ยลโฉมจริง !! Volvo S90 D4 Momentum ซาลูนหรูแดนไวกิ้ง พร้อมค่าตัวถูกกว่าเพียง 3.09 ล้านบาท

ในที่สุด วอลโว่ คาร์ (ประเทศไทย) เอาใจสาวกที่ชอบรถหรู แต่ค่าตัวคบหาได้ ด้วยการส่ง Volvo S90 ซีดานพรีเมี่ยมบุกตลาดอีกครั้งด้วยการประกอบในประเทศมาเลเซีย (SKD)

ประเดิมด้วยรุ่นเครื่องยนต์ดีเซล D4 Momentum ที่ภายนอกหรูไม่แพ้รุ่นนำเข้าจากสวีเดน เริ่มจาก กระจังหน้าพร้อมตราโลโก้ Iron Mark รูปแบบใหม่ขอบเป็นโครเมี่ยมแต่ไส้ในของกระจังหน้าไม่ตกแต่งโครเมี่ยม กับกันชนหน้า ที่เปิดประตูไม่ตกแต่งโครเมี่ยม และไม่มีคิ้วช่างล่างขอบประตู รวมถึง ไม่มีหลังคาหลังคารถซันรูฟเปิด-ปิดระบบไฟฟ้า ล้ออัลลอยจากเดิมเป็นแบบ 10-Spoke Diamond Cut สีเงิน Silver ขนาดใหญ่ 8.5 X 19 นิ้ว 10 ก้าน พร้อมยางแก้มเตี้ย Conti Sport Contact ขนาด 255/40 R19 จากค่าย Continental กลายเป็นล้อ 10-Spoke ขนาดเล็กลง 8X18 นิ้ว พร้อมยางขนาด 245/45 R18 จาก Pirelli แต่บางอย่างยังคงเดิม ทั้ง ไฟหน้าที่จำลองแบบ “ค้อนแห่งเทพเจ้าธอร์” (Thor Hammer) แบบ  LED และในโคมเดียวกันยังซ่อนไฟส่องสว่างเวลากลางวัน LED Daytime ไว้ด้วย แถมยังมีไฟตัดหมอกหน้าเป็นมาตรฐานติดรถ ใหม่หมดตามสมัยด้วยด้านท้ายติดตั้งไฟท้ายรูปทรงตัว C แบบ LED สร้างตัวตนเด่นให้น่ามองมากขึ้น พร้อมตัวอักษร Volvo สีเงินเด่นประทับไว้อยู่บนฝากระโปรงท้าย

ภายใต้โครงสร้างตัวรถออกแบบโดย Scalable Product Architecture (SPA) ซึ่งเป็นแพลทฟอร์มการออกแบบทางวิศวกรรมที่นำสมัยที่สุด ทำให้มิติตัวรถเท่ากับรุ่นนำเข้าจากสวีเดนตั้งแต่ความยาว 4,963 มม. ความกว้าง 1,879 มม. สูง 1,443 มม. มาพร้อมฐานล้อมาตรฐาน เพียง 2,941 มม. และความจุถังน้ำมัน 55 ลิตร

ความหรูหราภายในเทียบเท่ารุ่นนำเข้าเริ่มจาก มาตรวัดเรืองแสงจะมีขนาดเล็กลง จากเดิมเป็นแบบมาตรวัดที่แสดงผลกราฟฟิกขนาดใหญ่ 12.3 นิ้ว รวมถึงแผงคอนโซลหน้าและแผงข้างประตูตกแต่งด้วยวัสดุสีเงินแทนลายไม้ ลำโพงคุณภาพแต่ยังให้เสียงดีเด่นเช่นเคยถึงแม้จะไม่มีไม่มีระบบเสียงขั้นเทพ Bowers & Wilkins ก็ตาม พร้อมจอสัมผัสขนาดใหญ่ เทคโนโลยี Sensus Connect ระบบแรกของโลกที่เชื่อมต่อกับ Apple Car Play และรองรับอุปกรณ์สื่อสารเคลื่อนที่ในเครือข่าย iOS เช่น iPhone และระบบ Android Auto บังคับควบคุมที่ปุ่มสัมผัสบนแกนพวงมาลัยรถ และ การสั่งการด้วยเสียง Voice Control ของผู้ขับขี่ พร้อมม่านบังแดดหลังถึงไม่มีระบบ Head-Up Display กับ เบาะนั่งคู่หน้าปรับด้วยไฟฟ้า หุ้มหนังแท้วัสดุคุณภาพสูง แทนแบบเดิม nappa แต่ก็ไม่ลืมคุณสมบัติด้านอรรถประโยชน์ เช่น ช่องเก็บของรอบห้องโดยสาร ที่คอนโซลกลาง และที่วางแขนกลางเบาะหลัง 

ขุมพลังรถหรู Volvo ยังคงเดิมด้วยเครื่องยนต์ดีเซลคอมมอนเรล ทวินเทอร์โบพร้อมเทคโนโลยีหัวฉีด i-Art รหัส D4204T14 ขนาด 2.0 ลิตร ให้กำลังสูงสุด 190 แรงม้า ที่ 4,250 รอบต่อนาที แรงบิดสูงสุด 400 นิวตันเมตร ที่ 1,750-2,500 รอบต่อนาที อัตราเร่ง 0-100 กม./ชม. ใน 8.2 วินาที อัตราสิ้นเปลืองน้ำมันเชื้อเพลิงเฉลี่ย 20.4 กม./ลิตร ปล่อย CO2 เพียง 129 กรัมต่อกิโลเมตรจับคู่กับระบบส่งกำลังเกียร์อัตโนมัติ 8 สปีดพร้อมเกียร์ทรอนิค (Geartronic)

ระบบ Intellisafe ความปลอดภัยอัจฉริยะของโลก ทั้งเชิงป้องกันและปกป้อง ไม่ว่าจะเป็นระบบ Pilot Assist เจนเนอร์เรชั่นที่ 2 เป็นระบบช่วยในการขับขี่กึ่งอัตโนมัติ ทำงานที่อัตราความเร็วสูงสุดที่ 130 กิโลเมตรต่อชั่วโมง และไม่ต้องอาศัยรถคันหน้าอีกต่อไปนอกจากนี้ S90 ยังติดตั้งระบบความปลอดภัยอันเป็นนวัตกรรมของโลก คือ ระบบป้องกันรถยนต์วิ่งออกนอกช่องทาง (Run-Off Road Mitigation) ทำงานในย่านความเร็ว 65-140 กม./ชม. รวมทั้งระบบ City Safety ที่มาพร้อมกับเซนเซอร์ตรวจจับสัตว์ขนาดใหญ่ (Large Animal Detection) ซึ่งเป็นครั้งแรกของโลกที่นำระบบเหล่านี้ติดตั้งในรถยนต์นั่งซีดาน เพื่อการขับขี่ที่ปลอดภัยตลอดการเดินทางทั้งกลางวันและกลางคืน นับเป็นก้าวสำคัญไปสู่วิสัยทัศน์ของ วอลโว่ ที่ว่า “ในปีค.ศ. 2020 จะต้องไม่มีผู้เสียชีวิตหรือบาดเจ็บสาหัสในรถวอลโว่รุ่นใหม่”

Volvo S90 D4 Momentum มาพร้อมค่าตัวที่ถูกลง เพียง 3,090,000 บาท (ถูกว่าเดิมถึง 900,000 บาท) พร้อมสัมผัสตัวจริงได้ที่งาน Big Motor Sale 2017 ถึงวันที่ 27 สิงหาคมนี้ ส่วนรุ่น T8 Twin Engine Plug-In Hybrid จะเริ่มจำหน่ายในเดือนกันยายนนี้ ในราคา 3,390,000 กับ 3,790,000 บาท

 

 

ชมรีวิวทดสอบ Volvo S90 D4 Inscription (CBU) ได้ที่นี่

 

 

ติดตามข่าวสารยานยนต์ รวดเร็วก่อนใคร ได้ที่ Autodeft.com