The new Mercedes-Benz C-Class ซาลูนเล็กหล่อใหม่ อัดออพชั่นเพียบ เพียง 2.349 ล้านบาท
- โดย : Autodeft
- 28 ก.ย. 61 00:00
- 39,035 อ่าน
นับเป็นซาลูนหรูพรีเมี่ยมที่ได้รับความนิยมมายาวนาน ทำให้ Mercedes-Benz C-Class กลายเป็นอีกหนึ่งรุ่นขายดีที่สุดโดยยอดขายทั่วโลกมากสุด 415,000 คันในช่วง 4 ปีที่ผ่านมาของการทำตลาดเจนปัจจุบัน
วันนี้ เมอร์เซเดส-เบนซ์ (ประเทศไทย) เปิดตัวที่สุดซาลูนเล็ก หล่อใหม่ ตรงใจสาวกที่ต้องการความปราดเปรียว สวยงามแต่แฝงด้วยความประหยัดกับ The new Mercedes-Benz C-Class และยังเป็นรถยนต์ประกอบในประเทศ (CKD) ภายนอกออกแบบดีไซน์ใหม่หมด เริ่มที่ภายนอกในรุ่น The C 220 d Avantgarde จะใช้กระจังหน้าสีเงินเสริมโครเมี่ยม พร้อมตราสัญลักษณ์ เมอร์เซเดส-เบนซ์ และล้ออัลลอยแบบ 5 ก้านคู่ ขนาด 18 นิ้ว พร้อมยาง 225/45 R18 ในล้อหน้า และ 245/40 R18 ในล้อหลัง ส่วนรุ่น The C 220 d Exclusive หรูด้วยกระจังหน้าแบบคลาสสิค พร้อมตราสัญลักษณ์เมอร์เซเดส-เบนซ์อยู่เหนือฝากระโปรงหน้า และล้ออัลลอยแบบ multi-spoke ขนาด 18 นิ้ว พร้อมยาง 225/45 R18 ในล้อหน้า และ 245/40 R18 ในล้อหลัง
สปอร์ตเร้าใจกับรุ่น The C 220 d AMG Dynamic ติดตั้งกระจังหน้าแบบ diamond grille สีเงิน พร้อมตราสัญลักษณ์เมอร์เซเดส-เบนซ์ และ ล้ออัลลอยดีไซน์สปอร์ตจาก AMG แบบ 5 ก้านคู่ ขนาด 19 นิ้วพร้อมยาง 225/40 R19 ในล้อหน้า และ 255/35 R19 ในล้อหลังพร้อมการตกแต่งด้วยสีดำ โดยมีกันชน หน้า-หลังและสเกิร์ตข้างเป็นดีไซน์สปอร์ตแบบ AMG Bodystyling โคมไฟหน้าและหลังออกแบบโดยใช้เส้นโค้งเป็นองค์ประกอบหลัก พร้อมใช้วัสดุคุณภาพสูงเพื่อสร้างความประทับใจสูงสุดในแง่รูปลักษณ์ และความรู้สึก และ ยังมีหลังคาพาโนรามิคซันรูฟ ที่เลื่อนเปิด-ปิดได้ด้วยระบบไฟฟ้าอีกด้วย
ไฟหน้าแบบ LED มีให้เลือกถึง 2 แบบ เริ่มที่แบบ LED High Performance ในรุ่น The C 220 d Avantgarde และเทคโนโลยีไฟหน้าแบบ MULTIBEAM LED ในรุ่น The C 220 d Exclusive และ The C 220 d AMG Dynamic ทำงานโดยอิสระจำนวน 84 หลอดต่อโคมไฟหน้า 1 โคม สามารถทำงานได้อย่างรวดเร็วและแม่นยำ อีกทั้งยังสามารถปรับความเข้มแสง มีคุณสมบัติพิเศษมากมาย เช่น ระบบไฟส่องสว่างขณะขับผ่านสี่แยกหรือวงเวียน ระบบไฟส่องสว่างสำหรับการขับขี่ในเมือง และระบบไฟส่องสว่างสำหรับสภาวะอากาศเลวร้าย ทั้งนี้ ระบบไฟสูงแบบ ULTRA RANGE Highbeam จะทำงานอัตโนมัติ หากระบบตรวจจับได้ว่าไม่มีผู้สัญจรในทางรถสวน ถนนข้างหน้าเป็นทางตรง และผู้ขับขี่กำลังใช้ความเร็วตั้งแต่ 40 กิโลเมตรต่อชั่วโมงขึ้นไป โดยระบบไฟนี้จะช่วยให้ไฟหน้าของรถมีความสว่างในระดับที่สูงขึ้นตามความเร็วของรถ โดยสามารถส่องสว่างได้ไกลถึง 650 เมตร
ภายในปรับใหม่เช่นเดียวกับ ภายนอก ตามบุคลิก เริ่มที่รุ่น The C 220 d Avantgarde จะมาพร้อมกับพวงมาลัยมัลติฟังก์ชั่น พร้อมปุ่มควบคุมแบบ Touch Control พร้อมเบาะหุ้มด้วยหนัง ARTICO ส่วนรุ่น The C 220 d Exclusive มาพร้อมพวงมาลัยมัลติฟังก์ชั่น พร้อมปุ่มควบคุมแบบ Touch Control และเบาะหุ้มด้วยหนัง ARTICO ส่วนรุ่น The C 220 d AMG Dynamicมาพร้อมพวงมาลัยมัลติฟังก์ชั่น 3 ก้าน ท้ายตัดพร้อมปุ่มควบคุมแบบ Touch Control และเบาะนั่งหนังแท้สปอร์ต เบาะหลังของสามรุ่นนี้ยังสามารถพับลงได้แบบ 1/3 และ 2/3 อีกด้วย พิเศษในรุ่น The C 220 d Exclusive และ The C 220 d AMG Dynamic จะมีระบบกุญแจแบบ KEYLESS-GO เสริมเข้ามาด้วย พร้อมกับปุ่มสตาร์ทเครื่องยนต์ (Push Start) ให้เป็นออพชั่นมาตรฐาน
พร้อมเทคโนโลยีระบบ All-Digital instrument display ที่ทำให้หน้าจอเรือนไมล์แบบดิจิทัล มีขนาดใหญ่ถึง 12.3 นิ้ว (ของรุ่น The C 220 d AMG Dynamic) และยังสามารถปรับรูปแบบการแสดงผลได้ 3 รูปแบบ คือ Classic, Progressive และ Sport ทุกรุ่น ยังมาพร้อมกับหน้าจอมัลติมีเดียบริเวณกลางคอนโซลแบบ MB Audio 20 ขนาด 10.25 นิ้ว เพื่อใช้ในการควบคุมระบบต่างๆ ของรถได้ง่ายเพียงปลายนิ้วสัมผัสด้วยระบบ Touch pad ไม่ว่าจะเป็นระบบ Apple CarPlay™ ระบบถอยจอดแบบอัตโนมัติ หรือระบบแผนที่นำทาง 3 มิติรูปแบบใหม่ในรุ่น The C 220 d Exclusive และ The C 220 d AMG Dynamic
ระบบเสียงรอบทิศทาง Burmester® surround sound system ที่เป็นฟังก์ชั่นที่เพิ่มเข้ามาในรุ่น The C 220 d AMG Dynamic ระบบแผนที่นำทางที่ติดตั้งเฉพาะในรุ่น The C 220 d Exclusive และThe C 220 d AMG Dynamic เพิ่มสุนทรียภาพในการเดินทางด้วยระบบไฟสร้างบรรยากาศในห้องโดยสารที่ปรับสีได้ถึง 64 สี พิเศษ!! The C 220 d Exclusive ยังได้ติดตั้งฟังก์ชั่นปรับสมดุลอากาศภายในห้องโดยสาร (AIR BALANCE package) ที่ช่วยฟอกอากาศ พร้อมปรับอากาศให้มีกลิ่นหอมด้วยน้ำหอมชนิดเดียวกับในซาลูนพี่ใหญ่ Mercedes-Benz S-Class
รุ่นปรับโฉม The new Mercedes-Benz C-Class จะทำตลาดเพียงเครื่องเดียวเท่านั้นนั่นคือการนำเครื่องยนต์ดีเซลเทอร์โบกลับมาทำตลาดอีกครั้งในรหัส OM654 2.0 ลิตร 194 แรงม้าที่ 3,800 รอบ/นาที แรงบิดสูงสุด 400 นิวตันเมตรที่ 1,600-2,800 รอบ/นาที ทำอัตราเร่ง 0-100 กม./ชม. ทำได้ 6.9 วินาที ความเร็วสูงสุด 240 กม./ชม. จับคู่กับเกียร์อัตโนมัติ 9 สปีด 9 G-Tronic พร้อมระบบเปลี่ยนเกียร์ที่พวงมาลัย แบบ Gerashift Paddles จากเดิมจะเป็นเครื่องยนต์เบนซินเทอร์โบ Plug-In Hybrid ขนาด 2.0 ลิตร รหัส M274 DE 20 AL 4 สูบ 211 แรงม้าที่ 5,500 รอบ/นาที แรงบิด 350 นิวตันเมตร ที่ 1,200-4,000 รอบ/นาที ทำงานคู่กับมอเตอร์ไฟฟ้า ให้พลังถึง 88 แรงม้า แรงบิด 440 นิวตันเมตร เมื่อทำงานร่วมกันจะแรงม้าสูงสุด 286 แรงม้า แรงบิดสูงถึง 550 นิวตันเมตร จับคู่กับระบบเกียร์อัตโนมัติ 9 สปีด 9 G-Tronic Plus ขับเคลื่อนด้วยพลังงานไฟฟ้า หรือ EV เพียงอย่างเดียวได้ไกลถึง 33 กิโลเมตร และทำ Top Speed ในโหมดไฟฟ้า สูงสุด 130 กม./ชม.
พร้อมฟังก์ชั่นความปลอดภัยที่พัฒนาระบบไฟฟ้า เพื่อให้ระบบช่วยเหลือผู้ขับขี่มีประสิทธิภาพเทียบเท่ารถยนต์พี่ใหญ่ Mercedes-Benz S-Class ยกระดับความปลอดภัยเชิงรุกของรถให้มีประสิทธิภาพยิ่งขึ้น อาทิ โปรแกรมควบคุมการทรงตัวอัตโนมัติ (Electronic Stability Program - ESP®), ระบบเบรกป้องกันล้อล็อก (Anti-lock braking system – ABS), ระบบเบรก ADAPTIVE BRAKE พร้อมฟังก์ชั่น HOLD และ Hill-Start Assist, ไฟเบรกกระพริบฉุกเฉิน (Adaptive brake light), ระบบช่วยเบรกแบบแอคทีฟ ABA (Active Brake Assist system), ระบบรักษาความเร็ว (Cruise Control) และจำกัดความเร็ว (SPEEDTRONIC), ระบบเตือนเพื่อนำรถเข้าศูนย์บริการ (ASSYST Service interval indicator), ระบบเตือนแรงดันลมยาง (Tyre pressure loss warning system), ระบบช่วยเตือนอาการเหนื่อยล้าขณะขับขี่ (ATTENTION ASSIST), เซ็นเซอร์ช่วยในการนำรถเข้าจอด (PARKTRONIC), ระบบช่วยการนำรถเข้าจอดแบบอัตโนมัติ (Active Parking Assist), ระบบ DYNAMIC SELECT คือแบบ Sport, Sport+ และ Comfort, นอกจากนั้นยังมีระบบช่วยรักษาระยะห่างจากรถที่อยู่ด้านหน้า (Distance Pilot DISTRONIC) กล้องแสดงภาพรอบทิศทาง (Surround view camera) และกล้องแสดงภาพด้านหลังขณะถอยรถ (Reversing camera) ที่มีเฉพาะในรุ่น The C 220 d Avantgarde และ The C 220 d Exclusive ด้วย
The new Mercedes-Benz C-Class มีให้เลือกถึง 3 รุ่นย่อย ดังนี้
- รุ่น C 220 d Avantgarde ราคา 2,349,000 บาท
- รุ่น C 220 d Exclusive ราคา 2,690,000 บาท
- รุ่น C 220 d AMG Dynamic ราคา 2,890,000 บาท
ติดตามข่าวสารยานยนต์ รวดเร็วก่อนใคร ได้ที่ Autodeft.com