Mercedes-Benz E 220 d Sport การกลับมา…ซาลูนหรูหัวใจประหยัดเพียง 3.33 ล้านบาท

ปล่อยให้ทำตลาดด้วยขุมพลังรักษ์โลกด้วยรุ่น E350 e Plug-In Hybrid เพียงรุ่นเดียวจนสาวกชาวไทยถามถึงว่าแล้วเครื่องยนต์สันดาปอย่างเครื่องยนต์ดีเซลจะกลับมาทำตลาดอีกหรือไม่?

ล่าสุด เมอร์เซเดส-เบนซ์ (ประเทศไทย) แนะนำ Mercedes-Benz E-Class เครื่องยนต์ดีเซล กลับมาทำตลาดอีกครั้งในชื่อรุ่นย่อยใหม่ E220 d Sport ภายนอกสปอร์ตดูสง่างามได้รับการออกแบบภายใต้คอนเซ็ปท์ Sensual Purity ด้วยกระจังหน้า สีเงินเสริมโครเมียมติดตราโลโก้ดาวสามแฉกขนาดใหญ่ ระบบไฟหน้าแบบ LED High Performance ไฟ daytime สำหรับการขับขี่ในเวลากลางวัน แบบ LED fibre-optic ล้ออัลลอย 5 ก้านคู่ขนาด 18 นิ้ว สี tremolite grey พร้อมยาง 245/45 R18 เส้นสายของส่วนหลังคาที่ออกแบบในสไตล์รถคูเป้ รูปลักษณ์ด้านหลังติดตั้งโคมไฟท้าย LED แบบชิ้นเดียว ปลายท่อไอเสียเสริมโครเมียม 2 ท่อ กระจกมองข้างด้านผู้ขับขี่และกระจกส่องหลังปรับลดแสงสะท้อนอัตโนมัติ พร้อมมิติตัวรถความยาว 4,923 มม. ความกว้าง 1,852 มม. ความสูง 1,468 มม.

ภายในสปอร์ตเข้มแต่แฝงความหรูมาพร้อมกับเบาะนั่งหุ้มหนัง ARTICO ออกแบบตามหลักการสรีระศาสตร์ที่เน้นเรื่องความรู้สึกสบายสำหรับการเดินทางไกล โดยเบาะที่นั่งตอนหลังสามารถพับลงแบบ 1/3 และ 2/3 เพื่อความสะดวกในการบรรจุสัมภาระ พวงมาลัยแบบมัลติฟังก์ชัน 3 ก้านหุ้มหนัง nappa ตกแต่งโทนเข้มพร้อมวัสดุลายอลูมีเนียม Aluminium trim with trapeze cut มาตรวัดขนาดใหญ่ Analog instrument cluster ในส่วนของระบบมัลติมีเดียนั้นจะมาพร้อมกับระบบ AUDIO 20 GPS ขนาด 12.3 นิ้ว พร้อม Controller และ Touchpad พร้อมระบบนำทาง เพิ่มสุนทรียภาพในการโดยสารด้วยระบบไฟสร้างบรรยากาศในห้องโดยสารที่ปรับสีได้ถึง 64 สีและเย็นฉับไวด้วยระบบควบคุมอุณหภูมิอัตโนมัติ THERMATIC แบบ 2-zone พร้อมกับฟีเจอร์ใหม่ของ ‘Mercedes me connect’ บริการเสริมที่จะมอบประสบการณ์แบบไร้รอยต่อเพื่อเชื่อมโยงลูกค้า รถยนต์เมอร์เซเดส-เบนซ์ และผู้จำหน่ายอย่างเป็นทางการรวมถึงบริการอื่นๆ ของเมอร์เซเดส-เบนซ์เข้าไว้ด้วยกันเพียงปลายนิ้วสัมผัส

ขุมพลังแน่ชัดแล้วว่าเป็นเครื่องยนต์ดีเซลเทอร์โบรหัส OM654 2.0 ลิตร 194 แรงม้าที่ 3,800 รอบ/นาที แรงบิดสูงสุด 400 นิวตันเมตรที่ 1,600-2,800 รอบ/นาที ทำอัตราเร่ง 0-100 กม./ชม. ทำได้ 7.3 วินาที ความเร็วสูงสุด 240 กม./ชม. จับคู่กับเกียร์อัตโนมัติ 9 สปีด 9 G-Tronic พร้อมระบบเปลี่ยนเกียร์ที่พวงมาลัย แบบ Gerashift Paddles

ระบบความปลอดภัยและเทคโนโลยี ของ E 220 d มาแบบจัดเต็มทั้ง ระบบป้องกันก่อนเกิดเหตุ PRE-SAFE system, ถุงลมนิรภัยด้านหน้า 2 ตำแหน่ง สำหรับผู้ขับขี่และผู้โดยสาร, ถุงลมนิรภัยบริเวณหัวเข่าผู้ขับขี่, ถุงลมนิรภัยด้านข้าง 2 ตำแหน่ง สำหรับผู้ขับขี่และผู้โดยสารด้านหน้า, ม่านถุงลมนิรภัยด้านข้าง ป้องกันศีรษะ 4 ตำแหน่ง สำหรับผู้ขับขี่และผู้โดยสาร, เข็มขัดนิรภัยแบบ 3 จุด 5 ที่นั่ง, โปรแกรมควบคุมการทรงตัวอัตโนมัติ (ESP), ระบบเบรกป้องกันล้อล็อก ABS, ระบบเบรก ADAPTIVE BRAKE พร้อมฟังก์ชั่น HOLD และ Hill-start Assist, ไฟเบรกกระพริบอัตโนมัติเมื่อเบรกฉุกเฉิน (Adaptive Brake Light), ระบบช่วยเตือนอาการเหนื่อยล้าขณะขับรถ (ATTENTION ASSIST), ระบบรักษาความเร็ว (Cruise Control) และจำกัดความเร็ว (SPEEDTRONIC), เซ็นเซอร์ช่วยในการนำรถเข้าจอด (PARKTRONIC), ระบบช่วยการนำรถเข้าจอดอัตโนมัติ (Parking Pilot including Active Parking Assist), ระบบเตือนเพื่อนำรถเข้าศูนย์บริการ (ASSYST Service interval indicator) และระบบเตือนแรงดันยาง (tyre pressure loss warning system) และกล้องแสดงภาพด้านหลังขณะถอยรถ โดย Mercedes-Benz E 220 d Sport มาพร้อมราคาที่น่าสนใจเพียง 3,330,000 บาท

นอกจากนี้ Mercedes-Benz E 350 e มาพร้อมออพชั่นใหม่ดังนี้

รถยนต์รุ่น E 350 e Avantgarde พร้อมอุปกรณ์เพิ่มเติมดังต่อไปนี้ในราคาใหม่ที่ 3,540,000 บาท

• ระบบกันสะเทือนแบบ Agility Control

• หน้าจอแสดงผลความละเอียดสูงแบบ Digital widescreen cockpit

• ฟีเจอร์ใหม่ของ ‘Mercedes me connect’

รถยนต์รุ่น E 350 e Exclusive พร้อมอุปกรณ์เพิ่มเติมดังต่อไปนี้ในราคาใหม่ที่ 3,790,000 บาท

• ระบบกันสะเทือนแบบ Agility Control

• ระบบกุญแจแบบ KEYLESS-GO

• ระบบช่วยปิดประตู (power closing for front and rear doors)

• ฟีเจอร์ใหม่ของ ‘Mercedes me connect’

รถยนต์รุ่น E 350 e AMG Dynamic พร้อมอุปกรณ์เพิ่มเติมดังต่อไปนี้ในราคา 4,190,000 บาท

• ฟีเจอร์ใหม่ของ ‘Mercedes me connect’

 

ติดตามข่าวสารยานยนต์ รวดเร็วก่อนใคร ได้ที่ Autodeft.com