All New Toyota Camry ยกระดับซาลูน…..พร้อมสรรพความหรูเต็มขั้นเริ่ม 1.445 ล้านบาท

นับตั้งแต่ปี 2536 ที่ Toyota Camry เริ่มเข้ามาทำตลาดในเมืองไทยได้รับความสนใจจากลูกค้าชาวไทยที่มองหารถยนต์หรูที่มาพร้อมกับประสบการณ์เหนือระดับ จนประสบความสำเร็จอย่างต่อเนื่อง นับตั้งแต่เปิดตัว โดยมียอดจำหน่ายสะสมรวมกว่า 200,000 คัน

วันนี้ โตโยต้า มอเตอร์ (ประเทศไทย) พร้อมแล้วที่จะเผยที่สุดยนตกรรมซาลูนที่มาพร้อมความเหนือระดับ Toyota camry เจเนอเรชั่นใหม่ ภายนอกของเจเนอเรชั่นที่ 8 มาพร้อมไฟหน้าแบบ LED พร้อมไฟ Daytime Running Light และไฟเลี้ยวแบบ LED ใหม่…ออกแบบอย่างปราณีต โดดดเด่นยิ่งกว่าในทุกมุมมอง ไฟท้ายแบบ LED...ออกแบบอย่างพิถีพิถันในทุกรายละเอียด สร้างความประทับใจตั้งแต่แรกเห็น ไฟตัดหมอกหน้าแบบ LED...สง่างาม ส่องสว่าง กว้างไกลขึ้น หลังคามูนรูฟ (Moonroof)… ตอบรับกับไลฟ์สไตล์เหนือระดับ กระจังหน้าดีไซน์โฉบฉี่ยว...หรูหรา สะท้อนตัวตนที่มีระดับ กระจกป้องกันเสียงรบกวนและแสงแดด (Acoustic High Solar Energy Absorb Glass)…เพิ่มสุนทรียะแห่งการเดินทาง ล้ออัลลอยมีให้เลือกถึง 3 ขนาดตั้งแต่ ขนาด 16 นิ้ว พร้อมยาง 205/65 R16 ในรุ่น 2.0 G ขนาด 17 นิ้ว 17 นิ้ว พร้อมยาง 215/55R17 ในรุ่น Hybrid และใหญ่สุด 18 นิ้ว พร้อมยาง 235/45 R18 ในรุ่น 2.5 G

มิติตัวรถใหญ่ขึ้นสปอร์ตขึ้น ด้วยความยาว 4,885 มม. ความกว้าง 1,840 มม. ความสูง 1,445 มม. ระยะฐานล้อ 2,825 มม. ระยะต่ำสุดจากพื้น 140 มม. น้ำหนักรถ 1,520- 1,650 กก. ความจุถังน้ำมัน 50-60 ลิตร โดยเป็นการพัฒนาบนพื้นฐาน สถาปัตยกรรมยานยนต์ใหม่ของโตโยต้า TNGA ได้แก่ การนำโครงสร้างที่ได้รับการพัฒนาขึ้นมาใหม่นั่นเอง

ภายในบ่งบอกตัวตนความสปอร์ต พร้อมออกแบบให้ผู้ขับขี่เป็นศูนย์กลางด้วยคอนโซลหน้าออกแบบให้ทุกองค์ประกอบเชื่อมโยงกันอย่างไร้ที่ติ พร้อมลาย Hybrid Onyx...สะท้อนภาพลักษณ์ระดับผู้นำ มาตรวัดเรืองแสง Optitron พร้อมจอแสดงผลข้อมูลการขับขี่ TFT ขนาด 7 นิ้ว โดดเด่นด้วยดีไซน์สปอร์ตหรู แสดงสถานะการทำงานของระบบต่างๆ อย่างเด่นชัด หน้าจอแสดงผลข้อมูลการขับขี่แบบสีบนกระจกหน้ารถ Head-Up Display สะดวกสบายสูงสุด ไม่ต้องละสายตาขณะขับขี่ เครื่องเล่น DVD แบบหน้าจอสัมผัสขนาด 8 นิ้ว...รื่นรมย์ตลอดการเดินทาง เต็มอิ่มทุกความบันเทิง พร้อม T-Connect Telematics ระบบที่เชื่อมต่อรถและผู้ใช้รถให้เป็นหนึ่งเดียว ช่วยให้คุณอัพเดตสถานะรถได้ตลอดเวลา กับลำโพง JBL 9 ตำแหน่งให้คุณภาพเสียงที่คมชัด

ระบบปรับอากาศแยกอิสระ 3 โซน ซ้าย-ขวา และด้านหลังพร้อมระบบกรองอากาศภายในห้องโดยสาร nanoe อุปกรณ์ชาร์จไฟแบบไร้สาย รองรับระบบการชาร์จไฟแบบ Qi ชาร์จไฟสะดวก พร้อม ช่องต่อ USB ด้านหลัง 2 ช่อง… สะดวกสบาย ชาร์จไฟสะดวกสำหรับผู้โดยสารด้านหลัง เบาะนั่งคู่หน้าปรับระดับได้ 8 ทิศทาง พร้อมปุ่มปรับดันหลังไฟฟ้า...นุ่มสบาย ผ่อนคลาย ไม่เมื่อยล้า ในแบบ Seat Ventilator…ลดความอับชื้น ด้วยพัดลมใต้เบาะและพนักพิง และเบาะนั่งด้านหลังปรับเอนไฟฟ้าพร้อมแผงควบคุมหน้าจอสัมผัสแบบดิจิทัล ผ่อนคลายและสะดวกสบายตลอดการเดินทาง

เวอร์ชั่นไทยใช้ขุมพลังใหม่หมด ทั้งเครื่องยนต์เบนซิน Dynamic Force Engine Hybrid VVT-IEเจเนอเรชั่นที่ 4 ที่พัฒนามาเพื่อมอบความรู้สึกสนุกในการขับขี่ พร้อมประสิทธิภาพในการประหยัดน้ำมันที่ดียิ่งขึ้นขนาด 2.5 ลิตร (รหัส A25A-FXS) ให้กำลังถึง 178 แรงม้าที่ 5,700 รอบ/นาที แรงบิด 221 นิวตันเมตร ที่ 3,600-5,200 รอบ/นาที ทำงานร่วมกับมอเตอร์ไฟฟ้า 120 แรงม้า แรงบิด 202 นิวตันเมตร โดยให้กำลังรวม 211 แรงม้า แรงบิด 221 นิวตันเมตร จับคู่กับระบบเกียร์อัตโนมัติ E-CVTพร้อม Sequential Shift รองรับน้ำมันสูงสุด E20

ด้านเครื่องยนต์เบนซินปกติ มีให้เลือกถึง 2 ขนาด กับเครื่องเครื่องยนต์เบนซิน Dynamic Force Engine ใหม่ (รหัส A25A-FKS) ขนาด 2.5 ลิตร พร้อม VVT-iE ระบบวาล์วแปรผันอัจฉริยะควบคุมด้วยไฟฟ้า กำลังสูงสุด 209 แรงม้าที่ 6,600รอบ/นาที แรงบิด 250 นิวตันเมตร ที่ 5,000 รอบ/นาที และส่งกำลังผ่านระบบเกียร์อัตโนมัติ Direct Shift-8AT  และเครื่องยนต์เบนซิน 2.0 ลิตร พัฒนาใหม่รหัส 6AR-FBS พร้อมระบบวาล์วแปรผันVVTI-W D-4S ให้แรงม้าสูงสุด 167 แรงม้าที่ 6,500 รอบ/นาที แรงบิดสูงสุด 199 นิวตันเมตรที่ 4,600 รอบ/นาที จับคู่กับเกียร์อัตโนมัติ 6 สปีด แบบ Sequential Shift ทั้งสองขนาดรองรับน้ำมันสูงสุด E85

ควบคุมรถได้ดั่งใจ พร้อมด้วยระบบ ช่วงล่างอิสระแบบปีกนกคู่ (Double Wishbone Suspension) ทำให้เข้าโค้งได้อย่างมั่นใจ ที่สำคัญยังคงไว้ซึ่งความนุ่มสบายและความเงียบตลอดการเดินทาง พร้อมระบบความปลอดภัย จัดเต็มภายใต้ Toyota Safety Sense P ทั้ง ระบบความปลอดภัยก่อนการชน (PRE-COLLISION SYSTEM), ระบบเตือนเมื่อออกนอกเลนพร้อมพวงมาลัยหน่วงอัตโนมัติ (LANE DEPARTURE ALERT), ระบบควบคุมและปรับลดความเร็วอัตโนมัติ (DYNAMIC RADAR CRUISE CONTROL) , ระบบควบคุมไฟสูงอัตโนมัติ (AUTOMATIC HIGH BEAMS), กล้องมองภาพขณะถอยหลัง พร้อม Back Guide Monitor, ระบบช่วยเตือนขณะถอยรถ RCTA (Rear Cross Traffic Alert), ระบบช่วยออกตัวบนทางลาดชัน HAC (Hill-start Assist Control), ระบบช่วยเตือนมุมอับสายตาที่กระจกมองข้าง (Blind Spot Monitor) , สัญญาณไฟกระพริบเมื่อเบรกกะทันหัน (Emergency Stop Signal) และถุงลมเสริมความปลอดภัย 9 ตำแหน่ง

Toyota Camry เจนใหม่ เปิดตัวในไทย ถึง 4 รุ่นย่อยพร้อมราคาดังนี้

- รุ่น 2.5 HV Premium เกียร์อัตโนมัติ ราคา 1,799,000 บาท

- รุ่น 2.5 HV เกียร์อัตโนมัติ ราคา 1,639,000 บาท

- รุ่น 2.5G เกียร์อัตโนมัติ ราคา 1,589,000 บาท

- รุ่น 2.0G เกียร์อัตโนมัติ ราคา 1,445,000 บาท

พร้อมสี 7 สี Attitude Black, Silver Metallic, Phantom Brown และ สีใหม่ 4 สี Graphite Metallic, Premium Red, Platinum White Pearl(เพิ่ม 10,000 บาท)

ติดตามข่าวสารยานยนต์ รวดเร็วก่อนใคร ได้ที่ Autodeft.com