BRIDGESTONE ECOPIA EP150 ได้รับเลือกเป็นยางล้อมาตรฐานติดตั้งในรถยนต์มิตซูบิชิ New Xpander HEV และ New Xpander Cross HEV
- โดย : PR Autodeft
- 7 มี.ค. 67 18:49
- 1,544 อ่าน
บริษัท ไทยบริดจสโตน จํากัด เผยว่า ผลิตภัณฑ์ BRIDGESTONE ECOPIA EP150 ยางรักษ์โลกด้วยเทคโนโลยี ENLITEN นวัตกรรมใหม่ของการออกแบบยางรถยนต์จากบริดจสโตน ซึ่งผสมผสานเทคโนโลยีที่ล้ำสมัย ได้รับเลือกให้เป็นยางล้อมาตรฐานเพื่อมอบประสบการณ์การขับขี่อย่างเหนือระดับสำหรับรถยนต์ครอบครัว 7 ที่นั่งขนาดเล็กที่มาพร้อมกับระบบขับเคลื่อนฟูลไฮบริด New Xpander HEV และ New Xpander Cross HEV รุ่นใหม่จากมิตซูบิชิ มอเตอร์ส โดยได้เปิดตัวครั้งแรกของโลกในประเทศไทยเมื่อวันที่ 1 กุมภาพันธ์ 2567 ที่ผ่านมา
เทคโนโลยี ENLITEN นวัตกรรมใหม่ของการออกแบบยางรถยนต์จากบริดจสโตน ช่วยให้ยางมีน้ำหนักเบาและมีความต้านทานการหมุนต่ำจึงช่วยประหยัดน้ำมันได้เป็นอย่างดี ทั้งยังไม่ลดทอนประสิทธิภาพและความปลอดภัยในการขับขี่ซึ่งผสานการทำงานกับระบบควบคุมการขับเคลื่อนและสมดุลขณะเข้าโค้ง (Active Yaw Control) ของมิตซูบิชิ มอเตอร์ส และยังเป็นมิตรกับสิ่งแวดล้อมอย่างยั่งยืนเพราะช่วยลดการปล่อยก๊าซคาร์บอนไดออกไซด์จากรถยนต์ ซึ่งตอบโจทย์ระบบขับเคลื่อนฟูลไฮบริดที่มอบการขับขี่ที่เป็นมิตรกับสิ่งแวดล้อมของมิตซูบิชิ มอเตอร์ส ได้อย่างลงตัว
บริดจสโตนได้วางตำแหน่งผลิตภัณฑ์ยางรถยนต์ที่มาพร้อมนวัตกรรมจากเทคโนโลยี “ENLITEN” ว่าเป็นยางพรีเมียมสำหรับยุครถยนต์ไฟฟ้า โดยมุ่งบรรลุ “Bridgestone E8 Commitment (พันธสัญญา E8 ของ บริดจสโตน)” “ด้าน Energy (พลังงาน) เพื่อสร้างสังคมแห่งการเดินทางที่เป็นกลางทางคาร์บอน”
ทั้งนี้ ผลิตภัณฑ์ BRIDGESTONE ECOPIA EP150 ที่มาพร้อมกับเทคโนโลยี ENLITEN ขนาดขอบ 17 นิ้ว ได้รับการติดตั้งในรถยนต์ระบบขับเคลื่อนฟูลไฮบริด New Xpander HEV และ New Xpander Cross HEV โดยมีคุณสมบัติเด่นซึ่งไม่ลดทอนประสิทธิภาพและความปลอดภัยในการขับขี่ ดังนี้
· ใช้วัสดุรีไซเคิลและวัสดุหมุนเวียนนำกลับมาใช้ใหม่ในกระบวนการผลิตยางรถยนต์
· ช่วยให้ยางมีน้ำหนักเบา และช่วยให้ความต้านทานการหมุนของยางต่ำลงประมาณ 7.69% เมื่อเทียบกับยางรุ่นเดียวกันที่ไม่ได้มาพร้อมกับเทคโนโลยี ENLITEN จึงช่วยทำให้ประหยัดน้ำมันได้ดียิ่งขึ้น
· มอบการขับขี่ที่เป็นมิตรกับสิ่งแวดล้อมอย่างยั่งยืนเพราะช่วยลดการปล่อยก๊าซคาร์บอน ไดออกไซด์จากรถยนต์
ภาพรวมของผลิตภัณฑ์ BRIDGESTONE ECOPIA EP150 ที่มาพร้อมกับเทคโนโลยี ENLITENสำหรับรถยนต์ New Xpander HEV และ New Xpander Cross HEV จากมิตซูบิชิ มอเตอร์ส
รุ่นรถของมิตซูบิชิ มอเตอร์ส |
รุ่นยางของบริดจสโตน |
ขนาดยางของบริดจสโตน |
|
BRIDGESTONE ECOPIA EP150 ที่มาพร้อมกั |
|
|
คุณสมบัติเด่นของรถยนต์ New Xpander HEV และ New Xpander Cross HEV จากมิตซูบิชิ มอเตอร์ส
มิตซูบิชิ มอเตอร์ส คอร์ปอเรชั่น เปิดตัวรถยนต์ New Xpander HEV และ New Xpander Cross HEV ครั้งแรกของโลกในประเทศไทย โดยเป็นรถยนต์ครอบครัว 7 ที่นั่งขนาดเล็กที่มาพร้อมกับระบบฟูลไฮบริด ซึ่งผสานการทำงานอย่างสมบูรณ์แบบระหว่างมอเตอร์ไฟฟ้าและเครื่องยนต์ไว้อย่างลงตัว ชูจุดเด่น 3 สุดยอดเทคโนโลยีจากมิตซูบิชิ มอเตอร์ส เพื่อมอบประสบการณ์ขับขี่ใหม่แบบ Mitsubishi e:MOTION ที่เต็มเปี่ยมไปด้วยพลังและมั่นใจในทุกเส้นทาง ได้แก่
· ระบบขับเคลื่อนฟูลไฮบริด (HEV System) มอบการขับขี่ที่เป็นมิตรกับสิ่งแวดล้อม และน่าตื่นเต้นเร้าใจ ให้ความคล่องตัว ด้วยมอเตอร์ไฟฟ้าจากระบบขับเคลื่อนฟูลไฮบริด ซึ่งได้รับการถ่ายทอดและพัฒนามาจากความสำเร็จของระบบรถยนต์ปลั๊กอินไฮบริด (PHEVs)
· โหมดการขับขี่ 7 รูปแบบ (7 Drive Mode) ที่พัฒนาขึ้นใหม่ ซึ่งผู้ขับขี่สามารถเลือกปรับโหมดการขับขี่ได้ตามต้องการ ให้สมรรถนะการขับขี่ที่ปลอดภัย มั่นใจได้ในทุกเส้นทาง ลุยได้ในทุกสภาพถนน
· ระบบควบคุมการขับเคลื่อนและสมดุลขณะเข้าโค้ง (Active Yaw Control: AYC) เทคโนโลยีที่เป็นเอกลักษณ์เฉพาะของมิตซูบิชิ มอเตอร์ส มอบการขับขี่ที่ปลอดภัยและมั่นใจ ควบคุมรถได้อย่างคล่องตัวโดยเฉพาะขณะเข้าโค้ง
คุณชยุตม์ วิริยะวัฒนา ผู้จัดการอาวุโสส่วนงานธุรกิจอุตสาหกรรมยานยนต์ บริษัท ไทยบริดจสโตน จำกัด กล่าวว่า “เพื่อยกระดับโซลูชั่นด้านการเดินทางที่ยั่งยืนของบริดจสโตนและเติมเต็มประสบการณ์ขับขี่เหนือระดับของลูกค้าผ่านเทคโนโลยี ENLITEN ในโอกาสนี้ บริดจสโตนรู้สึกเป็นเกียรติและภูมิใจเป็นอย่างยิ่ง ที่ได้รับความเชื่อมั่นจากมิตซูบิชิ มอเตอร์ส ร่วมพัฒนาผลิตภัณฑ์สมรรถนะสูงอย่าง BRIDGESTONE ECOPIA EP150 ด้วยเทคโนโลยี ENLITEN เพื่อส่งมอบสมรรถนะการขับขี่ที่เหนือชั้น พร้อมรับกับหลากหลายสภาพการใช้งานที่เต็มเปี่ยมไปด้วยความมั่นใจและปลอดภัยของรถยนต์ New Xpander HEV และ New Xpander Cross HEV ได้อย่างลงตัว ในขณะเดียวกันยังมีส่วนร่วมในการช่วยลดการปล่อยก๊าซคาร์บอนไดออกไซด์จากรถยนต์เพื่อส่งต่อโลกและสิ่งแวดล้อมอย่างยั่งยืนให้กับคนรุ่นต่อไปในอนาคตอีกด้วย”
*1 ข้อมูลจากฝ่ายธุรกิจอุตสาหกรรมยานยนต์ บริษัท ไทยบริดจสโตน จำกัด
ติดตามข่าวสารรถยนต์รวดเร็วก่อนใครได้ที่ AUTODEFT.com