GAC AION จัดกิจกรรม HYPTEC HT EXPERIENCE THE NEW LUXE ERA สัมผัสสมรรถนะ HYPTEC HT เอสยูวีไฟฟ้าอัจฉริยะ

บริษัท ไอออน ออโตโมบิล เซลส์ (ประเทศไทย) จํากัด จัดกิจกรรมพาสื่อมวลชนชั้นนำของประเทศไทยกว่า 80 ชีวิต ร่วมสัมผัสและทดลองขับ HYPTEC HT รถเอสยูวีไฟฟ้าที่มาพร้อมกับฟีเจอร์อัจฉริยะและความหรูหราเหนือระดับ ในกิจกรรม HYPTEC HT : EXPERIENCE THE NEW LUXE ERA โดยกิจกรรมดังกล่าวจัดขึ้น ณ Found Venue โดยมีจุดประสงค์เพื่อนำเสนอเทคโนโลยีและฟีเจอร์ล้ำสมัยของ HYPTEC HT ที่เป็นรถยนต์ไฟฟ้าเอสยูวีรุ่นเรือธงของ GAC AION

HYPTEC HT รถยนต์ไฟฟ้าเอสยูวีระดับไฮเอนด์ที่มาพร้อมกับดีไซน์ภายนอกและภายในที่เหนือระดับ พร้อมด้วยความหรูหราระดับพรีเมียม และเทคโนโลยีและนวัตกรรมอัจฉริยะ โดยชื่อ HYPTEC ถูกออกแบบมาเพื่อสะท้อนถึงความมุ่งมั่นในการสร้างสรรค์เทคโนโลยีที่ตอบโจทย์ความต้องการในยุคดิจิทัลอย่างเต็มที่ โดยชื่อแบรนด์มีที่มาจาก "Hyper" ที่สื่อถึงความสุดยอดและความเป็นผู้นำใน "Technology" สื่อถึงการนำเทคโนโลยีที่ทันสมัยมาใช้ในการพัฒนาผลิตภัณฑ์ที่ไม่เพียงแค่หรูหรา แต่ยังล้ำหน้าด้วยคุณสมบัติทางเทคโนโลยีและนวัตกรรมที่โดดเด่น

สื่อมวลชนชั้นนำของประเทศไทย ได้มีโอกาสได้สัมผัสและทดลองฟีเจอร์อัจฉริยะมากมายในรถไฟฟ้า HYPTEC HT ที่ออกแบบมาเพื่อความสะดวกสบายและความผ่อนคลายสูงสุดของผู้ขับขี่และผู้โดยสาร รวมถึงได้ทดลองขับ HYPTEC HT ในสภาพถนนจริง พร้อมทดสอบเทคโนโลยีการขับเคลื่อนอัจฉริยะที่ช่วยเพิ่มความปลอดภัยและประสิทธิภาพในการขับขี่ ไม่ว่าจะเป็นการขับขี่ในเมืองหรือการเดินทางระยะไกล HYPTEC HT สามารถตอบสนองการใช้งานได้อย่างครอบคลุม ทั้งในแง่ของสมรรถนะ การชาร์จไฟที่มีประสิทธิภาพ และระบบช่วยเหลือการขับขี่ที่ครบครัน โดยในกิจกรรม HYPTEC HT : EXPERIENCE THE NEW LUXE ERA ได้มีการจัดจุดทดสอบความเหนือชั้นของ HYPTEC HT ได้ถูกแบ่งออกเป็น 3 จุดทดสอบ ที่แสดงให้เห็นถึงความเหนือชั้น และเทคโนโลยีอัจฉริยะของตัวรถ

เริ่มกันที่การทดสอบความเหนือชั้นของห้องโดยสาร ด้วยการให้สื่อมวลชนได้เข้าไปทดลองนั่งในรถ และได้สัมผัสประสบการณ์กับฟีเจอร์อัจฉริยะมากมาย อาทิ ระบบเบาะนวดไฟฟ้า ที่สามารถเลือกได้ถึง 5 รูปแบบ, ระบบสร้างบรรยากาศ iSPACE ที่เปลี่ยนให้รถของคุณเป็นสถานที่สุดพิเศษ, ระบบน้ำหอมที่สามารถเลือกได้ถึง 3 กลิ่น เพียงกดที่หน้าจอ, ระบบเสียง Dolby Atmos พร้อมลำโพง 22 ตำแหน่ง ให้มิติเสียงที่หนักแน่น คมชัด, เบาะนั่งด้านหลังปรับเอนได้ 143 องศา พร้อมฟีเจอร์ที่วางขา และโต๊ะอเนกประสงค์สำหรับผู้โดยสารด้านหลัง นอกจากนี้สื่อมวลชนยังจะได้ทดสอบความเงียบของ HYPTEC HT ที่มาพร้อมกับวัสดุซับเสียงมากกว่า 80 จุด และกระจกกันเสียงระดับพรีเมียมรอบคัน เพื่อเสียงรบกวนที่ต่ำที่สุด เพิ่มสุนทรียภาพในการนั่งโดยสารและการขับขี่

สถานีถัดมา จะเป็นการจำลองความอเนกประสงค์ของ HYPTEC HT ที่นอกจากความหรูหราแล้ว ยังสามารถใช้งานได้อย่างหลากหลาย ไม่ว่าจะเป็น ความสามารถในการเก็บของด้วยพื้นที่เก็บสัมภาระท้าย 670 ลิตร และเมื่อพับเบาะนั่งตอนหลังจะสามารถเพิ่มพื้นที่เก็บสัมภาระเป็น 1,802 ลิตร บริเวณใต้ฝากระโปรงด้านหน้ามาพร้อมช่องเก็บสัมภาระขนาด 55 ลิตร สามารถใส่กระเป๋าเดินทางขนาด 20 ลิตรได้อย่างสบาย ๆ รวมถึงฟีเจอร์ V2L ที่สามารถปล่อยกระแสไฟฟ้าสู่อุปกรณ์ภายนอกได้ถึง 3,300 วัตต์ ช่วยให้คุณสามารถออกไปใช้ชีวิตกลางแจ้งได้อย่างอิสระและสะดวกสบายมากยิ่งขึ้น

ถัดมาจะเป็นสถานีแสดงความสามารถของ ประตูปีกนก (Gull-wing doors) ของ HYPTEC HT ควบคุมการเปิดและปิด ด้วยระบบไฟฟ้าเต็มรูปแบบ ที่นอกจากจะมีความสวยงามและโดดเด่นแล้ว ยังสามารถช่วยให้คุณขึ้นและลงรถได้อย่างสะดวกสบายด้วยท่าทางที่ดูสง่างาม ด้วยความสูงของประตูกว่า 2 เมตร ทำให้สามารถขึ้นและลงจากตัวรถโดยไม่ต้องก้มหัว และสามารถเปิดประตูในพื้นที่แคบเพียง 34 เซนติเมตร พร้อมด้วยเซ็นเซอร์เรดาร์มากถึง 12 ตัว สามารถตรวจจับวัตถุขนาดเล็กได้อย่างแม่นยำ หมดกังวลเรื่องการเปิดประตูในทุกสภาพแวดล้อม และยังได้นำเสนอการออกแบบและดีไซน์ของตัวรถ ที่ได้รับการออกแบบโดยคุณ Pontus Fontaeus นักออกแบบรถยนต์ชื่อดัง ผู้เคยร่วมงานกับแบรนด์รถยนต์ชั้นนำระดับโลกมากมาย โดย HYPTEC HT ถูกออกแบบด้วยหลักปรัชญา Aesthetics of mechanics and humanity สุนทรียศาสตร์ทางกลไกที่ผสมผสานกับความเป็นมนุษย์ ด้วยเส้นสายที่โค้งมนและลื่นไหล พร้อมด้วยดีไซน์หลังคาแบบลาดเอียง (Fastback) ช่วยเพิ่มประสิทธิภาพด้านอากาศพลศาสตร์ โดดเด่นด้วยไฟหน้าแบบ Diamond Cut และไฟท้ายแบบ Ruby Horizon Light แสดงถึงความหรูหราและความทันสมัยในเวลาเดียวกัน โดย HYPTEC HT ถือเป็นรถยนต์ประตูปีกนกรุ่นแรก ที่ทำตลาดในประเทศไทยอย่างเป็นทางการ

ในด้านสมรรถนะ HYPTEC HT ถูกสร้างขึ้นบนแพลตฟอร์ม AEP 3.0 ซึ่งเป็นแพลตฟอร์มที่ถูกพัฒนาขึ้นมาสำหรับรถยนต์ไฟฟ้าโดยเฉพาะ ที่มาพร้อม พร้อมด้วยสถาปัตยกรรมไฟฟ้า 800 โวลต์ (800 V) สามารถชาร์จไฟได้อย่างรวดเร็วและมีประสิทธิภาพ รองรับกำลังชาร์จไฟสูงสุดที่ 280 กิโลวัตต์ ขับเคลื่อนด้วยมอเตอร์ไฟฟ้ามีให้พละกำลัง 340 แรงม้า แรงบิด 430 นิวตัน-เมตร พร้อมด้วยแบตเตอรี่ Magazine Battery 2.0 ขนาด 83.3 กิโลวัตต์-ชั่วโมง มอบระยะทางวิ่งสูงสุด 620 กิโลเมตร (NEDC) พร้อมด้วยระบบช่วยเหลือการขับขี่และออปชันความปลอดภัยครบครัน อาทิ ระบบควบคุมความเร็วอัตโนมัติแบบแปรผันทำงานจนถึงจุดหยุดนิ่ง (ACC with Stop&Go), ระบบควบคุมความเร็วอัจฉริยะ (ICA), ระบบควบคุมความเร็วอัตโนมัติเมื่อความเร็วต่ำ (TJA), ระบบควบคุมความเร็วขณะเข้าโค้ง (CSC), ระบบช่วยเตือนก่อนการชนด้านหน้าและระบบเบรกฉุกเฉินอัตโนมัติ (FCW&AEB), ระบบช่วยแจ้งเตือนและควบคุมรถอยู่ในเลน (LDW&LDP) และระบบเตือนเมื่อมีรถอยู่ในมุมอับสายตาขณะถอยหลัง (RCTA)

คุณ นิธิ ท้วมประถม จากช่อง Autolifethailand หนึ่งในผู้ร่วมทดสอบรถ HYPTEC HT ในกิจกรรม HYPTEC HT : EXPERIENCE THE NEW LUXE ERA ได้กล่าวถึงความประทับใจว่า “หลังจากที่ได้ลองขับ HYPTEC HT มีความรู้สึกประทับใจในหลาย ๆ ด้าน ทั้งในแง่ของช่วงล่างที่ปรับเซ็ทมาได้อย่างนุ่มนวล รวมถึงภาพรวมในการขับขี่ก็ทำออกมาได้น่าประทับใจ ออปชันที่ให้มาและคุณภาพของวัสดุ เหมาะสมกับความเป็นรถยนต์ระดับลักชัวรี”

“ชอบรูปทรงของตัวรถที่เป็นสไตล์ SUV หลังคาลาดแบบ Fastback และยังมาพร้อมกับประตูแบบปีกนก ที่สามารถเปิดใช้งานในพื้นที่แคบที่มีระยะห่างเพียง 34 เซนติเมตร ก็สามารถเปิดใช้งานได้ สุดนี้ผมคิดว่าทำออกมาได้น่าสนใจมาก ๆ ครับ” คุณ จักรชลัช พิพัฒน์พานิชย์กูล จากช่อง TechHangout AUTO กล่าว

สำหรับ HYPTEC HT เอสยูวีไฟฟ้าลักซ์ชัวรี่ระดับไฮเอนด์ เปิดตัวด้วยกันทั้งหมด 2 รุ่นย่อย ดังนี้
•    HYPTEC HT 620 Premium ราคาจำหน่าย 1,449,000 บาท
•    HYPTEC HT 620 Luxury (ประตูปีกนก) ราคาจำหน่าย 1,749,000 บาท

สิทธิประโยชน์ HYPTEC Exclusive Privilege*
1.    Financial Benefit ดอกเบี้ยพิเศษ 0.99% (เมื่อดาวน์ 30% ผ่อน 48 งวด)
*เมื่อรับรถและจดทะเบียนรถ ระหว่างวันที่ 19 กันยายน 2567 ถึง 31 ธันวาคม 2567 เท่านั้น
2.    Exclusive Warranty Package
1.1    รับประกันแบตเตอรี่ และชุดขับเคลื่อนไฟฟ้าแบบรวม ตลอดอายุการใช้งาน
(เฉพาะเจ้าของรถส่วนบุคคล ผู้ครอบครองรถลำดับที่ 1, และไม่ใช้งานรถในลักษณะเชิงพาณิชย์)
*กรณีไม่เข้าตามเงื่อนไขด้านบน ระยะการรับประกันสำหรับชิ้นส่วนแบตเตอรี่ และระบบขับเคลื่อนไฟฟ้าแบบรวม จะถูกปรับเปลี่ยนเงื่อนไขการรับประกันเป็น 8 ปี หรือ 240,000 กิโลเมตร (แล้วแต่อย่างใดอย่างหนึ่งถึงก่อน) โดยนับจากวันที่ออกรถ
1.2    รับประกันคุณภาพรถยนต์ 8 ปี หรือ 160,000 กิโลเมตร (แล้วแต่อย่างใดอย่างหนึ่งถึงก่อน)
1.3    รับประกันชิ้นส่วนประตูปีกนก 8 ปี หรือ 240,000 กิโลเมตร (แล้วแต่อย่างใดอย่างหนึ่งถึงก่อน)
3.    Insurance Gift ฟรี ประกันภัยชั้น 1 นาน 1 ปี
4.    Exquisite Gifts ฟรี ฟิล์มกระจก แผ่นรองเท้า ค่าจดทะเบียน
5.    Exclusive Deal for Home Charger ฟรี Home Chager พร้อมบริการติดตั้ง (ฟรีสายไฟความยาวไม่เกิน 20 เมตร / รับประกันเครื่องชาร์จ 1 ปี)
6.    In-car Internet Service แพ็กเกจอินเตอร์เน็ตในรถยนต์ฟรี นาน 2 ปี ไม่จำกัดปริมาณการใช้งาน
7.    Lifetime OTA Firmware Update ล้ำสมัยตลอดการขับขี่ บริการอัพเกรดซอฟต์แวร์ที่เกี่ยวข้องในระบบรถยนต์ฟรีตลอดชีพ
8.    24 Hours Roadside Service บริการช่วยเหลือฉุกเฉินบนท้องถนนฟรี ตลอด 24 ชั่วโมง นาน 8 ปี
*เงื่อนไขเป็นไปตามที่บริษัทกำหนด