กนอ. จับมือ 6 พันธมิตรฯ ธุรกิจ ไทย-ญี่ปุ่น ลุยศึกษาต่อเนื่องความเป็นไปได้ใช้ประโยชน์พลังงานไฮโดรเจน พื้นที่ “สมาร์ท ปาร์ค – มาบตาพุด”

  • โดย : PR Autodeft
  • 28 ส.ค. 66 21:10
  • 1,631 อ่าน

การนิคมอุตสาหกรรมแห่งประเทศไทย (กนอ.) ร่วมกับ 6 พันธมิตรองค์กรธุรกิจ ไทย-ญี่ปุ่น ลงนามบันทึกความร่วมมือ “การศึกษาความเป็นไปได้ในการดำเนินโครงการสาธิตการจัดหาและใช้ประโยชน์พลังงานไฮโดรเจนในพื้นที่นิคมอุตสาหกรรม สมาร์ท ปาร์ค และ นิคมอุตสาหกรรมมาบตาพุด” พร้อมหาลู่ทางจัดตั้งบริษัทร่วมทุนในเครือ กนอ. เพื่ออำนวยความสะดวกการทำธุรกรรมในพื้นที่ฯ ให้กับผู้ให้บริการและผู้จัดหาพลังงานสะอาด สอดคล้องเป้าหมายประเทศ มุ่งสู่ความเป็นกลางทางคาร์บอน

 

เมื่อเร็วๆ นี้ กนอ. ร่วมกับ 6 บริษัทไทย-ญี่ปุ่น ประกอบด้วย บริษัท บางกอกอินดัสเทรียลแก๊ส จำกัด (บีไอจี), บริษัท ฮิตาชิโซเซน คอร์ปอเรชั่น, บริษัท ปตท. จำกัด (มหาชน), บริษัท ไทยทากาซาโก จำกัด, บริษัท โตโยต้า มอเตอร์ ประเทศไทย จำกัด และบริษัท โตโยต้า ทูโช (ไทยแลนด์) จำกัด ลงนามบันทึกความร่วมมือ “การศึกษาความเป็นไปได้ในการดำเนินโครงการสาธิตการจัดหาและใช้ประโยชน์พลังงานไฮโดรเจนในพื้นที่นิคมอุตสาหกรรม สมาร์ท ปาร์คและนิคมอุตสาหกรรมมาบตาพุด” ซึ่งโครงการความร่วมมือครั้งนี้ เป็นการต่อยอดความร่วมมือโดยมีวัตถุประสงค์ในการศึกษาความเป็นไปได้ในการสาธิตการจัดหาพลังงานไฮโดรเจนและการใช้ประโยชน์จากไฮโดรเจน เช่น การบริการรถโดยสารไฟฟ้าด้วยเชื้อเพลิงไฮโดรเจน และเครื่องกำเนิดไฟฟ้าจากเชื้อเพลิงไฮโดรเจน ในนิคมอุตสาหกรรมสมาร์ท ปาร์ค และนิคมอุตสาหกรรมมาบตาพุด รวมถึงศึกษาแนวทางการจัดตั้งบริษัทเพื่ออำนวยความสะดวกในการทำธุรกรรมระหว่างผู้ประกอบการที่เช่าพื้นที่นิคมฯ ดังกล่าว กับ ผู้ให้บริการและผู้จัดหาพลังงานสะอาดด้วย

 

โครงการดังกล่าวสอดคล้องกับยุทธศาสตร์ประเทศในการบรรลุสังคมคาร์บอนต่ำผ่านโมเดลเศรษฐกิจชีวภาพ เศรษฐกิจหมุนเวียน และเศรษฐกิจสีเขียว (Bio-Circular-Green Economy Model หรือ BCG) นอกจากนี้ ยังสนับสนุนวิสัยทัศน์ "ไทยแลนด์ 4.0" ของรัฐบาล ซึ่งเป็นก้าวสำคัญสู่การพัฒนาร่วมกันในอนาคต ผ่านการสนับสนุนโดยองค์การพัฒนาพลังงานใหม่และเทคโนโลยีอุตสาหกรรม (New Energy and Industrial Technology Development Organization : NEDO) ประเทศญี่ปุ่น เพื่อมุ่งสู่ความเป็นกลางทางคาร์บอน และแก้ปัญหาด้านพลังงานอย่างยั่งยืนในอนาคต

 

การลงนามความร่วมมือครั้งนี้เป็นครั้งที่ 2 ต่อยอดจากบันทึกข้อตกลงเดิมเมื่อปี 2564 ที่ได้ศึกษาความเป็นไปได้การจัดการโครงสร้างพื้นฐานของพลังงานสะอาดประเภทต่างๆ ทั้งพลังงานไฮโดรเจน พลังงานแสงอาทิตย์ และพลังงานชีวภาพ ตลอดจนการคมนาคมที่ไม่มีการปล่อยคาร์บอน เพื่อบรรลุเป้าหมายความเป็นกลางทางคาร์บอนภายในเขตนิคมอุตสาหกรรมสมาร์ท ปาร์ค นิคมอุตสาหกรรมมาบตาพุด และพื้นที่โดยรอบ

 

ติดตามข่าวสารรถยนต์รวดเร็วก่อนใครได้ที่ AUTODEFT.com

5 เรื่องน่าสนใจ