“เปลี่ยนรถเป็นว่าเล่น” เรื่องจริงในอนาคตที่อาจจะเกิดขึ้น
- โดย : Autodeft
- 25 ก.พ. 58 00:00
- 11,787 อ่าน
พบความจริงอนาคตของการซื้อขายรถยนต์ บางทีเราอาจจะกำลังก้าวเข้าสู่ยุคที่การซื้อขายรถอาจจะไม่แตกต่างจากการที่เราซื้อสมาร์ทโฟน
มือถือ เชื่อเลยว่าก่อนหน้านี้เราหลายคนไม่ตระหนักว่า มือถือจะมีบทบาทสำคัญ มันแพงและใช้แต่โทร แต่ดูสิ โทรศัพท์มือถือในวันนี้กลายเป็นปัจจัยสำคัญในชีวิต ใครไม่มีนี่ถือว่าเชยระเบิด แต่ยิ่งกว่านั้นมันยังบอกถึงรสนิยมทางเทคโนโลยีของคุณด้วย แล้วถ้ารถยนต์กำลังเป็นแบบเดียวกับมือถือคุณเชื่อหรือไม่
ยุคสมัยที่เปลี่ยนไปการก้าวไกลทางเทคโนโลยีเป็นบทบาทที่สำคัญที่สุด นำมาสู่การพัฒนาออพชั่นต่างในรถยนต์อย่างที่เราไม่เคยเจอ และมันทำให้ชีวิตวันนี้สะดวกสบายขึ้น การขับขี่รถยนต์ในวันนี้ไม่ใช่เพียงมีล้อ มีพวงมาลัยและเครื่องยนต์ที่ไว้วางใจได้ แต่การทำให้รถมีความลงตัวในการใช้งาน ตอบสนองในยามขับขี่ และยังมั่นใจได้ในทุกครั้งที่เดินทางกลับกลายเป็นสิ่งที่สำคัญ
[IMAGE1]
ย้อนกลับไปเมื่อช่วง 10 ปีที่แล้ว สิ่งที่เราเห็นต่างๆในวันนี้แทบจะเรียกว่าไม่มีตอบโจทย์ลูกค้าแม้แต่ชิ้นเดียว ยังดีที่ค่ายรถยนต์บางเจ้าตระหนักแล้วว่าเครื่องเล่นซีดีหรือวิทยุยังมีส่วนสำคัญต่อผู้บริโภคอยู่บ้าง แต่เมื่อเปรียบเทียบรถยนต์ในวันนี้กับรถยนต์เมื่อ 10 ปีที่แล้ว คงต้องยอมรับว่ามันต่างกันราวฟ้ากับเหว ราวกับหลุดออกมาจากโลกดึกดำบรรพ์ คุณเชื่อมต่อโทรศัพท์ไม่ได้ ไม่มีระบบนำทาง เผลอๆ รถที่ขับนั้นอาจจะไม่มีระบบ ABS หรือ ถุงลมนิรภัย ด้วยซ้ำไป
ข้อเท็จจริงหนึ่งที่หลายคนไม่ตระหนักในเรื่องราวระหว่างรถใหม่และรถเก่า อยู่ที่ออพชั่นใหม่ที่ๆออกมาสู่ตลาดมากขึ้นมีผลต่อการซื้อรถยนต์มากขึ้นอย่างไม่น่าเชื่อ ซึ่งแตกต่างจากยุคก่อนที่ของเล่นภายในรถยนต์ไม่มากมาย รถยนต์รุ่นใหม่ในอดีตแค่มีสมรรถนะในการขับขี่ขึ้นการออกแบบใหม่ที่เพิ่มขึ้น แต่ของปลุกต่อมกิเลสอยากอย่างความทันสมัยกลับกลายเป็นเรื่องที่ทำให้คนรุ่นพ่อยอมที่จะทิ้งรถยนต์สุดที่รักมาคบรถรุ่นใหม่ที่มีความลงตัวกว่าในการใช้งาน
[IMAGE2]
ยกตัวอย่างเช่นรถยนต์ Honda Jazz รุ่นก่อนหน้านี้เมื่อเทียบกับรุ่นที่วางจำหน่ายในปัจจุบันมันอาจจะแตกต่างทางเรื่องของการออกแบบ เครื่องยนต์และชุดเกียร์ที่ทันสมัยมากขึ้น แต่สิ่งหนึ่งที่ทำให้คนสนใจ Honda Jazz ใหม่ได้มากก็ไม่พ้นลูกเล่นในตัวรถ เช่นระบบความบันเทิงที่มีการเชื่อมต่อได้ดี รวมถึง ฟังชั่นใช่งานอย่างเช่นกล้องมองหลังที่ปรับได้สามระดับเป็นต้น นี่ยังไม่นับพวกความปลอดภัย เช่นระบบควบคุมการทรงตัว ที่บวกเข้ามาเพิ่มจากเดิม และนี่เป็นเพียงตัวอย่างเดียวของความแตกต่างรถยนต์ในอดีตกับปัจจุบัน
[IMAGE5]
นาย เควิน ไทแนน เจ้าหน้าที่วิเคราะห์ทางด้านยานยนต์ของ Bloomberg กล่าวถึงเรื่องผ่าน automotive news ดังกล่าวว่า ปกติแล้วเราอาจจะพยายามข้ามรุ่นในเรื่องขอเทคโนโลยี แต่ทุกวันนี้มันไม่ใช่ แค่รถยนต์ในอดีตย้อนไปเพียง 5 ปีที่ผ่านมา มันกลับดูต่างจากปัจจุบันอย่างมาก และมันไม่ต่างจากรถในอดีตที่มีอายุราว 10 หรือ 12 ปี เลย
ยิ่งไปกว่านั้นในปัจจุบันค่ายรถยนต์หลายเจ้าพยายามนำเสนอเทคโนโลยีใหม่ทางด้านความปลอดภัย ซึ่งหลายรายการที่ยังอยู่ในระหว่างการพัฒนานั้นจะเปิดออกมาให้ลูกค้าจับจองกันในสิ้นทศวรรษนี้ ไม่ว่าจะระบบขับขี่อัตโนมัติ ไปจนถึงระบบควบคุมการเปลี่ยนเลน บางรายกำลังพัมนาระบบจดจำสัญญาณไฟเพื่อให้การจราจรต่อเนื่อง
[IMAGE3]
ทางด้าน นาย คาร์ล บอเออร์ ผู้อำนวยการอาวุโสฝ่ายวิเคราะห์ข้อมูล ได้เปิดเผยกับ Automotive news อย่างน่าสนใจว่า การซื้อรถยนต์ในยุคนี้เข้าใกล้กับแนวทางของการซื้อขายสมาร์ทโฟนอย่างมาก พวกมันสามารถซื้อหาได้ง่ายและที่สำคัญค่ายรถยนตำยายามอย่างยิ่งในการนำเสนอเทคโนโลยีใหม่ๆเข้ามาตอบโจทย์ในการใช้ชีวิตบนรถ ซึ่งแน่นอนว่าเราหลายคนต้องการมัน
ในยุคหน้าใครจะรู้บางทีเราอาจจะกำลังจะเข้าสู่ยุคที่รถยนต์อาจจะซื้อขายง่ายขึ้น ราคาของมันตกลงอย่างรวดเร็ว ไม่ต่างอะไรจากที่เคยเกิดมาแล้วกับโทรศัพท์มือถือ นั่นยังไม่นับรวมการเดินตลาดของค่ายรถยนต์แต่ละเข้าที่มีแนวทางแตกต่างกันออกไป แต่ท้ายที่สุดแล้วรถยนต์ในวันนี้ก็กลายเป็นของจำเป็น โดยทีบางทีเราอาจจะไม่รู้ตัว
เรื่องเรียบเรียงโดย ณัฐยศ ชูบรรจง
ติดตามผู้สื่อข่าวและนักทดสอบรถยนต์ นาย ณัฐยศ ชูบรรจง ได้ที่ Facebook ,Twiter (@nattayodc)
ติดตามข่าวสารยานยนต์ รวดเร็วก่อนใคร ได้ที่ Autodeft.com