Mercedes Benz S-Class หรูล้ำครบเครื่องเคาะ 11.4 ล้านบาท
- โดย : Autodeft
- 11 ก.ย. 56 00:00
- 7,303 อ่าน
Mercedes Benz เปิดตัว Mercedes Benz S-Class ใหม่ ส่ง S400 Hybrid AMG วางขาย 11.4 ล้านบาท
ในช่วงปีที่ผ่านมา ยนตรกรรมสุดหรูที่มีการพูดถึงอย่างมากในต่างประเทศ คงไม่มีใครไม่เฝ้าจับตายนตรกรรมรุ่นใหมญ่ Mercedes-Benz S- Class ใหม่ รถยนต์เรือธงของค่ายดาวสามแฉกที่กลับมาอีกครั้ง และ มันก็พร้อมแล้วที่จะให้จับจองในบ้านเรา
ราคารที่เปรยออกมาอย่างเป็นทางการ 11.4 ล้าน เริ่มต้นให้คุณได้สัมผัสความหรูหรา น่าจะเรียกว่าเป็นอะไรที่หลายคนจับตามองพอสมควร ไม่ใช่ด้วยราคาที่ไม่ธรรมดา หากแต่ Mercedes Benz S-Class เป็นยนตรกรรม ที่รวมเอาความล้ำหน้ามาเข้าไว้ด้วยกัน และหมายถึงนี่คือที่สุดแห่งที่สุดของที่สุดยนตรกรรมแห่งยุค
การกลับมาของ Mercedes Benz S-Class ใหม่ ให้ความลงตัวเหมือนเคย ทั้งในเรื่องความหรูหรา สมรรถนะการขับขี่ และครั้งนี้ ยังเพิ่มความล้ำสมัย ที่สามารถสังเกตได้ตั้งแต่การออกแบบภายนอก ที่ให้ความล้ำสมัยสง่างาม เริ่มจากกระจังหน้าขนาดใหญ่ ดุมีมิติในทุกมุมมอง ต่อเนื่องมาถึงฝากระโปรงหน้าใหม่ที่ดูยาว เพิ่มสัดส่วนความงามเต็มพื้นที่มากขึ้น
รวมถึงเส้นสายใหม่ของ Mercedes Benz Dropping Line ทำให้รถมีความพริ้วไหวทั้งยามหยุดนิ่งและขับเคลื่อน รวมถึงหลังคาที่โค้งมลลงตัว และชุดไฟหน้าแบบ LED ข้างละ 56 ดวง และไฟท้ายใช้หลอดไฟ LED ข้างละ 35 ดวง โดยมีหลอดไฟ LED สำหรับตัดหมอกหลังอีก 4 ดวง ทำให้ประหยัดพลังงานโดยรวมถึงกว่า 75 เปอร์เซ็นต์
นอกจากนี้ยังมีระบบ LED Intelligent Light System สำหรับโคมไฟหน้าซึ่งจะช่วยปรับลำแสงให้เหมาะสมกับสถานการณ์และสภาพอากาศ อาทิ การขับขี่ในชนบท (country mode), การขับขี่บนทางหลวง (motorway mode ), การขับขี่บนถนนที่ปกคลุมไปด้วยหมอก (enhanced fog lamps), การปรับโคมไฟหน้ารถตามการเลี้ยวของพวงมาลัย (active light function), การเพิ่มความส่องสว่างขณะเลี้ยวโค้ง (cornering light function) และการปรับไฟสูงอัตโนมัติ (Adaptive Highbeam Assist Plus) ซึ่งระบบจะปรับลดระดับแสงไฟสูงลงอัตโนมัติเมื่อพบว่ามีรถยนต์คันอื่นวิ่งสวนทางมาหรือเข้าใกล้รถยนต์คันที่วิ่งนำหน้าอยู่
ไม่เพียงเท่านี้ Mercedes Benz S-Class ใหม่ ยังเปี่ยมด้วยหลักวิศวกรรมทางด้านอากาศพลศาสตร์ ด้วยค่าสัมประสิทธิเสียดทานเพียง 0.23 cd และยังเลือกใช้โครงสร้างแบบอะลูมเนียมผสม และใช้วัสดุที่มีน้ำหนักเบากว่าที่เคยใช้ในรุ่นก่อนหน้าถึง 95 กิโลกรัม แต่มีความแข็งแกร่งและทนทานต่อแรงบิดเพิ่มขึ้น 50 เปอร์เซ็นต์ ซึ่งทั้งหมด จุในเรือนร่าง ยาว 5,246 ม.ม. กว้าง1,899 ม.ม. และสูง 1,496 มม. ซึ่งเมื่อเปรียบเทียบกับรุ่นก่อนหน้า รุ่นใหม่มีความยาวขึ้น 20 มม. กว้างขึ้น 28 มม. และสูงขึ้น 17 มม.
ด้านในห้องโดยสาร ด้วยอานิสงค์ของ เรือนร่างที่มีขนาดใหญ่ขึ้น Mercedes Benz S-Class จึงมีพื้นที่ห้องโดยสารด้านหน้าคนขับมีพื้นที่เหนือศีรษะ (headroom) เพิ่มขึ้น 14 มม. พื้นที่ช่วงไหล่ (shoulder room) ของผู้โดยสารด้านหน้าเพิ่มขึ้น 14 มม. และผู้โดยสารด้านหลังเพิ่มขึ้น 11 มม. พื้นที่ห้องโดยสารด้านหลังช่วงขา (kneeroom) เพิ่มขึ้น 16 มม.
ให้การตบแต่างที่ยังเน้นความสพดวกสบายสูงสุดในการโดยสาร ใที่ใส่ใจในการออกแบบพิเศษ designo high-gloss sunburst brown myrtle wood แบบ 2 โทนสี (two-tone) รวมทั้งเบาะนั่งหุ้มหนัง Nappa แบบ Exclusive package ตัดเย็บลายเบาะแบบ diamond design พร้อมด้วยผ้าหลังคา และแผงบังแดดด้านหน้าหุ้มด้วย DINAMICA microfibre พร้อมด้วยไฟเรืองแสงล้อมรอบห้องโดยสาร (Ambient Lighting) ที่สามารถปรับเฉดได้ถึง 7 สี
ส่วนตรงหน้าคนขับติดตั้งพวงมาลัยหุ้มหนังสลับลายไม้ 2 ก้านแบบมัลติฟังก์ชั่น ซึ่งเป็นพวงมาลัยนิรภัยพร้อมพาวเวอร์ที่สามารถปรับน้ำหนักได้ตามความเร็วรถ ให้ความแม่นยำในการขับขี่สร้างความปลอดภัย ทุกเส้นทาง
นอกจานี้ ยังมาพร้อมระบบแสดงข้อมูล ผ่านชุดจอมอนิเตอร์ TFT มีความละเอียดสูงมีขนาด 31.2 ซม. จำนวน 2 จอโดยตัวแรกด้านหน้าคนขับสำหรับให้ข้อมูลการวัดค่าต่างๆ บนแผงหน้าปัด เช่น มิเตอร์วัดความเร็ว ความเร็วรอบ ระยะทางและอื่นๆ ส่วนจอด้านซ้ายสำหรับให้ข้อมูลระบบความบันเทิงต่างๆ รวมถึงการเชื่อมต่ออินเตอร์เน็ต และยังสามารถควบคุมการทำงานได้จากรีโมทคอนโทลและแป้นควบคุมตรงคอนโซลกลางที่ได้รับการออกแบบอย่างสวยงาม สามารถควบคุมการทำงานได้สะดวก
ที่นั่งด้านหลังมีจอแสดงผลอีก 2 ตำแหน่ง ขนาด 25.4 ซม. (Individual Entertainment in the rear) ที่ติดตั้งอยู่บริเวณด้านหลังของพนักพิงที่นั่งคู่หน้า ซึ่งให้บริการด้านข้อมูลและความบันเทิงต่างๆ แก่ผู้โดยสารตอนหลังโดยแยกอิสระ ระบบ COMAND Online ควบคุมการทำงานของวิทยุ – ดีวีดี และเชื่อมต่ออินเทอร์เน็ตพร้อม Controller และระบบนำทาง (navigation system) นอกจากนั้นยังมีรีโมทคอนโทรลควบคุมการทำงานของระบบ COMAND Online สำหรับผู้โดยสารด้านหลัง รวมถึงระบบสั่งการด้วยเสียง (LINGUATRONIC) ด้วย
ด้านระบบปรับอากาศ ล้ำสมัยด้วยระบบควบคุมอุณหภูมิอัตโนมัติสำหรับที่นั่งด้านหลังแบบแยกเป็น 2 โซน ได้ถูกพัฒนาขึ้นใหม่ซึ่งควบคุมการทำงานโดยใช้ระบบท่อน้ำยาแอร์แยกอิสระโดยระบบจะติดตั้งอยู่ที่คอนโซลกลาง รวมถึงสำหรับคนรักความสดชื่นยังมี ระบบ active perfuming system มาพร้อมกับ AIR-BALANCE Package แนะนำน้ำหอมปรับอากาศคุณภาพสูง เพื่อให้ความสดชื่นและความรื่นรมย์มากขึ้น โดยกลิ่นหอมที่ใช้มีให้เลือก 4 กลิ่น ได้แก่ FREESIDE MOOD, NIGHTLIFE MOOD, DOWNTOWN MOOD และ SPORTS MOOD
สิ่งที่พิเศาอีกประการเมื่อพูดถึงความเป็นยนตรกรรมนั่งสุดดหรูที่สมบูรณ์แบบ คงไม่มีอะไรที่เหนือกว่าการออกแบบที่นั่ง ด้วยโครงสร้างเบาะที่มีน้ำหนักเบาขึ้น 20 ก.ก. และยังมีระบบนวด ENERGIZING Massage สามารถเลือกนวดได้ 6 แบบตามต้องกา รและยังมีลักษณะเป็นเบาะนั่งระบายอากาศ Climatised seat และท้ายสุด เบาะนั่งด้านหลังฝั่งซ้ายเป็นแบบ Executive Seat สามารถปรับเอนพนักพิงเพิ่มขึ้นได้จาก 37 เป็น 43.5 องศา ซึ่งเป็นองศาของการปรับเอนพนักพิงที่มากที่สุด ในเซ็กเมนต์ของรถยนต์รุ่นนี้ นอกจากนั้นยังสะดวกสบายด้วยที่รองขา (leg support)
ท้ายสุด รถที่ยอดเยีย่ม ต้องมาพร้อม ระบบความบันเทิงที่เยี่ยมยอด เลือกใช้ชุดเครื่องเสียงคุณภาพ Burmester® Surround Sound System พร้อมลำโพง 13 ตัว ซึ่งให้ระดับเสียงคมชัดเซอร์ราวซาว์รอบทิศทางแบบ “feel-good sound” โดยจะทำงานร่วมกันอย่างมีประสิทธิภาพกับระบบ Frontbass system ซึ่งเป็นระบบที่เมอร์เซเดส-เบนซ์ได้พัฒนาเทคโนโลยีนี้และได้นำมาใช้ในรถยนต์ซาลูนเป็นครั้งแรก
สำหรับการออกมาเปิดตัว Mercedes- Benz S-Class ในไทย ในครั้งนี้ ทางค่ายได้เลือกที่จะแนะนำ Mercedes-Benz S 400 HYBRID AMG Premium มาพร้อมกับเครื่องยนต์เบนซิน แบบ V6 ขนาด 3,498 ซีซี กำลังแรงม้าสูงสุดที่ 225 กิโลวัตต์ (306 แรงม้า) แรงบิดสูงสุด 370 นิวตันเมตรที่ 3,500 – 5,250 รอบต่อนาที ทำงานร่วมกับมอเตอร์ไฟฟ้า โดยมีกำลังจากมอเตอร์ไฟฟ้าที่ 20 กิโลวัตต์ (27 แรงม้า) แรงบิดสูงสุดที่ 250 นิวตันเมตร อัตราเร่งจาก 0 – 100 กม./ชม. ภายในระยะเวลา 6.8 วินาที ความเร็วสูงสุด 250 กม./ชม. อัตราสิ้นเปลืองน้ำมันเชื้อเพลิงเฉลี่ย 16 กม./ ลิตร และอัตราการปล่อยก๊าซคาร์บอนไดออกไซด์โดยเฉลี่ย 147 กรัม/กม. โดยพละกำลังถูกถ่ายทอดผ่านเกียร์อัตโนมัติเดินหน้า 7 จังหวะแบบ 7G-TRONIC PLUS พร้อมระบบเปลี่ยนเกียร์ที่พวงมาลัย DIRECT SELECT
ทางด้านระบบความปลอดภัย Mercedes-Benz S- Class ใหม่ มาพร้อมระบบปกป้องก่อนเกิดเหตุ PRE-SAFE® เริ่มตั้งแต่การให้มาตรฐานที่มั่นใจได้ กับ โปรแกรมการควบคุมการทรงตัวอัตโนมัติ ESP® เข็มขัดนิรภัยแบบ 3 จุด 4 ที่นั่งผ่อนแรงและรั้งกลับอัตโนมัติ ถุงลมนิรภัยด้านหน้า 2 ตำแหน่ง สำหรับผู้ขับขี่และผู้โดยสารด้านหน้า พร้อมเซ็นเซอร์วัดแรง
ทั้งยังมีม่านถุงลมนิรภัยป้องกันศีรษะ สำหรับผู้ขับขี่และผู้โดยสารทั้ง 4 ตำแหน่ง (window bags) นอกจากนั้นยังมีระบบอำนวยความสะดวกและระบบความปลอดภัยอื่นๆ อีกมากมาย อาทิ ระบบช่วยเตือนอาการเหนื่อยล้าขณะขับขี่ (ATTENTION ASSIST) ระบบป้องกันล้อหมุนฟรี ASR (Acceleration skid control) ระบบเบรก ADAPTIVE BRAKE พร้อมฟังก์ชั่น HOLD และ Hill-Start Assist ระบบรักษาระดับความเร็ว (cruise control) และจำกัดความเร็ว (SPEEDTRONIC) เซ็นเซอร์ช่วยในการนำรถเข้าจอด (PARKTRONIC) กล้องแสดงภาพด้านหลังขณะถอยรถ (reversing camera) และระบบช่วยการนำรถเข้าจอดอัตโนมัติ (Active Parking Assist) ฟังก์ชันเปิดฝากระโปรงท้ายอัตโนมัติ (HANDS-FREE ACCESS) และระบบ MAGIC VISION CONTROL ซึ่งเป็นระบบการทำงานของใบปัดน้ำฝนที่มีประสิทธิภาพสูงระบบ
Mercedes-Benz S- Class ใหม่ เริ่มเปิดให้ผู้ที่สนใจจับจองแล้วอย่างเป็นทางการ โดยสนนราคาจำหน่าน เคาะขายที่ 11.4 ล้านบาท ซึ่ง Mercedes-Benz เปิดเผยว่า พร้อมจะเริ่มส่งมอบ Mercedes-Benz S- Class ใหม่ ได้ภายในสิ้นปีนี้
ราคาจำหน่าย Mercedes-Benz S- Class
Mercedes-Benz S 400 HYBRID AMG Premium ราคาจำหน่าย 11,400,000 บาท
ติดตามข่าวสารรถยนต์รวดเร็วก่อนใครได้ที่ AUTODEFT.com