล้ว โดยวางแผนเตรียมผลิตเพื่อพร้อมจำหน่ายได้ช่วงปี 2022 เป็นต้นไป
อีกหนึ่งคันเด่นในงาน SEMA Show ปีนี้ กับรถอเนกประสงค์ Ford Bronco ใหม่ ที่ได้รับการตกแต่งจากทาง Vossen Wheels และ AccuAir แน่นอนว่าได้รับการอัพเกรดชุดล้อรวมไปถึงระบบถุงลมครั้งแรกในรถใหม่อย่าง Ford Bronco อีกด้วย
ล่าสุดมีภาพของรถใหม่นามว่า Ford Mondeo ในจีนหลุดออกมาให้ได้ยลโฉมกันแล้วเรียบร้อย เผยให้เห็นการออกแบบดีไซน์ภายนอกแบบเต็ม ๆ คัน ทั้งด้านหน้าและด้านหลัง เตรียมลุยตลาดในจีนเร็ว ๆ นี้
ล่าสุดค่ายรถยนต์ฟอร์ดก็ได้เปิดตัวแนะนำรถใหม่รุ่นพิเศษสายลุยจัดหนัก กับ Ford Bronco DR (Desert Racer) ปี 2023 รถ Ford Bronco ที่ได้รับการพัฒนาขึ้นเพื่อ 2022 SCORE Baja 1000 ที่จะถูกผลิตในจำนวนจำกัดจำนวน 50 คัน และเปิดให้ได้จับจองเป็นเจ้าของสำหรับสายสะสมที่ต้องการความแตกต่าง กับราคารถคาดว่าอยู่ที่ราว $250,000 หรือราว 8.3 ล้านบาท