ยลโฉมจริง!! Mazda 2 Facelift มาดใหม่เก๋งเล็กดีไซน์ใหม่ที่อัดแน่นด้วยเทคโนโลยี เริ่ม 546,000 บาท
- โดย : Autodeft
- 28 พ.ย. 62 00:00
- 8,699 อ่าน
ผู้เล่นรายสุดท้ายในกลุ่ม Eco Car เปิดตัวอย่างเป็นทางการกับ Mazda 2 Facelift ที่งานนี้ ปรับหน้าตาความหล่อให้ทันสมัยขึ้น ตอกย้ำรถยนต์คุณภาพที่สร้างยอดขายสะสมมายาวนานกว่า 160,000 คัน
รูปลักษณ์ออกแบบใหม่ทั้งภายนอกและภายในให้ความหรูหราสง่างาม ภายใต้ KODO design เจนเนอเรชั่นใหม่ ซึ่งเน้นความเรียบง่ายแต่งดงาม ภายใต้คอนเซ็ปต์ “Less is More”เริ่มที่ภายนอกหล่อหรูด้วยกระจังหน้า Signature Wing ใหม่ พร้อมไส้ในเปลี่ยนเป็นแบบรังผึ้งรับกับกันชนหน้าดีไซน์ใหม่ ไฟหน้า LED ใหม่พร้อมระบบปรับระดับอัตโนมัติ พร้อมไฟท้ายและกันชนหลังใหม่ รวมถึงล้ออัลลอยใหม่ดีไซน์หรู สีเงินปัดเงา ขนาด 16 นิ้ว พร้อมยาง 185/60 R16 และกระทะล้อพร้อมฝาครอบล้อขนาด 15 นิ้ว และล้ออัลลอยขนาด 15 นิ้ว โดยทั้งคู่มาพร้อมยาง 185/65 R15
ภายในยังคงเดิมแต่มีการปรับรายละเอียดเล็กน้อย ตามคอนเซ็ปต์ HMI (Human-Machine Interface) ช่วยให้ผู้ขับขี่ไม่ต้องละสายตามจากถนน อาทิ Active Driving Display จอสกรีนใสแสดงข้อมูลการขับขี่ในระดับสายตาของผู้ขับขี่ พร้อมออพชั่นระบบความบันเทิงเวอร์ชั่นใหม่ Mazda Connect รองรับ Apple Carplay โดยแสดงข้อมูลผ่านหน้าจอสี Center Display แบบสัมผัสขนาด 7 นิ้ว ที่ควบคุมด้วย Center Commander ปุ่มควบคุมอัจฉริยะซึ่งถูกจัดวางในตำแหน่งที่สะดวกต่อการใช้งาน พวงมาลัยมัลติฟังก์ชั่น พร้อม Sports Paddle Shift ระบบควบคุมการเปลี่ยนเกียร์ที่พวงมาลัย และ Cruise Control ระบบควบคุมควมเร็วคงที่ เพิ่มความสะดวกสบายให้กับผู้ขับขี่ โทนสีห้องโดยสารใหม่ที่เข้มขึ้นเน้นอารมณ์สปอร์ตทั้งการตกแต่งในแผงคอนโซลหน้า และชุดเบาะนั่งที่คราวนี้เพิ่มวัสดุ หนังสีเทาและหนังกลับสีดำ พร้อมเบาะผ้าหลากสีตามบุคลิกของแต่ละรุ่น เข้ามาเพิ่มความหรูอีกระดับ
ขุมพลังยังคงเดิมด้วยเครื่องยนต์ดีเซลเทอร์โบแปรผัน SKYACTIV-D ขนาด 1.5 ลิตร 105 แรงม้าที่ 4,000 รอบต่อนาที แรงบิดสูงสุด 250 นิวตันเมตรที่ 1,500-2,500 รอบต่อนาที และเครื่องยนต์เบนซิน SKYACTIV-G ขนาด 1.3 ลิตร ให้กำลังสูงสุดที่ 93 แรงม้าที่ 5,800 รอบต่อนาที แรงบิดสูงสุด 123 นิวตันเมตรที่ 4,000 รอบต่อนาที พร้อมเกียร์อัตโนมัติ 6 สปีด SKYACTIV-DRIVE พร้อมโหมด Activematic และ Paddle Shift ทุกรุ่น ติดตั้งระบบ i stop (idling stop system) กับระบบช่วยประหยัดน้ำมันอัจฉริยะ i ELOOP หรือระบบเปลี่ยนรูปพลังงานที่สูญเสียจากการชะลอหยุดรถกลับมาใช้
มาพร้อมระบบควบคุมสมรรถนะการขับขี่อัจฉริยะ G-Vectoring Control Plus (GVC Plus) ช่วยให้ควบคุมแรงบิดเครื่องยนต์เพื่อความแม่นยำในการถ่ายทอดกำลังลงล้อ ส่งผลให้การขับขี่ทางโค้งราบรื่น พร้อมระบบความปลอดภัยใหม่ ), ระบบแสดงภาพ 360 องศา รอบทิศทาง พร้อมระบบเซ็นเซอร์กะระยะด้านหน้าจากเดิมจะมีด้านหลัง ด้านละ 4 จุด สมทบความปลอดภัยอัจฉริยะ i-Activsense ทั้ง Advanced Blind Spot Monitor (ABSM) = ระบบเตือนเมื่อมีรถในจุดอับสายตาขณะเปลี่ยนเลน กับ Rear Cross Traffic Alert (RCTA) = ระบบเตือนเมื่อมีรถในจุดอับสายตาขณะถอยหลัง ถุงลมนิรภัยคู่หน้า พร้อมระบบ 4W-ABS EBD กับระบบดิกส์กึ่งดรัมและดิกส์เบรก 4 ล้อ ระบบควบคุมการทรงตัว DSC ระบบควบคุมการลื่นไถล TCS ระบบช่วยออกตัวทางชัน HLA ระบบไฟฉุกเฉินอัตโนมัติ ESS
Mazda2 Facelift มีรูปแบบตัวถังให้เลือกทั้งซีดาน 4 ประตู และแบบแฮตช์แบค 5 ประตู และมีให้เลือกทั้งหมด 8 สี ประกอบด้วย สีแดง โซล เรด คริสตัล (Soul Red Crystal), สีเทา แมชชีน เกรย์ (Machine Gray), สีขาว สโนว์เฟลก ไวท์ เพิร์ล (Snowflake White Pearl), สีน้ำตาล ไททาเนียม แฟลช (Titanium Flash), สีดำ เจ็ท แบล็ก (Jet Black) และ 3 สีใหม่ ประกอบด้วย สีขาว เซรามิก เมทัลลิค (Ceramic Metallic), สีเงิน โซนิค ซิลเวอร์ (Sonic Silver) และสีเทา โพลีเมทัล เกรย์ (Polymetal Gray) ที่มีเฉพาะรุ่นแฮตช์แบค 5 ประตู
ราคาจำหน่าย Mazda2 Facelift เครื่องยนต์สกายแอคทีฟเบนซิน 1.3 ลิตร กับ เครื่องยนต์สกายแอคทีฟคลีนดีเซล 1.5 ลิตร ทั้งแบบซีดาน 4 ประตู และแบบแฮตช์แบค 5 ประตู มีดังนี้
- รุ่น 1.3 E ราคาจำหน่าย 546,000 บาท
- รุ่น 1.3 C ราคาจำหน่าย 602,000 บาท
- รุ่น 1.3 S ราคาจำหน่าย 627,000 บาท
- รุ่น 1.3 S LEATHER ราคาจำหน่าย 648,000 บาท
- รุ่น 1.3 SP ราคาจำหน่าย 690,000 บาท
- รุ่น 1.5 XD ราคาจำหน่าย 782,000 บาท
- รุ่น 1.5 XDL ราคาจำหน่าย 799,000 บาท
ชม Gallery Mazda 2 Facelift ได้ที่นี่ !!
ติดตามข่าวสารรถยนต์รวดเร็วก่อนใครได้ที่ AUTODEFT.com