Ferrari เปิดตัวนักแข่งที่จะขับรถรุ่น 499P ในการเข้าร่วมการแข่งขัน FIA World Endurance Championship ปี 2023 ทั้ง 6 คน

  • โดย : PR Autodeft
  • 22 ม.ค. 66 00:00
  • 2,427 อ่าน

เฟอร์รารี่แถลงข่าวเปิดตัวนักแข่งที่จะลงแข่งขันในศึกฤดูกาล 2023 ในคลาส Hypercar ของรายการ FIA World Endurance Championship ในรถแข่ง เฟอร์รารี่ 499P ที่เพิ่งเปิดตัวไปก่อนหน้านี้ที่ Finali Mondiali ในเมือง Imola ประเทศอิตาลี โดยเหล่านักแข่งที่ได้รับการคัดเลือกให้เป็นผู้พาม้าลำพองกลับขึ้นสู่หัวแถวของการแข่งขันชิงแชมป์โลกอีกครั้งนั้น เป็นส่วนผสมที่ลงตัวของทั้งทักษะและประสบการณ์ ความเร็วในการขับขี่ และม

เฟอร์รารี่ 499P หมายเลข 50 Antonio Fuoco, Miguel Molina และ Nicklas Nielsen คือสามนักแข่งผู้รับหน้าที่สับเปลี่ยนหมุนเวียนกันขับรถแข่งที่ประทับหมายเลข “50” อันเป็นที่ภาคภูมิใจของเรา ตัวเลขนี้เป็นจำนวนปีที่ผ่านมา (50 ปี) นับจากที่เฟอร์รารี่ลงแข่งในคลาสสูงสุดของรายการเอนดูรานซ์ชิงแชมป์โลกครั้งสุดท้าย นักแข่งชาวอิตาเลียน Antonio Fuoco (เกิดปี 1996) โด่งดังอย่างรวดเร็วในฐานะหนึ่งในนักแข่งที่มีพรสวรรค์ที่สุดในแวดวงการแข่งรถเอนดูรานซ์ ร่วมด้วย Miguel Molina นักแข่งชาวสเปน ผู้คว้าชัยในรายการ 8 Hours of Bahrain ซึ่งมีบทบาทสำคัญที่ทำให้ทีมได้รับชัยชนะในประเภททีมผู้ผลิตได้ในที่สุดในการแข่งขันสนามสุดท้ายก่อนปิดฤดูกาล Molina (เกิดปี 1989) เคยคว้าแชมป์ในการแข่งขัน Le Mans Series ปี 2021 ได้นำประสบการณ์และความมุ่งมั่นมาช่วยทีมเฟอร์รารี่ในปีนี้ ขณะที่นักแข่งชาวเดนมาร์ก Nicklas Nielsen (เกิดปี 1997) หลังจากที่เขาเป็นแชมป์โลกในคลาส LMP2 Pro-Am เขาได้เติมเต็มความสมบูรณ์แบบในเส้นทางการแข่งขันด้วยรถแข่ง Ferrari Challenge ซึ่งเป็นองค์ประกอบสำคัญที่ทำให้ประสบความสำเร็จในเส้นทางการแข่งขันจนทำให้เขาคว้าชัยทั้งในระดับทวีปและระดับโลกอย่างต่อเนื่องตั้งแต่ปี 2018 เป็นต้นมา ผ่านการขับหลังพวงมาลัยของรถม้าลำพองมาโดยตลอด

เฟอร์รารี่ 499P หมายเลข 51 Alessandro Pier Guidi, James Calado และ Antonio Giovinazzi ร่วมกันขับรถแข่งหมายเลข 51 ซึ่งเป็นหนึ่งในตัวเลขที่ประสบความสำเร็จที่สุดในประวัติการแข่งขันของเฟอร์รารี่ หลังจาก Alessandro Pier Guidi จากอิตาลี (เกิดปี 1983) และ James Calado จากอังกฤษ (เกิดปี 1989) คว้าแชมป์โลกสองครั้งติดต่อกัน (ครั้งที่สามในอาชีพของพวกเขา) ในคลาส LMGTE Pro ทั้งสองจะร่วมชิงชัยเพื่อคว้าตำแหน่งชนะเลิศในคลาสสูงสุดด้วยกันอีกครั้งในปีนี้ การจับมือกันของทั้งสองคนเป็นฤดูกาลที่ 6 ติดต่อกันในการแข่งขันชิงแชมป์โลก เป็นชัยชนะที่มีความพิเศษเหนือใคร เนื่องจากไม่เคยมีนักแข่งคู่ใดได้แชมป์สองครั้งติดต่อกันในคลาส LMGTE Pro และไม่มีคู่ใดได้ตำแหน่งชนะเลิศ 3 ครั้ง (ในปี 2017, 2021, 2022) มาก่อน สถิติของคู่หู อังกฤษ-อิตาเลี่ยน ในรายการ WEC ตลอด 7 ฤดูกาลแข่งขันที่ผ่านมา เป็นตัวเลขอันน่าทึ่งเช่นกัน ด้วยการคว้าชัยชนะ 11 ครั้ง และขึ้นโพเดียมถึง 23 ครั้ง จากการลงแข่งทั้งหมด 39 สนาม ทั้งคู่ได้นักแข่งชาวอิตาเลียนที่ขับรถแข่งได้ยอดเยี่ยมที่สุดอย่าง Antonio Giovinazzi (เกิดปี 1993) มาร่วมทีม โดย Giovinazzi ลงแข่งเอนดูรานซ์แบบ Full-time เป็นครั้งแรกในปีนี้ หลังจากเคยเก็บเกี่ยวประสบการณ์มาแล้วจากรายการ 24 Hours of Le Mans ในปี 2018 ด้วยการอยู่กับทีม Scuderia Ferrari มาตั้งแต่ปี 2017 วันนี้เขายังคงเป็นส่วนหนึ่งของทีมต่อไป โดยในปี 2023 นี้ Giovinazzi จะรับหน้าที่เป็นนักแข่งสำรองให้กับทีม

Antonello Coletta หัวหน้าฝ่าย Ferrari GT Sporting Activities: “หลังจากเลือกนักแข่งเรียบร้อย ถือได้ว่าเป็นการปิดขั้นตอนสุดท้ายอย่างสมบูรณ์แบบ ก่อนทำการแข่งขันสนามแรกที่ Sebring ต่อไป นับตั้งแต่ที่ 499P ลงทำการซ้อมครั้งแรกเมื่อเดือนกรกฎาคมที่ผ่านมา เราก็ทำงานกันแบบ Non-stop ร่วมกับเหล่านักแข่งในครอบครัวเฟอร์รารี่ของเรา การตัดสินใจเลือกนักแข่งแต่ละคนของเรา ไม่ได้คำนึงถึงแค่การแข่งขันที่เราจะลงชิงชัยเท่านั้น แต่ยังรวมถึงการพัฒนาที่จะดำเนินต่อไปในระหว่างการแข่งขันชิงแชมป์อีกด้วย เราสามารถนำความเห็นจากพวกเขามาใช้ในการพัฒนาและทำให้รถมีเสถียรภาพในด้านต่างๆ ไม่ใช่แค่วิ่งได้เร็วเท่านั้น”

 

Alessandro Pier Guidi: “ผมรู้สึกภูมิใจมากครับ ที่ได้รับเลือกให้เป็นหนึ่งในหกนักขับของรถแข่ง Hypercar ซึ่งเห็นได้ชัดว่าเป็นรถที่มีความสำคัญและเป็นประวัติศาสตร์สำหรับเรา การเป็นนักแข่งอย่างเป็นทางการของเฟอร์รารี่ก็น่าภูมิใจแล้ว แต่การได้ขับ 499P นั้น ยิ่งน่าภูมิใจเข้าไปอีก เราหวังไว้สูง และยิ่งสูงมากเป็นทวีคูณเมื่อเราขับให้ทีมเฟอร์รารี่ เรามีการแข่งขันที่สำคัญรออยู่เบื้องหน้า และผมก็เตรียมตัวเองมาอย่างเต็มที่ให้พร้อมรับมือการแข่งขันที่ สนาม Sebring ซึ่งจะเริ่มขึ้นในอีกไม่กี่วันนี้ แต่เราก็ยังคงซ้อมอยู่ เพื่อให้พร้อมสำหรับการแข่งขัน ถึงเราจะเป็นนักแข่งระดับยูโรเปียนแล้วก็ตาม”

 

James Calado: “ผมดีใจมาก ที่ได้มีส่วนร่วมในโปรเจคท์ Le Mans Hypercar การสู้เพื่อชัยชนะในการแข่งขัน และการชิงแชมป์ภายใต้แบรนด์อย่างเฟอร์รารี่คือฝันที่เป็นจริงสำหรับผม ผมได้มีส่วนร่วมในขั้นตอนการพัฒนา 499P จึงทราบว่ารถคันนี้มีศักยภาพในการชิงชัยใน WEC ฤดูกาลนี้ได้อย่างแน่นอน เราจะร่วมสู้กันเป็นทีม และทำอย่างสุดความสามารถเพื่อทุกคนในทีม ผมอยากกล่าวคำขอบคุณไปยังเฟอร์รารี่ โดยเฉพาะอย่างยิ่งกับ Antonello ที่มอบโอกาสนี้ให้กับผม”

 

Antonio Giovinazzi: “แน่นอนว่า การเผยโฉม 499P จะเป็นช่วงเวลาสำคัญในประวัติศาสตร์ของม้าลำพอง และรถคันนี้ยังเป็นความภูมิใจอย่างยิ่งสำหรับผม ที่ได้เป็นส่วนหนึ่งของช่วงเวลาที่ยอดเยี่ยมเช่นนี้ เรารู้ว่าเรามีความรับผิดชอบอันยิ่งใหญ่ให้ต้องเผชิญ แต่เราก็มั่นใจในความแข็งแกร่งของเราและพร้อมสำหรับความท้าทายครั้งใหญ่นี้”

 

Antonio Fuoco: “เป็นเรื่องน่าตื่นเต้นมากสำหรับผมที่ได้เป็นส่วนหนึ่งของการแข่งขัน เพราะการที่เฟอร์รารี่หวนคืนสู่คลาสสูงสุดของการแข่งขัน World Endurance Championship หลังจากผ่านมา 50 ปี ถือเป็นประวัติศาสตร์ครั้งสำคัญ เป็นหน้าที่ความรับผิดชอบที่ยิ่งใหญ่สำหรับพวกเราทุกคน แต่ในเวลาเดียวกัน ก็เป็นแรงกระตุ้นให้เราตั้งใจทำงานที่ยิ่งใหญ่นี้ โดยส่วนตัวแล้ว ผมตั้งตารอที่จะทำโครงการนี้มาตลอด เพราะการได้เห็นรถคันนี้ตั้งแต่วันแรกไปจนถึงการพัฒนาการแต่ละขั้นตอนของรถ เป็นสิ่งพิเศษสุดสำหรับผม เราทำงานหนักตลอดการทดสอบรถ และผมก็กำลังรออย่างใจจดใจจ่อที่จะได้ลงแข่งที่ Sebring”

 

Miguel Molina: “ผมดีใจมากครับ ที่ได้รับโอกาสนี้ และผมอยากจะขอบคุณเฟอร์รารี่ที่เชื่อมั่นในตัวผม การได้ลงแข่งในคลาสสูงสุดของ FIA WEC เป็นหนึ่งในความสำเร็จสูงสุดทางอาชีพนักแข่งของผม นับเป็นเกียรติอย่างยิ่งที่ผมได้เป็นตัวแทนของเฟอร์รารี่ในช่วงเวลาครบรอบ 50 ปี หลังจากการแข่งขันครั้งสุดท้ายในคลาสสูงสุดของรายการชิงแชมป์โลกรายการนี้ นี่จึงเป็นปีที่สำคัญที่สุด ผมไม่สามารถอธิบายความรู้สึกออกมาเป็นคำพูดได้ เพราะเป้าหมายนี้คือจุดสูงสุดในอาชีพการงานของผม และเป็นความฝันที่ผมตามหามายาวนาน”

 

Nicklas Nielsen: “ยากที่จะบอกว่าผมรู้สึกยังไงครับ ผมเข้าร่วมแข่งขันกับเฟอร์รารี่ครั้งแรกในปี 2017 และตอนนี้ผมได้เป็นส่วนหนึ่งของโปรแกรม Hypercar เป็นเรื่องเหลือเชื่อที่ได้เป็นหนึ่งในนักแข่งหกคนแรกที่ได้ขับ 499P ในฤดูกาลเปิดตัวรถครั้งแรกในการแข่งขัน World Endurance Championship ผมภูมิใจและมีความสุขมากที่ได้รับการสนับสนุนและไว้วางใจจากเฟอร์รารี่ทั้งจาก Antonello และ Amato Ferrari นับเป็นการเดินทางที่เหลือเชื่อ และผมหวังว่าจะเป็นเช่นนี้ต่อไป ผมแทบรอไม่ไหวที่จะเริ่มแข่งร่วมกับเพื่อนคนอื่นๆ ในทีม การขับ Hypercar ถือเป็นก้าวที่ยิ่งใหญ่สำหรับอาชีพการงานของผมครับ”

 

# # # #

ติดตามข่าวสารรถยนต์รวดเร็วก่อนใครได้ที่ AUTODEFT.com

5 เรื่องน่าสนใจ