New Honda Accord Hybrid ภาคต่อแห่งความหรูหราพร้อมความปลอดภัย Honda Sensing เริ่มที่ 1.659 ล้านบาท

หลังการเปิดตัว Honda Accord รุ่นปรับโฉม ได้ไม่นานสาวกชาวไทย ต่างถามถึงว่าเวอร์ชั่น Hybrid จะเปิดตัวด้วยหรือไม่เพื่อตอกย้ำยอดขายสูงเกือบ 30,000 คันนับตั้งแต่การเปิดตัวในเมืองไทย

สิ้นสุดการรอคอยเสียที เมื่อ Honda เผย Honda Accord Hybrid ใหม่ ภาคต่อของยนตกรรมหรูที่มาพร้อมรูปลักษณ์ใหม่ ความสบายและความปลอดภัยที่เพิ่มขึ้น เริ่มจาก กระจังหน้าโครเมี่ยมดีไซน์ใหม่ ตกแต่งด้วยเส้นสายสีฟ้า ไฟหน้าแบบ LED พร้อมไฟส่องสว่างเวลากลางวัน (Daytime Running Lights) ตกแต่งด้วย สีฟ้า กันชนหน้าออกแบบใหม่เสริมตัวตนความเป็นสปอรตขึ้นมาอีกระดับ พร้อมไฟตัดหมอกหน้า LED และไฟท้าย LED สีฟ้า เท่ห์อย่าบอกใครด้วยล้ออัลลอยด์ที่มีให้เลือกทั้งขนาด 17 และ 18 นิ้ว

ภายในหรูหราเช่นเดียวกับ Honda Accord รุ่นปกติแต่เอาใจคนรักสบายระบบสตาร์ทเครื่องพร้อมเครื่องปรับอากาศด้วยกุญแจรีโมท (Engine Remote Start) ที่สามารถสั่งการสตาร์ทเครื่องและสั่งเปิดเครื่องปรับอากาศได้จากระยะไกล เพื่อปรับอุณหภูมิภายในห้องโดยสารล่วงหน้า

เครื่องเสียงหน้าจอสัมผัสใหม่ รองรับการเชื่อมต่อ Apple CarPlayTM หรือเชื่อมต่อสมาร์ทโฟน ผ่านระบบ MirrorLink® อีกทั้งสามารถเชื่อมโยงเครือข่าย WIFI หรือ Hotspot เพื่อใช้งานเบราว์เซอร์ มอบความสะดวกสบายในการเชื่อมต่อสื่อสาร และที่ขาดไม่ได้ด้วยชุดตกแต่งภายในลายไม้และสีดำเปียโนแบล็ค สะดวกสบายเหนือระดับมากยิ่งขึ้นด้วยอุปกรณ์อำนวยความสะดวกระดับพรีเมียม พิเศษ!! เบาะหนังสีน้ำตาลใหม่ เพิ่มความ Luxury อีกขั้น

New Honda Accord Hybrid มาพร้อมระบบขับเคลื่อน Sport Hybrid Intelligent Multi Mode Drive (i-MMD) ด้วยเครื่องเบนซิน I-VTEC ขนาด 2.0 ลิตร Atkinson-Cycle ผสานกับมอเตอร์ไฟฟ้าที่ทรงพลัง 2 ตัว และแบตเตอรี่ลิเธียม-ไอออน 1.3 กิโลวัตต์-ชั่วโมง ที่ให้ประสิทธิภาพสูงในการชาร์จและจ่ายกระแสไฟได้อย่างมีประสิทธิภาพ ให้กำลังสูงสุดทั้งระบบได้ถึง 215 แรงม้า พร้อมด้วยเกียร์อัตโนมัติอัตราทดแปรผันต่อเนื่องไฟฟ้า (E-CVT)

พร้อมโหมดการขับขี่ด้วยมอเตอร์ไฟฟ้า (EV Drive Mode) ที่สามารถขับขี่ด้วยมอเตอร์ไฟฟ้าเพียงอย่างเดียวได้ต่อเนื่อง และทำความเร็วได้สูงสุดถึง 120 กิโลเมตร/ชั่วโมง โหมดการขับขี่ด้วยระบบไฮบริด (Hybrid Drive Mode) และโหมดการขับขี่ด้วยเครื่องยนต์ (Engine Drive Mode) และเพื่อให้ผู้ขับขี่ได้เข้าถึงอารมณ์การขับขี่ในสไตล์สปอร์ตที่สนุกสนาน และยังเพิ่มโหมดการขับขี่แบบสปอร์ต (Sport Drive Modeช่วยเพิ่มประสิทธิภาพในการ เร่งทำความเร็วให้กับมอเตอร์ไฟฟ้าที่ทำหน้าที่ขับเคลื่อน โดยผู้ขับขี่สามารถใช้งานได้เพียงกดปุ่ม Sport  ระบบ Sport Hybrid i-MMD และให้อัตราการประหยัดน้ำมันที่ดีเยี่ยมสูงถึง 23.8 กิโลเมตร/ลิตร อีกทั้งเป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อม ด้วยอัตราการปล่อยก๊าซคาร์บอนไดออกไซด์เพียง 99 กรัม/กิโลเมตร

ครั้งแรกกับเทคโนโลยีความปลอดภัยอันล้ำสมัย Honda SENSING ผสานการทำงานเรดาร์และกล้องด้านหน้า เพื่อตรวจจับสภาวะแวดล้อมบนท้องถนน แล้วแจ้งเตือนผู้ขับขี่หรือช่วยควบคุมรถ และเพื่อความปลอดภัยของตัวผู้ขับและผู้โดยสารในรถ ประกอบด้วย 4 ระบบ ดังนี้

1) ระบบควบคุมและปรับความเร็วอัตโนมัติแบบแปรผัน - Adaptive Cruise Control (ACC) เป็นระบบที่ไม่เพียงแต่ช่วยควบคุมความเร็วของรถให้คงที่ตามที่ผู้ขับขี่ได้ตั้งค่าไว้ แต่จะทำการตรวจจับระยะห่างและความเร็วของรถคันหน้า เพื่อปรับความเร็วของรถโดยอัตโนมัติเพื่อรักษาระยะห่างระหว่างรถคันหน้าได้อย่างเหมาะสมตลอดเวลา

2) ระบบเตือนการชนด้านหน้าและตรวจจับคนเดินถนนด้วยกล้องและเรดาร์พร้อมระบบช่วยเบรก - Collision Mitigation Braking System (CMBS) เมื่อมีรถอยู่ด้านหน้าในระยะที่ไม่ปลอดภัย ระบบจะแจ้งเตือนผ่านหน้าจอแสดงข้อมูลและสัญญาณเสียง รวมถึงมีการสั่นเตือนของพวงมาลัยในกรณีรถสวนทาง หากรถยนต์ยังเข้าใกล้ระยะที่เสี่ยงต่อการชน ระบบจะทำการเสริมแรงเบรกโดยอัตโนมัติ เพื่อลดความเสี่ยงต่อการเกิดอุบัติเหตุ นอกจากนี้ ระบบ CMBS ยังได้รับการพัฒนาไปอีกขั้น ให้สามารถตรวจจับคนเดินถนนได้อีกด้วย

3) ระบบแจ้งเตือนและช่วยควบคุมรถให้อยู่ในช่องทางเดินรถ - Lane Keeping Assist System (LKAS) โดยกล้องด้านหน้าจะทำการตรวจจับเส้นแบ่งช่องทางเดินรถ และทำการหน่วงของพวงมาลัยเพื่อช่วยให้ผู้ขับควบคุมรถให้อยู่ในช่องทางเดินรถได้ตลอดเวลา

4) ระบบแจ้งเตือนและช่วยเหลือเมื่อรถออกนอกช่องทางเดินรถ - Road Departure Mitigation (RDM) with Lane Departure Warning (LDW) เมื่อรถออกนอกช่องทางเดินรถโดยไม่ตั้งใจ ระบบจะส่งสัญญาณเตือนไปที่หน้าจอแสดงข้อมูลพร้อมสั่นเตือนที่พวงมาลัย และในกรณีที่รถออกนอกช่องทางมากขึ้น ระบบจะทำการหน่วงพวงมาลัย เพื่อช่วยดึงให้รถกลับเข้าสู่ช่องทาง หากรถยังคงเบี่ยงออกนอกช่องทางมากยิ่งขึ้น ระบบเบรกจะทำงานเพื่อชะลอความเร็วอย่างเหมาะสม (ในกรณีเส้นแบ่งถนนเป็นเส้นทึบ) เพื่อลดความเสี่ยงต่อการเกิดอุบัติเหตุ

และยังมั่นใจในทุกการเดินทางมากขึ้นกับระบบความปลอดภัยที่ครบครันล้ำสมัย อาทิ ถุงลมคู่หน้าอัจฉริยะ Dual i-SRS ถุงลมด้านข้างคู่หน้าอัจฉริยะ i-Side Airbag และม่านถุงลมด้านข้าง Side Curtain Airbags ระบบแสดงภาพ  มุมอับสายตาขณะเปลี่ยนเลน (Honda LaneWatch) ช่วยลดจุดบอดในการมองเห็นของกระจกมองข้างด้านซ้าย ระบบไฟส่องสว่างด้านข้างอัตโนมัติขณะเลี้ยว (Active Cornering Light - ACL) ช่วยเพิ่มความสว่างด้านข้างของตัวรถ ขณะทำการเลี้ยวรถในเวลากลางคืน เสียงเตือนภายนอกรถขณะขับขี่โหมดมอเตอร์ไฟฟ้า (Acoustic Vehicle Alerting System - AVAS)  กล้องส่องภาพด้านหลัง ปรับมุมมอง 3 ระดับ ช่วยเพิ่มทัศนวิสัยในการถอย

New Honda Accord Hybrid ทั้งหมด 4 สี ได้แก่ สีเทาโมเดิร์นสตีล (เมทัลลิก) สีเงินลูนาร์ (เมทัลลิก) สีขาวออร์คิด (มุก) และสีดำคริสตัล (มุก) มาพร้อมสีภายในห้องโดยสาร 3 สี ได้แก่ สีเบจ สีดำ และสีใหม่ คือ สีน้ำตาล โดยมีให้เลือก 2 รุ่น ได้แก่

รุ่น Hybrid Tech ราคา 1,849,000 บาท

รุ่น Hybrid ราคา 1,659,000 บาท

ที่มาคลิ๊ป Youtube : Enjoy Honda Thailand

 

ติดตามข่าวสารยานยนต์ รวดเร็วก่อนใคร ได้ที่ Autodeft.com