เปิดตัวแล้ว Harley-Davidson Sport Glide ปี 2018 ใหม่ล่าสุด ที่งาน BMF 2018
- โดย : รัฐศิลป์ รัตนกู้เกียรติ
- 1 ก.พ. 61 00:00
- 45,675 อ่าน
ฮาร์ลีย์-เดวิดสัน ประเทศไทยเปิดตัว สปอร์ต ไกลด์ (Sport Glide) ครั้งแรกในประเทศไทย รถมอเตอร์ไซค์แฟคตอรี่คัสตอมที่รองรับการใช้งานทุกรูปแบบ ทั้งครุยเซอร์ การเดินทางปกติ และแบบทัวร์ริ่ง ถ่ายทอดการออกแบบสุดคลาสสิกสไตล์ ฮาลีย์-เดวิดสัน ทัวร์ริ่ง พร้อมเน้นย้ำความร่วมสมัยและขนาดที่ตอบโจทย์ไว้ในคันเดียว มาพร้อมแฟริ่งและกระเป๋าข้างที่ถอดออกได้สำหรับการขับขี่แบบทัวร์ริ่ง ครุยเซอร์ หรือการเดินทางตามปกติ ความอ
Harley-Davidson Sport Glide เป็นรถรุ่นที่ 9 ที่พัฒนาบนแพลทฟอร์มฮาร์ลีย์-เดวิดสัน ซอฟเทล® (Softail®) รุ่นใหม่ และนับเป็น 1 ใน 100 รถมอเตอร์ไซค์ที่ทรงอิทธิพลที่ฮาร์ลีย์-เดวิดสัน วางแผนเปิดตัวภายในปี พ.ศ. 2570 สปอร์ต ไกลด์ สะท้อนการผสมผสานที่ลงตัวระหว่างเทคโนโลยีและสไตล์ที่โดดเด่น
สปอร์ต ไกลด์ ได้รับการออกแบบให้มีน้ำหนักเบาและแข็งแรง แชสชีส์ซอฟเทล รุ่นใหม่ ที่เป็นพื้นฐานของรุ่นสปอร์ต ไกลด์ มอบสมรรถนะการควบคุมและความปราดเปรียว พร้อมกับเครื่องยนต์มิลวอกี-เอต 107 วี-ทวิน (Milwaukee-Eight 107 V-Twin) ที่ติดตั้งอย่างแน่นหนาผลิตแรงบิดมหาศาล เพื่ออัตราเร่งและพลังแห่งการเร่งแซงที่ยอดเยี่ยม มาพร้อมอุปกรณ์เพื่อการตกแต่งแท้ที่มีให้เลือกหลากหลายจาก ฮาร์ลีย์-เดวิดสัน เพื่อรองรับกลุ่มลูกค้าที่ต้องการปรับแต่งรถมอเตอร์ไซค์
แฟริ่งของสปอร์ต ไกลด์ ได้รับการออกแบบรูปทรงให้ช่วยบังลมบริเวณหน้าอกของผู้ขับขี่โดยที่ยังมีกระแสลมพัดผ่านศีรษะของผู้ขับขี่ ตัวแฟริ่งติดตั้งอยู่บนตะเกียบคู่หน้าที่มีตัวปลดล็อกที่รวดเร็ว จึงสามารถติดตั้งและถอดออกได้อย่างรวดเร็วและง่ายดาย ผู้ขับขี่ที่ต้องการการบังลมที่มากขึ้นสามารถเลือกเปลี่ยนจากชิลด์บังลมมาตรฐานขนาด 1.5 นิ้วเป็นชิลด์บังลมสีเทา Light Smoke Windshield ขนาด 5.5 นิ้วซึ่งเป็นอุปกรณ์ตกแต่งของแท้ของฮาร์ลีย์-เดวิดสัน (Harley-Davidson Genuine Motor Accessories)
กระเป๋าข้างรูปแบบใหม่ที่มีความแน่นหนา (และปิดล็อกได้) มีดีไซน์การเปิดแบบพับประกบที่ดูโฉบเฉี่ยว ง่ายดายต่อการจัดเก็บและหยิบจับสัมภาระภายใน พร้อมกับสามารถเปิดกระเป๋าได้ด้วยมือเดียวโดยที่ผู้ขับขี่นั่งอยู่บนตัวรถ โดยมีระบบหน่วงที่ช่วยให้ฝากระเป๋าเปิดอย่างนุ่มนวล ผู้ขับขี่สามารถถอดกระเป๋าออกได้ในเวลาไม่กี่วินาทีด้วยกลไกปลดล็อกแบบรวดเร็วโดยที่ไม่มีจุดเชื่อมต่อให้เห็นแต่อย่างใด กระเป๋าข้างมีความจุรวมอยู่ที่ 25.5 ลิตร
ผู้ขับขี่สามารถเพิ่มความจุกระเป๋าเก็บสัมภาระได้ด้วยอุปกรณ์เสริมพนักพิงเบาะ ชั้นวางกระเป๋าสัมภาระหรือแท่นแขวนด้านท้ายซึ่งทุกชิ้นใช้ระบบล็อกแบบถอดได้ โฮลด์ฟาสต์™ (HoldFast™) รุ่นใหม่ล่าสุดที่ออกแบบมาเพื่อแพลทฟอร์มซอฟเทลโดยเฉพาะ ถ้าผู้ขับขี่ต้องการใช้งานรถสไตล์ครุยเซอร์ สามารถถอดหรือติดตั้งอุปกรณ์เสริมโฮลด์ฟาสต์ได้ในเวลาไม่กี่วินาทีเหมือนกับกระเป๋าและแฟริ่งของสปอร์ต ไกลด์
เบาะที่นั่งทรงกว้างและที่วางเท้าแบบยื่นไปด้านหน้าช่วยให้ผู้ขับขี่มีท่านั่งที่เหมาะสมสำหรับทุกสรีระ โดยเบาะที่นั่งมีความสูงเพียง 652.7 มม. ไฟหน้าแอลอีดี Daymaker ล้อมกรอบด้วยระบบไฟส่องสว่างวงแหวนแอลอีดี เสริมความสะดุดตาด้วยไฟท้ายแอลอีดีที่สะดุดตา (พร้อมไฟเลี้ยวหลังแอลอีดี) มีพอร์ทชาร์จไฟยูเอสบี ระบบสตาร์ทเครื่องยนต์โดยไม่ใช้กุญแจ และระบบความปลอดภัยสมาร์ท ซิเคียวริตี้ ซิสเต็ม (Harley-Davidson Smart Security System) เป็นอุปกรณ์มาตรฐาน
โช้คอัพหัวกลับ 43 มม. เพิ่มความมั่นคงที่บริเวณด้านหน้า พร้อมระบบกันสะเทือนแบบ Single Cartridge Damping System เพื่อการควบคุมที่แม่นยำ มีเสถียรภาพ และประสิทธิภาพการเบรกที่มั่นใจซึ่งเสริมด้วยระบบเบรกเอบีเอส (ABS) เป็นอุปกรณ์มาตรฐาน สปอร์ต ไกลด์มาพร้อมล้ออลูมิเนียมหล่อ Mantis รุ่นใหม่ขนาด 18 นิ้วที่ล้อหน้าและ 16 นิ้วที่ล้อหลัง พร้อมยางสมรรถนะสูง มิชลิน สกอร์เชอร์ 31 (Michelin Scorcher 31)
สปอร์ต ไกลด์ ยังโดดเด่นด้วยระบบกันสะเทือนหลังแบบโช๊คอัพเดี่ยวของซอฟเทล รุ่นใหม่ล่าสุด การปรับระดับพรีโหลดได้อย่างง่ายดายด้วยการหมุนลูกบิดที่อยู่ใต้ฝาปิดฝั่งขวาภายนอกตัวรถ จึงรองรับทุกสถานการณ์ใช้งานทั้งการบรรทุกน้ำหนักสัมภาระหรือผู้โดยสาร พร้อมรักษาประสิทธิภาพการกันสะเทือนและการบังคับเลี้ยวในระดับสูงสุด
เครื่องยนต์มิลวอกี-เอต 107 (Milwaukee-Eight 107) สีแบล็กเอาท์ดำสนิทยกระดับสมรรถนะและความพิถีพิถันของรถครุยเซอร์ ฮาร์ลีย-เดวิดสัน บิ๊ก ทวิน (Big Twin) รวมถึงสปอร์ต ไกลด์ รุ่นใหม่ให้สูงขึ้นอีกขั้น เคาท์เตอร์บาลานเซอร์ได้รับการปรับแต่งเพื่อลดแรงสั่นสะเทือนช่วงรอบต่ำและส่งผ่านบุคลิกของเครื่องยนต์มาถึงผู้ขับขี่เมื่อทะยานด้วยความเร็ว เครื่องยนต์รุ่นนี้ติดตั้งอย่างแน่นหนาบนเฟรม ซึ่งทำให้แชสซีส์มีความแข็งแกร่งและช่วยให้ผู้ขับขี่มีความใกล้ชิดกับขุมพลังได้มากขึ้น ความแม่นยำของระบบหล่อเย็นน้ำมันเครื่องบริเวณฝาสูบซึ่งเป็นส่วนที่ร้อนที่สุดช่วยให้ผู้ขับขี่และผู้โดยสารได้รับความสะดวกสบาย ท่อไอเสียแบบ 2-1 พร้อมเฮดเดอร์หลังแบบราบและท่อไอเสียสีดำเสริมให้มอเตอร์ไซค์รุ่นนี้มีความสปอร์ตและตอบสนองต่อการเข้าโค้งได้อย่างเต็มที่ ระบบควบคุมคันเร่งอิเลกโทรนิกทำงานร่วมกับระบบควบคุมความเร็วอัตโนมัติ ครูสคอนโทรล อิเลกโทรนิก ซึ่งเป็นอุปกรณ์มาตรฐาน
พร้อมออกจำหน่ายด้วย 3 สี คือสีดำ Vivid Black สีแดงเชอร์รี่ Twisted Cherry และสีเงิน Silver Fortune สนนราคาจำหน่ายเริ่มต้นที่ 1,399,000 บาท
ติดตามข่าวสารยานยนต์ รวดเร็วก่อนใคร ได้ที่ Autodeft.com