เปิดตัวแล้วในไทย BMW R nineT Urban G/S มอเตอร์ไซค์โรดสเตอร์สุดคลาสสิค พร้อมเทคโนโลยีล้ำสมัย

บีเอ็มดับเบิลยู มอเตอร์ราด ประเทศไทย เปิดตัวมอเตอร์ไซค์โรดสเตอร์สายคลาสสิคใหม่ล่าสุด BMW R nineT Urban G/S เติมเต็มมอเตอร์ไซค์ BMW ในตระกูล R nineT ให้ครบทีม เอาใจสายสองล้อขาลุย

มร. มาร์คุส เกลเซอร์ ผู้อำนวยการ บีเอ็มดับเบิลยู มอเตอร์ราด ประเทศไทย กล่าวว่า “บีเอ็มดับเบิลยู R nineT Urban G/S เป็นโมเดลที่มีสไตล์เป็นเอกลักษณ์แต่ยังคงคาแรคเตอร์ที่เราคุ้นเคย นับเป็นส่วนผสมระหว่างเทคโนโลยีใหม่ล่าสุดและลุคสุดคลาสสิคที่สมบูรณ์แบบ จึงสืบทอดเจตนารมณ์ของมอเตอร์ไซค์ GS รุ่นก่อนหน้า โดยยังสามารถรักษาจิตวิญญาณออฟโรดจากอดีต และให้ความสำคัญอย่างไม่แพ้กันต่อปัจจุบันด้วยการผสมผสานเทคโนโลยีล้ำสมัยไว้ในตัว”

BMW R nineT Urban G/S โรดสเตอร์ที่มาพร้อมกับบุคลิกเฉพาะตัว กับการขับขี่แบบบ๊อกเซอร์ ภายใต้รูปลักษณ์เอ็นดูโร่คลาสสิค โดยบีเอ็มดับเบิลยู R nineT ที่เปิดตัวโดย BMW Motorrad ไปในปี 2013 เป็นมากกว่าโรดสเตอร์ที่ออกแบบตามมอเตอร์ไซค์รุ่นคลาสสิค โดยบีเอ็มดับเบิลยู R nineT ได้ผสมผสานดีไซน์สุดคลาสสิคของมอเตอร์ไซค์เข้าไว้กับเทคโนโลยีอันทันสมัย 

โดดเด่นด้วยสไตล์ที่แตกต่าง คงเอกลักษณ์สุดคลาสสิคเช่นเคย ด้วยระยะเวลามากกว่า 35 ปี ที่อักษรย่อ GS กับชื่อ BMW Motorrad ตอบสนองการขับขี่ได้ทั้งบนท้องถนนหรือการขับขี่ออฟโรด ซึ่ง R nineT Urban G/S ได้ดึงเอารหัสพันธุกรรมของบีเอ็มดับเบิลยู R 80 G/S รุ่นแรกในตำนานจากยุค 80 พร้อมปรับแต่งให้เข้ากับยุคสมัยด้วยเทคโนโลยีปัจจุบัน ภายใต้รูปลักษณ์เอ็นดูโร่สุดคลาสสิคของมอเตอร์ไซค์บีเอ็มดับเบิลยูที่มาคู่กับเครื่องยนต์บ๊อกเซอร์

BMW R nineT Urban G/S มาพร้อมกับเครื่องยนต์บ๊อกเซอร์ ระบายความร้อนด้วยอากาศและน้ำมัน ขนาดเครื่องยนต์ความจุ 1,170 ซีซี ให้กำลังสูงสุด 81 กิโลวัตต์หรือ 110 แรงม้า จับคู่ด้วยระบบเกียร์ 6 สปีด ถูกออกแบบให้ลดอัตราการปล่อยมลภาวะตามเกณฑ์ EU4 pollutant class ระบบไอเสียสแตนเลสมาพร้อมกับท่อไอเสียที่วางตำแหน่งไว้ด้านซ้าย 

เอกลักษณ์ด้วยล้อแบบซี่ลวด ล้อหน้าขนาดใหญ่กว่า 19 นิ้ว และยางออฟโร้ด 120/70 ZR 19 ตอบโจทย์ลุคสไตล์เอ็นดูโร่ที่เป็นที่รู้จักกันดีของมอเตอร์ไซค์รุ่นคลาสสิค ล้อหลังขนาด 17 นิ้ว พร้อมยาง 170/60 ZR 17 พร้อมกับออปชั่นยางออฟโรดดอกลึก (รุ่นมาตรฐาน: ยางถนน) รวมไปถึงล้อซี่ลวด (filigree wired-spoke wheels) ที่ช่วยยกระดับสไตล์อันคลาสสิคให้เด่นชัดยิ่งขึ้น ระบบเบรกมั่นใจด้วยคาลิเปอร์ 4 ลูกสูบ สายเบรกหุ้มโลหะ และดิสเบรกที่มีขนาดเส้นผ่าศูนย์กลาง 320 มิลลิเมตร พร้อมระบบเบรก ABS 

สามเหลี่ยมแห่งสรีรศาสตร์จาก Urban G/S ช่วยให้ผู้ขี่รู้สึกคล่องตัว แฮนด์ถูกยกสูงขึ้นเล็กน้อย พื้นผิวที่นั่งที่ยาวและลึกขึ้น ที่พักเท้าหลังที่มีขนาดกว้างขึ้น มีความสูงมาตรฐานของที่นั่งประจำซีรีส์นี้อยู่ที่ 850 มม. รูปลักษณ์ถอดแบบมาจากมอเตอร์ไซค์รุ่นพี่ คงคอนเซ็ปต์โทนสีเช่นเดียวกับเมื่อ 35 ปีที่แล้ว ถังน้ำมันและบังโคลนด้านหน้ายังมากับ สีขาว Lightwhite non-metallic เข้ากับหน้ากากไฟหน้า ที่ออกแบบมาตามสไตล์มอเตอร์ไซค์บีเอ็มดับเบิลยู GS ของยุคนั้น ทั้งโทนสองสีน้ำเงินบนถังน้ำมัน และที่นั่งสำหรับสองคนสีแดงสว่าง พร้อมเฟรมสีดำ

แผงหน้าปัดแบบคลาสสิคไม่ซับซ้อน ประกอบด้วยมาตรวัดความเร็วทรงกลมแบบอนาล็อก ไฟสัญลักษณ์ และหน้าจอ LCD สองแถว รายละเอียดหรูหรายังเป็นอีกหนึ่งจุดเด่นของ R nineT Urban G/S ที่รวมไปถึงอะไหล่อลูมิเนียมต่างๆ เช่น fork bridge แคลมป์จับแฮนด์อลูมิเนียม และอื่นๆ อีกมากมาย

และ BMW R nineT Urban G/S สามารถนำอานหลังออกเพื่อปรับแต่งให้เหลือเพียงที่นั่งเดียว ทั้งยังมีชุดแต่งออริจินัลจากบีเอ็มดับเบิลยู มอเตอร์ราด ที่คัดสรรมาให้เลือก ไม่ว่าจะเป็นแครชบาร์ กันล้มป้องกันเครื่องยนต์ และกระจังครอบไฟหน้าอีกด้วย

สนนราคาจำหน่ายของ BMW R nineT Urban G/S ราคา 975,000 บาท

ติดตามข่าวสารยานยนต์ รวดเร็วก่อนใคร ได้ที่ Autodeft.com